พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 651 ทุบนิรุตติ์เจ็บ
นัทธีหรี่ตาลง สายตาหม่นลง สักพักจึงขยับริมฝีปาก“ผมเข้าใจแล้ว เกาะร้างที่เหลือล่ะ?”
“ยังตรวจสอบอยู่ครับ”มารุตตอบ
นัทธีพยักหน้าเบาๆ“อือ ไปเถอะ มีข่าวแล้วแจ้งผมทันที”
“ครับ”มารุตพยักหน้า ถอยออกไป
สำหรับเกาะร้างนัมเบอร์วันที่ไม่มีร่องรอยของวารุณี ที่จริงนัทธีก็เตรียมใจไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ยังไงเรื่องราวก็คงไม่ราบรื่นขนาดนั้น ที่หาก็จะเจอวารุณีเลย
แต่พอตอนที่ได้ยินว่าเกาะร้างนัมเบอร์วันไม่มีร่องรอยวารุณี ในใจเขาก็ผิดหวังอย่างมาก
นัทธีสูดหายใจลึกๆ ยืนขึ้นมา เดินไปตรงหน้าหน้าต่างทรงสูง มองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดด้านนอก กับทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุด ริมฝีปากก็เม้มแน่น
วารุณี คุณอยู่ไหนกันแน่?
บนเกาะของนิรุตติ์
วารุณีก็ยืนอยู่ข้างหน้าหน้าต่างทรงสูง มองวิวทะเลด้านนอก ใบหน้าไร้อารมณ์ใดๆ
สามวันแล้ว
เธออยู่บนเกาะนี้ ผ่านไปสามวันแล้ว
สามวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าพวกนัทธีเป็นไงบ้าง
นัทธีจะต้องหาเธอจนบ้าไปแล้วแน่ๆ และยังมีอารัณไอริณ
วารุณีจับผ้าม่านข้างๆ สูดจมูกขึ้นเล็กน้อย เบ้าตาแดง น้ำตาไหลออกมาอย่างไร้เสียง
ตอนนี้เธอกลัวมากจริงๆ กลัวว่าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นิรุตติ์ จะลงมือกับเธอ และยังมีนวิยา
ถึงแม้นิรุตติ์จะรับประกันแล้ว ว่าจะไม่ช่วยนวิยา แล้วแต่เธอว่าจะทรมานนวิยาอย่างไร
แต่ที่นี่ถือว่าเป็นถิ่นของนวิยา ถ้าเธอจัดการนวิยา ก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จ
บางทีนวิยาจัดการเธอ อาจจะง่ายกว่าด้วยซ้ำไป
ดังนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นวิยาจะลงมือเธอ
“นัทธี ฉันคิดถึงคุณจัง”วารุณีก้มหน้าลง สะอื้นเบาๆ
ด้านหลัง จู่ๆห้องก็ถูกเปิดออก ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามา
คนนั้นเดินเบามาก วารุณีที่กำลังมีจิตใจคำนึงถึงนัทธีกับพวกลูกๆ ก็ไม่สังเกตถึงคนที่มาจากด้านหลัง
จนกระทั่งมือสองข้างยื่นมาที่เอวเธอ กอดเธอไว้จากด้านหลัง เธอจึงตกใจทันที ได้สติคืนมา ก็รีบเอามือสองข้างที่เอวออกไป แล้ววิ่งไปด้านข้าง
วารุณีวิ่งไปด้านข้าง กำฝ่ามือไว้ มองนิรุตติ์อย่างระวังและโกรธ“คุณเข้ามาเมื่อไหร่!”
นิรุตติ์มองสองมือของตัวเองอย่างเสียใจ
สัมผัสที่กอดหญิงสาวเมื่อกี๊ยังติดอยู่ที่มือเขาอย่างชัดเจน นุ่มๆ ยกมือมาดม ด้านบนยังมีกลิ่นหอมหลงเหลือ
นิรุตติ์อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจลึกๆ จากนั้นเอามือล้วงในกระเป๋ากางเกงอย่างเสียใจ
เสียดายจริงๆ เธอตอบสนองได้ไวขนาดนี้ เขายังกอดไม่พอเลย
“ตอนที่คุณพูดว่าคิดถึงนัทธี ผมก็เข้ามาแล้ว”นิรุตติ์พิงกระจกของหน้าต่างทรงสูง มองวารุณีเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
รูม่านตาวารุณีหดลงเล็กน้อย
ดันเข้ามาในตอนนั้น!
“คุณเข้ามา ทำไมไม่บอกก่อน!”วารุณีกัดริมฝีปาก“ถึงนี่เป็นถิ่นของคุณ แต่ตอนนี้คนที่อยู่ในห้องคือฉัน คุณ……”
เธอยังพูดไม่จบ ก็ถูกนิรุตติ์ตัดบท“คุณก็บอกแล้วที่นี่คือถิ่นของผม ในเมื่อเป็นถิ่นของผม ผมอยากไปไหน ทำไมต้องบอกก่อน?วารุณี คุณพูดจาผิดไปนะ”
พูดไป เขาก็เดินไปที่เธอ
วารุณีเห็นแบบนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไป“หยุด ห้ามเข้ามา!”
อย่างไรก็ตามนิรุตติ์ทำเหมือนไม่ได้ยิน เดินเข้ามาหาเธอต่อ
วารุณีขมวดคิ้วแน่น จะวิ่งออกไปจากห้อง
แต่เหมือนนิรุตติ์พอจะเดาได้อยู่แล้ว ก้าวไปอย่างกว้าง จับแขนของเธอไว้ จับเธอกลับมา
วารุณีถูกดึงออกกะทันหัน ก็ชนเข้าไปในอ้อมแขนเขาทันที
นิรุตติ์จึงกอดเธอแน่น
วารุณีได้กลิ่นน้ำหอมกับกลิ่นหอมอ่อนๆของชายแปลกหน้า ในใจตื่นตระหนกและร้อนใจ ไม่หยุดดิ้นรน“ปล่อยฉัน นิรุตติ์คุณปล่อยฉัน!”
นิรุตติ์จะปล่อยเธอได้อย่างไร ไม่ง่ายเลยที่เขาจะจับเธอมา
นิรุตติ์โอบเอวของวารุณีไว้แน่น ปล่อยให้มือสองข้างของวารุณีตีใส่หน้าอกของเขาและดิ้นรนไม่หยุด
ถึงเธอจะใช้แรงมาก ตีจนเขาเจ็บมาก แต่ความเจ็บนี้เขายังทนได้ และยิ่งไม่ปล่อยเธอ
นิรุตติ์เอาหน้าเข้าใกล้ช่วงไหปลาร้ากับคอของวารุณี สูดดมลึกๆ“หอมจริงๆ วารุณี ตัวคุณหอมมาก!”
ได้ยินคำนี้ สีหน้าวารุณีก็แดงเล็กน้อย โมโห“นิรุตติ์คุณมันหน้าด้าน คุณปล่อยฉัน ปล่อยฉัน!”
เธอดิ้นรนอย่างรุนแรงมากขึ้น
นิรุตติ์เกือบจับเธอไม่ทัน
ดังนั้นนิรุตติ์ก็จับวารุณีล้มลงไปเลย กดทับเธอไปที่พื้น
พรมหนาๆที่พื้น ท้ายทอยของวารุณีถูกมือใหญ่ๆของนิรุตติ์กันไว้ ล้มลงไปเลยไม่บาดเจ็บสักนิด
แต่การกระทำนี้ของนิรุตติ์ กลับทำให้สีหน้าวารุณีซีดขาวทันที“คุณจะทำอะไร?”
สายตานิรุตติ์มีประกายสลัวแวบผ่าน หยิบผมเธอมากำหนึ่งเล่นอยู่ตรงนิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง:“ผมจะทำอะไร?ชายกับหญิงอยู่ในห้องสองต่อสอง บวกกับท่าที่คลุมเครือแบบนี้ วารุณี คุณว่าจะทำอะไรได้ล่ะ?”
รูม่านตาวารุณีหดลง ร่างแข็งสุดขีด ดวงตาดุร้ายคู่นั้นจ้องไปที่ตัวชายหนุ่ม“นิรุตติ์ ฉันจะแจ้งความนะคุณอย่าทำอะไรมั่วซั่ว คุณเคยบอกว่า จะให้ฉันไปคิดดีๆ!”
“ผมเคยบอก แต่วารุณี ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว คุณยังคิดไม่ได้อีกเหรอ?และผมยังเคยบอกว่า อย่าคิดนาน ดังนั้นในเมื่อวารุณีคุณให้คำตอบไม่ได้ งั้นผมก็ได้แต่ทำแบบนี้”นิรุตติ์หรี่ตา จงใจแกล้งเธอ
วารุณีไม่รู้ แต่กลับจริงจัง ร่างแข็งขึ้นมาทันที
นิรุตติ์เห็นแบบนี้ ก็รู้สึกว่าสภาพเธอแบบนี้น่ารักมาก ความคิดที่อยากแกล้งเธอก็มากขึ้น
เขายกมุมปาก ก้มหน้าลง อยากทำให้เธอตกใจกลัว ขณะเดียวกันตัวเองก็ได้ผลประโยชน์ด้วย
นิรุตติ์กัดคอของวารุณี
วารุณีตาเบิกโตทันที แล้วก็ดูงุนงง ในหัวก็มีเสียงดังขึ้นมา
ไม่……คิดเลยว่าเขาจะกัดเธอ!
เวลานั้น ความน่าขยะแขยงอันมหาศาลก็พรั่งพรูเข้ามา วารุณีทนไม่ไหวอยากจะอ้วก
จากนั้นนิรุตติ์ก็ยังทำต่อ กัดเสร็จ ยังใช้ลิ้นเลียไปที่คอเธอ
เวลานั้น วารุณีรู้สึกเหมือนมีงูพิษกำลังเลีย ร่างกายสั่นอย่างรุนแรง
ทันใดนั้น ตาเธอก็เหลือบมองเห็นบนโต๊ะน้ำตาที่อยู่ไม่ไกล วางแจกันอันหนึ่งไว้
ดวงตาเป็นประกายทันที ชูมือขึ้นมา ยื่นมือไปทางโต๊ะกาแฟ
นิรุตติ์ไม่เห็นการกระทำของวารุณี เงยหน้ามองเธอ กำลังจะพูดอะไร เขาก็รู้สึกว่าปวดหัว
จากนั้น เสียงแก้วแตกก็ดังขึ้น ศีรษะของนิรุตติ์ถูกทุบแตกทันที เลือดสดไหลผสมไปกับน้ำในแจกันดอกไม้ หยดใส่บนหน้าวารุณี
วารุณีรีบเอาแจกันในมือที่แตกทิ้งไป ใช้โอกาสตอนที่นิรุตติ์ไม่เชื่อ ผลักเขาไปอีกครั้ง
นิรุตติ์ถูกกระทำจนล้มลงพื้น มองวารุณีที่ยืนขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก แล้วก็ลูบหัวที่ตัวเองถูกทุบ
มองเลือดบนมือ ในที่สุดเขาก็ตอบสนองได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่นึกว่าเขาจะถูกวารุณีใช้แจกันทุบ!
“คุณกล้าทุบผม?”นิรุตติ์ปิดหัวไว้แล้วยืนขึ้น มองวารุณีด้วยสีหน้าเยือกเย็น
วารุณีตอบเสียงสั่น:“ฉัน……ฉันก็ไม่อยาก แต่ใครให้คุณแตะต้องฉัน!”
เธอคือภรรยาของนัทธี นิรุตติ์เป็นพี่ชายฝ่ายพ่อของนัทธี เขาทำอย่างนั้นกับเธอ เธอต้องขัดขืนอยู่แล้ว
ถึงไม่ใช่เขา เธอก็ต้องขัดขืน
เธอไม่ให้ตัวเองถูกชายอื่นสัมผัสแน่นอน!
นิรุตติ์ทนหัวที่วิงเวียน ยิ้มอย่างเยือกเย็น“ดี วารุณี คุณทำได้ดีมาก!”