พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่ 253 วางแผนการสกปรก
บทที่ 253 วางแผนการสกปรก
คนคุ้นเคยที่ลู่เฉินเห็นก็คือเจิ้งซีเหอที่พ่ายแพ้ให้แก่เขาในงานเดิมพันหินอัญมณีที่ยวี่โจวครั้งก่อน บัดนี้เจิ้งซีเหอก็กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน เพียงแต่สายตานั้นแฝงไปด้วยความมืดมน
ในฐานะปรมาจารย์ด้านการเดิมพันหินอัญมณีสามอันดับแรกของประเทศ แน่นอนว่าเขาจะไม่พลาดการแข่งขันเช่นนี้
และในฐานะปรมาจารย์ด้านการเดิมพันหินอัญมณีของ สมาคมหินธรรมชาติจงไห่ เพื่อชื่อเสียงและหน้าตาของ สมาคมหินธรรมชาติจงไห่ แน่นอนว่าเขาจะต้องมาร่วมงาน
ที่จริงวงการการเดิมพันหินอัญมณีในครั้งนี้เมืองจงไห่ไม่ได้เชิญสมาคมหินอัญมณีถังซานมาร่วมงานด้วย เนื่องจากปรมาจารย์อันดับที่สองของประเทศเสี่ยวจื่อหยวนเป็นสมาชิกในสมาคมหินอัญมณีถังซาน หากว่าเสี่ยวจื่อหยวนเข้าร่วมงานนี้ เจิ้งซีเหอก็อาจจะพ่ายแพ้ได้ เมื่อถึงเวลานั้น สมาคมหินธรรมชาติจงไห่ ของพวกเขาก็ไม่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครอง
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจก็คือ สมาคมหินอัญมณีเมืองหลวงกลับเชิญเสี่ยวจื่อหยวนมาในนามตัวแทนของสมาคมพวกเขาสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ ทำให้จงหายเริ่มรู้สึกกระวนกระวาย อีกทั้งเพิ่มแรงกดดันกับเสี่ยวจื่อหยวนด้วย
แต่เมื่อเจิ้งซีเหอเห็นลู่เฉินเป็นตัวแทนของยวี่โจวในการแข่งขัน ความกดดันของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เนื่องจากครั้งที่แล้วเขาเคยพ่ายแพ้ให้กับลู่เฉิน ไม่ว่าเขาจะยอมรับหรือไม่ แต่ภายในใจลึกๆแล้วเขาไม่เคยดูถูกลู่เฉินเลย ตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกว่าลู่เฉินมีความสามารถมากกว่าเสี่ยวจื่อหยวนด้วยซ้ำ
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขามองดูลู่เฉินด้วยแววตามืดมน
เจิ้งซีเหอมองดูลู่เฉินแล้วหันหลังเดินเข้าไปห้องหนึ่งของโรงแรม
ภายในห้องนั้นมีชายชราอยู่สองคน คนหนึ่งหยางมู่ เป็นประธานสมาคมสมาคมหินธรรมชาติจงไห่ ส่วนอีกคนหนึ่งชื่อว่าจูโปหงเป็นรองประธานสมาคมฯ
“พวกคุณได้เห็นการแข่งขันเมื่อสักครู่หรือไม่?”เจิ้งซีเหอถาม
“อืม……ตัวแทนจากยวี่โจวนั้นไม่เลวเลย แต่ว่ารอบก่อนๆนี้เขาเจอกับคู่ต่อสู้ที่ไม่มีความสามารถมากนัก ผมคาดว่าความสามารถของเขาอย่างมากสุดก็เข้ารอบ16คนสุดท้าย ส่วนคนอื่นๆก็งูๆปลาๆ ไม่มีอะไรน่ากลัวมาก” จูโปหงพูดออกมา
พวกเขาทั้งสองคนต้องดูการแข่งขันในรอบก่อนๆผ่านจอทีวีขนาดใหญ่ที่ฉายตรงมายังห้องนี้ ลู่เฉินมองดูแล้วแข็งแกร่งจริงๆ แต่ทุกครั้งที่เขาคาดเดาก็จะแม่นยำกว่าคู่ต่อสู้เพียงนิดหน่อย แต่เขาก็เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ต้องใช้เวลานานก็สามารถตัดสินแพ้ชนะได้ จึงทำให้ทั้งสองคนเกิดความสนใจ
แต่จากที่พวกเขาดู ลู่เฉินก็ไม่เท่าไหร่ วัยรุ่นสมัยนี้มีความสามารถขนาดนี้ถือว่าไม่เลวแล้ว แต่ก็ยังไม่อาจเปรียบเทียบได้กับปรมาจารย์เดิมพันหินอัญมณีสิบอันดับแรกได้
“ตัวแทนจากยวี่โจวนั้นชื่อว่าลู่เฉิน เขาเก่งมาก ครั้งที่แล้วผมพ่ายแพ้ให้แก่เขาที่ยวี่โจว ผมรู้สึกได้ว่าความสามารถของเขาไม่น้อยไปกว่าเสี่ยวจื่อหยวนเลย พวกคุณไม่ควรที่จะเชิญยวี่โจวเข้ามาร่วมด้วยแข่งขันด้วย” เจิ้งซีเหอพูดกับพวกเขา
“นี่มัน……” หยางมู่ตกตะลึงและมองไปทางเจิ้งซีเหอ “คุณไม่ได้ล้อผมเล่นใช่ไหม?คุณแพ้เจ้าหมอนั่นเนี่ยนะ?”
“ท่านประธานครับ ท่านคิดว่าคนอย่างผมจะหยิบยกเอาชื่อเสียงของตัวเองมาล้อเล่นหรือ? การแข่งขันสองสนามที่ผ่านมา เขาแสดงออกแบบนั้นเพียงเพราะเก็บแรงเอาไว้เฉยๆเท่านั้น ดีไม่ดีการแข่งขันในครั้งนี้เขาอาจจะชนะเมืองจงไห่และเมืองหลวงก็เป็นได้” เจิ้งซีเหอพูดอย่างหนักแน่น
หยางมู่และจูโปหงขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
พวกเขาไม่ได้สงสัยในคำพูดของเจิ้งซีเหอ แต่รู้สึกว่านี่มันเกินความคาดหมาย เหตุใดในวันนี้จึงมีคนที่มากความสามารถกว่าเจิ้งซีเหอปรากฏมาอีกคนหนึ่งกันเล่า! อีกทั้งเขาผู้นั้นมีอายุเพียงแค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้น
ตอนที่พวกเขาทำรายชื่อออกการ์ดเชิญ ก็ได้คำนึงถึงทุกๆด้านอย่างรอบคอบแล้ว หากปรมาจารย์เมืองใดที่มีความสามารถมากกว่าเจิ้งซีเหอ พวกเขาก็ไม่ได้ส่งการ์ดเชิญไป อาทิเช่นเสี่ยวจื่อหยวน
หากพวกเขารู้ว่าที่ยวี่โจวมีปรมาจารย์เก่งกาจเช่นนี้ซ่อนเอาไว้ พวกเขาจะกล้าออกปากเชิญยวี่โจวมาร่วมงานหรือ!
“เจิ้งซีเหอ คุณมีความคิดอะไรดีๆไหม?” หยางมู่ครุ่นคิดแล้วมองไปทางเจิ้งซีเหอ ในครั้งนี้พวกเขาจะต้องทำให้เจิ้งซีเหอได้รับรางวัลชนะเลิศมาให้ได้ พวกเขาได้คิดแผนการในการกดดันเรียบร้อยแล้ว กระทั่งเวลาฉุกเฉินขึ้นมาจริงๆต่อให้พวกเขาต้องลงกำลังทรัพย์มากเพียงใด ก็จะต้องทำให้เสี่ยวจื่อหยวนแพ้ให้ได้
แต่บัดนี้งานได้ดำเนินมากว่าครึ่งและต้องสะดุดลง เนื่องจากมีผู้มากความสามารถปรากฏขึ้นกลางงาน ทำให้แผนการของพวกเขายุ่งเหยิง ไม่เป็นไปตามที่กำหนด
“การเดิมพันหินอัญมณีนั้นจำเป็นต้องใช้สมาธิและสติอย่างมาก หากต้องการเอาชนะลู่เฉิน พวกเราสามารถแก้ไขกฎกติกาได้ เพียงแค่เขาใช้สมาธิและสติมาจนหมดสิ้น เขาก็ไม่สามารถที่จะเดาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ” เจิ้งซีเหออธิบาย
“หากเป็นเช่นนี้ คนอื่นๆจะไม่วิพากษ์วิจารณ์เราลับหลังหรือ?” จูโปหงขมวดคิ้วถามขึ้น
แต่หยางมู่กลับแววตาเป็นประกายและพูดว่า “วิธีนี้ดีจริงๆ!รอให้เขาเข้าไปที่รอบแปดคนสุดท้ายก่อน พวกเราก็ทำการปรับปรุงกติกา ส่วนเรื่องการติฉินนินทาหลังจากนี้ไม่ต้องไปคำนึงให้มากนัก หากใครไม่อยากเข้าร่วมก็สามารถกลับไปได้ เราเองก็จะได้มีเหตุผลในการยกเลิกการแข่งขันเนื่องจากพวกเขาขาดคุณสมบัติ”
เจิ้งซีเหอพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถูกต้องครับ อีกทั้งพวกเราเป็นเจ้าถิ่น การที่จะเอาที่หนึ่งมาได้ก็เป็นเรื่องไม่ยากมากนัก อีกทั้งหากพวกเราแข็งข้อสักหน่อย ยวี่โจวก็คงจะต้องปิดปากเงียบไม่กล้าเถียง”
จูโปหงครุ่นคิดแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย “งั้นพวกเราไปจัดการเถอะ”
อีกห้องหนึ่งของโรงแรม
“ท่านปรมาจารย์เสี่ยวครับ ทางเราค้นพบม้ามืด” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งหันมากล่าวกับเสี่ยวจื่อหยวน
เสี่ยวจื่อหยวนค่อยๆลืมตาขึ้น จากนั้นมองไปยังหน้าจอที่ชายวัยกลางคนผู้นั้นชี้แล้วพูดว่า “”ท่านเสี่ยว เจ้าหมอนี่ชื่อว่าลู่เฉิน เขาเป็นลูกศิษย์ของหยุนจองฉีและเป็นลูกชายของลู่เทียนซิง พวกเราเคยสืบข้อมูลของเขาแล้ว ตอนนี้เขาสามารถเอาชนะเจิ้งซีเหอได้อย่างง่ายดาย ในการแข่งขันครั้งนั้นเขาเอาชนะด้วยน้ำหนักคลาดเคลื่อนเพียง 7 กรัม ส่วนเจิ้งซีเหอมีความคลาดเคลื่อนมากกว่าเขาถึงสองเท่า”
เสี่ยวจื่อหยวนได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างแล้วมองไปยังลู่เฉิน
“อืม……คล้ายมาก เขาคล้ายกับลู่เทียนซิงมากจริงๆ นี่คือลูกชายของเขาไม่ผิดเพี้ยน! พวกคุณมีวิดีโอตอนที่เขาทำการแข่งขันกับเจิ้งซีเหอหรือไม่?” เสี่ยวจื่อหยวนถาม
“มีครับ พอดีว่าผมเอามาด้วย” ชายวัยกลางคนพูดนั้นพูดขึ้นและไม่ต้องรอให้เสี่ยวจื่อหยวนเอ่ยอะไรขึ้นอีก เขาก็หยิบ USB ขึ้นมาและเสียบไปที่หน้าจอ
ไม่นานหน้าจอขนาดใหญ่ก็ปรากฏภาพวิดีโอที่ลู่เฉินแข่งขันกับเจิ้งซีเหอในครั้งนั้น
วิดีโอถูกฉายเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว เสี่ยวจื่อหยวนมีสีหน้าเคร่งขรึม
จากในวิดีโอเขาสามารถรับรู้ได้ว่าเจิ้งซีเหอพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ลู่เฉินมองไปคล้ายกับกำลังเล่นของเล่นอยู่ แต่ผลที่ออกมาปรากฏว่าลู่เฉินทายน้ำหนักได้คลาดเคลื่อนน้อยกว่าด้วยซ้ำ
“ได้ข่าวลู่เฉินน่าจะได้รับการถ่ายทอดมาจากหยุนจองฉีโดยตรง ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถเอาชนะเจิ้งซีเหอได้” ชายวัยกลางคนพูดกับเสี่ยวจื่อหยวนและมองไปที่วิดีโอ
“ไม่เพียงแต่ได้รับการถ่ายทอดจากหยุนจองฉีเท่านั้น ในวงการเดิมพันหินอัญมณีนี้ เขาคงจะเป็นคนที่มีความสามารถที่สุดแล้ว”เสี่ยวจื่อหยวนส่ายหัวแล้วพูดออกมา
เขาและหยุนจองฉีนับว่าเป็นคู่แข่งกันมาช้านาน และได้ประลองกันนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็เอาชนะหยุนจองฉีได้เพียงครั้งเดียว อีกทั้งชนะแบบคาบลูกคาบดอกในสนามประลองการแข่งขันเริ่มต้นเท่านั้น
ส่วนการแข่งขันในสนามจริง เขาไม่เคยเอาชนะหยุนจองฉีได้เลย แต่การที่หยุนจองฉีเอาชนะเขาได้นั้น ความคลาดเคลื่อนก็ไม่ได้ห่างกันสักเท่าไหร่
ต่อให้เป็นเช่นนี้เขาก็ไม่ได้มีความสามารถมากไปกว่าเจิ้งซีเหอสักเท่าไหร่ แต่ลู่เฉินกลับเอาชนะเจิ้งซีเหอได้อย่างง่ายดาย สามารถคาดเดาได้ว่าลู่เฉินมีความสามารถแท้จริงขนาดไหน อาจจะมากกว่าเขาหรือแม้กระทั่งหยุนจองฉีออกมาต่อสู้เองก็อาจจะสู้ลู่เฉินไม่ได้
“จะทำยังไงกันดีครับ? คุณนายท่านกำชับไว้ว่าพวกเราจะต้องเอาชนะการเดิมพันหินอัญมณีในครั้งนี้ให้ได้ แต่ตอนนี้ลู่เฉินได้เข้ามาร่วมงานแข่งขันด้วย คุณคิดว่าพวกเราจะมีวิธีเอาชนะเขาได้หรือไม่?” ชายวัยกลางคนผู้นั้นพูดด้วยความกังวล