พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่129 ความสงสัยของหลิวจื่อซิ่ว
บทที่129 ความสงสัยของหลิวจื่อซิ่ว
ลู่เฉินพาหลิวจื่อซิ่วไปหาตู้เฟย
เขาเตรียมให้หลิวจื่อซิ่วอยู่กับตู้เฟย
“คนคนนี้คือตู้เฟย คุณคงเคยได้ยินมานะ ” ลู่เฉินหันไปทางตู้เฟย ” คนนี้คือหลิวจื่อซิ่ว มีฉายาว่าเทพหัวขโมยหลิว”
หลิวจื่อซิ่วชะงัก คิดไม่ถึงว่าลู่เฉินจะพาเขามาพบกับหัวหน้าตู้ผู้มีอำนาจของพรรคใต้ดินผิดกฎหมายในเมืองหยูโจว
ในใจก็ยิ่งเพิ่มความสงสัยในตัวตนของลู่เฉิน
ลู่เฉินสามารถนำตัวเขาออกจากคุกมาได้ แสดงถึงว่าเขากับสถานีตำรวจมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
แต่ลู่เฉินกลับนับพี่ถือน้องกับหัวหน้าตู้ เขามีเส้นสายทั้งทางถูกกฎหมายและผิดกฎหมายสองทางเลยเหรอ?
“สวัสดีครับ หัวหน้าตู้ ” หลังจากที่หลิวจื่อซิ่วนึกสงสัยแล้ว เขาก็รีบเข้าไปจับมือทักทายกับตู้เฟย
“สวัสดีครับ ผมเคยได้ยินชื่อของคุณ ถ้ามีโอกาสก็ขอดูฝีมือการขโมยของคุณหน่อยนะครับ” ตู้เฟยมองไปที่หลิวจื่อซิ่ว ยิ้มพลางพูด
“พูดได้ดีครับ หัวหน้าตู้ คุณลองหามือถือของคุณดูสิ” หลิวจือซิ่วยิ้ม ดึงมือกลับพลางพูด
ตู้เฟยชะงัก พบว่ามือถือที่อยู่ในกระเป๋าของเขาไม่รู้ว่าไปอยู่ในมือของซิ่วตั้งแต่เมื่อไหร่
ที่สำคัญคือ ตั้งแต่หัวจรดเท้าของหลิวจื่อซิ่วไม่ได้ขยับเลย สิ่งเดียวที่ขยับคือมือขวาของเขาที่ถือมือถือไว้
“สมกับที่เป็นเทพแห่งหัวขโมย ฝีมือเร็วขนาดนี้ ผมนับถือแล้ว” ตู้เฟยยกนิ้วโป้งขึ้น กล่าวอย่างชื่นชม
เขาดูออกแล้วว่า ในพริบตาที่หลิวจือซิ่วจับมือกับเขาและเก็บมือไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นทางที่ไปกระเป๋ากางเกงของเขามีแสงสว่างวาบ รวดเร็วเหมือนสายฟ้า แต่ไม่รู้สึกถึงพลังงาน ดังนั้นเขาถึงไม่รู้สึกตัว
และในพริบตานั้นเอง หลิวจือซิ่วก็เอามือถือออกมาจากกางเกงของเขาแล้ว ได้เห็นความเร็วของมือเขา
แน่นอนวา เพียงแค่ความเร็วของมือคงไม่พอ ต้องมีความชำนาญเฉพาะทางด้วย หลิวจือซิ่วถูกเรียกว่าเป็น ‘เทพหัวขโมยหลิว’ นั้นเป็นความสามารถที่แท้จริงของเขา
“หัวหน้าตู้พูดชมเกินไปแล้ว” หลิวจือซิ่วยิ้มอย่างถ่อมตน เอามือถือคืนตู้เฟย
“อาเฟย ต่อไปให้เขาอยู่กับคุณไปก่อนแล้วกัน” ลู่เฉินกล่าว
“ดีสิ ฮ่าๆ มีเทพหัวขโมยฝีมือดีมาช่วยผม ในตอนที่ตามหาก็ไม่ได้มา” ตู้เฟยหัวเราะพลางพูด
“คุณเคยคิดที่จะกลับตัวมั้ย” ลู่เฉินจู่ๆก็ถามตู้เฟยขึ้น
“คำถามของคุณ ทำให้ผมลำบากใจอยู่หน่อยๆ คุณคิดว่าถ้าตอนนี้ผมได้กลับตัว ใครในพรรคจะเป็นผู้นำได้? อย่าให้บอกผมว่าเป็น Three Heroes of the Water Margin ถ้าสามคนมีคนอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนก็ยังนับว่าได้อยู่ ไม่มีคนคอยสนับสนุนพวกเขาอยู่ข้างหลัง พวกเขาก็เปลี่ยนเป็นกุ้งขานิ่มอ่อนหัดแล้ว” ตู้เฟยชะงักไป คำถามของลู่เฉินไม่ใช่เขาไม่เคยคิดถึง แการที่เขากลับมาอีกครั้งในครั้งนี้ ไม่สามารถเมินเฉยต่อพี่น้องของเขาเหมือนครั้งที่แล้ว ไม่อยางนั้นต่อไปใครจะเชื่อนับถือเขาอีก?
ลู่เฉินพยักหน้า สำหรับThree Heroes of the Water Margin แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ไม่เคยพอใจ
แต่ Three Heroes of the Water Margin คือหลู้จองเป็นคนที่ฝึกฝนมา ยังไงเขาก็ยังคิดถึงเรื่องราวเก่าๆอยู่บ้าง
อีกอย่าง มีเรื่องบางอย่างให้ Three Heroes of the Water Margin ไปทำก็จะเหมาะกว่า
แต่ก็อยากจะให้พวกเขาเป็นหัวหน้าจริงๆ พรรคนั้นจะต้องใช้เวลาไม่นานในการสลายลงในมือของพวกเขาแน่นอน
“ผมแค่จะให้ทางเลือกหนึ่งกับคุณ แต่ไม่ว่าหลังจากนี้คุณเลือกยังไง ยังไงก็ตามเส้นทางที่ขุดหินหยาบคุณต้องเหลือไว้ให้ผมสายหนึ่ง ห้ามให้แก๊งค์เข้าไปเด็ดขาด” ลู่เฉินพูดอย่างจริงจัง
ตู้เฟยพยักหน้า ในใจมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
ความหมายของลู่เฉินเขาเข้าใจ ให้เส้นทางที่ขุดหินหยาบกับเขาทำกิจการ ก็คือการปูทางให้เขาล้างมลทินในภายหลัง
ถ้าหากหลังจากนี้เขาคิดจะล้างมลทิน เปลี่ยนให้เขาเป็นประธานบริษัทหินหยาบ ได้ขีดเส้นแบ่งชัดเจนอีก ใครจะกล้าพูดว่าตู้เฟยเป็นหัวหน้าพรรคใต้ดินผิดกฎหมาย?
“ครับ หลังจากนี้ไม่ว่าผมจะเลือกทางไหน ผมจะไม่ทำให้บริษัทจะต้องแปดเปื้อนกับพรรค” ตู้เฟยพูดอย่างหนักแน่น
“อืม ใช่แล้ว มีเบาะแสที่อยู่บริษัทแล้วหรือยัง?” ลู่เฉินพยักหน้าพลางถาม
“ช่วงนี้กำลังต่อสู้กับบ้านวัง ล้วนไม่มีเวลาทำเรื่องนี้เลย ที่สำคัญคือ คุณรู้ว่าผมก็แค่ผู้ชายที่หยาบกระด้าง ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับธุรกิจพวกนี้” ตู้เฟยส่ายหน้าพลางยิ้ม
“คุณน่าจะบอกผมให้เร็วกว่านี้” ลู่เฉินไม่รู้จะพูดอะไร มีพ่อค้าอัญมณีมากมายรอนำเข้าหินหยาบกับเขานะ แต่ว่าบริษัทก็ไม่แน่นอนอยู่ตลอด เขาก็ไม่สามารถไปพม่าเพื่อทำสัญญานำเข้าหินได้
“ช่างแล้วกัน พรุ่งนี้ผมจะให้คนคนหนึ่งมาช่วยคุณ แต่คุณต้องร่วมมือกับเขา รีบจัดการเรื่องของบริษัทให้เสร็จก่อน สุดท้ายเรื่องของที่อยู่ ภายหลังค่อยมาเลือกที่หลังก็ได้แล้ว” ลู่เฉินเองก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ควรโทษตู้เฟย ก่อนหน้านี้เขาให้ตู้เฟยช่วยจัดการหาเรื่องบ้านวัง อีกอย่างนะ ตู้เฟยก็ไม่ใช่คนทำธุรกิจ ทำไม่เป็นก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
หลิวจื่อซิ่วล้วนไม่เข้าใจเลยว่าทั้งสองคนนั้นคุยอะไรกัน แต่เขากลับเข้าใจเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือลู่เฉินกำลังหาเส้นทางให้ตู้เฟยล้างมลทิน
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาไม่เชื่อว่าหัวหน้าพรรคใต้ดินผิดกฎหมายคนหนึ่งจะสามารถล้างมลทินได้
แต่ลู่เฉินสามารถพาเขาออกจากคุกได้ เขาเชื่อว่าลู่เฉินเองก็สามารถช่วยตู้เฟยล้างมลทินได้ด้วย
หลังจากลู่เฉินออกไป ในที่สุดหลิวจื่อซิ่วทนไม่ไหวจึงถามตู้เฟย “หัวหน้าตู้ ผมอยากรู้มากครับ ลู่เฉินคือใครกันแน่ครับ”
ตู้เฟยมองหลิวจื่อซิ่วอย่างละเอียด ดื่มเหล้าไปหนึ่งอึก ถึงจะค่อยๆตอบ “พี่ชาย ไม่พูดปิดบังคุณนะ ถึงแม้ผมกับเขาจะรู้จักกันมาหลายปีแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาเลย”
“หา?” หลิวจื่อซิ่วชะงักไป รู้สึกอยู่หน่อยๆว่าเหลือเชื่อ
“แต่สิ่งที่คุณต้องรู้คือเขาควรค่าแก่การเชื่อถือ ถึงกระทั่งคุ้มค่าพอที่จะมอบความไว้ใจถวายชีวิตก็พอแล้ว” ตู้เฟยวางแก้วเหล้าพลางพูด
หลิวจื่อซิ่วสติหลุดหน่อยๆ ก็ไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไร
“เอาซักมวนมั้ย?” ตู้เฟยเอาบุหรี่เฉาเทียนเหมินขึ้นมาหนึ่งซอง ส่งให้หลิวจื่อซิ่วหนึ่งมวน
บุหรี่เฉาเทียนเหมินพวกนี้ คือบุหรี่ท้องถิ่นของหยูโจว แค่สิบหยวนต่อหนึ่งซอง
เป็นถึงหัวหน้าพรรคสโมสรมังกรฟ้า ตู้เฟยกลับสูบบุหรี่ซองละสิบหยวน นี่ทำให้หลิวจื่อซิ่วผิดคาด
ก่อนหน้าตอนที่เจอลูกน้องฝีมือดีไม่กี่คนของตู้เฟย ได้พบว่าพวกเขาสูบบุหรี่ซองละสี่สิบห้าหยวนต่อซองนี่
“บุหรี่นี้ไม่เลว ไม่กี่ปีมานี้ผมก็สูบแต่มัน” หลิวจื่อซิ่วรับมาจุดไฟหลังจากนั้นจึงพูด
อย่ามองว่าก่อนหน้านี้เขาคือเทพหัวขโมย แต่หลังจากที่เขาถูกบีบคั้นจนมาที่หยูโจวแล้ว เดิมทีก็ไม่มีเงินอะไร สามารถมีสูบบุหรี่ซองละสิบหยวนสูบก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
“ใช่ บุหรี่นี้เป็นเธอซื้อให้ผมซองแรกในปีนั้น ผมในตอนนั้นพอได้สูบขึ้นมาก็ชอบกลิ่นรสชาติแบบนี้เลย หลังจากนั้นก็ยากที่จะเคยชินกับการสูบบุหรี่แบบอื่นไปแล้ว” ตู้เฟยสูบเข้าไปลึก ก็คิดถึงภรรยาของเขาอีกครั้ง
แน่นอนหลิวจื่อซิ่วไม่รู้เรื่องราวของเขา ในใจก็ยังคงใคร่รู้กับเรื่องตัวตนของลู่เฉินอยู่ นั่นเพราะว่าไม่ใช่แค่เพื่อตัวเขา เขาเองก็คิดเพื่อลูกสาวของเขาด้วยเช่นกัน
“ใช่แล้ว หัวหน้าตู้ ลู่เฉิ่นเขาก็เป็นพรรคใต้ดินผิดกฎหมายใช่มั้ย?” หลิวจื่อซิ่วดูดเข้าไปทีหนึ่ง ก็ถามขึ้นอีกครั้ง
“คุณกับลู่เฉิ่นรู้จักกันได้ยังไง?” ตู้เฟยไม่ได้ตอบคำถามของหลิวจื่อซื่วทันที จากในคำถามสองคำถามของหลิวจื่อซิ่ว เขารู้สึกว่าเจ้าคนนี้ก็ไม่ได้เชื่อถือลู่เฉินเท่าไหร่นัก