พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 760 ความลุ่มหลงของนัทธี
“นี่มันเรื่องจริงเหรอ?”จุ๊บแจงแย่งโทรศัพท์มาอย่างตื่นตัว แล้วกวาดมองไปที่หน้าจอ ดูมันอย่างตื่นเต้น
ตื่นเต้นจน ดวงตาสั่นระริก
สุชาดาพยักหน้า “จริงแท้แน่นอน เว้นแต่เธอจะโง่ หรือเธอดูไม่ออกเลยว่างานสองชิ้นนี้มันมีความคล้ายคลึงกันมากแค่ไหน ? ผลงานของวารุณีเกิดขึ้นทีหลัง ดังนั้นก็จึงชี้ชัดว่าวารุณีลอกเลียนแบบ ตอนที่ฉันเห็น ก็แปลกใจมากเหมือนกัน จากนั้นฉันถึงได้รู้ เวลาของการแก้แค้นได้มาถึงแล้ว และฉันก็ได้เข้าไปในเว็บต่างๆเพื่อค้นหาดูงานที่วารุณีได้ลอกเลียนไป เพราะฉันรู้สึกว่า หากเธอจะลอกเลียนแบบ คงไม่ลอกแค่ชิ้นเดียว ย่อมต้องมีอันอื่นอีกแน่ เป็นไปตามคาด ฉันเจอมันอีกมากมาย ”
ขณะที่พูด สุชาดาก็ดึงโทรศัพท์กลับ จากนั้นก็เลื่อนภาพอื่นๆขึ้นมา
ภาพที่มีอีกสิบกว่ารูป เป็นภาพจริงที่เทียบกับภาพที่ลอกเลียนแบบมาทั้งหมด
จุ๊บแจงเองก็เห็นภาพที่ตัวเองคุ้นเคย อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “ รูปพวกนี้ฉันเคยเห็นมันมาก่อน!”
เธอชี้ไปยังภาพที่เห็นอยู่ ณ ตอนนี้
สุชาดาเหลือบมองดูเธอ“ เธอเคยเห็นมันที่ไหน?”
“บนอินเทอร์เน็ตมีเจ้าของบล็อกหนึ่งใช้ชื่อบัญชีว่าMN รูปพวกนี้ ล้วนเป็นงานของเขา แบบที่ฉันเอามาเป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน ก็คือแบบของMNคนนี้”จุ๊บแจงกล่าว
สุชาดาตะลึง “ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง แต่เธอพูดถูก ผลงานพวกนี้ เป็นของMNคนนี้ ฉันก็ไปที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขา ถึงได้รู้ว่าที่วารุณีลอกเลียนมานั้น เป็นงานของเขา”
“ไม่แปลกเลยที่วารุณีจะรู้ได้ในทันที ว่างานแบบที่ฉันใช้เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันนี้ขโมยมันมา เพราะวารุณีต้องเคยเห็นงานของฉันที่ใช้ในการเข้าแข่งขัน ดังนั้นเธอมองออกในทันที เพราะเธอก็เคยคัดลอกมันมาก่อน!”จุ๊บแจงกำหมัดแน่น กัดฟันด้วยความแค้น ใบหน้าบิดเบี้ยว
สุชาดาเก็บโทรศัพท์เข้าในกระเป๋า“ ว่ายังไง พรุ่งนี้เธอเอาเรื่องพวกนี้ไปยื่นฟ้องวารุณี เธอจะได้จัดการวารุณีก่อนที่เขาจะจัดการเธอ เก็บเขาซะ เอายังไง?”
เธอพูดกระตุ้น
จุ๊บแจงหัวเราะ“ทำไมจะไม่ทำละ โอกาสมาอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว ถ้าฉันไม่ทำ คงต้องรู้สึกผิดกับตัวเองแน่ๆ ”
เธอจะต้องจัดการกับวารุณีให้ได้
ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ตัวเองไม่ต้องเสี่ยงติดคุก
แต่ก็เพื่อนัทธีด้วย
ขอเพียงวารุณีพัง นัทธีคงไม่รักวารุณีอีกเป็นแน่ บางทีเมื่อถึงตอนนั้น นัทธีอาจจะรักเธอก็ได้
เพราะยังไงเธอก็เป็นคนที่ช่วยชีวิตนัทธี
นัทธีคงไม่ได้เกลียดเธอจริงๆหรอก แต่เป็นเพราะมีวารุณีอยู่ ดังนั้นนัทธีก็จึงมองไม่เห็นเธออยู่ในสายตา
หากไม่มีวารุณีแล้ว นัทธีก็ต้องสนใจเธออย่างแน่นอน
ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น จนร่างกายของจุ๊บแจงสั่นสะท้าน
เธอหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา ยืนมันไปตรงหน้าสุชาดา“ ขอช่องทางการติดต่อด้วย ส่งรูปที่เทียบกันนั้นให้ฉันด้วย พรุ่งนี้ฉันต้องใช้มัน”
“ได้”สุชาดาคว้าโทรศัพท์เธอมา
วารุณียังไม่รู้ตัวว่าตกเป็นเป้าในการโจมตีของศัตรูทั้งสองคนไปแล้ว และตอนนี้ก็กำลังคุยโทรศัพท์กับนัทธีอยู่
“วันนี้การแข่งขันเป็นยังไงบ้าง?”นัทธีถามด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและแหบแห้ง
วารุณีเอนหลังพิงไปที่โซฟา แล้วทุบไปที่หัวไหล่ ตอบกลับว่า“ก็ดี แต่นั่งอยู่เฉยๆทั้งวัน ปวดหลังไปหมดเลย ”
“ปวดมากไหม?”นัทธีขมวดคิ้ว
วารุณีหัวเราะ “ ก็ไม่ได้ปวดขนาดนั้น พักสักหน่อยเดี๋ยวก็หาย ”
“พรุ่งนี้ผมจะให้คนไปเปลี่ยนที่นั่งของผู้ตัดสิน เปลี่ยนเป็นเก้าอี้นวด แบบนั้นหากรู้สึกไม่สบายตัว ก็ยังสามารถนวดได้”นัทธีกล่าว
วารุณีพูดไม่ออก“อย่าเชียวนะ ห้ามเด็ดขาดเลย ไม่จำเป็น เราไปเป็นกรรมการ และเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของผู้เข้าแข่งขัน ไม่ใช่ไปเสพสุข ดังนั้นคุณจะจัดหาเก้าอี้นวดทำไม”
“แต่คุณปวดหลัง ”นัทธีพูดอย่างไม่เห็นด้วย ความอยากจะเปลี่ยนเก้าอี้นวดให้เธอนั้นมันชัดเจนมาก
วารุณีส่ายหัวให้อย่างระอา“ ไม่จำเป็นจริงๆ หากคุณตามใจฉันจนเสียคน งั้นทุกครั้งที่ฉันทำงานคุณก็ต้องให้สิทธิพิเศษกับฉันนะสิ ?”
“มีอะไรที่ทำไม่ได้กันล่ะ ? สามีคุณมีความสามารถตรงนี้”นัทธีพูดอย่างไม่ยี่หระใดๆ
วารุณีหัวเราะแล้วพูดว่า“ฉันย่อมรู้อยู่แล้วว่าคุณมีความสามารถแบบนี้ ฉันหมายความว่า คุณจะทำฉันเสียคนได้ ต่อไปหากฉันจะทำอะไรก็ต้องพึ่งพาคุณ และฉันก็จะสูญเสียความเป็นตัวเอง ดังนั้นที่รัก ฉันรู้ว่าคุณทำเพื่อฉัน แต่ฉันไม่ต้องการแบบนี้ หากฉันต้องการ ฉันจะบอกคุณเอง แต่ของพวกนี้ มันไม่จำเป็นเลยจริงๆ”
นัทธีนิ่งเงียบไป ผ่านไปสักพักก็จึงตอบกลับว่า“ก็ได้ หากต้องการ อย่าฝืนตัวเองว่ายังไหว ต้องบอกผมนะ ผมเป็นสามีของคุณ ไม่ใช่คนอื่น ผมรู้ว่าคุณเป็นคนเก่ง แต่ผมก็หวัง ว่าคุณจะพึ่งพาอาศัยผมบ้าง ”
เมื่อฟังคำพูดของชายหนุ่ม วารุณีก็รู้สึกอบอุ่นใจอย่างมาก ใบหน้าก็แย้มยิ้ม สวยเกินบรรยาย“ค่ะ ฉันรู้แล้ว จะทำตามนั้น ”
“ก็ดี พอแล้ว นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณควรพักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปสนามแข่งอีก วันมะรืนผมจะพาลูกๆไปหาคุณ” นัทธีพูดและยิ้มบางเบา
ดวงตาวารุณีเป็นประกาย รีบพยักหน้าตกลง“ดีเลยค่ะ”
“งั้นแค่นี้นะ”
“ค่ะบ๊ายบาย ”
วางสายแล้ว ลีน่าก็เดินเข้ามาเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “โอ้ะ วางสายแล้วเหรอ ? ทำไมไม่คุยกันต่อล่ะ?”
“คุยกันนานแล้ว” วารุณีพูดพร้อมวางโทรศัพท์ลง
ลีน่านั่งเข้ามาใกล้“ ฉันหมายความว่า ทำไมถึงไม่คุยกันจนให้สายไหม้ไปเลยล่ะ ?”
วารุณีเลิกคิ้ว “ ทำไม เธออิจฉาฉันหรือไง ? ”
ลีน่าแค่นเสียงหึออกจากลำคอ“ ก็นิดหนึ่ง เธอกับประธานนัทธีหวานเลี่ยนกันทุกวัน ไม่โทรคุยก็วิดีโอคอลกัน คนโสดอย่างฉันเห็นแล้วก็อิจฉาเหมือนกัน มันทำให้ฉันอยากจะมีความรักขึ้นมาบ้าง”
“งั้นก็หาแฟนสักคนสิ ดูอย่างเชอรีนเขาก็เลิกเป็นโสดแล้วไหม ? อีกอย่าง เธอสวยขนาดนี้ หาแฟนสักคนมันยากหรือไง ? วารุณีมองหน้าเธอแล้วพูดขึ้นมา
ลีน่าถอนหายใจ“ช่างมันเถอะ อิจฉาก็เรื่องหนึ่ง ให้หาแฟนสักคนมันก็อีกเรื่องหนึ่ง ให้ฉันหาแฟนเอง ดูท่าก็น่าจะหาไม่เจอ สเป็กที่ฉันต้องการมันสูงเกินไป แค่รูปลักษณ์ภายนอก เกินครึ่งก็ไม่ผ่านแล้ว ดังนั้นก็รอให้เทพบุตรตัวจริงของฉันปรากฏตัวเองก็แล้วกัน ”
“พอเลย ฉันว่าเธอขี้เกียจมากกว่า ”วารุณีจิ้มไปที่หน้าผากของเธอ
ลีน่าหัวเราะแหะๆ “ ยังไงซะ เธอก็มองมันออกอยู่ดี ”
วารุณีกลอกตามองบนใส่เธอ “ เธอแสดงออกชัดเจนซะขนาดนี้ ใครจะมองไม่ออกกัน ? พอเลย ไม่คุยกับเธอแล้ว ฉันขอขึ้นไปอาบน้ำก่อน”
“ไปเถอะ ฉันขอดูทีวีสักแป๊บ ”ลีน่าโบกมือให้
วารุณีลุกขึ้น แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนออกจากบ้าน แล้วเดินทางไปยังสนามแข่งขันอีกครั้ง
ในตอนที่มาถึง วารุณีก็เห็นจุ๊บแจงยืนมือกอดอก มุมปากยกยิ้มอย่างมีเลศนัย ยืนอยู่ที่หน้าประตูทางเข้า ราวกับกำลังรอใครอยู่
แต่วารุณีไม่ได้สนใจ เธอกับลีน่า ก้าวเท้าและกำลังจะเดินผ่านหน้าจุ๊บแจงไปพร้อมกัน
แต่จุ๊บแจงกลับร้องเรียกเธอไว้ “รอเดี๋ยว ”
ขาที่ก้าวอยู่ของวารุณีก็หยุดลง กำลังจะเอ่ยปากพูด ลีน่าก็ชิงพูดขึ้นก่อน“ มีธุระอะไร?”
“ฉันเรียกเขา ”จุ๊บแจงชี้ไปที่วารุณี
วารุณีขมวดคิ้ว “ ไม่มีคนเคยบอกเหรอ ว่าการชี้หน้าคนอื่นนั้น มันเป็นการเสียมารยาท ? ”
หากเป็นเวลาปกติ จุ๊บแจงคงสวนกลับไปแล้ว
แต่ตอนนี้ จุ๊บแจงไม่เพียงไม่สวนกลับ แต่หัวเราะเยาะออกมาแทน“เสียมารยาทก็ช่าง เพราะกับเธอ ฉันไม่จำเป็นต้องมีมารยาท วารุณี ฉันรู้ว่าวันนี้พวกเธอจะใช้โอกาสตอนที่ฉันส่งแบบ แล้วเปิดโปงฉัน จัดการกับฉันใช่ไหม?”
ดวงตาของวารุณีมีประกายความประหลาดใจไหววูบ
แต่ลีน่ากลับพูดออกไปตรงๆว่า“ เธอเดาได้ด้วย?”
“หึ ฉันไม่ใช่แค่เดาได้นะ แต่ฉันยังรู้ ว่าพวกเธอยังอยากให้ฉันติดคุกด้วย”ใบหน้าของจุ๊บแจงก็เหยเกขึ้นมา“แต่ฉันขอบอกไว้ก่อน ว่าล้มเลิกความคิดนั้นซะ พวกเธอทำอะไรฉันไม่ได้หรอก!