พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 769 จับไปโรงพัก
คำนี้เตือนบอดี้การ์ด
ใช่ มีคนโจมตีคุณหญิงพวกเขา พวกเขาจะปล่อยอีกฝ่ายได้ไง
แต่เพราะว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้พวกเขาลืมโต้กลับไปในทันที
ตอนนี้ได้สติคืนมาแล้ว จึงปล่อยผู้หญิงคนนี้ไม่ได้
บิ๊กกับบอดี้การ์ดอีกคนเดินไปที่จุ๊บแจงด้วยใบหน้าหม่นหมอง
จุ๊บแจงเห็นพวกเขามา ในใจก็กลัวอย่างมาก ถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว
แต่ด้านหลังก็ถูกเจ้าหน้าที่ของผู้จัดงานปิดทางไว้ เธอจะหนีก็หนีไม่ได้
สุดท้าย จุ๊บแจงก็ถูกพวกบิ๊กจับไป
บิ๊กเตะไปที่เข่าเธอ จนเธอคุกเข่าลงบนพื้นอย่างเสียงดังไปเช่นนี้
ไม่รู้ว่าบิ๊กจงใจหรือไม่ ตรงข้ามจุ๊บแจงเป็นวารุณีพอดี ดังนั้นมองไป ก็เหมือนจุ๊บแจงกำลังคุกเข่าให้วารุณี
วารุณียืนขึ้นมา หยิบน้ำขวดน้ำมา“จุ๊บแจง เธอเยี่ยมมาก กล้าโยนใส่ฉัน”
จุ๊บแจงเงยหน้าขึ้น กัดฟันมองเธอ“เธอบีบฉันจนถึงทางตัน ฉันจะสู้กลับไม่ได้เหรอ?ฉันแค่เกลียดที่ทำไมเธอโชคดีขนาดนี้ มีคนคอยปกป้องทุกที่ทุกเวลา ไม่อย่างนั้นขวดน้ำนี้โดนเธอแน่!”
วารุณีคว่ำขวด“พูดถูก ฉันก็คิดไม่ถึงจริงๆ เธอลงมือกับฉันด้วยความโกรธ แต่ฉันแค่โชคดี ฉันไม่เพียงแค่โชคดี ชีวิตฉันก็ดี ฉันเลยมีคนปกป้อง ส่วนเธอ ไม่ใช่แค่โชคไม่ดี ชีวิตก็ยังแย่ด้วย เธอเลยไม่ได้สิ่งที่เธอควรจะได้ ชีวิตนี้ ถูกลิขิตให้เงยมองมาที่ฉันจากข้างล่าง มองดูฉันที่ใช้ชีวิตอย่างที่เธอต้องการที่สุด แต่กลับไม่ได้มา!”
“เธอ!”ได้ยินคำนี้ สีหน้าจุ๊บแจงเหยเกขั้นสุดทันที ตาสองข้างแดงเหมือนชุ่มยาพิษ
“วารุณี วารุณี!”จุ๊บแจงตะโกนไปที่วารุณี เสียงเหมือนสัตว์ป่า ที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและร้ายกาจ
คนตรงนั้นได้ยินก็รู้สึกกลัวมาก
จนบางคนถึงกับกอดกันไว้
ยังไงก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยเห็นคนที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่เกลียดชังเช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็น
คนแบบนี้ ถ้าไม่ถูกจับ ก็อาจทำอะไรออกมาอีก
“วารุณี เธอจงใจยั่วโมโหยัยนั่นเหรอ?”ลีน่ามองวารุณีที่ไม่เปลี่ยนสีหน้า มุมปากก็กระตุกแล้วถาม
วารุณีเงยคางขึ้น ไม่ปฏิเสธ“ใช่ เธอกล้าลงมือกับฉัน ฉันก็จะไม่ให้เธอมีชีวิตที่ดี หลายๆครั้ง วิธีที่ทำให้คนรู้สึกแย่ ก็ไม่ใช่การลงมือกับเธอ ไม่ใช่การทำให้เธอ แต่เป็นการใช้คำพูดมาฆ่าเธอ เธออยากได้ตำแหน่งคุณหญิงของนัทธีมาเสมอ อยากอยู่กับนัทธีมาตลอด ดังนั้นฉันก็จงใจพูดแบบนี้ ทำลายเธอจากข้างในใจ เธอดูสิ ตอนนี้เธอรู้สึกแย่แค่ไหน!”
เธอชี้จุ๊บแจงที่ดิ้นรนอย่างแรง อยากหลุดจากการควบคุมของบอดี้การ์ดสองคนนี้ แล้วกล่าวอย่างแผ่วเบา
ลีน่ากลืนน้ำลาย“มองออกเลย จุ๊บแจงเกลียดจนอยากฆ่าเธอ และยิ่งมีเจตนาฆ่าเพื่อเธอมากเท่าไหร่ ก็หมายความว่า ในใจเธอยิ่งแตกสลายมากเท่านั้น วารุณี เธอทำแบบนี้ช่างเจ๋งมาก เป็นศัตรูกับเธอ ช่างเป็นการตัดสินใจที่ผิดเสียจริง”
“ที่จริงเมื่อก่อนฉันไม่ใช่แบบนี้ เมื่อก่อนฉันมีความคิดใจกว้างและเอื้ออาทรเสมอ แต่สุดท้ายฉันพบว่า ยิ่งฉันใจกว้าง บางคนก็ยิ่งเป็นอริกับเธอมากเท่านั้น และแบบนี้ ฉันจึงต้องตอบแทนไปอย่างหนัก ดังนั้นตั้งแต่นั้น ฉันก็เข้าใจว่า สำหรับศัตรูแล้ว จะใจกว้างไม่ได้เด็ดขาด ต้องจัดการแต่แรก ไม่งั้นคนที่เสียใจจะเป็นตัวเอง”วารุณีละสายตาลงไป น้ำเสียงมีความโล่งอก
เพราะตอนนั้นเธอไม่ได้จัดการขยานี ดังนั้นจึงทำให้ขยานีมีโอกาสทำร้ายแม่
เรียกได้ว่า การตายของแม่ เธอก็มีส่วนรับผิดชอบ
ดังนั้นตั้งแต่ตอนนั้น เธอก็เข้าใจว่า จิตใจดีน่ะได้ แต่ทำกับศัตรูไม่ได้ ไม่งั้นถึงแม้สุดท้ายจะพ่ายแพ้ แต่ตัวเองก็จะสูญเสียสิ่งต่างๆมากมาย
ดังนั้นสำหรับจุ๊บแจง ตอนนี้เธอไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด
คิดไป วารุณีก็หรี่ตา จากนั้นจู่ๆก็เขวี้ยงขวดน้ำไปทางจุ๊บแจง
ฉากนี้ ทำให้ทุกคนต่างตกใจ
ลีน่าก็ตกใจ อ้าปากพูดว่า“วารุณีเธอ……”
เธอยังพูดไม่จบ ขวดน้ำก็เขวี้ยงเข้ามา เขวี้ยงใส่หน้าผากของจุ๊บแจง
จุ๊บแจงร้องอย่างเจ็บปวด รู้สึกมึนหัว หน้าผากส่วนนั้น ก็บวมแดงทันที
แต่ขวดน้ำไม่ใช่อาวุธ ถึงแม้เขวี้ยงโดน ก็ไม่ทำให้หัวของจุ๊บแจงเลือดออก
ดังนั้นมองจุ๊บแจงไป ก็ไม่น่าอนาถอะไรนัก
“วารุณี เธอกล้าเขวี้ยงใส่ฉัน!”จุ๊บแจงแผดเสียงออกไป
วารุณีนั่งลงไปพร้อมหัวเราะ“ทำไมจะไม่กล้า?เธอยังกล้าลงมือกับฉัน ฉันจะไม่กล้าลงมือกับเธอได้ไง?มีเหตุผลแบบนี้ด้วยเหรอ?ทุกคนบอกมาสิ ถ้ามีคนทำแบบนี้กับพวกคุณ คุณจะสู้กลับไหม?”
“แน่นอน!”มีคนพูดก่อน ซึ่งก็คือแฟนคลับสาวน้อยคนนั้นของวารุณี
เธอมองจุ๊บแจงอย่างโกรธจัด“ถ้าฉันเป็นครูที่ปรึกษาวารุณี มีคนกล้าทำฉัน ฉันต้องถลอกผิวของเธอแน่ ไม่ทำอย่างครูที่ปรึกษาวารุณีหรอก ตาต่อตาฟันต่อฟันง่ายๆแบบนี้”
“ใช่ ฉันหวงแหนใบหน้าของฉัน ถ้ามีคนกล้าลงมือใส่หน้าฉัน ฉันฉีกหน้ามันแน่นอน”
“ถูกต้อง”
ทุกคนค่อยๆเห็นด้วย ไม่มีใครต่อต้านวารุณี
ยังไงเรื่องนี้ ทุกคนต่างรู้ว่าเป็นความผิดของจุ๊บแจง
ตอนแรก จุ๊บแจงขโมยผลงานของครูที่ปรึกษาวารุณีมาร่วมแข่ง ก็น่าละอายมากพอแล้ว
และที่แย่ที่สุดคือ จุ๊บแจงยังกลับมาใส่ร้ายว่าครูที่ปรึกษาวารุณีลอกงาน หลังจากถูกครูที่ปรึกษาวารุณีเปิดโปง ก็โกรธจนลงมือ
ดังนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ ที่ผิดคือจุ๊บแจง ไม่ใช่ครูที่ปรึกษาวารุณี
ครูที่ปรึกษาวารุณีเขวี้ยงขวดน้ำไปที่จุ๊บแจง ก็เป็นการสู้กลับ
แน่นอนว่าพวกเขาสนับสนุนครูที่ปรึกษาวารุณี
ได้ยินทุกคนปกป้องตัวเอง วารุณีหัวเราะอย่างรู้ทัน จากนั้นเอาสายตามองไปที่จุ๊บแจง ด้วยสายตาเย็นชา“ได้ยินไหม?ฉันไม่ผิด”
“พวกแก……พวกแก……”จุ๊บแจงกัดฟัน แทบอย่างจะกัดกินทุกคน
ทุกคนไม่กลัวเธอ กลับยังจ้องกลับแรงๆ
วารุณีลูบขมับ“เอาล่ะ พาเธอลงไป ไปที่โรงพัก และบอกตำรวจให้ดี ขโมยงานของคนอื่นเพื่อหากำไร ใส่ร้ายคนอื่นว่าลอกผลงาน ลงมือทำร้ายผู้อื่น ความปิดพวกนี้รวมกันแล้ว น่าจะห้าปีได้ใช่ไหม?”
ห้าปี!
ได้ยินตัวเลขนี้ สีหน้าจุ๊บแจงเปลี่ยนไปอย่างมาก“ไม่ได้ วารุณีเธอทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ เธอทำไม่ได้ ฉันเป็นผู้มีพระคุณต่อนัทธี เธอทำแบบนี้กับฉัน ถ้านัทธีรู้ ต้องไม่มีวันให้อภัยเธอแน่!”
“เธอยังมีหน้ามาพูดถึงสามีฉันอีก?”สีหน้าวารุณีหม่นลง“เธอเอาแต่พูดว่า เธอช่วยสามีฉัน แต่ที่จริงแล้ว ถ้าไม่ใช่เธอที่จู่ๆเอาสามีฉันไป สามีฉันก็ถูกพวกผู้ช่วยมารุตหาเจอ และช่วยส่งไปโรงพยาบาลใหญ่เพื่อรักษานานแล้ว และไม่ใช่ว่าหมดสติอยู่กับเธอหลายวัน ฉันไม่ได้เอาความเธอที่ทำให้สามีฉันได้รับการรักษาล่าช้า แต่เธอยังมีหน้ามาบอกฉันว่าเธอช่วยชีวิตสามีฉันไว้อีก จุ๊บแจง เธอกลับเตือนฉันด้วยซ้ำ ก่อนหน้านี้เธอซ่อนสามีฉันไว้ ก็ผิดกฎหมาย ฉันไม่ติดใจเอาความมาตลอด แต่ครั้งนี้ ฉันจะเอาให้ถึงที่สุด!บิ๊ก พาเธอไป!”
“ครับ!”บิ๊กตอบไป และจับจุ๊บแจงออกไป กับบอดี้การ์ดอีกคน
จุ๊บแจงไม่ยอมไป ไม่หยุดดิ้นรนต่อว่า
แต่เธอเป็นผู้หญิง ดิ้นรนอย่างไร ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหลุดพ้นจากพันธนาการของพวกบิ๊ก
สุดท้าย จุ๊บแจงก็ถูกพาออกไป
ในที่สุดตอนนี้ก็กลับมาเงียบอีกครั้ง
แต่เรื่องแบบนี้ ทำให้เหล่าผู้เข้าแข่งขันต่างหมดหนทาง ไม่มีอารมณ์แข่งแล้ว
ดังนั้นผู้จัดงานจึงปรึกษากัน ตัดสินใจหยุดการแข่งขันวันนี้ เลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้แทน จากนั้นวันหยุดของเหล่าผู้เข้าแข่งขันหนึ่งวัน เพื่อมาแทนวันแข่งขัน
แบบนี้ พวกเขาที่เป็นผู้จัดงาน ก็ไม่ต้องปรับตารางเวลาแข่งอีก