พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 729 ความจริงเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย
“หนูว่าเด็กในท้องของปาจรีย์ ใช่ของพงศกรไหม?”คุณพ่อประสิทธิ์มาตรงหน้าวารุณี ถามอีกครั้ง
วารุณีพยักหน้า“หนึ่งเดือนก่อน ปาจรีย์กับพงศกรมีความสัมพันธ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดังนั้นเด็กคนนี้ น่าจะเป็นของพงศกรค่ะ”
“ไอ้สารเลวนั่น!”แน่ใจว่าเด็กในท้องของลูกสาวเป็นลูกใคร คุณพ่อประสิทธิ์ก็โกรธจนกำหมัดแน่น ใบหน้าแก่ๆนั้น เต็มไปด้วยความโกรธ
คุณแม่ปารวีก็เสียใจมาก“จะเป็นลูกของพงศกรได้ไง?จะเป็นของพงศกรได้ไงกัน?”
เธอยอมที่จะให้เด็กคนนี้เป็นของพวกนักเลงที่ไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่พงศกร
คุณพ่อประสิทธิ์ก็เช่นกัน กัดฟันพูดว่า:“สารเลวนั่น ทั้งๆที่ไม่รักปาจรีย์ของเรา แต่กลับทำกับปาจรีย์……ไม่ได้ อาต้องไปหาเขา เรื่องนี้ อาไม่จบกับเขาแน่”
สำหรับพ่อคนหนึ่งแล้ว เห็นลูกสาวรักคนหนึ่งอย่างขมขื่นแบบนี้ แต่กลับไม่ได้การตอบกลับของคนๆนั้นคืนมา แน่นอนว่าเจ็บปวดอย่างไม่ต้องสงสัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็นลูกสาวเสียใจและเศร้าเพราะผู้ชายคนนั้น หัวใจของเขาที่เป็นพ่อ ก็เหมือนถูกมีดตัด
ใครไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองมีความสุขบ้างล่ะ
ดังนั้นถึงเขารู้ว่าตระกูลจิรดำรงค์ของเขาจะผิดต่อตระกูลอิสริยานนท์ แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ลูกสาวตัวเองอยู่กับลูกชายของตระกูลอิสริยานนท์ ที่พวกเขาเป็นหนี้ตระกูลอิสริยานนท์ พวกเขาสามารถชดใช้คืนได้
อีกอย่าง พงศกรปฏิบัติต่อลูกสาวตัวเองอย่างไร พวกเขาสองสามีภรรยาต่างรู้ดี เย็นชา ละเลย ไม่ใส่ใจ
หมายความว่า พงศกรไม่สนใจลูกสาวของพวกเขา ไม่รักลูกสาวของพวกเขาเลย
พวกเขาในฐานะพ่อแม่ ถึงแม้ปวดใจความรู้สึกที่ลูกสาวให้ไป แต่ไม่ได้คืนกลับมา แต่พวกเขาเข้าใจพงศกร
ยังไงเรื่องความรู้สึก ก็บังคับไม่ได้ รักคนๆหนึ่ง ไม่ได้จะบอกว่ารักก็รักนี่ และก็ยิ่งไม่ใช่ว่าคนนั้นรักเขา เขาก็จะรักคนนั้น
ดังนั้นพวกเขาเข้าใจพงศกรมาเสมอ และไม่เคยบังคับพงศกรว่าต้องตอบรับความรู้สึกของลูกสาวพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลจิรดำรงค์ของพวกเขาทำผิดต่อตระกูลอิสริยานนท์ จึงยิ่งไม่มีหน้าไปให้พงศกรเกี่ยวข้องอะไรกับลูกสาวตัวเอง และถึงแม้ลูกสาวตัวเองเสียใจเพราะพงศกร แต่พวกเขาก็ไม่ตำหนิใดๆ
แต่ว่าพงศกรก็ไม่ควรอย่างยิ่ง ไม่ควรมีอะไรกับปาจรีย์ และให้ปาจรีย์ตั้งท้อง ภายใต้สถานการณ์ที่เขาไม่รักปาจรีย์!
ดังนั้นครั้งนี้ ถึงพวกเขาตระกูลจิรดำรงค์จะทำผิดต่อตระกูลอิสริยานนท์ เขาก็ไม่คิดจะปล่อยพงศกรไปแบบนี้
พงศกรแค้นพวกเขาตระกูลจิรดำรงค์ ก็เล่นงานพวกเขาสองคนได้ ทำไมต้องเล่นกับความรู้สึกของปาจรีย์
และก็ พงศกรให้ปาจรีย์ตั้งท้องเพราะอะไร?ทิ้งพวกเธอแม่ลูกเพื่อแก้แค้นตระกูลจิรดำรงค์ของพวกเขาเหรอ?
ยิ่งคิดยิ่งโกรธ ใบหน้าคุณพ่อประสิทธิ์ก็แดงระเรื่อ ร่างสั่น เกือบจะล้มพับไป
ดีที่คุณแม่ปารวีประคองเขาไว้ตลอด จึงไม่ได้เกิดเรื่องอย่างนั้น
“ภรรยา เอาโทรศัพท์ให้ผมหน่อยสิ”คุณพ่อประสิทธิ์สูดหายใจลึกๆ ยื่นมือออกไปทางคุณแม่ปารวี
คุณแม่ปารวีรู้ว่าเขาจะทำอะไร ก็ปล่อยแขนเขาทันที ยื่นโทรศัพท์ให้เขา
เพราะเขาก็เห็นด้วยว่าต้องติดต่อพงศกร ถามพงศกรให้ชัดเจน เขาทำให้ปาจรีย์ท้องนั้น ไม่ตั้งใจหรือว่าตั้งใจกันแน่
อย่างไรก็ตามตอนที่คุณพ่อประสิทธิ์ได้โทรศัพท์มา วารุณีกลับพูดมาทันทีว่า“คุณอา ไม่มีประโยชน์ค่ะ คุณอาติดต่อพงศกรไม่ได้หรอก ตอนที่คุณน้าบอกฉันว่าปาจรีย์ฆ่าตัวตาย ฉันติดต่อพงศกรไปแล้ว แต่โทรศัพท์เขาปิดเครื่อง ติดต่อไม่ได้“
“ติดต่อไม่ได้?”สีหน้าคุณพ่อประสิทธิ์ดูแย่มาก
วารุณีพยักหน้า“ใช่ค่ะ”
คุณแม่ปารวีมองเธอแล้วถาม:“วารุณี หนูจะบอกว่า ตอนที่หนูรู้ว่าปาจรีย์ฆ่าตัวตาย ก็ติดต่อพงศกรไป หมายความว่าไง?หมายความว่า เรื่องที่ปาจรีย์ เกี่ยวกับพงศกร?”
ได้ยินคำนี้ คุณพ่อประสิทธิ์ก็มองเธอทันที อยากได้คำตอบ
วารุณีอ้าปาก ไม่รู้จะตอบอย่างไร สุดท้ายจึงพยักหน้า“น่าจะ หลังจากที่ปาจรีย์เห็นพงศกร สถานการณ์ก็ผิดปกติไป วันก่อนหนูเคยถามปาจรีย์ ว่าเป็นอะไรกันแน่ ปาจรีย์ก็ไม่พูด แค่บอกฉันว่า เธออยากทำเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องอะไรนั้น เธอไม่ยอมพูด แค่บอกว่าถ้าบอกหนูไป หนูจะหยุดเธอแน่ ดังนั้นหนูเลยเดาว่า เรื่องที่เธอจะทำ ก็คือฆ่าตัวตาย”
“อะไรนะ?”ร่างคุณพ่อประสิทธิ์กับคุณแม่ปารวีสั่น ชัดเจนว่าถูกโจมตี
วารุณีเห็นมองเขาแบบนี้ ในใจก็กังวลเล็กน้อย“คุณอาคุณน้า……”
“ทำไมปาจรีย์ มีความคิดแบบนี้กันแน่?”คุณแม่ปารวีทนไม่ไหวอีกต่อไป จู่ๆก็ร้องไห้ออกมา
ถึงแม้คุณพ่อประสิทธิ์ไม่ร้องไห้ แต่ก็กำหมัดสองข้างแน่น กัดฟันแน่น แต่มองก็รู้ว่ากำลังระงับอะไรไว้
“พงศกรสารเลวนั่น ทำอะไรกับปาจรีย์ของเรากันแน่?”จู่ๆคุณพ่อประสิทธิ์ก็ปล่อยหมัดไปที่กำแพงอันเย็นเฉียบ“เขาสะกดจิตปาจรีย์ของเราเหรอ ให้ปาจรีย์ของเราฆ่าตัวตาย?เขาเกลียดตระกูลจิรดำรงค์ของเรา เกลียดปาจรีย์ขนาดนี้เลยเหรอ?”
ตอนนี้ จู่ๆนัทธีก็พูด“พวกคุณคิดไหมครับว่า ที่ปาจรีย์ฆ่าตัวตาย ก็เพื่อแก้ไขความคับแค้นใจของตระกูลจิรดำรงค์กับตระกูลอิสริยานนท์?”
“อ๋า?”วารุณีตะลึงเล็กน้อย
คุณพ่อประสิทธิ์คุณแม่ปารวีมองเขา“คุณนัทธี ความหมายของคุณคือ……”
นัทธีดึงมือของเด็กทั้งสองคน ริมฝีปากขยับเบาๆ:“ปาจรีย์รู้ความจริงวันนั้นว่าตระกูลจิรดำรงค์ทำให้พ่อแม่พงศกรตายจากไปจริงๆ เธอไปเจอพงศกรมา ถึงแม้ผมไม่รู้ว่าพวกเขาพูดอะไรกัน แต่เมื่อรวบรวมการฆ่าตัวตายของปาจรีย์แล้ว ผมพอจะเดาได้ว่า เธออยากให้ความบาดหมางของตระกูลจิรดำรงค์กับตระกูลอิสริยานนท์ หมดสิ้นเสียที”
“หมดสิ้นเสียที?”สี่คำนี้ ทำให้คุณพ่อประสิทธิ์คุณแม่ปารวีตะลึง
และวารุณีก็เข้าใจอะไร เอามือปิดปากอย่างตกใจ“ฉันรู้แล้ว”
“วารุณี หนูรู้อะไร?”คุณแม่ปารวีดึงเธอไว้ รีบถาม
วารุณีมองไปที่นัทธี“คุณน้า สามีฉันบอกว่าน่าจะเป็นจริง ก่อนหน้านี้เพื่อที่จะได้คบกับพงศกร ปาจรีย์แอบสืบหาฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่พงศกรมาเสมอ ตอนนั้น ปาจรีย์ไม่รู้ว่าเบาะแสของพ่อแม่พงศกร จะเป็นพวกคุณน้ากับคุณอาเปิดเผยอย่างไม่ตั้งใจจริงๆ เธอคิดมาตลอดว่าการตายของพ่อแม่พงศกร ไม่เกี่ยวกับพวกคุณอาคุณน้า ดังนั้นจึงคิดว่าแค่หาฆาตกรได้ อธิบายความบริสุทธิ์ของตระกูลจิรดำรงค์ได้ พงศกรก็จะไม่เย็นชากับเธอขนาดนั้น เธอกับพงศกร ก็มีความเป็นไปได้ที่จะคบกัน อย่างไรก็ตาม……”
เธอสูดหายใจลึกๆ และพูดตอบไปว่า:“อย่างไรก็ตามปาจรีย์ความหวังนี้ สุดท้ายก็ถูกทำลาย ปาจรีย์รู้ว่าพ่อแม่พงศกร ตายเพราะคุณอาคุณน้าไม่ระวังเลยเปิดเผยเบาะแสไปจริงๆ ดังนั้นปาจรีย์จึงเต็มไปด้วยความหมดหวัง ขณะเดียวกันเธอก็รู้ว่า เธอกับพงศกรเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นฉันว่าครั้งนี้ปาจรีย์ฆ่าตัวตาย เพราะหวังว่าจะเอาการตายของตัวเอง มาแลกเป็นการปล่อยวางให้พงศกรมีต่อตระกูลจิรดำรงค์”
ฟังคำพูดวารุณีจบ คุณพ่อประสิทธิ์กับคุณแม่ปารวีก็ตะลึงงัน
สักพัก คุณพ่อประสิทธิ์จึงทุบอก ร้องไห้โทษตัวเอง:“ผมเอง เป็นความผิดผมเอง ผมทำร้ายลูกสาวผม เพราะผมเอง!”
คุณแม่ปารวีก็ร้องไห้หนักเช่นกัน
วารุณีมองสองสามีภรรยา ในใจก็ไม่สบายใจ
ทันใดนั้นเธอก็เสียใจเล็กน้อย ที่ตอนนั้นบอกปาจรีย์ ว่าพ่อแม่พงศกรตายอย่างไร
แต่ขณะเดียวกันเธอก็รู้ว่า ถึงตอนนั้นเธอไม่บอกปาจรีย์ ต่อไปปาจรีย์ก็ต้องรู้
กลัวว่าตอนนั้น ปาจรีย์จะปวดใจ
สรุปคือ ไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“นัทธี คุณว่า ฉันผิดหรือเปล่า”วารุณีมองคุณพ่อประสิทธิ์กับคุณแม่ปารวีที่เจ็บปวดแบบนี้ ก็โทษตัวเองในใจ
นัทธีรู้ว่าที่เธอพูดหมายความว่าไง จึงเอาเธอมาไว้ในอ้อมแขนเบาๆ“นี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ ถึงแม้ไม่มีคุณ ปาจรีย์ก็ต้องรู้ทุกอย่างนี้จากคนอื่น ถึงตอนนั้น ตัวเลือกที่เธอจะทำ ก็เหมือนกับวันนี้”
วารุณีอ้าปาก“แต่ว่า……”