พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่123 ระดับคนใหญ่คนโต
บทที่123 ระดับคนใหญ่คนโต
เห็นไหมล่ะ ก่อนหน้านี้ฉันพูดกับ เซ่ซูเจี๋ย พวกเขากำลังคุยธุรกิจกัน คุยเสร็จต้องให้ฉันชนแก้วแน่นอน ตอนนี้ เซ่ซูเจี๋ย เดินมาที่โต๊ะพวกเราโดยเฉพาะ เขานึกว่าเพราะฉันแน่ๆเลยไม่ได้มาชนแก้วด้วย เขาเลยต้องมาด้วยตัวเอง” เมื่อเห็นเซ่ซูเจี๋ย เดินมาที่โต๊ะนี้จริงๆจางดาวเหรนมองไปทีลู่เฉินอย่างยั่วยุ
เมื่อกี้เฉินกวงซิงมาดื่มเหล้าของลู่เฉิน เขาไม่ให้หน้าลู่เฉินเลย เขาภายนอกไม่ได้แสดงอะไร แต่ในใจต้องไม่สบายใจแน่นอน
ตอนนี้ เซ่ซูเจี๋ย มาที่นี่ด้วยตนเอง เหมือนเข้ามาช่วยตบหน้าลู่เฉินด้วยพอดีเลย
“นายน้อยจาง. คุณต้องแนะนำฉันสิ ฉันก็อยากชนกับ เซ่ซูเจี๋ย ด้วย”ชูเฉี่ยวจือมองไปที่จางดาวเหรน
“ไม่ต้องกังวล ความสัมพันธ์ของเราคืออะไร ฉันมีเนื้อกิน ฉันจะไม่ให้คุณดื่มซุปอย่างเดียวไม่ได้หรอก ฉันจะแนะนำคุณกับ เซ่ซูเจี๋ย ภายหลัง” จางดาวเหรนพูด
“ได้เลย นายน้องจาง นายเป็นพี่ชายฉัน พี่ชายที่แท้เลย!” ชูเฉี่ยวจือพูดอย่างตื่นเต้น แต่เขาไม่ลืมที่จะมองไปที่ลู่เฉิน
เมื่อกี้เขาถูกเฉินกวงซิงตบเข้าอย่างจัง เขาคงเรียกสติคืนมาได้แล้วแหละ
คนอื่น ๆ มองไปที่ชูเฉี่ยวจือด้วยความอิจฉา หวังว่าพวกเขาจะรู้จักเฉินดาวเหรนก้ดีสิ
เมื่อเห็นเซ่ซูเจี๋ย มาด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหวงยาวจุน, หยูเจิ้งเทาและเล่ยหมิงเฉา เห็นได้ชัดว่ามีความคาดหวังและความตื่นเต้นในสายตาของพวกเขา
พูดตามตรง ถ้ามีโอกาส พวกเขาก็อยากจะให้ชนแก้ว เซ่ซูเจี๋ย ด้วย
และตอนนี้ก็เป็นโอกาส
“คุณชายจาง อีกเดียวรบกวนด้วยนะครับ” หยูเจิ้งเทามองไปที่จางดาวเหรน หวังว่าจางดาวเหรนจะแนะนำพวกเขาได้
หวงยาวจุนและเล่ยหมิงเฉามองไปที่จางดาวเหรนอย่างคาดหวัง รอการตอบกลับของเขา
“นายทั้งสามไม่ต้องกังวลหรอก ฉันรู้ว่าควรทำตัวยังไง ไม่เหมือนใครบางคน นึกว่ารู้จักคนใหญ่คนโต ทุกคนก็ต้องก้มหัว ให้หรือยังไง” จางดาวเรนมองไปที่ลู่เฉินอย่างดูถูกและใบหน้าที่ล้อเลียน
“ นั่นก็คือ ถึงแม้ว่าคน ๆ หนึ่งจะมีความสามารถ แต่บุคลิกไม่ได้ ก็ไม่ไหวนะ” เล่ยหมิงเฉามองไปที่ลู่เฉินและพูดอย่างเยาะเย้ย สิ่งที่เขาหมายถึงก็คือแม้ว่าลู่เฉินจะมีความสามารถบางอย่าง แต่บุคลิกแย่มาก
“บุคลิกภาพเป็นสิ่งที่ดี ฉันหวังว่าคนรุ่นใหม่จะมีกัน” หยูเจิ้งเทาพูดด้วยท่าทางแปลก ๆ
เขาไม่ได้รู้สึกดีกับลู่เฉินในตอนแรก แต่จางดาวเหรนสัญญาว่าจะแนะนำ เซ่ซูเจี๋ย ให้กับพวกเขา แน่นอนว่าเขาต้องการช่วยจางดาวเหรนยั่วลู่เฉิน
เมื่อลู่เฉินได้ฟัง สีหน้าของเขาก็สงบ แต่มีเรื่องตลกแวบเข้ามา แต่ทุกคนไม่ได้สังเกตเห็น
“โอ้ เซ่ซูเจี๋ย ทำไมคุณมาที่นี่ด้วยตัวเองล่ะ เมื่อกี้คุณกำลังคุยธุรกิจ ฉันไม่กล้ารบกวนคุณ คุณแค่ให้พ่อผมเรียก ผมก็จะรีบไปหาคุณทันที
ในที่สุด เซ่ซูเจี๋ย ก็มาถึงโต๊ะนี้ จางดาวเหรนแทบจะรอไม่ไหวที่จะทักทายเขา
ใครจะไปคิดว่า เซ่ซูเจี๋ย เพียงแค่มองไปที่เขา และผ่านไป ตรงไปหาลู่เฉินที่อยู๋ข้างหน้า
“ลู่ ถ้าไม่เห็นบ้านเฉินมาชนแก้วนาย ฉันก็ไม่รู้ว่านายอยู่ที่นี้ด้วย ป่ะ ไปที่โต๊ะพวกเราไปดื่มกัน ” เซ่ซูเจี๋ย หัวเราะ
ทุกคนตกตะลึงเมื่อได้ยินคำนั้น ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง และพวกเขาก็ตกใจ
ได้มีเกียรติกับ เซ่ซูเจี๋ย แถมยังเรียกเขาเป็นพี่เป็นน้อง
ผู้ชายคนนี้น่าเคารพมากขนาดนั้นเลย! ?
“สวัสดี เซ่ซูเจี๋ย ก่อนหน้านี้ฉันพบว่าพวกคุณกำลังคุยกัน เลยไม่อยากเข้าไปรบกวน” ลู่เฉินลุกขึ้นและหัวเราะกับเขา
“ก็พูดถึงคุณไง ฉันอยากจะขอบคุณจริงๆ ไปกันเถอะ ไปคุยกันที่นู่น” เซ่ซูเจี๋ย ยิ้มพร้อมโอบไหล่ลู่เฉินแล้วเดินไปที่นู่น
เขาบอกว่าเขารู้สึกขอบคุณที่สามวันก่อนลู่เฉินช่วยตำรวจเคลียร์รังโจร และช่วยตัวประกันมากกว่า 20 คน
เมื่อได้ยินรายงานสถานการณ์ของ สวี่โจ่วจุน คนใหญ่ทั้งหมดในเมืองก็ต่างตกใจ
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลู่เฉินมีด้านที่กล้าหาญแบบนี้
งั้นก็ถ้าคุณไม่ระวังคุณก็จะตายได้เลยนะ
อีกอย่างพวกเขายังตกใจกับบุคลิกและความกล้าหาญที่ปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นตัวประกัน และถูกพวกโจรจับตัวไปเพื่อช่วยเหลือตัวประกันคนอื่น ๆ
หากเปลี่ยนเป็นคนใดคนหนึ่ง ภายใต้สถานการณ์แบบนั้น แต่ก็ไม่สามารถเด็ดขาดเหมือนลู่เฉินได้
แม้แต่เซ่ซูเจี๋ย ยังชื่นชมลู่เฉินเลย
ลู่เฉินยิ้มแบบจำใจ แต่ก็ต้องตามเขาไป
เขาไม่ต้องการที่จะมีชื่อเสียงมาก ใครบอกบอกเซ่ซูเจี๋ย ไม่ให้โอกาสนี้แก่เขาล่ะ
ทุกคนที่อยู่รอบ ๆเกิดความโกลาหล
ถ้าพวกเขารู้ว่าลู่เฉินไม่มีความคิดที่จะไปเพื่อดื่ม ก็จะมารวมกลุ่มกัน เพื่อเอาเรื่องลู่เฉินให้ตาย
ในตอนนี้ทุกคนทั้งหมดไม่มีใครกล้าพูดว่าพวกเขาไม่ต้องการดื่มกับเซ่ซูเจี๋ย ที่โต๊ะร่วมกัน
มีเพียงลู่เฉินเท่านั้นที่จะกล้าคิดเช่นนี้
สายตาของทุกคนทั้งทึ่งและอิจฉา
ความสงสัยที่ลึกยิ่งขึ้น
ใบหน้าของจางดาวเรนซีดไปหมด
เซ่ซูเจี๋ย ให้ความสนใจเกี่ยวกับลู่เฉินมาก และเขาก็อยากเป็นพี่น้องกับลู๋เฉินมากขึ้น
แต่กับเขามันเฉยเมยกับเขาเหลือเกิน
แม้แต่มองก็ไม่มี
พ่อของเขาเป็นหัวหน้าบ้านจาง และเขาอยู่ร่วมโต๊ะเดียวกันกับ เซ่ซูเจี๋ย
ทำไมล่ะ?
ทำไมเฉินกวงซิงก้ดี เซ่ซูเจี๋ย ก็โดดเด่น แต่พวกเขาถึงให้ความสุขใจในตัวเฉินล่ะ?
เขามีอะไร ถึงได้รับความเคารพจากสองรุ่นใหญ่ในเวลาเดียวกัน?
ชูเฉี่ยวจือ, หยูเจิ้งเทา, เล่ยหมิงเฉา และคนอื่น ๆ ก็ไม่เข้าใจ
ลู่เฉินน่าเคารพขนาดไหน มันน่าตกใจทำไมถึงร่วมโต๊ะเดียวกันกับเขาได้?
ครั้งที่แล้วที่แชงกรีล่าดีกว่าหน่อย
เพราะลู่เฉินเอาชนะเจิ้งซีเหอในการพนันหิน ซึ่งทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก
แต่คราวนี้เกิดแผ่นดินไหวเลย
แต่นั่นคือเจ้าบ้านอันดับหนึ่ง และ เซ่ซูเจี๋ยเลยนะ!
สองคนนี้ไม่เพียงแต่เคารพเขาเท่านั้น ยังนับเขาว่าพี่น้องด้วย
ถ้าผู้ชายคนนี้ไม่มีความสามารถอะไรเลย พูดออกไปใครจะเชื่อล่ะ
แต่เขามีความสามารถอะไร ถึงสามารถเข้าใกล้เจ้าบ้านและ เซ่ซูเจี๋ยได้?
เฉินกวงซิงและเฉินเสี่ยวปิงก็เบิกตากว้างเช่นกัน
ในวันนั้นลู่เฉินเอาชนะฮันเทียนด้วยหมัด และช่วยให้ตาของพวกเขาชนะจางเซิงเฉียว เป็นเรื่องปกติที่ครอบครัวของพวกเขาจะเป็นมิตรกับลู่เฉิน
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจก็คือ เซ่ซูเจี๋ย ให้ความเคารพลู่เฉินมากถึงขนาดนับเขาเป็นพี่น้องด้วย ต้องความสัมพันธ์แบบไหนถึงจะทำได้?
ผู้ชายคนนี้ มันดูแปลกๆไปหรือป่าว?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉินจือหราน เมื่อมองลู่เฉินหัวใจของเธอรู้สึกซับซ้อน
ลู่เฉินได้กระตุ้นหัวใจของเธอ แต่ลู่เฉินก็แต่งงานแล้ว
ในอีกด้านหนึ่งลู่เฉินและเซ่ซูเจี๋ย มาที่โต๊ะเซ่ซูเจี๋ย ก็สั่งให้พนักงานเพิ่มเก้าอี้อีกตัว
ทุกคนมองไปที่ลู่เฉินแบบอยากรู้อยากเห็น โดยเฉพาะอีกสามครอบครัวใหญ่สายตาพวกเขาดูเหลือเชื่อมาก
ก็หน้านี้ตอนเฉินกวงซินเดินไปชนแก้วกับลู่เฉินพวกก็ก้รู้สึกประหลาดใจแล้ว
ไม่คิดเลยว่า เซ่ซูเจี๋ย จะเชิญลู่เฉินไป ในใจอยากรู้เรื่องเกียวกับลู่เฉินมาก ได้แต่รอให้ เซ่ซูเจี๋ย มาแนะนำให้รู้จัก