พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 759 วารุณีก็ลอกเลียนแบบ
เมื่อสุชาดาเห็นก็รู้สึกหงุดหงิด อดไม่ได้ที่จะเร่งเร้า“เฮ้นี่ เธอกำลังลังเลอะไรอยู่ เรื่องแบบนี้มีอะไรให้น่าลังเลอีก ?”
จุ๊บแจงเงยหน้าขึ้น“ใครจะไปรู้ว่าเธอใช่คนของวารุณีหรือเปล่า จงใจพูดว่ามีความแค้นกับวารุณีเพื่อมาหลอกฉัน ให้ฉันติดกับหรือเปล่า?”
สุชาดาหัวเราะ“นี่เธอกำลังกังวลเรื่องนี้อยู่เหรอ ? งั้นฉันขอพูดชัดๆว่า ฉันไม่ใช่ ฉันกับวารุณีเรามีความแค้นกันจริงๆ เขาทำลายชีวิตฉัน หากฉันไม่จัดการกับเขา ชีวิตนี้คงนอนตายตาไม่หลับแน่ ดังนั้นเธอมาร่วมมือกับฉันอย่างสบายใจได้เลย ”
“พูดแล้วยังไง ต้องมีหลักฐานมายืนยันหน่อยไหม เพื่อแสดงตัวว่าเธอไม่ใช่คนของวารุณี และเพื่อยืนยันว่าเธอกับวารุณีมีความแค้นต่อกันจริง”จุ๊บแจงเอามือกอดอกแล้วจ้องมองมาที่เธอ
อันที่จริงแล้วในใจของจุ๊บแจงนั้นเชื่อไปเกินกว่าครึ่งแล้ว
เพราะท่าทีที่เคียดแค้นวารุณีของหญิงสาวคนนี้เมื่อครู่ที่ปรากฏให้เห็น มันทำเธอขนพองสยองเกล้ามาก
ดังนั้นหญิงสาวคนนี้กับวารุณีมีความแค้นกันนั้นมันจึงเป็นเรื่องจริง
แต่เธอไม่รู้จักกับผู้หญิงคนนี้ หากผลีผลามร่วมมือกันไป ใครจะไปรู้ว่าจะถูกแว้งกัดเอาตอนไหน
“อยากได้หลักฐานเหรอมีแน่นอน”สุชาดาหยิบโทรศัพท์ออกมา กดไปสองสามทีแล้วยื่นให้“ เห็นไหม? นี่เป็นเหตุการณ์ของการแข่งขันระดับนานาชาติเมื่อสองเดือนก่อน ตอนนั้น ฉันเป็นนางแบบให้กับนักออกแบบคนหนึ่งแล้วเข้าร่วมการแข่งขันนี้ สุดท้ายถูกวารุณีไล่ออกจากการแข่งขัน จากนั้นก็ถูกระเห็จไปยังสถานที่ที่ลำบากยากแค้น!”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ สุชาดาก็กัดฟันกร่อน ราวกับมีวารุณีอยู่ในปาก แทบทนไม่ได้ที่อยากจะขบกัดเธอให้เป็นชิ้นๆ
จุ๊บแจงมองดูภาพถ่ายในนั้น ตอนนี้ก็จึงเชื่ออย่างสนิทใจ มุมปากยกยิ้มขึ้นมา“ดีมาก ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็ตกลงร่วมมือกับเธอ”
“เยี่ยม เธอเลือกได้ฉลาดมาก”สุชาดาหยิบโทรศัพท์ตัวเองคืน
แววตาของจุ๊บแจงมีการเยาะเย้ยผาดผ่าน
ฉลาด?
ไม่ เธอไม่เคยรู้สึกว่าการที่ตัวเองตัดสินใจเลือกที่จะร่วมมือกับใครนั้นเป็นเรื่องฉลาด
ก่อนหน้านั้นที่ร่วมมือกับนิรุตติ์ ก็ได้ให้บทเรียนเธอไปแล้ว
นิรุตติ์บอกว่า ขอแค่เธอร่วมมือกับเขา เขาจะช่วยเธอให้ได้ตัวนัทธีมา แล้วแต่งเข้าตระกูลไชยรัตน์
สุดท้าย นิรุตติ์ก็ไม่ได้รักษาคำพูดของตัวเองเลย
ดังนั้นเธอในตอนนี้ จะร่วมมือกับใคร ความเชื่อใจคงจะทุ่มมันไปทั้งหมดไม่ได้อีก ต้องระวังตัวเอาไว้บ้าง เผื่อว่าโดนแทงข้างหลังเข้า ยังจะพอมีลู่ทางให้เอาตัวรอดได้
ดังนั้น เธอเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้มีความแค้นกับวารุณี และร่วมมือกับผู้หญิงคนนี้ได้ แต่ในใจของเธอ ก็ยังต้องคอยระวัง ไม่โชว์ไพ่ที่มีในมือให้ผู้หญิงคนนี้เห็นมันทั้งหมด
“เอาล่ะ ในเมื่อตอนนี้เราตกลงว่าจะร่วมมือกันแล้ว เธอคิดว่า เราจะจัดการกับวารุณียังไงดี?”จุ๊บแจงกำมือแน่นแล้วมองไปยังสุชาดา
สุชาดาไม่ได้ตอบกลับไปในทันที แต่สายตากลับจ้องมองไปยังแบบที่เธอถืออยู่ในมือ“งานแบบชิ้นนี้ เธอวาดมันเสร็จแล้ว ตามหลัก วันนี้เธอก็ควรส่งงานได้แล้ว แต่เธอไม่ส่ง เพราะเธอรู้ดีว่าพวกวารุณีรู้ว่างานของเธอเธอไม่ได้เป็นคนวาดมันขึ้นเอง อาจจะไปลอกมันมาจากที่ไหน ดังนั้นวันนี้เธอเลยไม่กล้าส่งแบบ แต่ตัดสินใจเลือกที่จะส่งในวันที่กำหนด เพราะแบบนั้น ในตอนที่พวกวารุณีประเมินผล ก็จะไม่มีเวลาไปเสาะหาว่างานของเธอนั้นไปลอกของใครมา ไม่แน่ ยังอาจจะทำให้เธอได้เลื่อนลำดับขึ้นอีกด้วย เธอคิดแบบนี้ใช่ไหม ?”
จุ๊บแจงขบริมฝีปากแน่น ไม่ได้ตอบอะไร
เพราะว่า เธอคิดแบบนั้นจริงๆ
เธอกลัวว่าถ้าเธอส่งขึ้นไปตอนนี้ พวกวารุณีจะมีเวลาเหลือเฟือ เพื่อค้นหางานแบบที่เธอไปลอกมา จากนั้นพรุ่งนี้ก็มาเปิดโปงเธอ
ดังนั้น เธอจึงเลือกที่จะไม่ส่งมัน แล้วส่งเป็นวันพรุ่งนี้แทน แบบนั้น วารุณีและพวกก็จะไม่มีเวลาไปตรวจสอบเธอ
นี่คือสิ่งที่เธอคิดได้ในตอนนี้ วิธีที่ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคัดออกและถูกเปิดโปงจากวารุณีและพวก
แต่เธอรู้ว่าจะทำแบบนี้ไปตลอดไม่ได้ แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือก เธอจึงทำได้เพียงคิดและทำมันตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อเห็นจุ๊บแจงไม่พูดอะไร สุชาดาก็หัวเราะชอบใจ“ดูเหมือนฉันจะพูดถูกนะ”
“เธอพูดถูกแล้วยังไง?”จุ๊บแจงขมวดคิ้ว น้ำเสียงดูค่อนข้างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
สุชาดายักไหล่ “ก็ไม่แล้วไงหรอก ฉันแค่อยากจะบอกเธอว่า ไม่ว่าเธอจะส่งมันตอนนี้ หรือส่งมันในวันพรุ่งนี้ เธอก็หยุดยั้งวารุณีพวกเขาไม่ได้หรอก เพราะพวกวารุณีสามารถหยุดการแข่งขันได้ จากนั้นก็ตรวจสอบว่าเธอไปลอกผลงานของใครมา แล้วก็ทำการแข่งขันใหม่ ดังนั้นไม่ว่าเธอจะพยายามดิ้นรนแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์”
“อะไรนะ?”สีหน้าของจุ๊บแจงเปลี่ยนไปทันที “ หยุดการแข่งขัน ? เธอทำได้ยังไง!”
“เขาทำได้แน่ เธอไม่ใช่คนในวงการออกแบบ เธอไม่รู้กฎระเบียบของวงการนี้ เธอเชื่อไหม แค่คำพูดเดียวของวารุณี ว่าเธออาจจะขโมยผลงานคนอื่น ทางผู้จัดก็จะระงับการแข่งขันทันทีและตรวจสอบเธอ ในวงการของการออกแบบ การลอกเลียนผลงาน ถือเป็นอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุด เมื่อได้รับการยืนยันแล้ว ไม่เพียงแต่จะถูกแบนจากวงการนี้ทันที อีกทั้งยังจะถูกจดบันทึกทำประวัติเอาไว้ด้วย ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถไปประกอบอาชีพอื่นได้ และถ้างานแบบที่เธอไปคัดลอกมา เกี่ยวข้องกับธุรกิจ สร้างผลกำไร เธอก็อาจจะติดคุกได้ด้วย”
เมื่อได้ฟังคำพูดของสุชาดา สีหน้าของจุ๊บแจงก็ซีดเผือด “นี่……นี่มันร้ายแรงขนาดนี้เลยเหรอ?”
“แน่นอน ฉันไม่คิดจะโกหกเธอหรอก มันเป็นเรื่องจริง ถ้าเธอไม่เชื่อ ก็ลองไปถามใครดูก็ได้ จะได้รู้ว่าที่ฉันพูดนั้น มันจริงหรือเปล่า”สุชาดายักไหล่
จุ๊บแจงขบริมฝีปากแน่น ร่างกายก็สั่นเทิ้ม รู้สึกหนาวสั่นไปทั่วทั้งแผ่นหลัง
เธอไม่เคยคิดมาก่อน ว่าการกระทำของตัวเอง จะนำพามาซึ่งผลลัพธ์แบบนี้
เธอคิดแค่ว่า เอาผลงานของคนอื่นมาสู้กับวารุณี
ทำไมมันร้ายแรงถึงขั้นถูกแบน หรือถูกจำคุกขนาดนี้ด้วย ?
“แล้วตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี ?”จุ๊บแจงถามด้วยอาการหน้าซีดปากสั่น
ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เสียใจที่เมื่อวานลีน่าถามเธอว่าอยากจะถอนตัวไหม แต่เธอไม่ถอน
และยิ่งเสียใจที่เช้านี้ เธอเองก็รู้แก่ใจดีว่าวารุณีเขารู้ว่างานแบบของเธอไม่ได้รังสรรค์ขึ้นมาด้วยฝีมือตัวเอง ก็ไม่คิดจะถอนตัว ยังดึงดันที่จะพาตัวเองมายืนอยู่บนปากเหวแบบนี้
ในตอนนี้เอง จุ๊บแจงก็แทบทรุด
สุชาดาเหล่ตามอง“ตอนนี้ทางเลือกเดียวของเธอก็คือ ก่อนที่พวกวารุณีจะเปิดโปงเธอ เธอก็ชิงลงมือจัดการกับพวกเขาก่อน”
“ฉันรู้อยู่แล้ว แต่ต้องทำยังไงนี่สิ ?”ใบหน้าของจุ๊บแจงบิดเบี้ยวแล้วพูดขึ้นว่า“ ถ้าฉันมีวิธี ก็ทำไปแล้ว ยังต้องมาถามเธออีกเหรอ?”
“วิธีนั้นง่ายมาก ที่ในมือฉันมีอยู่อันหนึ่ง”สุชาดาหัวเราะแล้วโบกโทรศัพท์ไปมา
จุ๊บแจงดวงตาเป็นประกายมองไปยังหญิงสาว“ วิธีอะไร?”
“ฉันรู้ว่าวารุณีก็เป็นผู้ต้องสงสัยคัดลอกผลงานคนอื่นเหมือนกัน”คำพูดของสุชาดาทำเอาประหลาดใจมาก
ดวงตาจุ๊บแจงเบิกกว้าง “เธอว่าไงนะ วารุณีก็คัดลอกผลงานคนอื่นเหรอ?”
สุชาดาพยักหน้า “ใช่ เขาคัดลอกผลงานคนอื่น ดังนั้นเธอเอาเรื่องที่วารุณีคัดลอกผลงานนี้ มาเปิดโปงก่อน จัดการส่งเขาลงนรก เมื่อเป็นแบบนั้น เธอก็จะปลอดภัยไม่ใช่เหรอ ? เป็นยังไง ? วิธีนี้ของฉันดีไหม?”
จุ๊บแจงพยักหน้าให้ซ้ำๆ“ดี ดีมาก เยี่ยมไปเลย แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าเขาคัดลอกผลงาน เธอมีหลักฐานอะไร?”
“หลักฐานมีอยู่แล้ว”
ขณะที่พูด สุชาดาก็กดไปที่โทรศัพท์มือถืออีกครั้ง จากนั้นก็ยื่นมันไปตรงหน้าเธอ “ เธอลองเทียบสองรูปนี้ดูสิ ด้านซ้ายเป็นแบบของนักออกแบบคนหนึ่งที่ไม่ทราบชื่อ และทางด้านขวาเป็นแบบของวารุณี แบบสองอันนี้แม้อันหนึ่งจะเป็นกระโปรง และอีกอันจะเป็นชุดสูท แต่ความคล้ายคลึงนั้นเหมือนกันมาก และแบบทางด้านซ้ายนี้ ก็ได้โพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตเมื่อเดือนมิถุนายนของปีที่แล้ว ส่วนของวารุณี ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสารเมื่อเดือนกรกฎาคมของปีนั้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นหลักฐานที่แน่นหนาว่าวารุณีคัดลอกผลงาน ”