พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 855 สุขใจผู้เป็นที่รัก
วารุณีเองก็สั่นศีรษะแล้วยิ้ม “เด็กสองคนนี้ละก็”
“เอาละ วารุณี ยังไม่ต้องพูดถึงไอริณกับอารัณแล้ว พาฉันไปหาสุขใจเร็วเข้า” ลีน่าจับแขนวารุณีพลางเร่งเร้าอย่างรีบร้อน
วารุณีหัวเราะไม่หยุด “จ้ะจ้ะ ไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันพาไป”
ขณะที่กล่าว เธอก็มองไปที่นัทธี “ที่รัก ฉันกับลีน่าจะไปหาสุขใจก่อนนะคะ คุณ…”
“ผมรออยู่ที่นี่แหละ” นัทธีก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วกล่าวพลางนั่งลง
เขาเป็นผู้ชาย จะเข้าไปดูอะไรกัน?
ดูคนให้นมลูกหรือไง?
น่าอายชะมัด!
ถ้าเป็นวารุณีให้นมลูก เช่นนั้นเขาก็คงดูได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
แต่คนที่ให้นมลูกไม่ใช่วารุณี แต่เป็นผู้หญิงอื่น เขาก็ควรหลีกเลี่ยงเป็นธรรมดา
วารุณีเองก็รู้ว่านัทธีไม่ควรเข้าไป เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น ก็ไม่ได้ชักชวน หลังจากพยักหน้าแล้วเธอกับลีน่าก็เข้าไปในห้องให้นมของสุขใจ
ขณะที่เข้าไป แม่นมเพิ่งป้อนนมเสร็จและกำลังสวมเสื้อผ้า
เมื่อเห็นวารุณกับลีน่า แม่นมก็รีบลุกขึ้นทักทาย “คุณหญิง คุณทารีนา”
วารุณีเคยเห็นแม่นมคนนี้มาก่อน
เป็นตอนที่สุขใจอยู่ในตู้อบที่โรงพยาบาล นัทธีให้มารุตเป็นคนจัดการให้
แม้ว่าสุขใจจะอยู่ในตู้อบ แต่ยังต้องดื่มนมด้วย ดังนั้นในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา จึงเป็นหน้าที่ของแม่นมสุขใจตลอดมา และตลอดจนกระทั่งสุขใจหย่านม
“สวัสดีจ้ะพี่นันทา” วารุณียิ้มตอบแม่นมพี่นันทา และกำลังจะถามถึงสุขใจเมื่อ ก็เห็นลีน่าเดินผ่านเธอไปอย่างกะทันหัน ใบหน้าของเธอสวมรอยยิ้มโง่ๆ เธอถูมือและ วิ่งเหยาะๆ ไปทางเปล ขณะที่วิ่งก็พลางกล่าว “สุขใจจ๋า แม่ทูนหัวมาแล้ว”
เมื่อเห็นเช่นนี้ วารุณีก็สั่นศีรษะอย่างหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
พี่นันทามองไปยังลีน่าที่บ้าคลั่ง แล้วกลับมามองวารุณี “คุณหญิงคะ คุณทารีนาเธอ…”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ปล่อยเธอไปเถอะ” วารุณีโบกมือพลางกล่าว บอกใบ้ให้เธอว่าไม่ต้องระแวดระวัง
ลีน่าไม่มีทางทำร้ายสุขใจ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องระวัง
เมื่อเห็นวารุณีกล่าวเช่นนี้ พี่นันทาจะกล่าวอะไรได้อีก เธอพยักหน้าและปิดปากโดยไม่ได้ขัดขวางลีน่าไม่ให้เข้าใกล้สุขใจ
แต่เธอไม่ได้ออกมาจากข้างเปล กลับยืนอยู่ตรงนั้นพลางมองไปที่ลีน่า เมื่อไหร่ที่ลีน่าปฏิบัติตัวไม่เหมาะสมต่อสุขใจ เธอก็จะอ้าปากตักเตือน
สำหรับเธอ แม้ว่าสุขใจจะไม่ใช่ลูกของเธอ แต่เธอก็เป็นคนให้นมมาโดยตลอด เธอมีความรู้สึกพิเศษต่อคุณชายน้อย
เธอจึงอยากให้สุขใจอยู่ดีกินดีไม่เจ็บไข้ได้ป่วยแต่อย่างใด
เมื่อเห็นพี่นันทาดูกังวลใจมาก วารุณีจึงยิ้มอย่างรู้ใจ
เธอพอใจในตัวพี่นันทามาก เพราะพี่นันทาชื่นชอบสุขใจจริงๆ
ด้วยวิธีนี้เท่านั้นพี่นันทาจะดูแลสุขใจอย่างระมัดระวังมากขึ้น
และเธอมั่นใจว่า พี่นันทาจะสามารถดูแลสุขใจได้เป็นอย่างดี
“พี่นันทาสุขใจหลับไปแล้วหรือ?” วารุณีถามขณะเดินไปที่เปล
พี่นันทาจางยิ้มพลางสั่นศีรษะ “ไม่นะคะคุณหญิง คุณชายน้อยเพิ่งดื่มนมเสร็จ ตอนนี้เขาเปี่ยมล้นไปด้วยพลังเลยละค่ะ ฉันอุ้มเขาวางลงในเปล เขาก็เล่นสนุกสนานของเขาเองนั่นแหละค่ะ”
ทันทีที่เขาพูดจบ สุขใจที่อยู่ในเปลก็หัวเราะคิกคักทันที
วารุณีกับพี่นันทา มองลงมา ปรากฏว่าลีน่ากำลังจับมือน้อยๆ ของสุขใจเขย่าเบาๆ
สุขใจคงคิดว่ามันสนุกจึงยิ้มอย่างมีความสุข
เสียงหัวเราะนี้ทำให้ดวงตาลีน่าเป็นประกาย เธอเงยหน้าขึ้นอย่างตื่นเต้น และกล่าวกับวารุณี “วารุณี เธอเห็นไหม สุขใจหัวเราะเพราะโดนฉันแหย่ละ เขาชอบฉัน ชอบฉันที่เป็นแม่ทูนหัวคนนี้”
เมื่อเห็นเธอเต้นอย่างมีความสุข วารุณีก็สั่นศีรษะอย่างน่าขัน “เห็นจ้ะ เห็นแล้ว สุขใจชอบเธอแล้วน่ะสิ”
“แหะๆ สุขใจจ๊ะ” ลีน่าทำตัวราวกับเป็นเด็กที่ได้ลูกกวาด เธอมีความสุขแทบบ้า เธอก้มศีรษะลงจูบลงไปที่ใบหน้าสุขใจหลายครั้งอย่างทะนุถนอม
และสุขใจก็ยิ้มขึ้นอีกครั้งอย่างไว้หน้า
วารุณีไม่ได้ห้ามให้ลีน่าให้เล่นกับสุขใจ เธอยืนดูด้วยรอยยิ้มข้างพี่นันทา
แม้ว่าลีน่าจะไม่ได้ดีไปกว่าเด็ก แต่เธอมีฝีมือในการหยอกเล่นกับเด็กๆ และเธอก็มีความอดทนมาก
สุขใจหัวเราะไม่หยุดเพราะโดนเธอแหย่เล่น เขามีความสุขมาก
วารุณีจึงอดไม่ได้ที่จะกล่าว “ลีน่า เธอชอบเด็กมากขนาดนี้ เธอก็เอาสักคนสิ ฉันว่าเธอต้องเป็นแม่ที่ดีแน่ๆ”
“คุณหญิงพูดถูกค่ะ คุณทารีนามีความอดทน แถมเล่นกับเด็กเป็น ลูกๆ ของคุณจะต้องชอบคุณมากแน่ๆ ค่ะ” พี่นันทาก็เห็นด้วย
ลีน่าลูบใบหน้าน้อยๆ ของสุขใจพลางกล่าว “พวกเธอพูดมันก็ง่ายน่ะสิ แต่ฉันจะไปมีลูกกับใครเล่า? ฉันกับรุ่นพี่ยังไม่ได้คืบหน้าไปถึงไหนเลย เพราะงั้นเรื่องนี้น่ะไม่รีบ วันหน้ารอฉันกับรุ่นพี่ได้อยู่ด้วยกันฉันจะมีลูกแน่นอน ฉันเป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว และก็รอวันที่จะมีเด็กน้อยมาเรียกฉันว่าแม่ จะว่าไป ฉันยังต้องรอให้วารุณีให้ของกำนัลลูกฉันอีกนะเนี่ย”
วารุณีหัวเราะไม่หยุดที่เธอแซว “เธอนี่นะ”
พี่นันทาก็หัวเราะด้วยเช่นกัน “คุณทารีนี่อารมณ์ขันจังนะคะ”
“จริงด้วยจ้ะ” วารุณีพยักหน้าเห็นด้วย
ลีน่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เธอก้มหน้าลงหยอกเล่นกับสุขใจต่อ
เธอรักและทะนุถนอมสุขใจมาก อีกทั้งสุขใจก็ไม่ร้องไห้ไม่โหวกเหวก เขาเป็นเทวดาตัวน้อยในความฝันของเธอแท้ๆ เลย
ในเวลาต่อมา ลีน่าก็ยังคงเล่นกับสุขใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะสุขใจเหนื่อย หาวไปหนึ่งทีก็ง่วงแล้ว เกรงว่าลีน่าจะไม่ยอมใจปล่อยสุขใจแน่
“เอาละ อย่างอแงนักเลยน่า ถ้าสุขใจตื่นเธอค่อยเล่นกับเขาต่อก็ได้” วารุณีตบบ่าลีน่าที่งอแงเบาๆ เพราะสุขใจดันผล็อยหลับไป พลางกล่าวปลอบโยนอย่างหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
เมื่อได้ยินคำปลอบโยนของวารุณี ลีน่าก็ถอนหายใจ “ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ”
“โอเคจ้ะ เราออกไปกันเถอะ ค่ำแล้ว กลับบ้านพักกันเถอะ”
หลังจากพูดจบ วารุณีเอามือออกจากบ่าแล้วหันไปมองพี่นันทา“พี่นันทาจ้ะ รบกวนอุ้มสุขใจให้ทีจ้ะ เราจะกลับแล้ว”
“ได้ค่ะคุณหญิง” พี่นันทาพยักหน้าเป็นคำตอบ จากนั้นก้มลงและอุ้มสุขใจขึ้นมาจากเปลอย่างระมัดระวัง
มือของสุขใจที่ถูกอุ้มขึ้นมา แถมปากน้อยๆ กระตุกครั้งสองครั้ง ความน่ารักนี้ทำให้คนใจละลายหมดแล้ว
ลีน่ากุมหัวใจด้วยมือทั้งสอง และกรีดร้องเบาๆ : “อ๊ากๆๆๆ วารุณีเธอเห็นไหมนั่น น่ารักจัง สุขใจน่ารักจังเลย”
วารุณีขำกับความบ้าคลั่งของเธอ “ลูกฉัน ฉันก็ต้องอยู่เห็นแล้วจ้ะ”
“ไม่ได้การ วารุณี เธอให้ฉันอุ้มสุขใจเถอะ ให้ฉันอุ้มเขาบ้านพักได้ไหม?”
ขณะที่กล่าว ลีน่ากำลังจะเอื้อมมือออกไปอุ้มสุขใจ
แต่คราวนี้ วารุณีห้ามเธอ “ไม่ได้จ้ะ เวลาปกติอุ้มได้ แต่อุ้มกลับบ้านไม่ได้ อุ้มปกติมันแค่ช่วงสั้นๆ เธอจะไม่รู้สึกเหนื่อยมาก แต่ถ้าอุ้มนานเธอทนไม่ไหวแน่นอน แถมเธอก็ไม่มีประสบการณ์ในการอุ้มเด็ก เมื่อเธอรู้สึกเหนื่อย เธอก็จะปรับร่างกายตัวเองให้สบายโดยไม่รู้ตัว แต่สำหรับเด็กที่กระดูกยังไม่เจริญเติบโตดี อิริยาบถแบบนั้นมันไม่เหมาะสม เพราะงั้นลีน่า เธอเข้าใจใช่ไหม?”
“คุณหญิงพูดถูกค่ะ คุณทารีนา คุณอุ้มคุณชายน้อยตอนนั่งปกติดีกว่าค่ะ” พี่นันทาก็เห็นด้วยกับคำพูดวารุณีเช่นกัน
ลีน่าเองก็นึกได้ว่าเธอควรทำตามที่วารุณีกล่าว ดังนั้นเธอจึงไม่ยืนกรานที่จะอุ้มสุขใจ เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วจึงพยักหน้าตกลง “ก็ได้ เพื่อสุขใจแล้ว ฉันค่อยกลับไปอุ้มเธอทีหลังละกัน”
วารุณียิ้ม “แบบนี้แหละถูกแล้วจ้ะ เอาละ เราไปกันเถอะ นัทธีน่าจะรอนานแล้ว”
หลังจากกล่าวจบ เธอช่วยพี่นันทาอุ้มสุขใจออกจากห้องและไปที่ห้องรับรองด้านนอก