พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่ 414 คนตงอิ๋ง
บทที่ 414 คนตงอิ๋ง
“คนหัวเซี่ยสองคนนี้เด็ดจริงๆ ถ้าทำให้พวกเธอถ่ายหนังให้บริษัทเราจะต้องดังกว่าโซระ อาโออิแน่ๆ” คนตงอิ๋งที่สวมแว่นตาพูดด้วยภาษาตงอิ๋ง
“อืม จะต้องทำให้วงการ AV ของเรากลับมาสู่จุดสูงสุดอีกครั้งได้อย่างแน่นอน” คนตงอิ๋งที่ผอมกว่าอีกคนพยักหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความลามก
“ฉันสนิทกับหวังจูนเจ้าของคาสิโน อย่างงั้นเราไปหาเขาให้เขาช่วยและพานังหนูสองคนนี้เข้าบริษัทเราดีไหม?” ชายสวมแว่นตากล่าว
“ลองดูก็ได้ แกโทรหาหวังจูนซิ ดูท่าทีของเขาก่อน ถ้าพาพวกเธอสองคนเข้าบริษัทเราได้จริงๆ พวกเราจะต้องได้โชคมาสักก้อน” ชายร่างผอมพยักหน้าพูด
ชายสวมแว่นหยิบโทรศัพท์ออกมากดต่อสายหมายเลขหนึ่ง หลังจากวางสายก็ทำท่า “OK” จากนั้นก็เดินเข้าไปหาพวกลู่เฉินสามคน
“ทั้งสามท่านก็ไปเที่ยวเมืองปิงด้วยเหรอครับ” ทั้งสองนั่งลงข้างลู่เฉินและถามอย่างสุภาพ
“อืม แล้วยังไง?” ลู่เฉินเหลือบมองแขกที่ไม่ได้รับเชิญทั้งสองแล้วพูดอย่างเฉยเมย
“เอ๊ะ พวกเราก็มาจากเมืองปิง เรามาเที่ยวจงไห่คราวนี้ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากชาวหัวเซี่ยอย่างพวกคุณ พอดีเลย พวกคุณไปเที่ยวบ้านเกิดของเรา เราก็จะได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านให้อย่างดีที่สุด” ชายสวมแว่นตาพูดด้วยความกระตือรือร้น
ลู่เฉินมองคนทั้งสอง แม้ว่าทั้งสองคนนี้วางตัวดีมาก แต่ความแพรวพราวนัยน์ตาของพวกเขากลับทรยศ
ลู่เฉินหัวเราะเยาะในใจและรู้ทันทีว่าสองคนนี้ต้องการจะทำอะไรบางอย่าง
เขามองเซียวจื่อซินโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะอยากเห็นว่าเซียวจื่อซินจะรับมืออย่างไร
อย่างไรก็ตามก็ไม่พบสิ่งใดที่น่าสงสัยจากการแสดงออกทางสีหน้าของเซียวจื่อซิน
“เมืองปิงของพวกคุณมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง?” เฉินชูหรันถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนมาจากเมืองปิง
“มีหลายที่เลยแหละ ทั้งศาลเจ้า สวนภูเขาไฟที่ดับแล้ว สวนสนุกโอเชี่ยนปาร์คเป็นต้น พอพรุ่งนี้ไปถึงเมืองปิงแล้ว เราจะเป็นไกด์ให้พวกคุณฟรีๆ” ชายร่างผอมตาเป็นประกายและตอบด้วยความกระตือรือร้น
“จะรบกวนขนาดนั้นได้อย่างไร” เฉินชูหรันส่ายหัว เดิมทีเธอไม่ได้มาเที่ยว เธอก็แค่พูดไปอย่างงั้นเอง
“ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราชาวตงอิ๋งอัธยาศัยดีมาก” ชายร่างผอมยิ้มเล็กน้อย
“จริงด้วย ที่ชั้นหนึ่งมีสิ่งบันเทิงสนุกๆให้เล่นอีกมาก เดี๋ยวพวกเราไปเล่นด้วยกันเป็นไง?” ชายสวมแว่นตาเสนอ
“มีอะไรบ้างล่ะ?” เฉินชูหรันถามด้วยความสงสัย เธอหวั่นไหวเล็กน้อย อีกอย่างตอนนี้ก็เพิ่งจะสองทุ่ม ยังเร็วเกินไปที่จะเข้านอน พอกลับไปที่ห้องก็น่าเบื่อ
กว่าจะมีโอกาสอยู่กับลู่เฉินตามลำพังแบบนี้ก็ควรจะเที่ยวให้มากๆ
“มีห้องเต้นรำ ละครสัตว์ แต่ที่ได้รับความนิยมก็จะเป็นไพ่ลาสเวกัส อย่างงั้นพวกเราลองไปดูกันเถอะ พอพวกคุณเล่นเสร็จคงไม่อยากกลับห้องแน่ๆ” พอชายสวมแว่นตาเห็นทั้งสามคนกินเสร็จแล้วจึงเอ่ยชวน
เฉินชูหรันไม่ได้สนใจของพวกนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าได้เที่ยวเล่นกับลู่เฉิน ความหมายก็ย่อมแตกต่างออกไป
ดังนั้นเธอจึงมองไปทางลู่เฉิน
ลู่เฉินรู้ว่าคนตงอิ๋งสองคนนี้เจตนาไม่ดี แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ พอดีว่าเขานอนไม่หลับถ้าต้องกลับห้องเร็วขนาดนี้ เขาจึงพยักหน้า “งั้นก็ไปดูกันเถอะ”
คนตงอิ๋งสองคนไม่คาดคิดว่าพวกเขาทั้งสามจะติดกับง่ายขนาดนี้ พวกเขาดีใจและคิดว่าเรื่องนี้มีอัตราความสำเร็จค่อนข้างสูง พวกเขาจึงรีบลุกขึ้นและพาทั้งสามคนไปที่ชั้นหนึ่ง
ชั้นล่างของเรือสำราญมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ทั้งห้องล๊อบบี้มีโต๊ะพนันหลายสิบตัว โดยแต่ละโต๊ะก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว บ้างก็เล่นไพ่สตั๊ดห้าใบ บ้างก็เล่นสามใบสไตล์หัวเซี่ย และบ้างก็เล่นแทงลูกเต๋า…
“พวกคุณแลกชิปมาสักหน่อยสิ เล่นเท่าไหร่ก็ตามสบาย แพ้ก็เป็นความบันเทิง ชนะก็ได้ตัง” ชายสวมแว่นตาพูดพลางมองพวกลู่เฉินสามคน จากนั้นเขาก็เดินไปที่เคาน์เตอร์และรูดบัตรแลกชิปมาหนึ่งแสนชิป
เฉินชูหรันกับเซียวจื่อซินล้วนส่ายหน้าเพื่อบอกว่าพวกเธอแค่ดูก็พอแล้ว
“ในเมื่อมาแล้วก็เล่นสักหน่อยสิ” ลู่เฉินยิ้มและแลกชิปมาแสนชิป
คนตงอิ๋งสองคนนั้นดูเหมือนจะกระตือรือร้นให้พวกเขาไปเล่นพนัน เห็นได้ชัดว่ากำลังหลอกเอาเงินเขา
แต่สำหรับการหลอกลวงแบบนี้ แม้แต่เขายังนับถือตัวเอง แน่นอนว่าเขาไม่กลัวเล่ห์เหลี่ยมของชาวตงอิ๋ง
“เล่นในล๊อบบี้ดูจะน่าเบื่อไปหน่อย พวกเราไปเล่นห้องส่วนตัวกันเถอะ” เมื่อชายร่างผอมเห็นลู่เฉินแลกชิปก็พูดยิ้มๆ
“ก็ดี” ลู่เฉินพยักหน้าและตามชาวตงอิ๋งสองคนนั้นไปที่ห้องส่วนตัว
ห้องส่วนตัวมีขนาดใหญ่มาก ตกแต่งอย่างหรูหรา ตอนที่พวกเขาเข้ามาในห้องส่วนตัวก็เห็นคนประมาณ 5-6 คนนั่งอยู่ที่โต๊ะพนันขนาดใหญ่เรียบร้อยแล้ว พวกเขากำลังเล่นแทงลูกเต๋ากันอยู่ ดูเหมือนว่าจะแทงสูงต่ำ
“หวังจูน” ชาวตงอิ๋งทั้งสองพยักหน้าและทักทายชายวัยกลางคน
บนใบหน้าชายวัยกลางคนมีรอยบากที่ดูโหดเหี้ยม
“พวกนายเองเหรอ นั่งเล่นด้วยกันสักตาสิ” ชายคนที่มีรอยบากมองชาวตงอิ๋งสองคนนั้น จากนั้นก็กวาดสายตามองเฉินชูหรันและเซียวจื่อซิน แววตาเป็นประกายลามกอย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสาวงามหยาดเยิ้มอย่างเฉินชูหรัน
ยวี่โจวเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสาวงามนับตั้งแต่สมัยโบราณกาล นอกจากนี้เฉินชูหรันก็นับได้ว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งยวี่โจว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ชายคนที่มีรอยบากจะมีความคิดสกปรก
“มาๆ นั่งก่อนๆ” ชายสวมแว่นตาทักให้พวกลู่เฉินสามคนนั่งในที่นั่งว่างอีกข้างหนึ่งด้วยความกระตือรือร้น จากนั้นทั้งสองก็นั่งติดกับพวกลู่เฉิน
“คุณเสวี่ยนต้าย ทั้งสามท่านนี้เป็นเพื่อนคุณสินะ จะไม่แนะนำให้พวกเรารู้จักสักหน่อยเหรอ?” ชายคนที่มีรอยบากมองไปทางพวกลู่เฉิน และคิดว่าผู้หญิงสองคนนี้เด็ดมาก หากพาไปถ่ายหนังก็ช่างน่าเสียดายเสียจริงๆ
“อัยหยา ถ้าหวังจูนไม่พูด ผมก็คงลืมไปแล้ว ผมชื่อเสวี่ยนต้ายชวน ไม่ทราบว่าพวกคุณทั้งสามท่านชื่ออะไร?” ชายสวมแว่นตายิ้มถามอย่างอายๆ
“ลู่เฉิน พวกเธอสองคนเป็นเพื่อนผม” ลู่เฉินพยักหน้าโดยไม่สนใจจะแนะนำเฉินชูหรันและเซียวจื่อซิน เพราะเขาคิดว่าไม่มีความจำเป็น
“ฮ่าฮ่า ดีใจที่ได้รู้จักทั้งสามท่าน ชายหล่อหญิงงาม เรียกผมว่าหวังเจิน พวกนี้ก็เป็นพวกเพื่อนๆผมเอง พวกเราก็ไปเที่ยวเมืองปิงเหมือนกัน ตอนเย็นๆมันน่าเบื่อ ทุกคนมาเล่นกันสักตาสองตาเป็นไง?” ชายคนที่มีรอยบากพูดกับลู่เฉิน
“ได้สิ ค่ำคืนยังอีกยาวไกล ไม่หาอะไรสนุกๆทำก็คงจะน่าเบื่อ” ลู่เฉินมองชายคนที่มีรอยบากเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม
“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าเพื่อนจะรู้ความเลยทีเดียว งั้นคืนนี้ฉันจะเล่นเป็นเพื่อนนายให้หนำใจไปเลย พวกนายชอบเล่นอะไรล่ะ?” หวังเจินพูดพลางหัวเราะ
“แทงลูกเต๋าแบบที่พวกนายเล่นเมื่อกี้นี้ก็ได้” ลู่เฉินพูด
“แทงสูงต่ำหรือว่าทายแต้ม?” หวังเจินถาม
ลูกเต๋าสามลูกรวมกันได้สูงสุด 18 แต้ม น้อยที่สุดคือ 3 แต้ม ถ้าแต้มรวมของลูกเต๋าสามลูกมากกว่า 9 แต้มถือว่าสูง น้อยกว่า 9 ก็เป็นต่ำ แต่ถ้ารวมสามลูกได้ 6 แต้ม นั่นก็เป็นเสือดาว เจ้ามือจะต้องโดนฆ่า
“แทงสูงต่ำเดิมพันยังไง ทายแต้มเดิมพันยังไง?” ลู่เฉินมองหวังเจินด้วยหน้าตาเรียบเฉย
“สูงต่ำหนึ่งต่อสอง นับแต้มหนึ่งต่อสิบ” หวังเจินมองลู่เฉินด้วยใบหน้ากรุ้มกริ่ม
“งั้นทายแต้มแล้วกัน กระตุ้นสักหน่อย” ลู่เฉินเลิกคิ้วและยิ้มเล็กน้อย
ชายคนที่มีรอยบากและคนอื่นๆตาเป็นประกายและยิ้มได้ใจ