พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 903 ในที่สุดก็คิดได้
เพราะว่าเธอรู้ ลีน่าพูดถูก
ถึงเธอจะเป็นคุณหญิงวารุณี แต่เธอไม่มีอิทธิพลแบบนัทธี และก็ไม่ฉลาดเท่านัทธีด้วย
ดังนั้นถ้าเธออยู่ข้างกายนัทธี ก็น่าจะช่วยนัทธีไม่ได้จริงๆ กลับจะกลายเป็นความยุ่งยากและภาระของนัทธี เป็นตัวถ่วงให้เขา
ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยคิดถึงจุดนี้เลย แต่ตอนนี้พอลีน่าพูดมาแล้ว เธอจึงพบว่า เธออยู่ข้างกายนัทธีไปจะต้องมีผลตามมาแน่
นิรุตติ์เป็นคนร้ายกาจอยู่แล้ว เพื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว สามารถทำได้ทุกอย่าง เธอไม่อาจหลงตัวเองขนาดว่านิรุตติ์รักเธอ แล้วจะไม่ทำร้ายเธอได้
นิรุตติ์รู้สึกดีกับเธอ แต่ความรู้สึกนี้ ไม่ได้ลึกซึ้ง อย่างน้อยก็เทียบกับนัทธีที่มีต่อเธอไม่ได้เลย
นัทธีรักเธอ เป็นรักอันลึกซึ้งที่สามารถสละชีวิตเพื่อเธอได้
ถ้าต้องเผชิญกับเธอและชีวิตของตัวเอง นัทธีจะต้องเลือกช่วยเธอแน่
เธอมั่นใจกับสิ่งนี้ของนัทธี
แต่นิรุตติ์ไม่ ถ้านิรุตติ์ต้องเลือกแบบนี้ เขาไม่เลือกเธอแน่ แต่จะเลือกตัวเขาเอง
เพราะความรักสำหรับนิรุตติ์ นั้นมีสติมาเสมอ ความรักมีได้ แต่จะให้มาอยู่เหนือตัวเขาเองไม่ได้
พูดให้ดีหน่อย ก็คือคนแบบนี้ทำเพื่อตัวเอง
พูดให้แย่หน่อย ก็คือเห็นแก่ตัว
ถึงแม้วิธีการของนิรุตติ์จะไม่ผิด แต่กลับทำให้ผู้คนรังเกียจ
หมายความว่า ถึงนิรุตติ์จะมีใจให้เธอ แต่เพื่อเป้าหมายของตัวเองแล้ว ก็ยอมแพ้กับเธอได้อย่างไม่ลังเล และยังหลอกใช้เธอได้ด้วย
เช่นครั้งนี้ นิรุตติ์อยากสู้ตัวต่อตัวกับนัทธี เพื่อทำให้นัทธีตายแล้ว ก็เป็นไปได้ว่านิรุตติ์อาจจะลงมือกับเธอ หาช่องว่างจากเธอ มาบรรลุเป้าหมายในการจัดการนัทธีก็ได้
อย่างแรกทำแบบนี้ นิรุตติ์สามารถไม่ต้องเผชิญหน้าโดยตรงกับนัทธีได้
ยังไงอิทธิพลของนัทธีก็มากกว่านิรุตติ์อยู่แล้ว ถ้าต้องเผชิญหน้ากับนัทธี งั้นความน่าจะเป็นที่นิรุตติ์ไม่สามารถทำนัทธีตายได้ก็สูง ยังไงอิทธิพลก็อยู่ห่างกันมาก
ดังนั้นนิรุตติ์ จะต้องไม่ยอมเผชิญหน้ากับนัทธีแน่ เพราะนิรุตติ์ไม่ใช่คนโง่ รู้ว่าตัวเองมีความสามารถแค่ไหน
เขาเกลียดนัทธีขนาดนั้น จะต้องอยากให้นัทธีตายแน่ ดังนั้นนิรุตติ์จะต้องไม่เลือกเผชิญหน้ากับนัทธีโดยตรงแน่ แบบนั้น ความน่าจะเป็นที่นิรุตติ์จะแพ้ก็จะสูงมาก
ดังนั้นถ้าเธอเป็นนิรุตติ์ เขาก็จะเลือกจุดอ่อนของนัทธีมาโจมตี ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดคือจุดอ่อนที่ถึงตายได้
และจุดอ่อนที่ถึงตายได้ของนัทธีคืออะไร?
ก็คือเธอกับลูกๆ
นัทธีฉลาดขนาดนั้น ก็ต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว ดังนั้นถึงได้ส่งพวกเด็กๆไปก่อนล่วงหน้า และก็จะส่งเธอไปด้วย
ก็แค่เธอไม่ยอมไป
และถึงแม้อิทธิพลของนิรุตติ์จะสู้นัทธีไม่ได้ แต่ความแข็งแกร่งก็ไม่น้อย แค่ไม่เผชิญหน้ากับนัทธีโดยตรง นิรุตติ์อยากจะทำอะไร ก็ง่ายมาก ความน่าจะสำเร็จก็สูง เช่นจับเธอมาข่มขู่นัทธี หรือฆ่าเธอไปเลย?
ถึงจะยุ่งยากไปหน่อย ลำบากไปหน่อย แต่อย่างน้อยก็สบายมากกว่า รับมือกับนัทธีโดยตรง
อย่างน้อย ถ้าเธอเป็นนิรุตติ์ก็จะลงมือกับจุดอ่อนที่สุดของนัทธีก่อน แบบนี้ ถึงจะสามารถไม่ต้องเผชิญหน้ากับนัทธีโดยตรงได้ แต่ก็สามารถโจมตีความเจ็บปวดของนัทธีได้ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวแบบนี้ ดีจะตาย
พอคิดแบบนี้ วารุณีก็กัดริมฝีปากแน่น
เธอพอจะรู้แล้วว่าทำไมครั้งนี้นัทธีเด็ดขาดขนาดนี้ ทำไมยอมทำสงครามเย็นกับเธอ และไม่ยอมให้เธอเลย
เพราะว่าพวกนี้ นัทธีคิดได้นานแล้ว แต่เธอไม่
เธอแค่อยากอยู่กับเขา อยากเผชิญหน้าไปกับเขา ไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาอย่างอื่น ส่วนนัทธีนั้นคิดได้อยู่แล้ว
ดังนั้นมองจากจุดนี้แล้ว เธอคิดน้อยไปมาก ขอบเขตในการมองไม่มากเท่านัทธี
นัทธีมองการณ์ไกล ส่วนเธอแค่อยากเคียงไหล่ไปกับเขา ไม่ได้คิดถึงผลลัพธ์
กลัวว่าสองวันนี้ เธอในสายตานัทธี จะเป็นคนงี่เง่าจริงๆ
พอคิดแบบนี้ วารุณีก็กินข้าวเช้าไม่ลง เธอวางช้อน แล้วลูบขมับ“นาน่า พวกนี้ เธอคิดได้นานแล้วเหรอ?”
ลีน่าพยักหน้า“ใช่ วันที่สองที่พวกเธอทำสงครามเย็นกัน ฉันก็คิดได้แล้ว”
“งั้นทำไมเธอไม่บอกฉัน?”วารุณีมองเธออย่างขุ่นเคือง
ลีน่ารีบเอนตัวไปด้านหลัง“เธออย่ามาปรักปรำฉันนะ ฉันอยากบอกเธอ แต่ประธานนัทธีอ่านความคิดฉันออกแล้วน่ะสิ เลยห้ามฉัน ไม่ให้ฉันบอกเธอ”
“ทำไมล่ะ?”
วารุณีเบิกตาโต ดูไม่เข้าใจ
ลีน่ายักไหล่“จะทำไมได้อีกล่ะ เหตุผลชัดเจนขนาดนี้ พวกเราคิดได้ตั้งแต่แรก มีแต่เธอที่หมกมุ่นอยู่กับความคิดที่อยากจะอยู่จนคิดไม่ได้ ประธานนัทธีทำแบบนี้น่ะง่ายมาก เพราะอยากให้เธอคิดได้เอง ยังไงตัวเองคิดได้ ก็ดีกว่าให้คนอื่นมาบอกเธออยู่แล้ว อย่างน้อยเธอก็สามารถเข้าใจความตั้งใจดีของประธานนัทธีได้ดี”
ประโยคนี้วารุณีพูดไม่ออก เพราะว่าเป็นแบบนี้จริงๆ
คิดได้เอง มักจะน่าเชื่อ ยิ่งกว่าคนอื่นมาพูดอยู่แล้ว
นัทธีจึงอยากให้เธอคิดได้เอง ดังนั้นเลยห้ามลีน่า
วารุณีมองเธอ“งั้นตอนนี้เธอ ทำไมจู่ๆถึงอยากพูดกับฉันให้ชัดเจนล่ะ?”
ลีน่าถอนหายใจ“ฉันไม่อยากพูดนะ แต่ทำอะไรไม่ได้ พวกเธอทำสงครามเย็นมาหลายวันแล้ว ฉันเป็นคนนอกมองดูก็ปวดหัว และเธอยังพัวพันกับสงครามเย็นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ นับวันยิ่งคิดพวกนี้ไม่ออก ฉันก็ทนไม่ไหวแล้ว เลยบอกๆเธอไปเลย ไม่อย่างนั้นเป็นแบบนี้ต่อไป ความรู้สึกระหว่างเธอกับประธานนัทธีก็จะเกิดปัญหาขึ้นจริงๆ พูดจริงๆนะวารุณี หลายๆเรื่องเธอเข้าใจได้ คิดได้ดี แต่ทำไมแค่เรื่องนี้ เธอถึงคิดไม่ได้ล่ะ?“
วารุณีละสายตาลง“น่าจะเพราะว่าเมื่อก่อนนัทธีเกิดเรื่อง ทำฉันตกใจมากจริงๆ ดังนั้นครั้งนี้……”
จากนั้นเธอก็ไม่ได้พูด
ลีน่ากลับพยักหน้าทันที“ที่แท้ก็แบบนี้ ฉันเข้าใจแล้ว และก็เข้าใจเธอ ครั้งนั้น ทำพวกเราทุกคนตกใจมากจริงๆ ดังนั้นเธอตอบสนองมากเกินไปแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะยังไงเธอก็แคร์ประธานนัทธีมากไป”
วารุณีตอบอือ“ใช่”
เพราะว่าแคร์มากไป ดังนั้นเธอก็ไม่อยากถอย
แต่ตอนนี้ เธอดูเหมือนว่าต้องถอย
“วารุณี ตอนนี้เธอจะทำไง?”ลีน่ามองวารุณีแล้วถาม
วารุณีบีบจมูก“จะทำอะไรได้อีกล่ะ?แน่นอนว่าประนีประนอม เธอพูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว ฉันก็เข้าใจแล้วว่าถ้าฉันไม่ไป จะทำให้นัทธีกังวลแค่ไหน ดังนั้นฉันเลือกจะไป ไม่เป็นตัวถ่วงเขา”
“ถูกแล้วแบบนี้”ลีน่าโล่งอก พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
วารุณีส่งเสียงจิ๊จ๊ะ หยิบช้อนขึ้นมา คนโจ๊กในชามอย่างใจลอย
ลีน่าถามอีกว่า“งั้นเธอว่าจะไปคุยกับประธานนัทธีเมื่อไหร่ อธิบายความคิดของตัวเอง?”
“รอเขากลับมาละกัน”วารุณีพูด
ลีน่าพยักหน้า“ก็ใช่ ฉันลืมไปเลยว่าประธานนัทธีออกไปแล้ว เมื่อกี๊เธอถือโทรศัพท์ เป็นห่วงประธานนัทธีมากใช่ไหม”
“ใครห่วงเขากัน”วารุณีหน้าแดง โต้กลับทันที
ลีน่าเหลือบมองเธอ“ยังจะไม่ยอมรับอีก ห่วงก็ห่วงสิ นั่นสามีเธอนะ จะอายทำไม?”
“ไป๊”วารุณีจ้องลีน่าอย่างไม่สบอารมณ์
ลีน่าหัวเราะเสียงดัง“โอเคๆๆ ฉันไม่พูดละ ไม่พูดละ แต่ว่าวันนี้ประธานนัทธีออกไปเช้ามากจริงๆ ดูรีบร้อน จะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ ถ้าเธอเป็นห่วงจริงๆ ก็ถามสิ ไม่งั้นในใจเธอไม่สบายใจแบบนี้ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เธออาจจะเสียใจว่าทำไมตอนนี้ไม่ถามไป”