พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่ 22 เขายังไม่มีคุณสมบัติ
บทที่ 22 เขายังไม่มีคุณสมบัติ
“ พี่เขย ฉันคิดว่าพี่ไม่มาแล้ว” อาจจะเป็นเพราะโลภอยากได้การ์ดวีไอพีของลู่เฉินครั้งที่แล้ว และรู้สึกผิดเล็กน้อย หลินอี้เจียต่อหน้าค่อนข้างเป็นมิตรกับลู่เฉิน
ไม่ต้องพูดถึงบัตรวีไอพีนั่นสุดยอดจริงๆ ในช่วงสองวันนี้เธอและแม่ของเธอซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยของผู้หญิงมากมายในตึกซินเทียนเจ๋อ ตอนนี้ไม่อยากคืนให้ลู่เฉินจริงๆ
“ ทำไมจะไม่มาล่ะ?” ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อยพูด
หลินอี้จุนรู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าลู่เฉินไม่เป็นไร แต่คิดถึงแม่ของเธอไม่ค่อยชอบลู่เฉิน เธอไม่รู้จะพูดอะไรดี
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่พอใจกับลู่เฉิน ที่เขาไร้ความสามารถ แต่เธอก็ยังไม่ต้องการให้ ลู่เฉิน ถูกครอบครัวของเธอดูถูก
“พ่อมานั่งกับหนู” ฉีฉีตะโกนเรียกลู่เฉิน
“โอเค” ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อยและเดินไปนั่งลงข้างๆที่ฉีฉีนั่ง
“นี่คือของขวัญวันเกิดที่นายซื้อให้พ่อนายใช่ไหม?” หวังเสวี่ยถามพลางมองไปที่กระเป๋าสีน้ำเงินใบเล็กในมือของลู่เฉินทีหนึ่ง
“อืม เป็นน้ำใจเล็กน้อย พ่อยังไม่เลิกงานใช่ไหม” ลู่เฉินพยักหน้าและวางกระเป๋าลงบนโต๊ะน้ำชา
เนื่องจากกระเป๋าเป็นสีฟ้า ทุกคนจึงมองไม่ชัดว่ามีอะไรอยู่ข้างใน แต่เมื่อพวกเขาเห็นกระเป๋าใบเล็กที่ใช้กันทั่วไปในร้านบูติก ทันใดนั้นหวังเสวี่ยและคนอื่น ๆ ก็ไม่สนใจที่จะเปิดมันออกมาดู
หลินอี้จุนเมื่อเห็นการดูถูกที่ฉายในดวงตาของแม่ของเธอ ไม่ต้องการให้เธอพูดอะไรที่ไม่น่าฟัง จึงเริ่มที่จะเปลี่ยนเรื่องพูด “แม่ ฉันได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกขายเมื่อวานนี้
“ จริงเหรอ งั้นเงินเดือนต้องขึ้นเยอะแน่ๆเลย บริษัทของเธอนั้นแทบจะผูกขาดกับอุปกรณ์ระบบกันขโมยของยวี่โจวทั้งหมด อนาคตไกลแน่นอน” หวังเสวี่ยกล่าวอย่างมีความสุข ที่ลูกสาวของเธอประสบความสำเร็จ ถึงแม้ออกเรือนไป คนเป็นแม่ แน่นอนว่าต้องรู้สึกดีใจกับเธอ
“เงินเดือนขั้นพื้นฐานเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 และค่าคอมมิชชั่นสูงกว่าพนักงานขายทั่วไปถึง 20% และสำหรับพนักงานขายที่ฉันดูแล พวกเขาจะได้รับ 0.5% จากผลการดำเนินงาน” หลินอี้จุนพยักหน้าพูด
“ ว้าว พี่สาว เธอเก่งจริงๆ เพิ่งไปบริษัทนั่นได้ปีเดียวก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้างาน ดูแล้วเจ้านายพวกเธอตามีแวว”
หลินอี้เจียก็ชมด้วย
“พี่ไมีความสามารถอะไรเธอยังไม่รู้เหรอ นี่แค่เป็นแค่ความโชคดี” หลินอี้จุนยิ้มพูด เธอกำลังพูดความจริงถ้าไม่ใช่เพราะบุคคลลึกลับที่แอบช่วยให้เธอได้รับโครงการอสังหาริมทรัพย์กรีนทาวน์ เธอก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้างาน
“อี้จุน เธอก็อย่าดูถูกตัวเอง ใช่แล้ว ตอนนี้เธอเลื่อนเป็นหัวหน้า รายรับก็สูงขึ้นไม่น้อย วันหลังต้องดูแลบัตรบัตรธนาคารของตัวเองดีๆ อย่าใช้เงินไปกับตัวคนที่ไร้ค่า”หวังเสวี่ยมองลู่เฉินทีหนึ่งแล้วพูด
“ แม่ ลู่เฉินมีงานของตัวเอง” หลินอี้จุนรู้สึกเกร็งเล็กน้อย แน่นอนว่าเธอเข้าใจความหมายของแม่เธอ ก็คือรังเกียจลู่เฉินที่ไม่ไปทำงาน กินของเธอใช้ของเธอ
“ ใช่แล้ว พี่สาว ได้ยินมาว่า บริษัท ของพวกเธอถูกซื้อกิจการแล้ว เป็นผู้ถือหุ้นใหม่ที่เลื่อนตำแหน่งให้เธอใช่ไหม เป็นผู้ถือหุ้นคนใหม่นั่นหน้าตาเป็นยังไง หล่อไหม?” จู่ๆหลินอี้เจียพูดขึ้น
” ตัวตนผู้ถือหุ้นคนใหม่นอกจาก ผู้จัดการเซี่ยแล้ว ในบริษัทยังไม่มีใครทราบ ถึงแม้วันนี้เขาประชุมฝ่ายผู้บริหาร แต่เขาก็ใส่แว่นดำกับใส่หมวก ไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร ” หลินอี้จุนส่ายหัว พลางนึกถึงผู้ถือหุ้นเป็นคนใหม่ทำตัวลึกลับ ในใจรู้สึกตลกเล็กน้อย
แต่เธอก็สงสัยในใจเล็กน้อย ผู้ถือหุ้นคนใหม่จะหน้าตาบ้านๆอย่างที่เขาพูดจริงหรือ?
“ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้างาน งานในบ้านก็ให้ลู่เฉินดูแล ใช้โอกาสจากผู้ถือหุ้นใหม่รับตำแหน่ง โชว์ความสามารถตัวเองดีๆ ” หวังเสวี่ยพูดสั่งเสีย
“อื้ม ฉันรู้แล้ว ใช่แล้ว ฉันเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้างานครั้งนี้ หลักๆคือจฉันสามารถเอาโครงการอสังหาริมทรัพย์กรีนทาวน์ได้ ที่จริงผู้จัดการโครงการของอสังหาริมทรัพย์กรีนทาวน์เรื่องเยอะกับฉันอยู่สองวัน ก่อนฉันกำลังที่ฉันจะยอมแพ้ ไม่รู้ใครโทรหาซีอีโอหวังของพวกเขา จากนั้นซีอีโอหวังของพวกเขาก็ระบุว่าโครงการนี้ให้ฉัน ฉันก็ไม่รู้จักคนใหญ่คนโต และก็ไม่รู้ใครช่วยฉันอยู่เบื้องหลัง” หลินอี้ชิงพยักหน้าพูด พูดความสับสนในใจออกมา
ในความเป็นจริงเธอยังคงกังวลเล็กน้อย อีกฝ่ายช่วยเหลือเธอโดยไม่มีสาเหตุ ถ้าวันหนึ่งอีกฝ่ายมาขอสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลจากเธอ เธอไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร
“ พี่สาว อาจเป็นคนรวยที่หลงรักเธอหรือเปล่า ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งงานแล้ว แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดของมหาวิทยาลัยยวี่โจว” หลินอี้เจียพูดล้อเล่น
“เธอพูดมั่วอะไร” หลินอี้จุนจ้องหลินอี้เจียทีหนึ่ง ถึงแม้ว่าเธอจะมีความกังวลในเรื่องนี้ แต่เธอจะพูดแบบนี้ต่อหน้าลู่เฉินได้อย่างไร
และในสายตาของลู่เฉินรับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้
หลินอี้จุนมองไปที่ลู่เฉินโดยไม่รู้ตัว และเห็นว่า ลู่เฉินกำลังปอกเมล็ดทานตะวันป้อนฉีฉีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในใจก็ไม่รู้ว่าลู่เฉินคิดมากหรือเปล่า
หลินอี้จุนมองไปที่ลู่เฉินโดยไม่รู้ตัว และเห็นว่า ลู่เฉินกำลังปอกเมล็ดทานตะวันป้อนฉีฉีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในใจก็ไม่รู้ว่าลู่เฉินไม่ใส่ใจจริงๆหรือเปล่า
หลังจากหวังเสวี่ยได้ยินคำพูดของลูกสาว ก็เหลือบมองไปที่ลู่เฉินทีหนึ่ง มองผ่านอย่างพิฆาต
เมื่อลูกสาวคนโตยืนกรานที่จะแต่งงานกับลู่เฉินไอ้ไร้ประโยชน์นี่เธอก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ให้แต่ง ตอนนี้ถ้ามีคนรวยที่รักลูกสาวคนโต เธอก็ไม่ถือสาที่จะกล่อมให้พวกเขาหย่ากัน
ด้านหนึ่งก็เพื่อประโยชน์ของลูกสาวเธอ อีกด้านหนึ่ง ลูกสาวสามารถแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวย และครอบครัวของพวกเธอก็จะมีหน้ามีตา
“ ฉันแค่ล้อเล่น พี่สาวอย่าจริงจังนะ” หลินอี้เจียหัวเราะคิกคัก
“ใช่แล้ว หูหง สองวันก่อนฉันพูดเรื่องนี้กับนาย ใช่นายหรือเปล่าที่ช่วยพี่สาวฉันอย่างลับๆ?” จู่ๆหลินอี้เจียก็หันไปถามหูหงที่อยู่ข้างๆ
“หา?ฉัน ฉันแค่พูดลอยๆกับพ่อ ก็ไม่รู้ว่าท่านไปหาซีอีโอหวังของกรีนทาวน์เองเพื่อช่วยพี่อี้จุนหรือเปล่า คืนนี้กลับไปฉันถามท่านดู ”หูหงตะลึงไป แล้วพูด
“ไม่ต้องถามหรอก ครั้งก่อนก็พ่อนายออกหน้าช่วยเคลือแกรนด์ไฮแอทถึงให้งานนั้นกับแม่ฉัน ครั้งนี้แน่นอนว่าต้องเป็นพ่อนายที่ไปหาซีอีโอหวัง คิดไม่ถึงว่าพ่อนายจะกว้างขวางและรู้จักคนมาก”หลินอี้เจียพูดอย่างเชื่อมั่น
“ฉันไม่ได้โม้จริงๆ ถึงแม้ว่าบริษัทของฉันจะโครงสร้างไม่ใหญ่โต แต่พ่อของฉันก็มีสายสัมพันธ์และรู้จักผู้คนที่สุดยอด ในยวี่โจวคนชนชั้นสูงเกือบรู้จักพ่อของฉันหมด แม้แต่คนที่ร่ำรวยที่สุดอย่างตระกูลลู่ พ่อของฉันก็เคยเชิญเขามากินข้าวแล้ว” หูหงพูดโม้โอ้อวด
ในความเป็นจริง บริษัทของเขามีขนาดไม่ถึง 100 ล้าน พ่อของเขาแม้แต่สิทธิ์พบลู่จงก็ไม่มี
แต่การโม้ไม่ต้องใช้เงิน!
สามารถแกล้งรวยได้ ทำไมจะไม่โม้ล่ะ?
“วันหลังบ้านพวกเราต้องพึ่งพานายแล้ว นายก็ต้องเรียนรู้จักพ่อนายเยอะๆ”แม้ว่าหวังเสวี่ยวางท่าทางดูเหมือนผู้อาวุโส แต่ในใจตื่นเต้นเพื่อเธอจะสามารถหาผู้ชายอย่างหูหงให้ลูกสาวคนเล็กของเธอ
“ ป้าหวังพูดถูก ฉันจะพยายามเรียนรู้ เพื่อตอนสานงานต่อจากพ่อ สามารถพัฒนาบริษัทของครอบครัวให้ใหญ่โต ” หูหงกล่าวอย่างถ่อมตัว
“พ่อของนายช่วยฉันจริงๆหรือ?” หลินอี้จุนมองไปที่หูหงอย่างตื่นเต้น ถ้าใช่พ่อของหูหงช่วยจริงๆ งั้นเธอก็จะโล่งใจ
“ อี้จุน เธอก็ไม่ต้องถามแล้ว นอกจากพ่อของหูหง ยังจะมีใครช่วยเธออีก ครั้งก่อนงานของในเครือแกรนด์ไฮแอทพ่อเขาก็ช่วยฉัน เธอต้องขอบคุณหูหง” หวังเสวี่ยพูดและมองไปที่ลู่เฉิน
“ลู่เฉิน หูหงช่วยอี้จุนมากขนาดนี้ นายรีบกล่าวขอบคุณกับหูหง” หวังเสวี่ยกล่าวอีกครั้ง
ลู่เฉินวางเมล็ดทานตะวันในมือ ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นมองหวังเสวี่ย: “เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะให้ผมขอบคุณ”
ลู่เฉินไม่พอใจเล็กน้อยที่ก่อนหน้านี้หูหงโลภในงานนั่นของกลุ่มแกรนด์ไฮแอท
ตอนนี้คนคนนี้กล้าเอาเครดิตจากการโลภให้กับตัวภรรยาเขา แบบนี้เขาทนไม่ได้