พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 758 ร่วมมือ
วารุณีพยักหน้า “แน่นอน แม้จะไม่ได้รู้จักอะไรกับจุ๊บแจงมากนัก แต่หลังจากที่ได้ปะทะกันมาอยู่หลายครั้ง ฉันว่าฉันรู้จักเขาดี เขามีความยึดมั่นถือมั่นในแบบเพี้ยนๆกับนัทธี เพราะนัทธีเป็นคนที่เขาเคยเห็น ว่าสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งรูปลักษณ์ ฐานะ ทุกอย่างล้วนตรงตามสเป็คของเขา ดังนั้นเขาจะต้องกลับมาเข้าร่วมการแข่งขันนี้เพื่อนัทธีอย่างแน่นอน เพราะการที่เขากลับมาเท่านั้น จะทำให้เขามีโอกาส ให้นัทธีได้เปลี่ยนมุมมองใหม่จากเขา ”
“ยังจะเปลี่ยนมุมมองใหม่อีก ประธานนัทธีไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย ”ลีน่าพูดอย่างเย้ยหยัน
วารุณีหัวเราะ“ก็ใช่นะสิ ทุกคนต่างก็รู้ ว่านัทธีไม่มีทางชอบจุ๊บแจงได้ และมองออกว่าจุ๊บแจงเป็นคนยังไง แต่จุ๊บแจงก็เอาแต่หลอกตัวเอง มองไม่เห็นความจริงในเรื่องนี้”
“จริงๆเลย”ลีน่าพยักหน้าให้“ฉันว่ายัยจุ๊บแจงนี่คงดูนิยายประเภทประธานบริษัทอะไรพวกนั้นมากเกินไป คิดว่าคนเป็นประธานจะมาตกหลุมรักคนธรรมดาอย่างเขา ดังนั้นก็จึงเอาแต่คิดว่า ตัวเองเคยช่วยประธานนัทธี และประธานนัทธีก็จะตกหลุมรักเขา เพราะยังไงซะ นิยายแนวๆนี้มีเยอะแยะถมไป”
วารุณีขำพรืด “ใช่”
“ไม่แค่นี้นะ จุ๊บแจงยังรู้สึกว่า หากตัวเองได้เป็นนักออกแบบ มีชื่อเสียง ประธานนัทธีก็จะเห็นเขาอยู่ในสายตา ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน คงอ่านนิยายน้ำเน่าพวกนั้นมากเกินไป คิดว่าตัวเองเป็นนางเอก ขอแค่นางเอกทำอะไรนิดๆหน่อยๆ ก็จะทำให้พระเอกชื่นชอบได้ล่ะมั้ง ? แล้วนี่วารุณี ฉันยังมั่นใจมากด้วยว่า จุ๊บแจงคงคิดว่าตัวเองเป็นนางเอก แล้วประธานนัทธีเป็นพระเอก ส่วนเธอก็เป็นตัวอิจฉา”
พูดๆอยู่ ลีน่าก็ขำก๊ากออกมา
วารุณีส่ายหัวให้อย่างระอา“พอเถอะ ช่างพระเอกหรือตัวอิจฉาอะไรนั้น ฉันรู้แค่ว่า คนที่อยู่แต่ในโลกของตัวเอง ไม่กล้าออกมาเผชิญกับโลกของความจริง ตั้งแต่แรกเริ่ม ก็ถูกลิขิตไว้แล้วว่าเอาชนะอะไรฉันไม่ได้หรอก”
“มันก็ใช่” ลีน่าพยักหน้าให้
วารุณีบีบไปที่ข้อมือ กำลังจะพูดอะไร จู่ๆก็เห็นเงาคนปรากฏขึ้นตรงหน้า ยกยิ้มมุมปาก “เห็นไหม เขากลับมาแล้ว ”
ลีน่ามองตามใบหน้าที่เธอพยักพเยิดให้ และแล้วก็เห็นร่างของจุ๊บแจงจริงๆ เบ้ปาก “เธอเดาถูก เขารนหาที่จริงๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเราก็สงเคราะห์เขาหน่อยแล้วกัน”
“ในเมื่อเขากล้ากลับมา นั้นก็หมายความว่าเขาได้เตรียมใจรับกับผลที่จะเกิดขึ้นแล้ว และเขาเองก็รู้ ว่าเขาชนะเราไม่ได้ ดังนั้นฉันเดาว่า เขาจะต้องมีแนวทางป้องกันตัวเอง โดยการชิงลงมือก่อน ”วารุณีหรี่ตาลง พูดอย่างเย็นชา
“ไม่หรอกมั้ง?”ลีน่าประหลาดใจ
วารุณีพยักหน้าให้อย่างมั่นใจ“ เธอทำแน่ ดังนั้นลีน่า ต่อไป เธอต้องระวังตัวด้วยนะ ”
เมื่อลีน่าได้ฟังคำพูดที่จริงจังของเธอ ท่าทีก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที ตอบอืมกลับไปคำหนึ่ง“ได้ ฉันจะระวัง ”
“อืม ไม่ต้องพูดแล้ว การแข่งขันเริ่มขึ้นแล้ว”วารุณีพูดเตือน
พิธีกรได้นำเอาโจทย์ในครั้งนี้ขึ้นไปบนเวที และเริ่มประกาศกับผู้เข้าแข่งขันทุกคน
เมื่อได้ยินโจทย์ของการแข่งขันในครั้งนี้ หัวใจที่เต้นโครมครามของจุ๊บแจง ก็แน่นิ่งลงที่เดิม ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เพราะโจทย์ในครั้งนี้ เมื่อคืนเธอเพิ่งเห็นมันผ่านตา จากนั้นก็จดจำแบบนั้นเอาไว้
วันนี้ เธอแค่คัดลอกมันออกมาก็แล้วเสร็จ
เพียงแต่ว่า……
เมื่อคิดอะไรบางอย่างได้ จุ๊บแจงก็กำดินสอในมือแน่น เงยหน้าขึ้นมองไปยังที่นั่งของกรรมการผู้ตัดสินที่อยู่ด้านบน สายตามองสบเข้ากับวารุณีและลีน่า
จุ๊บแจงรู้ ว่าสองคนนี้รู้ดีว่าเธอลอกงานแบบของคนอื่นมา ดังนั้นครั้งนี้พวกเขาก็ต้องสงสัยอย่างแน่นอน ว่าเธอจะต้องลอกแบบมาอีก
ดังนั้นเธอจึงกลัวว่าเมื่อตัวเองวาดแบบงานเสร็จ จากนั้นสองคนนี้ ก็จะไปบอกกับทางผู้จัดงานว่า เธอลอกงานแบบมาแบบนี้คงมีปัญหาแน่ๆ
ดังนั้น ตอนนี้เธอควรวาดมันออกมาดีหรือไม่ ?
จุ๊บแจงลังเลและขบริมฝีปากแน่น
ที่นั่งของผู้ตัดสิน ลีน่าถามเสียงแผ่วเบาว่า “วารุณี เธอว่า เดี๋ยวเราเปิดโปงเขาเลยดีไหม?”
“แน่นอน”วารุณีพยักหน้า“ เราไม่รู้ว่าครั้งนี้เธอจะลอกแบบของใครมาอีก หากงานแบบที่ลอกมาครั้งนี้สวยงาม เลื่อนลำดับให้เธอได้ ก็จะมีผู้เข้าแข่งขันที่บริสุทธิ์ ถูกคัดชื่อออกเพราะความไร้ยางอายของเธอ ดังนั้นเราจะปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้ ตอนนี้ต้องรอให้เธอวาดแบบเสร็จแล้วส่งขึ้นมา เราถึงจะเปิดโปงเธอได้”
“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว งั้นก็ยังไม่ต้องสนใจ รอส่งงานแล้วค่อยว่ากัน แต่กำหนดส่งงานแบบคือวันพรุ่งนี้ เป็นไปได้ว่าวันนี้เธออาจจะยังไม่ส่ง ”ลีน่าเอามือลูบคางแล้วคาดเดา
วารุณีหยิบขวดน้ำดื่มที่อยู่ตรงหน้าเปิดมันออกแล้วดื่ม“ไม่เป็นไรหรอก จะส่งวันไหนก็เหมือนกัน ผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยน เพราะคนที่ออกแบบไม่เป็น เพียงเพราะต้องส่งแบบในวันสุดท้าย แล้วจะวาดมันออกมาได้ ท้ายที่สุด เขาก็ต้องลอกงานของคนอื่นมาอยู่ดี ”
“ก็ใช่” ลีน่าหัวเราะ และไม่ได้พูดอะไรอีก
เป็นไปตามคาด ลีน่าพูดถูก จุ๊บแจงไม่เลือกส่งงานแบบวันนี้
วารุณีและลีน่าที่คาดคะเนเหตุการณ์ได้ล่วงหน้า ไม่ได้ประหลาดใจอะไร รอจนหมดเวลาของการแข่งขัน ก็ออกจากสนามแข่งแล้วเดินทางกลับไปยังคฤหาสน์
และจุ๊บแจงเองหลังจากที่เดินออกจากสนามแข่ง มองดูงานแบบของตัวเอง คิ้วก็ขมวดกันแน่น
ในตอนนี้เอง ก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังเธอ“ ผลงานชิ้นนี้ไม่เลวเลยนี่ ”
“ใคร?”จุ๊บแจงรีบหันหลังกลับไปทันที มองไปยังคนที่อยู่ข้างหลัง
คนข้างหลังตัวสูงใหญ่มาก รูปร่างดี แต่หน้าตาและบุคลิก แค่พอดูได้
จุ๊บแจงเหล่ตามองหญิงสาวคนนี้ เอาแบบซ่อนไปยังด้านหลัง และถามอย่างระแวดระวังว่า “เธอเป็นใคร?”
“ฉันชื่อสุชาดา เคยเป็นนางแบบมาก่อน แต่ตอนนี้……” ใบหน้าของสุชาดาก็บิดเบี้ยวขึ้นมาทันที จากนั้นก็กลับคืนสภาพเดิม มองไปยังจุ๊บแจงแล้วพูดว่า “แบบนี้ เธอไม่ได้เป็นคนวาดเองหรอกใช่ไหม”
สีหน้าของจุ๊บแจงเปลี่ยนไปทันที
คนคนนี้รู้ได้ยังไง ?
หรือว่า งานแบบชิ้นนี้จะมีชื่อเสียงมาก และเคยมีคนเห็นมันมาก่อน ?
แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ตอนที่เธอเห็นมันบนอินเทอร์เน็ต ในแบบนั้นยังเขียนกำกับไว้ว่าภาพสเกต คนที่เข้าไปดูก็ไม่ได้มีเยอะมาก จะมีใครมาสังเกตเห็นง่ายๆแบบนี้ได้ยังไงกัน ?
ราวกับรู้ว่าจุ๊บแจงกำลังคิดอะไรอยู่ สุชาดายิ้มเยาะ“เธอไม่ต้องคิดมาก ฉันไม่เคยเห็นแบบชิ้นนี้มาก่อน แต่ตอนเช้าฉันได้ยินบทสนทนาของเธอกับวารุณี ฉันรู้ว่าเธอออกแบบไม่เป็น เข้าร่วมการแข่งขันนี้ได้ เพราะลอกแบบของคนอื่นมา ดังนั้นตอนนี้ ก็ย่อมต้องรู้ ว่าผลงานการออกแบบในมือเธอ ไม่ใช่ความคิดเธอเอง”
“เธอรู้จักวารุณี!” จุ๊บแจงถามเสียงสูง
สุชาดาพยักหน้า “แน่นอน ฉันไม่ใช่แค่รู้จัก เรายังเป็นเพื่อนตอนเรียนมหาลัยด้วย แต่ความสัมพันธ์ของเราไม่ค่อยจะดีกันสักเท่าไร อีกทั้งเรายังเป็นศัตรูกันด้วย ”
“ศัตรู?”จุ๊บแจงตะลึงงัน ความหวาดระแวงในใจ ก็ลดลงบ้างเล็กน้อย
สุชาดาเหยียดริมฝีปาก “ใช่ ฉันกับวารุณีเราเป็นศัตรูกัน วารุณีทำฉันที่เป็นนางแบบหน้าใหม่ ให้กลายเป็นนางแบบตกอับถ่ายนิตยสารเกรดต่ำ เธอทำลายอนาคตฉัน และทำลายชีวิตฉัน ความแค้นนี้ ฉันไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน ดังนั้นฉันจะแก้แค้นวารุณี ฉันจะให้เขาได้ลิ้มรส ทุกอย่างที่ฉันเคยได้เจอมา!”
มองดูแววตาอันเกลียดชังที่กัดกินถึงในกระดูกของสุชาดา จุ๊บแจงอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน
คนคนนี้ มีความแค้นกับวารุณีจริงๆ ความเกลียดชังนี้ ทำให้ผู้ที่พบเห็นถึงกับขนพองสยองเกล้า
“แล้วยังไง เธอมีความแค้นกับวารุณี จะมาบอกฉันทำไม?” จุ๊บแจงเหล่ตามอง แล้วถามหยั่งเชิง
สุชาดากักเก็บความเกลียดชังไว้ มือลูบคางแล้วสำรวจมองเธอ“ เธอกับวารุณีก็คงจะมีความแค้นกันด้วยหรือเปล่า ฉันได้ยินมันหมดแล้ว ดังนั้นศัตรูของศัตรูคือมิตร เรามาร่วมมือกันเป็นไง?”
“ร่วมมือ?”ดวงตาของจุ๊บแจงมีความประหลาดใจผาดผ่าน
สุชาดาพยักหน้า “ใช่ ร่วมมือ เรามาร่วมมือกัน เพื่อกำจัดวารุณี เธอก็รู้ว่าสถานะของวารุณีไม่ธรรมดา อยากจะจัดการกับเขาเพียงลำพังย่อมเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นต้องร่วมมือกันเท่านั้น ถึงจะมีโอกาส”
จุ๊บแจงไม่ได้พูดอะไร หลุบตาลงราวกับกำลังใช้ความคิดอยู่