พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่ 306 ทางถอยสุดท้ายของหลานหลิง
บทที่ 306 ทางถอยสุดท้ายของหลานหลิง
“คุณชายลู่ รถพวกนั้นหน้าจะเป็นรถที่ซุ่มโจมตีคุณหลินอี้จุนแน่ๆเลยครับ” ซ่งไห่ที่นั่งอยู่ตรงที่นังคนขับกล่าว
“คุณชายลู่ มีรถA8 คันหนึ่ง กำลังมา แต่เขาก็หยุดรถข้างๆกับรถสองสามคันนั้น พวกเขาน่าจะรอให้คุณหลินอี้จุน มาแน่ๆเลยครับ” หลินตงพูดขณะมองไปที่รถA8 ที่อยู่ข้างหน้า
“ใช้ปืนพก ระเบิดยางทั้งหมดของรถพวกนี้ซ่ะ” ลู่เฉินพยักหน้าและเหมือนมีเจตนาฆ่าแวบขึ้นมาในดวงตาของเขา เขาอยากรู้ว่าใครกันที่ไม่อยากอยู่ร่วมโลกกับเขา
เขาเคยอดกลั้นเพราะเขาไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของเสี่ยวเบชิง และในเมื่อเสี่ยวเบชิงยังเหมือนเดิม เขาก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนความแข็งแกร่งของเขาอีกต่อไป และเขาไม่คาดคิดเลยว่ายังมีพวกไม่ลืมหูลืมตาต้องการหาเรื่องเขาอีก
“โอเค ครับ” หลินตงตอบและขับรถไปข้างๆที่รถพวกนั้นจอดอยู่
ซ่งไห่หยิบ Desert Eagle(ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ)ลดกระจกรถลงแล้วกระแทกกระดานของปืน
กระสุนของ Desert Eagle นั้นทรงพลังมากและคล้ายกับ AK47 ไม่ต้องพูดถึงรถพวกนี้ที่ยังจอดอยู่ ต่อให้จะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงตราบใดที่กระสุนโดนยางยางก็จะปลิวได้เช่นกัน
ตูม!
กระสุนพุ่งทะลุยางรถยนต์คันแรกและจู่ๆยางก็ระเบิด
ยางรถระเบิด “ตูม!” คนบนรถที่ยางระเบิดถึงจะรู้ตัว และทยอยออกจากรถกัน และก็ดึงปืนออกมากราดยิ่งไปที่รถของลู่เฉิน
หลินตงไม่สนใจ เขาก็แค่ขับรถต่อไปข้างหน้าเท่านั้น
ขณะที่พวกเขาขับผ่านรถเหล่านั้นอย่างรวดเร็วซ่งไห่ก็ระเบิดยางของพวกเขาจนหมดเกลี้ยงแล้ว
รวมถึงรถA8 ที่ต้องการเร่งความเร็วเพื่อหลบหนีในสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้ แต่ก็ถูกยิงล้อหลังเช่นกัน
“Desert Eagle ใช้ดีจริงๆเลยนะเนี้ย” ซ่งไห่เป่าปากกระบอกปืนที่ร้อนแล้วพูดขึ้น
“เปลี่ยนหัวกระสุนและเตรียมจับเป็นสักคนสองคน”ลู่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“รับทราบครับ” ซ่งไห่ตื่นเต้นและรีบเปลี่ยนหัวกระสุนใหม่
หลินตงจอดรถข้างทางจากนั้นก็กระโดดลงจากรถพร้อมกับซ่งไห่และพุ่งไปอย่างรวดเร็วที่
รถที่ถูกทิ้งร้างไว้ไม่กี่คัน
คนมากกว่าสิบคนรีบกระโดดลงจากรถ ทุกคนถือปืนพกซ่อนอยู่หลังรถ
“ลูกพี่ครับ พวกเราดูเหมือนจะถูกจับได้แล้ว” ชายหนุ่มโทรบอกหลานจิง
“เกิดอะไรขึ้น? ถ้าภารกิจล้มเหลวพวกแกไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้า!” เสียงของหลานจิงเย็นชามากในโทรศัพท์
พวกเขาเป็นนักฆ่าที่ได้รับการปลูกฝังโดยตระกูลหลานและพวกเขามีความเด็ดขาดมาโดยตลอด
“พวกเราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นครับ รถเป้าหมายของเราจะมาถึงในอีกไม่กี่นาที แต่จู่ๆก็มีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามาจากด้านหลังเราและระเบิดยางของรถเราหลายคันเลยครับ” เด็กหนุ่มกล่าว
“ไอ่พวกขยะเอ๊ย! พวกแกถูกจับได้แล้วนะสิ กลับออกไปก่อน หากอีกฝ่ายพบเบาะแสใด ๆ ฉันจะเป็นคนแรกที่ฆ่าแก!” หลานจิงอยากจะทุบโทรศัพท์นั้นด้วยความโกรธเพราะครั้งนี้ภารกิจล้มเหลว มันยากที่จะหาโอกาสใหม่ได้อีก
แต่ในขณะนี้เสียงปืนสองสามนัดดังมาจากโทรศัพท์มือถือของเขาจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของใครบางคนล้มลงพร้อมกับเสียงโหยหวนที่เจ็บปวด
“ลูกพี่ครับงั้นแค่นี้ก่อนนะครับ พวกมันมาที่นี่แล้ว” อีกฝ่ายวางสายโทรศัพท์ทันที
สีหน้าของหลานจีงดูไม่ค่อยสู้ดีนักและเขาเงยหน้าขึ้นมองหลานหลิง
“พัง?” หลานหลิงถามขึ้นอย่างเฉยๆ
“อื้ม ฉันไม่รู้ว่าจุดไหนกันที่มีปัญหาจนทำให้ถูกจับได้” หลานจิงพยักหน้าและกล่าว
“พวกคุณประเมินบอดี้การ์ดของลู่เฉินต่ำไป” หลานหลิงจิบเครื่องดื่มของเขาและพูดว่า “บอดี้การ์ดของลู่เฉินแต่ละคน ล้วนเป็นทหารที่มีค่าตอบแทนสูงจากตะวันออกกลางพวกเขาอยู่ในสนามรบและพวกเขามีความว่องไวสูงมาก แต่ในทางกลับกันคนเหล่านี้ที่คุณฝึกมาแม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะได้รับการฝึกฝนตามมาตรฐานนักฆ่า แต่พวกเขาขาดการฝึกฝนการต่อสู้จริงในสนามและประสบการณ์ไม่เพียงพอสำหรับทหารเหล่านั้นดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะพลาด ”
“ฉันรู้แล้ว ต่อไปฉันจะเพิ่มการฝึกการต่อสู้ในสนนามจริงอีก” หลานจิงกล่าวอย่างละอายใจ
พูดตามตรงเขาเชื่อมั่นในกลุ่มนักฆ่าที่เขาฝึกฝนเองนี้มาตลอด และบอดี้การ์ดที่ลู่เฉินซื้อตัวมาพวกนั้นเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
“ฉันหมายความว่า สิ่งนี้ที่มันล้มเหลวลง ทำให้พวกเขาได้รับบทเรียน ในครั้งต่อไปพวกเขามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องฆ่าพวกเขาเลย” หลานหลิงกล่าว
“แต่ภารกิจของพวกมันล้มเหลว แล้วถ้าไม่ฆ่าพวกมัน ก็จะไม่มีอะไรใช้เตือนคนอื่นให้เชื่อฟังได้อีก” หลานจิงกล่าว
หลานหลิงยิ้มและหัวเราะเยาะ: “ลุงจิงค่ะ ลุงดื้อเกินไปแล้ว คุณรู้ไหมว่าตระกูลหลานของเราต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นล้านในการฝึกฝนคนพวกนี้ หากคนพวกนี้ไม่สามารถทำงานให้สำเร็จได้ในวันนี้คุณก็จะฆ่าพวกเขาแล้วพรุ่งนี้คนกลุ่มนั้นจะไม่สามารถทำงานให้เสร็จได้และคุณก็จะฆ่าพวกเขาอีก และถ้าคนที่เหลือไม่สามารถทำงานให้เสร็จได้คุณก็จะฆ่าพวกเขาทั้งหมดเลยใช่ไหม?
ในใจของหลานจิงตกใจมาก เขารู้แล้วว่าตอนนี้คุณผู้หญิงคนนี้ไม่พอใจเขามากในตอนนี้ แต่ถ้าเขาไม่ทำเช่นนี้แล้ววันข้างหน้าเขาจะควบคุมคนอื่นได้อย่างไร?
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะลงโทษพวกเขาด้วยวิธีอื่น” หลานจิงพยักหน้าและกล่าว
“อื้ม ” หลานหลิงพยักหน้าและกล่าวว่า “การลงโทษไม่ใช่จุดประสงค์หลัก จุดประสงค์คือเพื่อให้พวกเขาปรับปรุงความจำและพยายามทำงานให้สำเร็จในครั้งต่อไป”
“ใช่ สิ่งที่คุณผู้หญิงพูดนั้นสมเหตุสมผล ฉันจะจำไว้” หลานจิงพยักหน้าและพูดขึ้น
“ดูเหมือนว่าถ้าคุณต้องการลักพาตัวหลินอี้จุนอีกครั้งละก็ น่าจะไม่มีทางเป็นไปได้แล้วล่ะหนทางเดียวในตอนนี้คือการลักพาตัว ลู่ฉีฉี แต่วันนี้ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน แต่พรุ่งนี้ ลู่เฉินจะปล่อยให้ลูกสาวของเขาไปโรงเรียนแล้ว” หลานหลิงเอนกายลงบนโซฟา และในใจก็เกิดความรู้สึกกังวลเล็กน้อย
เธอไม่เคยต้องการที่จะต่อสู้กับลู่เฉิน แต่ครอบครัวของฉันได้พบยวี่โจวด้วยตัวเองและได้ให้คำสั่งสุดท้ายแก่เธอ พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของเธอ ถ้าเธอไม่สามารถทำงานให้สำเร็จได้
เธอเชื่อว่าหลานจัวจะไม่ปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน แม้พ่อของเธอจะมีส่วนร่วมด้วยก็ตาม
“คุณผู้หญิง ฉันคิดว่าความเป็นไปได้ที่เราจะลักพาตัวครอบครัวของลู่เฉินได้ในตอนนี้ต่ำมาก” หลานจิงกล่าว
“แล้วคุณคิดจะทำยังไงต่อไป? ลักพาตัวครอบครัวของลู่เฉิน นี่ก็เป็นความคิดของคุณ พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณแล้ว ไม่มีเวลาแล้ว คุณต้องคิดวิธีดีๆให้ฉันแล้วล่ะ
หลานหลิงมองไปที่หลานจิงอย่างโกรธแค้น เธอไม่ได้ตั้งใจจะใช้วิธีนี้ตั้งแต่แรก เพราะเธอรู้ว่าหลังจากที่เธอทำแบบนี้ลงไป จะไม่มีการคืนดีระหว่างเธอกับลู่เฉินอีกต่อไป
แต่เพราะหลานจิงก็เกลี้ยกล่อมเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอต้องเลือกที่จะลักพาตัวหลินอี้จุนเพื่อต่อรองกับลู่เฉิน
แต่ตอนนี้ภารกิจของหลานจิงนั้นล้มเหลวแล้ว และพวกเขาก็ตกใจมาก เพราะขนาดโอกาสที่จะลักพาตัวลู่ฉีฉีให้สำเร็จก็ยังไม่มีเลย
“ฉัน…ฉันจะไปจับตัวลู่เฉินเอง!” หลานจิงพูดอย่างกะทันหันด้วยสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน
หลานหลิงมองไปที่หลานจิงและหัวเราะเยาะ: “ลุงจิงไม่ใช่ว่าฉันประเมินคุณต่ำไปหรอกนะ แต่
ความแตกต่างระหว่างคุณกับลู่เฉินมันเทียบกันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ”
เธอยืนขึ้นและพูด: “พอเถอะ อย่ายุ่งกับรื่องนี้อีก ฉันจะจัดการมันเอง”
หลานหลิงมองไปที่หลานจิงอย่างเฉยเมย จากนั้นก็หันหลังเดินออกจากห้องไป
เธอได้คิดหาทางแก้ไขเรื่องนี้เอาไว้แล้ว อาจจะเสี่ยงหน่อย แต่นี่คือทางถอยสุดท้ายของเธอแล้ว