พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 764 ไม่ตื่นตระหนก
ได้ยินเธอพูดว่ารูปเป็นหลักฐาน ทุกคนก็ค่อยๆยืนขึ้นมา
“แย่แล้ว ตอนนี้ฉันเริ่มเชื่อว่าครูที่ปรึกษาวารุณีเป็นคนคัดลอกแล้ว เขาเอาหลักฐานออกมาแล้วเนี่ย”
“ฉันก็ด้วย”
“ไม่ ฉันยังไม่เชื่อ ฉันเห็นความสามารถของครูที่ปรึกษาวารุณี เธอไม่มีทางลอกงานแน่”
“ถูกต้องๆ”
มีคนเริ่มเปลี่ยนฝั่งไปด้านจุ๊บแจง เชื่อว่าวารุณีคัดลอก และก็มีคนยังคงคิดเหมือนเดิม ไม่เชื่อว่าวารุณีจะลอก
สรุปคือ สถานการณ์ตอนนี้วุ่นวายมาก
เชื่อว่าวารุณีลอกผลงาน แน่นอนว่าเยอะกว่าที่เชื่อว่าไม่ได้ลอก
ดังนั้นสถานการณ์ตอนนี้ สำหรับวารุณีแล้ว แย่เอามาก
แต่วารุณียังคงไม่ตื่นตระหนกใดๆ ยังเอนหลังเก้าอี้อย่างสบาย มองฉากโกลาหลด้านล่าง
จุ๊บแจงคิดว่าตัวเองเอาหลักฐานออกมา จะได้เห็นสีหน้าที่ดูขวัญเสียของวารุณี
และพอเห็นวารุณีที่ไม่แยแส คิ้วก็ขมวดแน่น ในใจก็หงุดหงิดมาก
เกิดอะไรขึ้น?
เธอหยิบหลักฐานมาแล้ว ทำไมวารุณียังเป็นแบบนี้?
วารุณีไม่กลัว ไม่ตื่นตระหนกเลย?
จุ๊บแจงมักจะรู้สึกว่าท่าทางแบบนี้ของวารุณีไม่เคารพเธอเลย
เธอพยายามอย่างหนักในการหาหลักฐานตั้งนาน เพื่อที่จะทำลายวารุณี แต่วารุณีที่เป็นคนเกี่ยวข้อง กลับไม่ตื่นตระหนก ไม่กลัวสักนิด
ทำให้เธอยากที่จะรับได้จริงๆ
แต่แป๊บเดียว จุ๊บแจงก็ปรับอารมณ์ ยิ้มอย่างเย็นชา
เพราะเธอคิดว่า ตอนนี้ไม่ใช่วารุณีไม่ตื่นตระหนก แต่ในใจจะต้องสติหลุดไปแล้วแน่ ก็แค่ปกปิดได้ดี
เพราะว่าที่แสดงความใจเย็นออกมา จะทำให้คนคิดว่าเธอได้ลอก
แต่ลอกก็คือลอก หลักฐานก็อยู่นี่แล้ว ไม่ใช่ว่าแสดงออกนิ่งๆ จะหมายความว่าไม่ได้ลอกเลียนแบบ
หึ รอก่อนเถอะ เดี๋ยวเธอจะให้วารุณีลงนรกเอง
จุ๊บแจงยิ้มมีความสุขจากนั้นหยิบรูปมา มองผู้จัดงาน“นี่ค่ะหลักฐาน ฉันหวังว่าคุณจะเอาหลักฐานพวกนี้ออกมาสู่สาธารณะ ให้ทุกคนดู ว่าเธอได้ลอกไหม”
“ใช่ ฉันสนับสนุน”
“ฉันก็สนับสนุน”
ไม่ว่าผู้เข้าแข่งขันที่เชื่อว่าวารุณีลอก หรือไม่เชื่อว่าวารุณีลอก ต่างเห็นด้วยที่ให้ผู้จัดงานเปิดเผยรูปออกมา
เพราะว่าแบบนี้ ถ้าวารุณีลอกจริง ทุกคนก็จะได้เห็น
ถ้าไม่ได้ลอก ทุกคนก็จะเห็นด้วย
ผู้จัดงานก็รู้ว่าทุกคนทำถูก แต่เปิดเผยหรือไม่เปิดเผย ไม่ใช่เขาที่ตัดสินใจได้
เขาหันไปมองที่วารุณี หวังว่าจะได้คำบอกใบ้จากวารุณี
เขาก็เชื่อว่าวารุณีไม่ได้คัดลอกงาน
ไม่อย่างนั้น ประธานของบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป จะชอบเธอได้ไง
วารุณีก็รู้ความหมายของผู้จัดงาน จึงยิ้มให้ผู้จัดงาน จากนั้นพยักหน้า เห็นด้วย ให้ผู้จัดงานเปิดเผยรูป
ผู้จัดงานเห็นเธอแบบนี้ ก็ดีใจมาก พยักหน้าตกลงทันที จากนั้นหันหน้ากลับไป เก็บความดีใจที่ใบหน้า แล้วมองไปที่จุ๊บแจงอย่างเย็นชาอีกครั้ง“ในเมื่อคุณขอให้เปิดเผยภาพ ได้ ผมจะทำให้คุณ”
จากสายตาวารุณีเมื่อกี๊ เขาแน่ใจแล้วว่าวารุณีไม่ได้ลอก
เรื่องที่เรียกว่าลอกผลงานนี้ และที่เรียกว่าหลักฐานที่คัดลอก กลัวว่าจะมีปัญหาอะไรน่ะสิ
เขาไม่รู้ว่าเป็นปัญหาอะไร แต่เขารู้ว่า หลักฐานที่เรียกนั้น ไม่สามารถยืนยันได้ว่าวารุณีลอกผลงาน
ดังนั้นผู้เข้าแข่งขันจุ๊บแจงคนนี้ กำลังหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ
ในเมื่อเธออยากตาย ก็ทำให้เธอสมปรารถนาเถอะ
ใครให้จู่ๆเธอยืนออกมาใส่ร้ายผู้อื่นว่าลอกผลงาน ขัดขวางการแข่งขัน และชะลอการแข่งขันล่ะ
ต้องรู้ว่า เวลาการแข่งขันถูกกำหนดไว้แล้ว หากล่าช้า จะต้องปรับเวลาแข่งขันใหม่ในภายหลัง สำหรับทีมงานอย่างพวกเขาแล้ว ไม่ใช่กระบวนการเล็กๆเลย
ดังนั้น เขาจะพอใจผู้หญิงคนนี้ได้ไง
คิดไป ผู้จัดงานก็เดินลงไป มาตรงหน้าจุ๊บแจง เอารูปภาพในมือเธอมา ไม่ดู แล้วหันกลับไปที่ตรงที่เดิม จากนั้นเอาภาพให้เจ้าหน้าที่“เอาไปที่สตู แล้วให้ผู้อำนวยการส่องไปที่หน้าจอใหญ่”
“ครับ”เจ้าหน้าที่พยักหน้า แล้วรีบไปทำตาม
บนส่วนกรรมการ ลีน่าเอื้อมหน้าไปทางวารุณี“วารุณี จุ๊บแจงแย่แล้ว”
“ฉันรู้”วารุณีพยักหน้า
ลีน่าพูดอีกว่า:“ถ้าการยืนยันสุดท้าย เธอไม่ได้คัดลอก รายงานเรื่องคัดลอกที่เธอพูด จะกลายเป็นมีแรงจูงใจแอบแฝง เป็นการใส่ร้ายบิดเบือนข้อเท็จจริง ถึงตอนนั้น ราคาที่เธอต้องรับ เธอรับไม่ไหวแน่ ฉันเคยเห็นคนที่หาเรื่องใส่ตัว แต่ไม่เคยเห็นคนที่รีบร้อนไปตายแบบนี้ เหอะๆๆ”
เธอส่ายหน้าอย่างเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
วารุณียกกาแฟมาจิบ “เอาล่ะ เธอหาเรื่องใส่ตัวก็ดี จะได้ประหยัดเวลาพวกเราที่ต้องจัดการเธอ”
“พูดถูก”ลีน่าพยักหน้า ไม่พูดจา หันหน้ากลับไป
แป๊บเดียว บนหน้าจอก็ปรากฏภาพเปรียบเทียบสิบกว่าภาพ
รูปขยายใหญ่ แต่ยังชัดมาก
เหล่าผู้เข้าแข่งขันตรงนั้น แทบจะรู้จักกรรมการที่ปรึกษาทั้งหมด ดังนั้นแค่มองก็รู้ว่าภาพออกแบบด้านขวา เป็นของวารุณี
แต่ทางซ้ายไม่ใช่
เพราะการออกแบบของวารุณี เคยขึ้นนิตยสาร หรือเดินโชว์ แค่เสิร์ชในเน็ต ก็จำได้แล้ว
ส่วนการออกแบบทางซ้าย พวกเขาไม่เคยเห็น แต่คล้ายกับที่วารุณีออกแบบอย่างมาก ความคล้ายกันนั้น สูงถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์
สำหรับดีไซเนอร์แล้ว คล้ายกันมากแบบนี้ บอกว่าเหมือนกันก็ไม่ผิด
เวลานั้น ทุกคน นอกจากผู้เข้าแข่งขันที่เชื่อวารุณี คนอื่นๆก็ใช้สายตาอันตกใจมองวารุณี
เพราะภาพนี้ออกมา ก็ยิ่งชัดเจนว่าที่วารุณีคัดลอกเป็นความจริง
“ครูที่ปรึกษาวารุณี นี่ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครูที่ปรึกษาวารุณี คุณไม่ได้ลอกใช่ไหมคะ?”
มีผู้เข้าแข่งขันที่ชอบเธอ ถามเสียงสั่น
แต่ยังไม่รอให้วารุณีพูด ก็ถูกผู้เข้าแข่งขันเหล่านั้นที่เชื่อว่าวารุณีคัดลอก โต้กลับไป
“ความจริงก็อยู่ตรงหน้าแล้ว พวกเธอยังไม่เชื่ออีกเหรอ ไม่มีอะไรจะช่วยพวกเธอได้แล้วจริงๆ”
“ใช่ ถ้าเธอไม่ได้ลอก งั้นพวกเธอบอกมาสิ ภาพเปรียบเทียบเหล่านี้คืออะไร?”
“ฉัน……ฉัน……”เหล่าผู้เข้าแข่งขันที่เชื่อว่าวารุณีไม่ได้ลอก ก็พูดไม่ออกกับคำพูดเหล่านี้
จุ๊บแจงมองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างพอใจ มองคนที่มาอยู่ฝั่งเธอมากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าวารุณีลอกงาน ก็อยากจะหัวเราะออกมา
จบแล้ว
วารุณีจบแล้วจริงๆ!
เธอมองไปที่กรรมการอย่างภูมิใจ คิดว่าเดี๋ยววารุณีต้องตื่นตระหนกแน่ และยังคงนิ่งต่อไปไม่อยู่
แต่ตอนที่เธอมองไป ความภูมิใจนั้นก็แข็งทื่อทันที
เธอยังไม่เห็นความตื่นตระหนกใดๆบนหน้าวารุณี ที่เห็นนั้น ก็ยังเป็นสภาพนิ่งๆ
ทำให้สีหน้าจุ๊บแจงเหยเกทันที
ทำไม?
ทำไมเธอไม่ตื่นตระหนก ยังมีอารมณ์กินกาแฟ?
หลักฐานคัดลอกออกมาแล้ว ทำไมเธอยังนิ่งแบบนี้ล่ะ?
จุ๊บแจงส่ายหน้า สื่อว่าไม่เข้าใจอย่างมาก
เธอคิดไม่บอกว่านี่เพราะอะไร
ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ในใจเธอไม่เป็นที่พอใจมาก
เธอมักจะรู้สึกว่า ตัวเองปล่อยหมัดออกไป เหมือนจะตีไปไม่โดนเธอตลอด
“วารุณี เหมือนจุ๊บแจงจะร้อนรนแล้ว เธอดูใบหน้าร้ายกาจยัยนั่นสิ”ลีน่าก็ยกกาแฟมาจิบ พูดขำๆ
วารุณียกมุมปากขึ้น“เพราะว่าเธอไม่เห็นฉันในสภาพอื่น เช่นกลัว ตื่นตระหนกอะไรอย่างนั้น ดังนั้นเลยรับไม่ได้ เธอคิดว่า หลักฐานที่เปิดเผยออกมา ฉันน่าจะกลัว แบบนั้น เธอก็จะรู้สึกพอใจและสะใจ แต่ฉันไม่กลัว ดังนั้นสิ่งที่เธออยากจะเห็นก็ไม่เห็น ในใจไม่อาจพอใจได้ จึงดูโกรธจัดแบบนี้