พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 766 ความกลัวของจุ๊บแจง
จากนั้นวารุณีพูดอีกว่า:“แต่นักออกแบบMinaไม่ได้อยู่มีผลงานในโลกนี้นานมากนัก จู่ๆก็หายไป มีคนเดาว่า นักออกแบบMinaหายไปอย่างช้าๆ แต่ฉันสามารถบอกทุกคนอย่างแน่ใจได้เลยว่า Mina ไม่ได้หายไป แต่กลับมาใช้ชื่อเดิม กลับมาที่ประเทศของตัวเอง เริ่มพัฒนาตั้งแต่ต้น และฉัน ก็คือ Mina!”
เธอตบหน้าอกตัวเองแล้วพูด
ทุกคนตกใจอย่างมาก
“อะไรนะ?ครูที่ปรึกษาวารุณีคือ Mina?”
“ก็เธอพูดแบบนี้”
“ไม่มั้ง ถึงเธอจะเป็น Mina แล้วทำไมไม่ใช้ชื่อ Mina นี้ทำผลงานในโลกนี้ต่อไปล่ะ ยังไงเธอก็สร้างชื่อเสียงได้แล้วไม่ใช่เหรอ?ทำไมต้องทิ้งชื่อ Mina นี้แล้วเริ่มใหม่?”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่ถ้าเป็นจริง ฉันนับถือครูที่ปรึกษาวารุณีสุดๆ ยังไงก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทิ้งทุกอย่างแล้วเริ่มต้นใหม่ได้ โดยที่กำลังสร้างชื่อเสียงได้อยู่”
“ใช่”
ได้ยินคำถกเถียงของทุกคน สีหน้าจุ๊บแจงก็ดูแย่สุดๆ
เธอเข้าใจความหมายของวารุณีแล้ว
วารุณีบอกว่า บล็อกเกอร์ MN ชื่อ Mina
และ Mina นี้ ก็คือวารุณีเอง
ดังนั้นตั้งแต่ต้นจนจบวารุณีก็ไม่ได้คัดลอก ใช้แต่ผลงานออกแบบของตัวเอง!
จะเป็นไปได้อย่างไร!
ร่างจุ๊บแจงสั่นขึ้นมา สีหน้าดูซีดขาวไปเล็กน้อย
ไม่ เธอไม่เชื่อ และก็ไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้
ไม่ง่ายเลยที่เธอจะหาจุดอ่อนที่สามารถโจมตีวารุณีได้ แล้วจะรับจุดอ่อนนี้ว่าไม่ใช่เรื่องจริงได้ไง!
ดังนั้นวารุณีกำลังหลอกเธออยู่ ใช่ จะต้องหลอกเธอแน่ และยังหลอกทุกคนด้วย!
คิดแบบนี้แล้ว จุ๊บแจงก็ชี้ไปที่วารุณีด้วยสีหน้าเหยเก“เธอโกหก เธอบอกว่า MN คือ Mina ก็ต้องเป็น Mina เหรอ?และถึง MN เป็น Mina แต่เธอมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่า เธอคือ Mina?เธอมีหลักฐานอะไรไหม?”
ลีน่ากุมหน้าผากอย่างรู้สึกเบื่อ“วารุณี เหมือนเธอจะไม่อยากยอมรับความจริงที่เธอคือ Mina นะ”
วารุณีหัวเราะเบาๆ“ฉันดูออก และฉันก็เข้าใจเธอด้วย ยังไงในใจเธอก็อยากเล่นงานฉันนี่ ตอนนี้ฉันประกาศตัวตนอีกคนของตัวเองแล้ว ก็หมายความว่าแผนของเธอล้มเหลว ดังนั้นเธอจะรับความจริงได้อย่างไร หมดหนทาง เธอได้แต่หลอกตัวเอง คิดว่าฉันโกหก”
“พูดไปหมดแล้ว เธอไม่อยากรับความจริงนี้เอง”ลีน่าเบะปาก
วารุณีพยักหน้า“ถูกต้อง”
“เอาล่ะวารุณี เธอรีบโจมตีขั้นสุดท้ายยัยนั่นเถอะ ฉันรำคาญเล่ห์เหลี่ยมยัยนั่นเต็มทนแล้ว”ลีน่าหาวแล้วพูดออกมา
วารุณีตอบอือ“ฉันก็ชักรำคาญหน่อยๆแล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็จัดการเธอเลยละกัน”
พูดจบ เธอก็ถือไมค์ขึ้นมา“เธอไม่เชื่อว่าฉันคือ Mina ก็หมดหนทาง ในเมื่อเธอต้องการหลักฐาน งั้นฉันก็จะเอาหลักฐานออกมา หวังว่าเธอจะยอมรับ”
หลังจากเธอมองจุ๊บแจงอย่างเย็นชา ก็พูดกับผู้จัดงาน:“รบกวนขอคอมให้ฉันเครื่องหนึ่งค่ะ”
“ได้”ผู้จัดงานตกลงด้วยความยินดี จากนั้นให้เจ้าหน้าที่ไปเอาคอมมา
แป๊บเดียว คอมพิวเตอร์ก็มา วางไว้ตรงหน้าวารุณี
วารุณีพูดอีกว่า:“ต่อไป ฉันจะเข้าระบบหน้าแพลตฟอร์มโซเชียลที่พวกคุณเพิ่งเห็น พิสูจน์ว่าฉันคือ MN นั่น หลังจากพิสูจน์แล้ว ฉันจะโทรหาสมาคมการออกแบบ สำนักงานใหญ่ ให้พวกเขามายืนยันว่าฉันใช่ Mina หรือไม่ พวกคุณไม่เชื่อฉัน ก็น่าจะเชื่อสมาคมสำนักงานใหญ่ใช่ไหมล่ะ?”
พอประโยคนี้พูดออกมา นอกจากจุ๊บแจงแล้ว ในใจของทุกคน ต่างเข้าข้างไปที่เธอ
ยังไงเธอก็กล้าให้สมาคมสำนักงานใหญ่มาพิสูจน์ตัวตนของตัวเอง นั่นก็หมายความว่า เธอพูดจริงหมด
ยังไงถ้าไม่ใช่เรื่องจริง เธอก็ไม่กล้าติดต่อสมาคมสำนักงานใหญ่
ส่วนจุ๊บแจงตอนนี้ในใจก็ตื่นตระหนกอย่างมาก สีหน้ายิ่งซีดขาว
เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?
เธอไม่เข้าใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำไมไม่เหมือนที่เธอคิดไว้
ที่เธอคิดไว้คือ ตัวเองรายงานว่าวารุณีลอกผลงาน จากนั้นจัดการให้วารุณีลงนรก ให้วารุณีเสียชื่อเสียง
แบบนี้ อาชีพของวารุณีก็ถูกเธอทำลาย แม้แต่ความรัก ก็อาจจะถูกเธอทำลายด้วย
ยังไงนัทธีก็ไม่มีทางรักผู้หญิงที่มีพฤติกรรมชั่วร้ายลอกผลงานของคนอื่นแน่ ผู้หญิงแบบนี้ จะทำให้เขาอับอาย ดังนั้นนัทธีจะต้องหย่ากับเธอแน่
ถึงตอนนั้น โอกาสของเธอก็มาถึงแล้ว
แต่ตอนนี้ เธอที่เคยคิดว่าแผนการตัวเองจะต้องสมบูรณ์แบบ และจะสำเร็จ
ก็คิดไม่ถึงว่า เรื่องราวจะกลับตาลปัตร
วารุณีดันเป็น MN และ Mina อะไรนั่น และยังจะเอาหลักฐานออกมา พิสูจน์ตัวตนของตัวเอง
ห่า น่าโมโหจะตายอยู่แล้ว
สุชาดานั่น!
จุ๊บแจงตัวสั่นขึ้นมา ทั้งโกรธ และกลัว
โกรธที่ตัวเองถูกสุชาดาเล่นงาน แผนการล้มเหลว ที่กลัวคือ ถ้าสุดท้ายแล้ววารุณีเป็น Mina อะไรนั่นจริง เธอก็จบเห่
จุ๊บแจงกำมือสองข้างไว้แน่น จ้องไปที่วารุณีด้วยตาแดงก่ำ ตั้งตารอคอยวารุณีว่าอย่าเข้าระบบ
แค่วารุณีไม่เข้าระบบ เธอก็มีหวัง
วารุณีรู้สึกได้ว่าจุ๊บแจงกำลังจ้องตัวเอง สายตานั้นเต็มไปด้วยความประหม่า กลัว กังวล
มุมปากของเธอยกขึ้น แอบพูดในใจ:กลัวล่ะสิ กังวลล่ะสิ เดี๋ยวก็ถึงจุดจบของเธอแล้ว!
“เรียกช่างภาพมาหน่อยค่ะ อัดกระบวนการที่ฉันเข้าระบบแพลตฟอร์มโซเชียลนี้หน่อย และขยายหน้าจอให้ใหญ่ ให้ทุกคนได้ดูว่า ตอนที่ฉันเข้าระบบ มีปัญหาหรือไม่”วารุณีโบกมือให้ผู้จัดงาน แล้วพูด
ข้อเสนอของเธอนี้ไม่ใช่แค่ผู้จัดงาน แต่ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นก็สนับสนุนมาก
ยังไงจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ก็ต้องเปิดเผยทุกอย่าง ต้องให้ทุกคนได้เห็นสิ
แป๊บเดียว ผู้จัดงานก็ให้ช่างภาพไป
ช่างภาพคนนั้นยืนอยู่หลังวารุณี ชี้กล้องไปที่คอมพิวเตอร์และมือของวารุณี
จากนั้นวารุณีก็กรอกชื่อบัญชีกับรหัสผ่าน คลิก Enter เพื่อเข้าสู่ระบบ ภายใต้สายตาของทุกคน
ไม่กี่วินาทีถัดมา บนหน้าจอก็โชว์ว่าเข้าระบบสำเร็จ
จากนั้นทุกคนก็เห็นหน้าหลักที่พวกเขาเห็นก่อนหน้านี้
ตอนนี้ ทุกคนก็ไม่พูดอะไรแล้ว
พวกเขาเชื่อแล้วว่าวารุณีคือ MN นั่นจริงๆ
วารุณีเลื่อนเมาส์ เลื่อนไปพูดไปว่า:“การออกแบบในบัญชีนี้ที่ทุกคนเห็น เป็นต้นฉบับที่ฉันวาดหมด ฉันรู้สึกไม่พอใจ และทำใจไม่ได้ที่จะทำลายพวกมัน ดังนั้นฉันเอามันไว้นี่ เพื่อเป็นที่ระลึก เพราะอย่างไรในฐานะดีไซเนอร์ ไม่ว่าการออกแบบของตัวเองจะพอใจหรือไม่ แต่ตอนที่คุณวาดออกมานั้น มันก็เหมือนลูกของคุณ ถึงแม้ลูกของคุณไม่อาจทำผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อคุณได้ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังอยู่”
“ถูกต้อง”มีคนพยักหน้า“ฉันก็คิดอย่างครูที่ปรึกษาวารุณี งานออกแบบที่ฉันวาด ถึงไม่ใช่ ฉันก็จะเก็บไว้ ต่อไปอยากจะเอามาดูก็ดูได้ ยังไงนั่นก็เป็นหลักฐานความก้าวหน้าของฉัน”
“ใช่ ฉันก็เหมือนกัน”
วารุณีได้ยินคำพูดของทุกคน ก็ยิ้มอย่างรู้ทัน จากนั้นพูดอีกว่า:“ฉันไม่รู้ว่าฉันเอาผลงานตัวเองเก็บไว้ที่นั่น ทำไมถึงถูกคนเอามาให้ร้ายว่าฉันลอกงานได้อย่างไร แต่พอพูดแล้วก็ตลกดี ตัวเองลอกผลงานของตัวเอง กลับถูกคนไปรายงานไป ฉันเห็นเป็นครั้งแรก”
คำนี้พูดออกมา หลายๆคนก็หัวเราะ
“พูดตรงๆแล้ว ฉันก็เห็นเป็นครั้งแรก เมื่อกี๊ที่เข้าใจผิดว่าครูที่ปรึกษาวารุณีลอกผลงาน ฉันโมโหมากเลย ตอนนี้พอรู้ว่าเป็นความเข้าใจผิดแบบนี้ ฉันว่ามันตลกมาก”
“ใช่ คนบางคน น่าจะแค้นใจกับครูที่ปรึกษาวารุณี ยังไม่รู้เรื่องราวชัดเจนก็ให้ร้ายครูที่ปรึกษาวารุณีว่าลอกผลงาน สุดท้ายหลักฐานที่เอาออกมาตลกชะมัด”
“พูดถูก ตอนนี้ยืนยันแล้วว่าครูที่ปรึกษาวารุณีบริสุทธิ์ เธอเอาผลงานของตัวเองมา แล้วผลงานตัวเองจะเป็นการเลียนแบบได้ไง แต่คำให้ร้ายของบางคนก็จริงๆเลย ได้ยินว่าหมิ่นประมาทโดยเจตนา ก็จะถูกตัดสินจำคุกช่วงหนึ่งใช่ไหม?