พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่ 407 เอาชนะหลินโพ่จวูน
บทที่ 407 เอาชนะหลินโพ่จวูน
“คุณลู่ คุณทำแบบนี้ดูจะเกินไปหน่อยนะ คุณมาหาเรื่องตระกูลโจวของพวกเรา เรายังพอเข้าใจได้ แต่คุณทำให้หลินโพ่ไห่อับอายแบบนี้ นี่มันเรื่องอะไรกัน? ตระกูลโจวของเราไม่กล้ายุ่งกับคุณ แต่ที่นี่คือภาคกลาง ไม่ใช่ยวี่โจว คุณจะอาละวาดตามอำเภอใจแบบนี้ไม่ได้” โจวซวี่นฉายเป็นคนเจ้าเล่ห์ พอรู้ว่าตระกูลหลินไม่ยอมยุติเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่ เขาจึงแสดงจุดยืนอยู่ฝ่ายตระกูลหลิน
“ถูกต้อง ถึงบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีของคุณจะทำให้ทั้งโลกตกตะลึงและพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชั้นนำมากมาย แต่ที่นี่คือภาคกลาง ตระกูลซ่งของเราจะไม่ปล่อยให้คุณมาทำอะไรไร้เหตุผลที่ถิ่นพวกเรา”ซ่งเหลียนหัวผู้เป็นผู้นำครอบครัวตระกูลซ่งมองลู่เฉินพลางฮัมเสียงเย็นชา
เมื่อซ่งเหม่ยลี่เห็นว่าพ่อของเธอกำลังจะปะทะกับลู่เฉิน ดวงตาของเธอก็ขมวดลงเล็กน้อย
เธอดูออกว่าลู่เฉินไม่เห็นตระกูลหลินอยู่ในสายตา เพราะไม่อย่างงั้นเขาก็คงไม่บอกว่าจะทำลายมือของหลินโพ่ไห่และเขาก็ทำแบบนั้นจริงๆ
เธอไม่เชื่อที่คนอื่นคาดเดาว่าลู่เฉินไม่รู้จักครอบครัวที่ซ่อนอยู่
ซึ่งในทางตรงกันข้าม หลังจากที่หลินโพ่ไห่ได้แสดงสถานะของตัวเองแล้ว เธอก็เห็นแววตาดูถูกผ่านดวงตาลู่เฉิน
นั่นก็อธิบายได้ว่าลู่เฉินไม่ได้ไม่รู้จักครอบครัวที่ซ่อนอยู่ แต่เป็นเพราะเขาไม่ได้เห็นครอบครัวที่ซ่อนอยู่อยู่ในสายตา
ไม่ว่าเขาจะมาจากครอบครัวที่ซ่อนอยู่หรือเคยต่อสู้กับตระกูลที่ซ่อนอยู่
เธอก็ยังคิดว่าการที่พ่อของเธอเลือกข้างในเวลานี้ เป็นการเลือกที่ไม่ฉลาดเอาซะเลย
เธอยืนขึ้นอย่างเงียบๆแล้วเดินไปหาพ่อของเธอ
“ผู้นำครอบครัวตระกูลโจวและผู้นำครอบครัวตระกูลซ่งพูดถูก ถึงแม้ตระกูลเพียงตระกูลเดียวจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าคุณ แต่ถ้าตระกูลพวกเราร่วมมือกันล่ะ? คุณต้องการเป็นศัตรูกับห้าตระกูลใหญ่แห่งภาคกลางอย่างพวกเรา หรือจะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกล่ะ?” ผู้นำครอบครัวตระกูลเฉินพูดเย้ยหยัน
ตระกูลใหญ่ในภาคกลางเหล่านี้ล้วนต้องการผูกมิตรกับตระกูลหลินแห่งภาคตะวันออกเฉียงใต้ ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่พวกเขาจะแสดงตน
อย่างไรก็ตามคนตระกูลหลันยังคงมองลู่เฉินโดยไม่พูดอะไร
พวกเขายังคงนั่งอยู่ มีเพียงตระกูลหลันของพวกเขาที่รู้ถึงความน่ากลัวของลู่เฉิน ตระกูลของพวกเขาก็โดนลู่เฉินทำลายมาแล้ว
แน่นอนว่าตระกูลหลันไม่เอื่อยปากเตือนคนอื่นๆ
เพราะในตอนนี้ตระกูลหลันของพวกเขาอ่อนแอมาก และหวังว่าจะได้เห็นตระกูลอื่นทนทุกข์จากเงื้อมือของลู่เฉิน
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้นำครอบครัวจากหลายตระกูล ในที่สุดลู่เฉินก็เงยหน้ามองพวกเขา จากนั้นก็พูดเรียบๆ “ดูเหมือนว่าตระกูลหลินแห่งภาคตะวันออกเฉียงใต้จะมีความสามารถพอสมควร เพราะไม่อย่างงั้นพวกคุณเหล่านี้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำครอบครัวอันดับต้นๆแห่งภาคกลางถึงได้ทยอยพากันเลียแข้งเลียขากันไปหมด”
“แต่ว่า แล้วยังไงล่ะ ผมลู่เฉินไม่ได้สนใจคนกระจอกอย่างพวกคุณอยู่แล้ว”
ลู่เฉินกวาดตามองไปยังกลุ่มผู้นำครอบครัวด้วยสายตาเหยียดหยาม
ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินว่าผู้นำครอบครัวตระกูลใหญ่หลายตระกูลแห่งภาคกลางร่วมมือกันกดดันลู่เฉิน นี่เป็นการร่วมมือที่แข็งแกร่งที่สุดของผู้นำครอบครัวห้าตระกูลใหญ่ในภาคกลางเพื่อต่อกลอนกับบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉี
แม้ว่าบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีจะล้ำเลิศแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจล่วงเกินความร่วมมือของห้าตระกูลใหญ่ได้อย่างง่ายๆ
นอกจากนี้ยังมีตระกูลหลินซึ่งเป็นครอบครัวที่ซ่อนอยู่
ตอนที่ลู่เฉินพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าตระกูลใหญ่ทั้งห้าคุกเข่าเลียแข้งเลียขาตระกูลหลินแห่งภาคตะวันออกเฉียงใต้โดยไม่มองหมาเลียเท้าพวกนี้อยู่ในสายตา ทุกคนก็ตกใจและโมโห จากนั้นก็เหยียดหยาม
บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉียอดเยี่ยมมากไม่ใช่เรื่องโกหก แต่เขาจะมาอาละวาดแบบนี้ไม่ได้
ในภาคกลางไม่มีใครแล้วจริงๆเหรอ?
“นายก็คือลู่เฉิน เจ้าของบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีคนนั้นน่ะเหรอ?” หลินโพ่จวูนไม่สนใจคนอื่น เขาจ้องลู่เฉินด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“ฉันเอง นายล่ะ?” ลู่เฉินหันไปทางหลินโพ่จวูน
“นายรู้ไหมว่าคนที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้านายตอนนี้เป็นใคร?”หลินโพ่จวูนกำหมัดแน่น
“พี่สาม ช่วยผมด้วย ผมต้องการให้ไอ้หมาพันธุ์ผสมสามตัวนี้มีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย!” เมื่อได้ยินเสียงหลินโพ่จวูน ในที่สุดหลินโพ่ไห่ที่คุกเข่าหมอบอยู่กับพื้นก็ตะโกนออกมาโดยมีซู๋จิงกดไว้ เขาไม่สามารถแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นได้
“ไอ้คนแซ่ลู่ แกคอยดูเถอะ ถ้าฉันหลินโพ่ไห่ไม่เอาแกไปเป็นอาหารปลา ฉันก็จะไม่ใช้แซ่หลิน พี่สาม พี่รีบมาฆ่าไอ้หมาพันธุ์ผสมสามตัวนี้เร็วๆหน่อยสิ พวกมันทำมือขวาของผมหักไปแล้ว!” หลินโพ่ไห่ตะโกนอย่างทนไม่ไหว
“นี่คือสิ่งที่เรียกว่าตระกูลหลินแห่งภาคตะวันออกเฉียงใต้งั้นสิ? ผู้แข็งแกร่งด้านฝีปากเหรอ?” ลู่เฉินเหลือบมองหลินโพ่ไห่ที่พูดจาเกรี้ยวกราดอยู่ที่พื้นด้วยสีหน้าติดตลก
“รนหาที่ตาย ตระกูลหลินเป็นตระกูลที่คนธรรมดาอย่างแกจะยกมาต่อว่าได้งั้นเหรอ?” หลินโพ่จวูนตะคอกออกมาและก้าวไปข้างหน้าพุ่งตัวไปทางลู่เฉิน
ไม่แปลกใจเลยที่หลินโพ่จวูนจะเป็นผู้ระดับแข็งแกร่งลำดับสองของตระกูลหลิน ถ้าเขาไม่ลงมือก็คงจะน่าแปลกใจ แต่พอลงมือก็ถึงกับหินพังทะลายฟ้าสะเทือน
หลินโพ่จวูนเผชิญหน้าราวกับนักฆ่าบุกผ่าลำไผ่ ลู่เฉินปัดโต๊ะจนโต๊ะกระแทกไปทางหลินโพ่จวินอย่างรุนแรง
หลินโพ่จวูนไม่ได้หลบเลี่ยง ทั้งยังฟาดหมัดลงบนโต๊ะ โต๊ะโดนเขาทุบเป็นชิ้นๆในทันใด
เขายังคงโผเข้าหาลู่เฉินโดยไม่หยุดฝีเท้า
ลู่เฉินนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ขยับ หมัดเร็วราวกับสายลมและแลกหมัดกับหลินโพ่จวูน
ทั้งสองออกมือกันเร็วมาก คนทั่วไปต่างก็มองไม่ชัด เห็นเพียงเงามือของทั้งสองโฉบไปมา แต่กลับไม่รู้ว่าใครดีใครด้อย
ทว่าลู่เฉินยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ หลินโพ่จวูนไม่สามารถทำให้เขาลงจากเก้าอี้ได้แม้แต่ครึ่งก้าว จะเห็นได้ว่าลู่เฉินมีความแข็งแกร่งกว่าหลินโพ่จวูน
เมื่อหลินเจิ้นตงเห็นภาพนี้ก็หรี่ตาลงเล็กน้อย แม้ฝีมือของหลินโพ่จวูนจะไม่แกร่งเท่าเขา แต่ก็ไม่ต่างจากเขามากนัก ไม่คาดคิดว่าลู่เฉินจะแข็งแกร่งกว่าหลินโพ่จวูน หรือเจ้าหนุ่มคนนี้จะมาจากครอบครัวที่ซ่อนอยู่?
“หรือว่าเขาจะเป็นคนตระกูลลู่?” หลินเจิ้นตงสั่นเล็กน้อย ตระกูลหลินของพวกเขาครอบครองภาคตะวันออกเฉียงใต้ แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นอ่อนแอกว่าตระกูลลู่อยู่มาก
ก่อนที่ตระกูลลู่ยังไม่ได้ไปยุโรป พวกเขาก็ได้รับการยอมรับจากหัวเซี่ยว่าเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของครอบครัวที่ซ่อนอยู่ ตระกูลลู่ยังมีนักศิลปะการต่อสู้ระดับแข็งเกร็งที่แข็งแกร่งกว่าเขาอยู่หลายคน ถ้าลู่เฉินเป็นคนของตระกูลลู่จริง ตระกูลหลินของพวกเขาก็คงไม่กล้าทำเกินกว่าเหตุ
ตอนที่หลินโพ่ไห่ถูกซู๋จิงใช้เท้าเหยียบ ในใจเขาก็โมโหสุดขีดและคิดว่าจะฆ่าลู่เฉินกับพวกได้อย่างไร แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถพูดอะไรได้สักคำ
ทุกคนสามารถได้ยินเพียงเสียงของเขาที่คำรามด้วยความโมโหและอึดอัดใจอยู่ในลำคอไม่หยุด ใบหน้าทั้งหน้าของหลินโพ่ไห่ถูกซู๋จิงเหยียบติดพื้น ปากก็จูบกับพื้นโดยตรงจนพูดไม่ออก
แต่ในเวลานี้ไม่มีใครสนใจความรู้สึกของเขามากนัก
เพราะในเวลานี้พวกเขาต่างก็ช็อกกันไปหมด พวกเขาไม่คิดเลยว่าลู่เฉินจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แม้กระทั่งหลินโพ่จวูนก็ดูเหมือนจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แล้วหลินเจิ้นตงล่ะ จะทำอะไรเขาได้ไหม?
ตูม!
ในขณะที่ในใจของทุกคนกำลังอยู่ในอาการตกตะลึง ทันใดนั้นก็เห็นว่าลู่เฉินใช้ฝ่ามืออัดไปที่หน้าอกของหลินโพ่จวูน หลินโพ่จวูนกระอักเสียงออกมาและปลิวออกไปทั้งตัว
เมื่อหลินเจิ้นตงเห็นเหตุการณ์ หน้าก็ถอดสี เขารีบก้าวเข้ามารับตัวหลินโพ่จวูน
ตึกตักตึกตัก!
ทว่าสิ่งที่ทำให้หลินเจิ้นตงตกใจก็คือตอนที่เขาเข้าไปรับหลินโพ่จวูน ร่างของเขาก็ถูกโจมตีด้วยแรงชนที่ทรงพลังอย่างไม่มีใครเทียบได้และถอยออกไปหลายก้าว
สีหน้าหลินเจิ้นตงเปลี่ยนไปมาก
นี่มันอะไรกัน?
นี่แสดงให้เห็นว่ากำลังภายในของลู่เฉินนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขา!