พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่ 415 ทั้งหมดเป็นการแสดง
บทที่ 415 ทั้งหมดเป็นการแสดง
“ดี อย่างงั้นเริ่มที่หนึ่งแสนเป็นไง แต่ถ้าเพื่อนลู่ไม่เห็นด้วยก็เปลี่ยนเป็นหนึ่งหมื่น”
หวังเจินไม่รู้ว่าพวกลู่เฉินสามคนมีเงินอยู่เท่าไหร่ หากดูจากภายนอกพวกเขาสามคนก็น่าจะเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป ทว่าลู่เฉินที่ดูเงียบขรึมกลับทำให้เขาไม่แน่ใจ
โดยทั่วไปแล้วผู้ที่กล้าเล่นทายแต้มไม่ใช่พวกกระจอก แต่เป็นคนเก๋าอย่างแท้จริง เพราะไม่อย่างงั้นใครจะกล้าเล่นขนาดนี้
อย่างไรก็ตามการแสดงออกของลู่เฉินนิ่งเกินไป เขาจึงมองลู่เฉินไม่ออก
“เริ่มที่หนึ่งแสนเเถอะ” ลู่เฉินพูดเรียบๆ
“ดี เพื่อนลู่ช่างตรงไปตรงมา” หวังเจินหัวเราะพร้อมกับหยิบลูกเต๋าสามลูกใส่ในถ้วยเขย่า เขาเขย่าด้วยทักษะมืออย่างคล่องแคล่ว จนกระทั่งส่วนของปากถ้วยหันไปทางด้านล่าง พอดูก็รู้แล้วว่าเป็นเซียนลูกเต๋า
“เพื่อนลู่ทายมาสิ” หวังเจินเอ่ยขึ้นในขณะที่วางถ้วยเขย่าไว้บนโต๊ะ เขามองลู่เฉินเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ลู่เฉินมองมาที่ถ้วยเขย่าโดยไม่ได้ให้คำตอบในครั้งแรก หน้าตาของเขาดูเหมือนจะลังเล
ทุกคนต่างก็อมยิ้ม พวกเขาดูออกว่าลู่เฉินไม่ใช่นักต้มตุ๋นแต่อย่างใด เป็นไปได้มากว่าเป็นแค่นักพนันกระจอกที่ชอบโอ้อวดต่อหน้าสาวงาม
โดยเฉพาะเสวี่ยนต้ายชวนและเพื่อนๆของเขาที่ตื่นเต้นอยู่ในใจอย่างบอกไม่ถูก พวกเขารอให้เจ้าหนุ่มคนนี้แพ้อย่างราบคาบแล้วค่อยใจดีให้พวกเขายืมเงิน พอถึงตอนนั้นจะหนีจากการครอบงำของเขาก็ทำไม่ได้แล้ว
“10…3 แต้ม ผมเดาว่า 13 แต้ม” ลู่เฉินลังเลกว่าสิบวินาทีก่อนที่จะพูดออกมาอย่างลังเล
“เพื่อนลู่แน่ใจนะว่า 13 แต้ม?” หวังเจินคล้ายจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มมองไปทางลู่เฉิน
“แน่ แน่ใจ” ลู่เฉินพยักหน้าเหมือนไม่ค่อยแน่ใจ
เมื่อเห็นท่าทีของลู่เฉิน ทุกคนก็ไม่ลังเลอีกต่อไป
“ดี งั้นตอนนี้ก็เปิดได้” หวังเจินวางมือบนถ้วยเขย่าลงแล้วค่อยๆยกขึ้นด้วยรอยยิ้ม “หวังว่าเพื่อนลู่จะมีโชค…”
หวังเจินยังไม่ทันพูดจบก็ตะลึงงัน เขาเห็นลูกเต๋าสามลูกมีแต้มเป็น 3,5,5 รวมแต้มออกมาไม่ใช่ 13 แล้วจะเป็นอะไรได้
คนอื่นๆก็ดูเหลือเชื่อเช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่าลู่เฉินจะทายแม่นตั้งแต่เกมแรก หรือเจ้าหนุ่มคนนี้จะมีโชคติดตัวมาจริงๆ
ถึงขนาดทายแม่นขนาดนี้เลยหรือนี่
หากไม่ใช่เพราะโชคช่วยจะทายแม่นแบบนี้ได้อย่างไร
แต่พอทุกคนคิดๆดูอีกทีก็คิดว่ามันเป็นเรื่องตลก เจ้าหนุ่มคนนี้ดูก็รู้แล้วว่าเป็นมือใหม่ การที่เขาทายแม่นดูเหมือนจะเป็นเรื่องฟลุ๊คล้วนๆ ดวงดีติดตัวอะไรพวกนั้นก็ไร้สาระสิ้นดี สำหรับนักพนันตัวจริงแล้ว พวกเขาไม่เคยเชื่อสิ่งที่ไม่มีตัวตนอย่างเรื่องดวงเลย พวกเขาเชื่อเพียงฝีมือของตัวเอง
“ว้าว ลู่เฉิน คุณเก่งจังเลย ทายครั้งแรกก็ทายถูกเลย 13 แต้มจริงๆด้วย” เฉินชูหรันพูดอย่างเหลือเชื่อและดูตื่นเต้นเล็กน้อย
“เธอไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร ฉันเป็นเซียนพนันอันดับหนึ่งแห่งยวี่โจวเชียวนะ” ลู่เฉินส่ายหัวอย่างภาคภูมิใจและพูดกวนๆ
เมื่อเห็นลู่เฉินเป็นแบบนี้ ทุกคนต่างก็โล่งใจ หากลู่เฉินแสดงท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตน พวกเขาคงสงสัยว่าลู่เฉินเป็นคนเก๋าจริงหรือไม่ หรือแสร้งทำเป็นหมูกินเสือ
“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าเพื่อนลู่จะเป็นคนที่โชคดีไม่เบาเลยนะ มา พวกเรามาเล่นกันต่อ” หลังจากที่หวังเจินผงะ เขาก็รู้สึกว่าเจ้าหนุ่มคนนี้มาพร้อมกับโชคดีขี้หมาจริงๆ ทายมั่วๆก็ทายถูก
หวังเจินผลักชิปเก้าแสนออกมาตรงหน้าลู่เฉินแล้วเริ่มเขย่าลูกเต๋าอีกครั้ง
ในเกมแรกนี้เขาแพ้ไปเก้าแสนซึ่งเป็นการสูญเสียที่แท้จริง
อย่างไรก็ตามเขายังเชื่อว่าลู่เฉินได้มันมาเพราะความฟลุ๊ค
“เพื่อนลู่ นี่เราจะเริ่มกันที่เท่าไหร่ดี” หวังเจินถามในขณะที่เขย่าถ้วย เขาเพิ่งเสียไปเก้าแสน เกมนี้เขาหวังว่าลู่เฉินจะชูคอเดิมพันมากอีกหน่อย
เพราะไม่อย่างงั้นเขาจะต้องชนะเก้าเกมติดต่อกันถึงจะคืนทุนเดิม
“หนึ่งล้านทั้งหมดนี่แล้วกัน ก่อนหน้านี้ผมไปดูดาวมา เห็นว่าคืนนี้ผมจะมีโชคใหญ่”ลู่เฉินหัวเราะ
“อัยหยา ที่แท้แล้วเพื่อนลู่ก็เป็นคนดูโหงวเฮ้งเก่งนี่เอง ถ้ามีโอกาสก็เชิญมาดูให้ผมหน่อยเป็นไง?” หวังเจินยังคงยิ้ม เขาหวังว่าลู่เฉินจะยังชูคอแบบนี้ไปได้ตลอด เพราะถ้าเกมละหนึ่งแสน มันจะเป็นการทำให้เขาเสียเวลา
และถ้าเจ้าหนุ่มคนนี้ทายถูกในครั้งเดียว นานๆเข้ายิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะชนะกลับ
นี่คือข้อดีข้อเสียของการเล่นทายแต้ม
โอกาสที่ผู้เล่นจะทายแม่นนั้นมีน้อยมาก แต่ถ้าโชคดีทายแม่นเพียงครั้งเดียว เจ้ามือก็ต้องถึงกับร้องไห้
“คราวนี้ทายกี่แต้ม?” หวังเจินวางถ้วยเขย่าไว้บนโต๊ะพลางจ้องหน้าลู่เฉิน
“อืม…เมื่อกี้ออกแต้มสูง เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าคราวนี้มีโอกาสที่จะออกต่ำมากกว่า ถ้านายไม่ได้ทอยลูกเต๋าสามลูกเป็นหนึ่งลูก ความเป็นไปได้น่าจะอยู่ช่วง 3-7แต้ม ฉันชอบเดินไปจนสุดขั้ว ฉันคิดว่าเกมนี้ไม่ใช่ 3 แต้มก็เป็น 7 แต้ม” ลู่เฉินวิเคราะห์อย่างจริงจัง
ทุกคนขำเล็กน้อยเมื่อได้ยินการวิเคราะห์ด้วยท่าทางจริงจังแบบนี้ นี่เป็นคาดเดาแบบมั่วๆ เจ้าหนุ่มคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นเทพจริงๆหรือไง
“อย่างงั้น 3หรือ7แต้มกันแน่ล่ะ?” หวังเจินมองลู่เฉินคล้ายจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม เกมนี้เขาจะต้องได้กำไรและชัยชนะกลับมา
“ฉันทาย 7 แต้ม เอ๊ะ รอเดี๋ยว ฉันยังเปลี่ยนได้ไหม?” จู่ๆลู่เฉินก็ลังเลขึ้นมา
“ฮ่าฮ่า ไม่ได้อยู่แล้ว” เมื่อหวังเจินเห็นลู่เฉินลังเลแบบนี้ก็ได้ใจ เขาคิดว่าเจ้าหนุ่มคนนี้ทายมั่วจริงๆ ดังนั้นเขาจึงเปิดถ้วยเขย่าพลางหัวเราะ เมื่อเขามองไปที่ลูกเต๋าบนโต๊ะเท่านั้น รอยยิ้มก็แข็งทื่อไปชั่วขณะ ทั้งหน้ามีสีหน้าที่ย่ำแย่เป็นอย่างมาก
ลูกเต๋าบนโต๊ะออกแต้มเป็น 1,2,4 แต้ม
บวกกันได้ 7 แต้มพอดี!
เสวี่ยนต้ายชวนกับคนอื่นๆมองเป็นไก่ตาแตก
เป็น 7 แต้มจริงๆด้วย!
เขาทายถูกอีกแล้วหรือนี่ ? !
“ว้าว พี่ลู่เฉิน สุดยอดไปเลย ทายถูกอีกแล้ว คราวนี้ชนะได้ตั้งเก้าแสนแน่ะ พระเจ้า!”
เซียวจื่อซินจับข้อมือเฉินชูหรันไว้ด้วยความตื่นเต้น
ลู่เฉินเหลือบมองการแสดงออกของเธอและอดไม่ได้ที่จะชื่นชมในตัวเซียวจื่อซินที่เสแสร้งได้เหมือนจริง
นี่เป็นนักฆ่าจากสำนักการแสดงใช่ไหมเนี่ย?
“ฮ่าฮ่า ฉันบอกแล้ว ฉันเป็นเซียนพนันอันดับหนึ่งแห่งยวี่โจว ไม่ใช่แค่คนทายลูกเต๋า ฉันเล่นได้ตั้งแต่อายุสามขวบแล้ว” ลู่เฉินหัวเราะฮ่าฮ่าและพูดด้วยความจองหอง
แม้เฉินชูหรันจะรู้ว่าลู่เฉินขี้โม้ แต่การที่ลู่เฉินทายถูกได้สองครั้งติดต่อกัน สายตาเธอก็เผยถึงความเลื่อมใส
“มึงมันนักต้มตุ๋น!”
ในขณะที่เฉินชูหรันและเซียวจื่อซินกำลังตื่นเต้นดีใจ หวังเจินก็ตบโต๊ะอย่างแรง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนทันทีและถลึงตามองลู่เฉินด้วยความโมโห ชายกำยำล่ำสันคนอื่นๆก็ลุกขึ้นตามเขาและมองลู่เฉินด้วยหน้าตาถมึงทึง
เหตุการณ์เอะอะอย่างไม่ทันตั้งตัวแบบนี้มุ่งหมายที่จะลงไม้ลงมือ
แต่สิ่งที่ทำให้หวังเจินและคนอื่นๆประหลาดใจก็คือลู่เฉิน เฉินชูหรัน และเซียวจื่อซินผู้เป็นสาวงามสองคนนั้นไม่ได้ใส่ใจกับท่าทีขึงขังที่กำลังโมโหของเขา
จนกระทั่งตอนนี้สีหน้าของทั้งสามก็ไม่ได้มีความอารมณ์ใดที่เปลี่ยนไปเลย