พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่131 หลินอี้จุนเริ่มสงสัย
บทที่131 หลินอี้จุนเริ่มสงสัย
“หัวหน้าหลิน อ้อ ไม่ใช่สิ ท่านรองหลิน ยินดีด้วยนะครับ!” เมื่อฟ่านหมิงกลับมายังฝ่ายขาย เขาก็แทบอดใจไม่ไหวที่จะเดินมายังโต๊ะของหลินอี้จุนและมอบความเซอร์ไพรซ์ให้แก่เธอ
เขารู้ว่าลู่เฉินน่าจะยังไม่ได้บอกตัวตนที่แท้จริงของเขาออกไป ดังนั้นหลินอี้จุนต้องยังไม่รู้เรื่องที่เธอได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานแน่นอน
“อะไรนะ หัวหน้าหลินได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธาน?”
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็พากันตกใจ หลินอี้จุนได้เลื่อนตำแหน่งบ่อยมากในระยะเวลาสั้นๆเพียงหนึ่งเดือนก็ขึ้นเป็นรองประธาน
การเลื่อนขั้นแบบก้าวกระโดดแบบนี้ พวกเขาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเหมือนกัน
“คุณฟ่านคะ ล้อเล่นแบบนี้ไม่สนุกเลยนะคะ” หลินอี้จุนตกใจและขมวดคิ้วพูดออกมาด้วยท่าทีจริงจัง
แม้แต่เธอเองก็ไม่อาจเชื่อเรื่องนี้ได้ อีกทั้งเธอรู้ดีว่าความสามารถของตัวเองมีไม่เพียงพอ
อย่าว่าแต่รองประธานเลย อันที่จริงหัวหน้าฝ่ายขายเธอก็ยังทำได้ไม่ดีพอ
แม้ว่าจะไม่มีใครตำหนิเธอ แต่เธอรู้ตัวดีว่าทำได้ไม่ดีเท่าหัวหน้าฟ่าน
อย่างน้อยความสำเร็จโดยรวมก็ไม่สูงเท่าที่ควร
อีกทั้งตอนที่ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้า ก็เป็นเพราะลู่เฉินไหว้วานให้วังเหว่ยช่วยเหลือ จึงทำให้เธอคว้าโปรเจคบริเวณวิลล่าทะเลสาบจิงหลงมาได้สำเร็จ
ช่วงนี้เธอพยายามติดตามโปรเจคนี้อยู่ ส่วนตัวเธอไม่มีผลงานคืบหน้าก็ไม่เท่าไหร่ แต่ทั้งแผนกก็ไม่มีผลงามเพิ่มด้วย ทำไมผู้ถือหุ้นรายใหม่ถึงเลือกให้เธอขึ้นเป็นรองประธานกัน?
“พี่หลินคะ ยินดีด้วยนะคะ!” หลิวหยานฉี๋เดินหน้าขึ้นมาแสดงความยินดี
หลินอี้จุนได้เลื่อนขั้นเป็นรองประธาน ดังนั้นเธอจึงมีโอกาสขึ้นเป็นหัวหน้าได้ง่ายขึ้นแล้ว
เธอรู้ดีว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนหลินอี้จุนได้กล่าวชื่นชมเธอต่อหน้าผู้บริหารเสี้ย แต่นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่มีท่าทีใดๆจากเขาเลย
แต่ถึงอย่างไรตอนนี้หลินอี้จุนก็เลื่อนขั้นเป็นรองประธานแล้ว แน่นอนว่าเธอมีโอกาสเลื่อนเป็นหัวหน้าได้มากขึ้น
หลิวหยานฉี๋เอ่ยแสดงความยินดีออกมาจากใจจริง
“หัวหน้าฟ่านคงล้อเล่นค่ะ จะเป็นไปได้ยังไงกัน” หลินอี้จุนส่ายหัว เธอรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร
หลิวหยานฉี๋ตกตะลึง ที่จริงตัวเธอก็คิดว่าการที่หลินอี้จุนได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าก็เกินพอแล้ว การที่ได้เลื่อนขั้นเป็นรองประธานคาดว่าคงเป็นไปได้ยากจริงๆ ดังนั้นเธอจึงยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไรนะคะ ฉันเชื่อว่าสักวันพี่หลินจะได้เลื่อนขั้นขึ้นไปอีกแน่ๆ ยังไงก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าให้พี่ด้วยค่ะ”
เมื่อฟ่านหมิงเห็นว่าทั้งสองไม่เชื่อ จึงได้หัวเราะออกมา “ท่านรองหลิน คุณไม่ได้แค่ถูกเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองประธานนะครับ แต่ผมเองก็ได้รับตำแหน่งหัวหน้าคืนมาด้วย ส่วนคุณหลิวหยานฉี๋ช่วงนี้ก็ทำผลงานได้ดีมาก ท่านประธานลู่มีคำสั่งด้วยตนเองว่าให้คุณย้ายไปประจำการที่ศูนย์ใหญ่นะครับ”
“คะ? ห้วหน้าฟ่านอย่าล้อกันสิคะ เดี๋ยวคนแผนกอื่นมาได้ยินเข้าจะถูกหัวเราะเยาะเอาได้” หลิวหยานฉี๋ตกตะลึง หลังจากนั้นเธอก็คิดว่าฟ่านหมิงคกำลังล้อเธอเล่นอยู่แน่ๆ
ในบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียนี้เธอไม่ได้มีผลงานหรือชื่อเสียงอะไรเลย ทำไมท่านประธานลู่ถึงให้เธอไปประจำที่ศูนย์ใหญ่กัน?
“ผมจะหลอกคุณไปทำไมครับ? เมื่อสักครู่มีผู้หญิงคนหนึ่งมาที่แผนกเรารู้ใช่ไหม? เธอคือประธานกรรมการเสี่ยว หนึ่งในตัวแทนจากบริษัทใหญ่ ประธานลู่ให้เธอมาจัดการเกณฑ์คนไป คุณรีบไปที่ห้องทำงานผู้บริหารเสี้ยเถอะ ท่านประธานกรรมการเสี่ยวมีเรื่องจะคุยกับพวกคุณ” ฟ่านหมิงพูดแล้วยิ้มออกมา
“จริง จริงเหรอคะ?” หลิวหยานฉี๋แทบไม่เชื่อหูตัวเอง เธอไม่รู้จักกับท่านประธานมาก่อน ทำไมท่านประธานลู่ถึงให้เธอเลื่อนขั้นกัน?
“ผมจะหลอกคุณได้ยังไง? รีบขึ้นไปเถอะครับ อย่าตื่นเต้นละ คุณเป็นตัวแทนของฝ่ายขายเราไปประจำการที่บริษัทใหญ่เชียวนะ อย่าทำให้พวกเราขายหน้าเชียว” ฟ่านหมิงพูด
หลินอี้จุนตกตะลึงไม่หายเมื่อพบว่าฟ่านหมิงท่าทีจริงจัง เธอจึงหันไปพูดกับหลิวหยานฉี๋ว่า “หยานฉี๋ ลองขึ้นไปดูก่อนนะ”
หลิวหยานฉี๋พยักหน้าและข่มความตื่นเต้นเอาไว้ เธอเองก็รู้สึกว่าฟ่านหมิงไม่ได้พูดเล่น เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานมีผู้หญิงคนหนึ่งมายังฝ่ายขายจริงๆ
หลังจากหลิวหยานฉี๋ขึ้นไปก็ไม่ได้รีบลงมา หลินอี้จุนจึงคิดว่าคำพูดของฟ่านหมิงน่าจะเป็นความจริง
เพียงแต่……เธอได้ขึ้นเป็นรองประธานจริงๆเหรอ?
หลินอี้จุนส่ายหัวแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่สามารถเป็นไปได้แน่ ฟ่านหมิงคงล้อเธอเล่นจริงๆ
แต่หลิวหยานฉี๋ได้ไปประจำที่สำนักงานใหญ่ ส่วนเธอไม่ได้ไป ทำให้เธอค่อนข้างผิดหวังอยู่เล็กน้อย
น้ำไหลจากที่สูงสู่ที่ต่ำ คนเดินทางที่ต่ำสู่ที่สูง
ใครกันที่ไม่อยากพัฒนาตนเองให้สูงขึ้น?
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง หลิวหยานฉี๋ก็กลับมายังฝ่ายขาย ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอ
“พี่หลิวคะ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?” พนักงานคนหนึ่งถามขึ้น
“อืม เริ่มทำงานตั้งแต่พรุ่งนี้ วันนี้ฉันเลี้ยง!” หลิวหยานฉี๋พูดออกมาอย่างดีใจ เธอไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าตัวเองจะได้ย้ายไปที่สำนักงานใหญ่ อีกทั้งท่านประธานเป็นคนเลือกเอง
“โอ้โห จริงเหรอเนี่ย ยินดีด้วยนะคะ” หลินอี้จุนก็เข้ามาแสดงความยินดี
“พี่หลินคะ พี่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานจริงๆ เมื่อสักครู่ฉันถามผู้บริหารเสี้ยให้แล้ว เขาบอกว่าอีกสักเดี๋ยวจะเรียกประชุม” หลิวหยานฉี๋ยิ้มออกมา
“เอ่อ……ฉัน” หลินอี้จุนยังไม่เชื่อเรื่องนี้ เพราะเธอรู้ดีว่าความสามารถของตัวเองมีไม่ถึง
“ท่านรองฯหลิน ผมบอกแล้วไงครับว่าไม่ได้โกหกคุณน่ะ” ฟ่านหมิงพูด
ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของหลินอี้จุนก็ดังขึ้น เป็นสายของเลขาผู้บริหารเสี่ย
“คุณหลินคะ ครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้รบกวนแจ้งพนักงานในแผนกให้ทราบว่าจะมีการประชุม” เมื่อเลขาพูดจบก็วางสายไป แน่นอนว่าเธอรู้ดีถึงการได้รับเลื่อนขั้นของหลินอี้จุน แต่เนื่องจากเอกสารยังไม่มีเป็นทางการ เธอจึงยังไม่ได้เรียกอย่างเต็มยศ
การประชุมครั้งนี้เป็นการประกาศแต่งตั้งหลายตำแหน่ง อีกทั้งให้พนักงานในแผนกเสนอรายชื่อผู้จัดาร เมื่อทุกคนได้ยินว่าหลินอี้จุนได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธาน ดวงตาของพวกเขาทั้งหมดก็เบิกกว้าง
เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว หลินอี้จุนยังเป็นเพียงพนักงานขายธรรมดา คาดไม่ถึงว่าหลังจากผ่านไปเพียงหนึ่งเดือนเธอจะได้รับเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองประธาน
เรื่องนี้ทำให้หลายๆคนคิดมาก
หลินอี้จุนเองก็คิดมากเช่นกัน เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอได้รับเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองประธานจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้นเธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างแปลกไปหน่อย หรือว่าลู่เฉินจะไปขอความช่วยเหลือจากวังเหว่ยกัน?
แต่หากไม่ใช่เพราะลู่เฉินไหว้วานให้วังเหว่ยช่วย เธอจะได้เลื่อนเป็นรองประธานได้ยังไง?
“ผู้บริการเสี้ยคะ ฉันมีเรื่องหนึ่งที่ไม่เข้าใจเลยจริงๆ คุณช่วยบอกความจริงกับฉันได้ไหม ขอร้องละค่ะ” หลังจบการประชุม หลินอี้จุนเข้ามาหาเสี้ยจุนที่ห้องทำงาน
“รองฯหลิน เชิญนั่งก่อนครับ มีเรื่องอะไรถามมาได้เลยครับ” เสี้ยจุนเห็นว่าเป็นหลินอี้จุนก็ไม่รอช้ารีบเชื้อเชิญอย่างเป็นมิตร เธอคนนี้เป็นภรรยาของลู่เฉินเชียว เป็นคุณนายน้อยของเขาสินะ
หลินอี้จุนนั่งลงตรงข้ามเสี้ยจุนและถามออกไปตรงๆว่า “ผู้บริหารเสี้ยคะ การที่ฉันได้เลื่อนขั้นเป็นรองประธาน ท่านประธานลู่เป็นคนสั่งการคุณใช่ไหม แต่ว่า ฉันเองไม่มีความสามารถอะไร อีกอย่างฉันก็ไม่รู้จักเขา ทำไมเขาถึงต้องคอยช่วยเหลือฉันกันคะ? คุณอย่าบอกฉันนะว่าคุณไม่รู้?”