พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 853 ฉบับเดียวไร้ที่ติ
“จริงหรือ?” ลีน่าดึงมือเธอด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง “วารุณี ช่วยบอกวิธีอุ้มลูกให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันไม่เคยอุ้มเด็กเล็กมาก่อน ฉันเลยอยากรู้จริงๆ นะเธอบอกฉันทีสิ ไม่แน่ว่าต่อไปฉันจะได้ใช้กับสุขใจได้ยังไงละ”
“ได้สิจ๊ะ” วารุณีพยักหน้าและไม่ได้อุบไว้ แล้วจึงเล่าเรื่องที่สุขใจเล่นในห้องรับรองเมื่อครู่นี้
เมื่อได้ยินวารุณีบรรยายเกี่ยวกับสุขใจ ลีน่าก็เอามือกุมหัวใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉา “ไม่ได้การแล้ว ฟังเธอพูดแบบนี้แล้ว สุขใจน่ารักมากเลย ไม่ร้องไห้ไม่โหวกเหวกแถมยังชอบหัวเราะ นี่มันลูกในอุดมคติของฉันไม่ใช่หรือไง ฉันไม่อยากแข่งแล้ว ฉันอยากเจอสุขใจเดี๋ยวนี้เลย”
วารุณีเห็นเธอตื่นเต้นขนาดนี้จึงสั่นศีรษะและเผลอหัวเราะออกมา “ถ้าไม่ใช่เพราะเอาโทรศัพท์มือถือเข้ามาไม่ได้ ฉันก็จะให้เธอดูรูปปัจจุบันของสุขใจนะเนี่ย ฉันถ่ายไว้เยอะเลย”
“ไม่ต้องพูดแล้ว” ลีน่าใช้มือคว้าเสื้อตรงอก ส่วนมืออีกข้างก็ขวางตรงหน้าวารุณีไว้ด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันกลัวว่าถ้าเธอพูดต่อไป ฉันจะทนไม่ไหวจนต้องวิ่งไปหาประธานนัทธี เพื่อที่จะได้เจอสุขใจ”
วารุณีอดหัวเราะไม่ได้ “เธอเว่อร์หรือเปล่าเนี่ย?”
“เธอไม่เข้าใจ” ลีน่าถอนหายใจ “ฉันชอบเด็กแบบนี้นี่นา ถึงจะไม่เคยเห็นมาก่อนก็เถอะ แต่ตอนนี้ฉันมีโอกาสได้เห็นแล้ว แถมยังเป็นลูกบุญธรรมของฉันอีก ฉันจะทนได้อย่างไรเล่า”
วารุณีจนปัญญา “ก็ได้จ้ะ ฉันไม่พูดแล้ว”
“ใช่ ไม่ต้องพูดแล้ว” ลีน่าสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อจัดการกับความตื่นเต้น “ฉันกลัวว่าถ้าเธอพูดต่อไป ฉันคงจะวาดภาพสุขใจที่น่ารักไว้ในหัว แล้วก็จะไม่จดจ่อกับการแข่งแล้วน่ะสิ”
ได้ยินดังนั้น วารุณีจึงรีบเลิกพูดถึงสุขใจทันที เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเธอเข้าจริงๆ เดี๋ยวจะเกิดข้อผิดพลาดในการแข่งขัน และหากไม่มีกำลังใจก็จะยุ่งเอา
อย่างไรก็ตาม วารุณีก็ยังคงมีความสุขมาก ถึงอย่างไรก็มีคนชอบลูกของเธอมากขนาดนี้ เธอในฐานะแม่ก็ต้องภูมิใจและมีความสุขเป็นธรรมดา
ในไม่ช้าการแข่งขันก็เริ่มขึ้น
อาจเป็นไปได้ว่า ลีน่าอยากรีบกลับไปหาสุขใจ ดังนั้นในช่วงบ่าย ลีน่าจึงตั้งใจราวกับลิงโลด
ตั้งใจถึงขนาดวารุณีรู้สึกราวกับว่าเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ทว่าเมื่อเห็นเธอตั้งใจมาก วารุณีก็มีชีวิตชีวาขึ้นอย่างมากเช่นกัน และเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถตามเธอได้ทัน และจะกลายเป็นภาระ
การแข่งขันรอบนี้ไม่ได้ตัดสินสามอันดับแรกในวันเดียว
เป็นไปไม่ได้ที่ดีไซเนอร์จะวาดฉบับร่างสุดท้ายที่น่าพอใจไร้ที่ติได้ในหนึ่งวัน
ดังนั้น โดยทั่วไป วาดออกมาพอประมาณในวันเดียว หรือเมื่อวาดต่อไม่ได้เพราะไม่มีแรงบันดาลใจในวันนั้น ก็สามารถส่งต้นฉบับและรอจนถึงพรุ่งนี้ แล้วจึงค่อยรับมาพูดคุยกันอีกที
การแข่งขันรอบแรกกินเวลาสามวัน หลังจากผ่านไปสามวัน ฉบับสมบูรณ์ถึงจะเสร็จ และตัดสินสามอันดับแรก
ดังนั้นวันนี้ พอดีไซเนอร์ทุกคนวาดต้นฉบับได้พอประมาณแล้ว พวกเขาสามารถส่งและออกไปได้
แน่นอนว่าหากมีดีไซเนอร์ที่คิดว่าแบบที่ตนเองวาดในวันนี้ถือเป็นฉบับร่างสุดท้ายแล้ว ในตอนที่ส่งต้นฉบับก็สามารถบอกผู้จัดงานได้ หลังจากนั้นสามวันค่อยกลับมารอผลการแข่งขัน
และในขณะนี้วารุณีก็ได้วาดต้นฉบับเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เธอมองงานออกแบบที่สวยงามในมือ งานออกแบบสวยงามตระการตาที่ทำให้ผู้คนหยุดหายใจ พลางมองไปยังด้านข้าง ลีน่าเองก็ออกแบบเครื่องประดับที่สวยสดงดงามเช่นเดียวกัน จึงถามด้วยรอยยิ้ม “เป็นอย่างไรบ้าง?”
ลีน่าไม่ได้ตอบกลับ แต่เหลือบมองงานออกแบบในมือของเธอ พอได้เห็นเสื้อผ้าที่เธอออกแบบจึงส่งเสียงผิวปาก “วารุณี พวกเราช่างสมควรที่จะเป็นคู่หูที่สุดยอดที่สุดจริง ๆ เลย เราไม่ได้ปรึกษากันเลยแท้ๆ ว่าจะออกแบบอย่างไร ยิ่งกว่านั้น ยังรู้ใจกันอีกว่าให้วาดตามความคิดของตัวเองก่อน พอวาดเสร็จแล้ว ก็ค่อยมาดูว่าเสื้อผ้าและเครื่องประดับเข้ากันหรือไม่ หากไม่เข้ากัน ก็ปรับเปลี่ยนแก้ไขจนมันเข้ากัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่ต้องแก้ไขอะไรมากแล้ว การออกแบบของพวกเราเข้ากันได้ดีสุดๆ”
เธอไม่เคยพบเจอแฟชั่นดีไซเนอร์ที่เข้าขากับเธอมากเท่านี้มาก่อนเลย
วารุณีเองก็ถอนหายใจ “ใช่จ้ะ ฉันก็ไม่คิดว่าการออกแบบของเราจะเข้ากันขนาดนี้ ไม่ใช่แค่การออกแบบ แต่ยังมีไอเดียในการส่งต้นฉบับด้วย ฉบับนี้ของเธอคือฉบับร่างสุดท้ายใช่ไหม จะไม่แก้แล้วใช่ไหม?”
ลีน่าพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้อง ฉันคิดว่าการออกแบบของฉันสมบูรณ์แบบแล้วนะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะแก้อย่างไร มันสมบูรณ์แบบอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องแก้เลย ถ้าต้องแก้อีกแล้วมันกลับพัง เพราะงั้นฉันตัดสินใจเอาฉบับร่างนี้เป็นฉบับร่างสุดท้ายละกัน เธอก็เหมือนกันใช่ไหมวารุณี”
วารุณีตอบรับ “ใช่จ้ะ ฉันก็คิดเหมือนเธอ กำลังใจในวันนี้มันดีมาก ดีถึงขนาดฉันกัดฟันสู้จนออกแบบเสร็จ แถมยังเป็นฉบับร่างสุดท้ายด้วย”
“ฉันก็เหมือนกัน” ลีน่าทำท่าชูสองนิ้ว แล้วบุ้ยปากไปทางดีไซเนอร์คนอื่นๆ “ดูดีไซเนอร์พวกนั้นสิ ทุกคนล้วนหน้าบูด คิดว่าคงวาดไม่ราบรื่นเท่าไหร่”
วารุณีเหลือบมอง “ก็นิดหน่อย”
“ฉันเกรงว่าดีไซเนอร์บางคนจะยังร่างฉบับแรกไม่เสร็จด้วยซ้ำ” ลีน่ากล่าว
วารุณีพยักหน้า “คิดว่าวันนี้ร่างฉบับแรกเสร็จก็อาจจะยังไม่พอใจ พรุ่งนี้ก็ต้องแก้ต่อ แต่มีคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะร่างฉบับสุดท้ายเสร็จแล้วเหมือนเรานะ”
“เธอหมายถึงคายาโกะ ยามาโมโตะหรือ?” ลีน่าเลิกคิ้วขึ้น
วารุณีหมุนดินสอในมือ “ใช่จ้ะ ตอนที่เราคุยกัน ฉันเห็นเธอวางปากกาในมือ แล้วหยิบงานออกแบบของตัวเองขึ้นมา เธอแสดงสีหน้าด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจมาก ดังนั้นฉันเดาว่าเธอก็คงเหมือนเรา กระดาษแผ่นเดียวก็สามารถวาดต้นฉบับที่น่าพอใจที่สุดได้”
“แต่ตอนนี้สีหน้าของเธอดูไม่ค่อยดีเลย” ลีน่ากล่าวพลางลูบคาง
วารุณีถอนหายใจ “คู่หูของเธอเป็นตัวถ่วงน่ะ”
“คู่หู?” ลีน่าได้ยินนี้ดังนี้ เธอจึงรีบมองไปยังแฟชั่นดีไซเนอร์ข้าง ๆ คายาโกะ ยามาโมโตะทันที
แฟชั่นดีไซเนอร์คนนั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มคนหน้าบูดที่เธอเพิ่งกล่าวถึงเมื่อครู่
แฟชั่นดีไซเนอร์คนนั้นกัดปลายดินสอ พลางมองดูคายาโกะ ยามาโมโตะอย่างระมัดระวัง และพูดคุยบางอย่างกับ คายาโกะ ยามาโมโตะ
ยิ่งพูด สีหน้าของคายาโกะ ยามาโมโตะยิ่งดูไม่ดี จนกระทั่งโมโหขึ้นมา
ลีน่าเห็นภาพเหตุการณ์นี้ จึงอดไม่ได้ที่จะยินดียินร้ายไปกับความทุกข์ของคนอื่น “คู่หูของเธอเทียบกับเราไม่ติดเลย”
วารุณียักไหล่พลางกล่าว “ฉันรู้เรื่องคู่หูของเธอนิดหน่อย เธอไม่ใช่ดีไซเนอร์ที่ไร้พรสวรรค์หรอกนะ ถ้าเธอไม่มีพรสวรรค์ เธอคงไม่สามารถไปถึงจุดที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ได้ เพียงแต่สไตล์ของเธอนั่นละ ที่เข้ากับคายาโกะ ยามาโมโตะไม่ได้ สไตล์การออกแบบเสื้อผ้าของเธอเป็นสไตล์เมทัลพังค์ แต่สไตล์การออกแบบเครื่องประดับของคายาโกะ ยามาโมโตะนั้นสูงส่งสง่างาม เป็นผู้ใหญ่และมีเสน่ห์ เธอว่าทั้งสองสไตล์นี้จะผสมกลมกลืนกันได้อย่างไรล่ะ?”
“ดูเหมือนว่าคายาโกะ ยามาโมโตะจะแพ้ให้ฉันนะเนี่ย” ลีน่าหรี่ตาลงพลางพูดติดตลก
วารุณีไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี “เอาน่า อย่าพูดแบบนี้สิ”
“ฉันล้อเล่นน่า” ลีน่าโบกมือหยอยๆ จากนั้นกลับมาท่าทีจริงจังอีกครั้ง “แต่เอาจริงๆ ถ้าคายาโกะ ยามาโมโตะถูกเพื่อนร่วมทีมถ่วงจริงๆ แล้วไม่สามารถเข้ารอบที่สองได้ มันก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากเลยนะ และฉันก็จะไม่มีโอกาสได้ประลองกับเธอ”
ดังนั้นเธอจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อนร่วมทีมของ คายาโกะ ยามาโมโตะจะสามารถมุมานะ และพยายามที่จะก้าวไปพร้อมกับ คายาโกะ ยามาโมโตะ
เพราะเธอเชื่อว่าเธอกับวารุณีจะต้องก้าวหน้าอย่างแน่นอน เธอจึงหวังว่าคายาโกะ ยามาโมโตะคู่ต่อสู้ของเธอจะก้าวหน้าเช่นกัน
ด้วยวิธีนี้เท่านั้น เธอกับคายาโกะ ยามาโมโตะถึงจะสามารถแข่งขันกันได้ดี
“ใช่จ้ะ” วารุณีมองไปยังคายาโกะ ยามาโมโตะ “เหตุผลที่ตอนนี้สีหน้าของ คายาโกะ ยามาโมโตะดูไม่ดีต้องเป็นเพราะสไตล์ที่เพื่อนร่วมทีมออกแบบแน่ๆ คงต่างกันกับการออกแบบของเธอราวฟ้ากับดิน ถ้าทั้งสองไม่ปรึกษากันเรื่องการแก้ไขละก็ พวกเขาจะแพ้แน่นอน”