พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 767 จุ๊บแจงที่ตกใจกลัว
ทุกคนมองไปที่จุ๊บแจงอย่างเย้ยหยัน
จุ๊บแจงมองสายตาของพวกเขา พอได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจเย้ยหยันของพวกเขา ในใจก็โศกเศร้าและตื่นตระหนกมาก
เศร้าที่คนพวกนี้เพิ่งจะสนับสนุนเธอ ยังยืนอยู่ฝั่งเธอ แต่ตอนนี้ พอเห็นวารุณีเข้าระบบหน้านั้น ก็เทฝั่งทันที
ไม่ใช่แค่นี้ ยังเยาะเย้ยเธออีก!
และที่น่าตื่นตระหนกคือ ที่คนพวกนี้เพิ่งพูดไปว่า
ตอนนี้วารุณีพิสูจน์แล้วว่าตัวเองไม่ได้ลอกเลียนแบบ งั้นรายงานของเธอก็ไม่สำเร็จ ขณะเดียวกัน ที่เธอรายงานเรื่องวารุณี ก็กลายเป็นหมิ่นประมาท และจะถูกตัดสินลงโทษ
ซึ่งเธอ ต้องเข้าคุก!
ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว จุ๊บแจงตัวสั่นอย่างแรง สีหน้าก็ซีดขาวเหมือนกระดาษ
ลีน่าเห็นแบบนี้ก็เบะปากอย่างดูถูก:“วารุณี ยัยนั่นกลัวแล้ว”
วารุณีตอบอือ“เห็นแล้ว”
“จริงๆเลย คิดว่าความต่อสู้ของเธอจะแข็งแกร่งแค่ไหน ที่แท้ก็แบบนี้ ตกใจกลัวซะหนัก”ลีน่ายักไหล่อย่างหมดคำพูด
วารุณีหัวเราะ จากนั้นหยิบโทรศัพท์มา“ในเมื่อตอนนี้ทุกคนเห็นแพลตฟอร์มโซเชียลนี้ของฉันแล้ว เชื่อว่าฉันไม่ได้ลอก งั้นต่อไป ฉันก็จะโทรติดต่ออาจารย์ฉัน และอาจารย์ดีไซเนอร์เบอร์ต้นๆแต่ละคนด้วย เพื่อให้พวกเขายืนยันว่าฉันใช่ Mina หรือไม่”
พูดจบ เธอก็โทรหาอาจารย์ตัวเองก่อน โทรหาอาจารย์เมอร์เซเดอ
ในฐานะลูกศิษย์ของเมอร์เซเดอ ตัวตนอีกคนของวารุณี ก็ไม่มีใครเข้าใจดีกว่าเขาแล้ว
และชื่อ Mina นี้ ก็ยังเป็นชื่อที่อาจารย์เมอร์เซเดอตั้งให้เองด้วย
ได้ยินอาจารย์เมอร์เซเดอยืนยันตัวตน Mina นี้ให้วารุณี ทุกคนก็ไม่สงสัยเลยสักนิด กับวารุณีที่เป็น Mina ทุกคนต่างเชื่อ
แต่วารุณียังคงทำตามที่ตัวเองพูดเมื่อกี๊ โทรหาอาจารย์คนอื่นต่อไป
ยังไงแค่โทรหาอาจารย์เมอร์เซเดอคนเดียว ก็ไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่
อาจารย์เมอร์เซเดอเป็นอาจารย์ของเธอ ก็ต้องมีคนคิดว่าอาจารย์เมอร์เซเดอเข้าข้างลูกศิษย์ ยืนยันปลอมๆให้ลูกศิษย์ตัวเอง
ดังนั้นวารุณีจึงโทรหาอาจารย์คนอื่นๆ
อาจารย์พวกนั้นก็รู้ตัวตนอีกตัวของวารุณี พอได้ยินว่าวารุณีต้องการให้พวกเขายืนยัน ก็ตกลงทันที
อาจารย์จำนวนมากยืนยันวารุณีแบบนี้ รับรองว่าวารุณีคือ Mina คนตรงนั้นเลยไม่มีอะไรจะพูด
ผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ชอบวารุณี ตั้งแต่ต้น ก็เอาแต่เบะปาก ไม่พูดอะไร
และผู้เข้าแข่งขันเหล่านั้นที่เคารพวารุณี ชอบวารุณี รู้ว่าวารุณีไม่ได้ลอก และหลังจากรู้ว่าวารุณีเป็น Mina กลับตื่นเต้นดีใจกันอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้าแข่งขันคนนั้นที่เคยดีกับจุ๊บแจงก่อนหน้านี้ มองวารุณีก็ยิ่งตื่นเต้นจนจะร้องไห้ ความดีใจในแววตาอัดอั้นไว้ไม่อยู่“ดีจัง ฉันรู้ว่าครูที่ปรึกษาวารุณีจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง!”
เหมือนจะได้ยินที่เธอพูด วารุณีมองไปที่เธอ กะพริบตาแล้วยิ้มให้เธอ
ผู้เข้าแข่งขันเห็น ก็ดีใจจนเกือบจะเป็นลม
วารุณีถือไมค์ สายตามองไปที่ใบหน้าซีดขาว จ้องที่ตัวจุ๊บแจง“ผู้เข้าแข่งขันจุ๊บแจง ตอนนี้ผลได้พิสูจน์แล้ว ฉันไม่ได้ลอก ผลงานที่เธอเอาออกมา ว่าฉันคัดลอกนั้น เป็นของฉันเอง ตอนนี้เธอมีอะไรจะพูดไหม?”
“ฉัน……ฉัน……”จุ๊บแจงถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว อ้าปาก พูดอย่างตะกุกตะกัก
เธอมีอะไรให้พูดอีกล่ะ?
ไม่ เธอไม่มีอะไรให้พูดได้อีกแล้ว
เดิมทีเธอคิดว่า แผนการตัวเองจะสำเร็จ วารุณีลอกเลียนแบบจริงๆ
แต่สุดท้ายกลับตาลปัตรแบบนี้ วารุณีไม่ได้ลอก หลักฐานที่เธอเอาออกมา กลับพิสูจน์ว่าวารุณีไม่ได้คัดลอก
เธอไม่อาจเล่นงานวารุณีต่อไปได้ ส่วนเธอเอง กลับต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่จะถูกเล่นงานต่อไป
ต้องโทษสุชาดา โทษผู้หญิงคนนั้น!
ผู้หญิงคนนั้นบอกวารุณีลอกผลงาน สุดท้ายไม่ใช่
เธอถูกผู้หญิงที่ชื่อสุชาดาคนนั้นทำร้ายจนน่าเวทนาเสียแล้ว!
จุ๊บแจงบีบมือสองข้างไว้แน่น ร่างสั่นอย่างแรง
วารุณีเห็นเธอไม่พูด ก็หัวเราะอย่างเย็นชา พูดไปอีกว่า:“ผู้เข้าแข่งขันจุ๊บแจง เธอคิดว่าเธอไม่พูด ก็สามารถหลีกเลี่ยงทุกอย่างได้เหรอ?ขอโทษนะ เป็นไปไม่ได้ ตามกฎหมายอาญาประเทศเรา ความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้นเบามากจริงๆ อย่างมากก็คุมขังระยะหนึ่งหรือปรับ แค่สถานการณ์นั้นรุนแรง และให้ร้ายจนทำให้เสียหายไปทุกสิ่ง ถึงจะถูกตัดสินสามปีได้”
ได้ยินคำนี้ ดวงตาจุ๊บแจงก็เป็นประกาย
เธอยอมรับ ที่ตัวเองรายงานว่าวารุณีลอกผลงานนั้นไม่ใช่เรื่องจริง ถือเป็นการหมิ่นประมาท
แต่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรวารุณีสักหน่อย วารุณีก็ไม่ได้เสียเปรียบ ดังนั้นก็ถือว่าเธอไม่ได้ทำอะไรรุนแรงนี่?
ในเมื่อสถานการณ์ไม่รุนแรง ก็น่าจะคุมขังหรือปรับเท่านั้น
ผลแบบนี้ เธอยังพอจะรับได้ ยังไงแป๊บเดียวก็ออกมาแล้ว
แต่คำพูดต่อไปของวารุณี กลับทำให้จุ๊บแจงเหมือนตกลงไปในโรงน้ำแข็ง
“แต่ขอโทษนะผู้เข้าแข่งขันจุ๊บแจง เธอดูหมิ่นฉัน และไม่ได้เป็นการดูหมิ่นเล็กๆน้อยๆ เรื่องราวเลวร้ายมาก และส่งผลกระทบร้ายแรงต่อฉันมาก ถ้าไม่ใช่ว่าสุดท้ายฉันยืนยันตัวเองว่าฉันไม่ได้ลอกเลียน งั้นจุดจบของฉัน ก็คงโดนแบนจากวงการออกแบบ ถูกโลกทั้งใบทิ้งไป ดังนั้นฉันจะยื่นเรื่องกับเบื้องบน ลงโทษเธอให้หนัก สามปี!”วารุณีมองเธอ พูดอย่างเย็นชา
สามปี?
รูม่านตาของจุ๊บแจงหดลง เงยหน้าจ้องวารุณีเขม็ง“เธอมีสิทธิ์อะไรให้ฉันถูกตัดสินสามปี?ฉันไม่ได้ทำร้ายเธอจริงๆซะหน่อย วารุณี เธอจงใจเล่นงานฉัน จงใจแก้แค้นเป็นการส่วนตัว!”
เธอชี้วารุณี ตะโกนด้วยใบหน้าที่เหยเก
วารุณียกกาแฟมาจิบ พูดประชดประชันไปนิ่งๆ:“แก้แค้นส่วนตัว?ขอโทษนะ ฉันไม่ใช่เธอ ที่นิสัยต่ำตมขนาดนั้น ฉันแค่แสวงหาความจริงจากข้อเท็จจริง ถูกต้อง เธอไม่ได้ตั้งใจทำร้ายฉันจริงๆ ตัดสินไม่ถึงสามปีหรอก อย่างมากก็หนึ่งปี แต่ว่าถ้าบวกข้อหาที่เธอขโมยผลงานคนอื่นล่ะ?”
คำนี้ ทำให้จุ๊บแจงตัวแข็งทื่อทันที เหมือนเสียสติไป ยืนตรงนั้นไม่ขยับ
แต่คนในงานต่างตะลึงงัน
ขโมยผลงานของคนอื่น?
“ไม่มั้ง ครูที่ปรึกษาวารุณีบอกว่า จุ๊บแจงขโมยผลงานของคนอื่น?”
“ฉันก็ได้ยิน เมื่อกี๊จุ๊บแจงยังรายงานอยู่เลยว่าครูที่ปรึกษาวารุณีลอกเลียนผลงาน ตอนนี้ครูที่ปรึกษาวารุณียังรายงานว่าจุ๊บแจงลอกเลียนแบบคนอื่นอีก เอ่อ……ฟังดูแล้ว ทำไมดูเหมือนละครอย่างนี้?”
“ฉันก็ว่างั้น แต่ฉันเชื่อคำพูดของครูที่ปรึกษาวารุณีว่า จุ๊บแจงลอกเลียนแบบคนอื่น ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าจุ๊บแจงแปลกมาก ทั้งๆที่เป็นดีไซเนอร์ มาแข่งได้ แต่กลับไม่รู้จักสิ่งของในด้านนี้เยอะเลย ฉันแปลกใจว่าเธอมาแข่งได้ไง ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว เธออาจจะขโมยงานคนอื่นมาแข่ง ที่จริงเธอเองออกแบบไม่ได้”
“เธอพูดแบบนี้ฉันก็คิดว่าใช่ ปกติแล้วเมื่อวานพวกเราจะส่งแบบร่าง มีแต่เธอที่ไม่ส่ง ตอนออกไป ฉันยังมองการออกแบบที่เธอวาดเป็นพิเศษด้วย การออกแบบนั้นดีจริง แต่เรื่องที่แปลกคือ ลายเส้นของการออกแบบกลับดูแบบคนไม่ชำนาญวาดออกมา ไม่เหมือนคนที่วาดออกแบบมาได้ดีเลยสักนิด ตอนนั้นฉันยังคิดว่าทำไมมันดูไม่สมเหตุสมผลขนาดนี้ ที่แท้เธอก็ออกแบบไม่เป็น แต่ไปขโมยของคนอื่นมา ดังนั้นถึงได้ออกแบบดี แต่ลายเส้นยังไม่เทพ”
ได้ยินคำพูดของทุกคน ขาเล็กๆของจุ๊บแจงก็สั่น
เธอขยับเท้า ถอยไปข้างหลัง เหมือนจะหนีไปจากที่นี่
ผู้จัดงานที่อ่านความคิดของเธอออกก็หรี่ตา กำชับทันที:“สกัดไปที่ประตู ห้ามให้เธอหนีไป!”
จุ๊บแจงขโมยงานออกแบบคนอื่น เข้ามาร่วมการแข่งขัน เป็นการตบหน้าผู้จัดงานแรงๆอย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้าพูดออกไป อำนาจและหน้าตาของพวกเขาผู้จัดงาน ก็กู้กลับมาไม่ได้