พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่147 แค่ขับรถถูกๆ
บทที่147 แค่ขับรถถูกๆ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบเดินหน้าขึ้นไปแล้วพูดว่า “คุณพี่ครับ อย่าพึ่งรีบร้อนไป เดี๋ยวผมจะให้เขาขับรถเดี๋ยวนี้ครับ”
เมื่อพูดจบก็หันไปทางลู่เฉินและพูดด้วยสีหน้าเยือกเย็นว่า “นี่คุณ ช่วยขยับรถออกไปหน่อยได้ไหม อย่าทำให้ผมต้องเสียเวลางานเลย”
ลู่เฉินขมวดคิ้วมองเขา และใส่เกียร์เตรียมเข้าจอด
“ นี่คุณ ผมบอกให้คุณขับออกไป ไม่ใช่ให้คุณจอดที่นี่ บอกแล้วไงว่าที่นี่เป็นที่ส่วนบุคคล คุณจะจอดตรงนี้ไม่ได้” เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นดังนั้นก็เคาะประตูรถของเขาและพูดออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา
พูดจาไม่มีคุณสมบัติในการทำงานบริการเอาเสียเลย
ลู่เฉินไม่เคยเจอเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่วางท่าแบบนี้มาก่อน
“ผมจะจอดตรงนี้ มีอะไรไหม?” ลู่เฉินเองก็รู้สึกโมโห เขาไม่เคยพบเห็นคนที่ไม่มีเหตุผลขนาดนี้
ที่จอดรถตรงอื่นมีตั้งมากมาย อีกทั้งเขาได้รับเชิญจากเฉินจือหราน ทำไมเขาถึงจะจอดตรงนี้ไม่ได้ ต้องการหักหน้าเขาอย่างนั้นหรือ?
“หาเรื่องเหรอครับ?” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นยิ้มและมองมาทางลู่เฉินอย่างเจ้าเล่ห์
ที่แห่งนี้ไม่กลัวว่าใครจะมาก่อความไม่สงบสุขอยู่แล้ว ในเมื่อลู่เฉินรนหาที่ตาย เขาเองก็จะเล่นเป็นเพื่อน
พูดจบเขาก็หยิบโทรศัพท์สื่อสารขึ้นมา
ในขณะนั้นเองชายหนุ่มที่รอจอดรถก็ทนไม่ไหวและเดินลงมา เขาเตะเข้าที่ประตูรถของลู่เฉินและพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “มัวชักช้าทำบ้าอะไรอยู่ รีบไสหัวออกไปได้แล้ว เสียเวลาว่ะ ไม่อย่างนั้นฉันจะพังรถซอมซ่อของแกซะ!”
ลู่เฉินเองก็โมโหเช่นกัน เขาเปิดประตูรถลงไปและล็อครถ เขาตั้งใจจะจอดขวางถนนอยู่แบบนี้
“คุณควรดูแลรักษารถผมให้ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นคุณคงชดเชยไม่ไหว” ลู่เฉินพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้น
“แม่งเอ๊ย! คิดว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหนกัน ฉันบอกให้แกเอารถขยะออกไป แกไม่เชื่อใช่ไหมว่าฉันจะทุบรถแกจริงๆ?” ชายหนุ่มคนนั้นโมโหอย่างสุดขีดและเตะเข้าไปที่รถลู่เฉินอย่างจัง
“ก็ลองดู” ลู่เฉินพูดกับเขาอย่างเจ้าเล่ห์ ในเมื่อเป็นแบบนี้เขาเองก็อยากรู้จริงๆว่าจะมีใครหน้าไหนใจกล้าพอจะพังรถเขาได้
ครั้งที่แล้วหูหงทุบรถของเขา ซุปเปอร์มาร์เก็ตของตระกูลหูก็ถูกขายมาให้เขาในราคาต่ำ จนตอนนี้ทางตระกูลหูเองยังไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ เขาอยากจะรู้นักว่าชายหนุ่มคนนี้จะมีความสามารถขนาดไหน
เมื่อเห็นว่าลู่เฉินกำลังเดินไปทางประตูทางเข้าและไม่สนใจเขาแม้แต่นิดเดียว ทำให้ชายหนุ่มผู้นั้นรู้สึกว่าตนถูกเมิน
เขารีบเดินหน้าไป มือหนึ่งเอื้อมไปจับบ่าของลู่เฉินไว้แล้วพูดว่า “นี่แก เกิดเป็นคนก็ควรจะรู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่อย่างนั้นจุดจบแกคงจะรับไม่ไหว”
“คุณคิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงได้กล้ามาขู่ผม? เอามือสกปรกออกไปซะ”ลู่เฉินหันมามองเขาและยิ้มด้วยสายตาเยือกเย็น
“ฉันจะเอามือออกไปก็ได้ แต่แกต้องเอารถสกปรกโสโครกนี่ออกไปก่อน ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ” ชายหนุ่มผู้นั้นขู่ออกมา
“อ๋อ งั้นเหรอ ผมอยากเห็นจริงๆว่าคุณจะไม่เกรงใจแบบไหน” ลู่เฉินหัวเราะ
“รนหาที่ตาย!” ชายหนุ่มคนนั้นหัวเราะเหอะๆ และผลักลู่เฉินอย่างแรง
ลู่เฉินรีบยื่นมือสวนกลับไปจับลงที่บ่าของเขาและเหวี่ยงเขาลงพื้น
ตึง!!!
ชายหนุ่มคนนั้นถูกลู่เฉินเหวี่ยงอย่างแรงจนลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น
“ไอ้เชี่ยเอ๊ย! นี่แกกล้าลงมือกับฉันจริงๆเหรอ? ไอ้กระจอก!” ชายหนุ่มผู้นั้นถูกเหวี่ยงลงไปไม่เบา เมื่อเขาลุกขึ้นมาได้ก็จ้องมองลู่เฉินอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“คนอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาทำให้ฉันโมโห ไม่เชื่อก็ลองดูอีกสิ” ลู่เฉินหัวเราะหึๆและเดินเข้าไปด้านใน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นมองดูด้วยสายตามึนงง ก็แค่คนขับรถออดี้ธรรมดาเท่านั้นทำไมถึงทำกล้ามากแบบนี้อยากตายหรือไง?
เขารีบวิ่งเข้ามาแล้วถามชายหนุ่มผู้นั้นว่า “ลูกพี่ เป็นอะไรไหม?”
“ ไสหัวไปซะ!”
ชายหนุ่มผู้นั้นโกรธจัดและเขาเดินกลับไปที่รถของเขา
“แม่งเอ้ย กล้าทำแบบนี้กับฉัน คอยดูว่าฉันจะทำให้แกโงหัวไม่ขึ้น!”
เขาขึ้นรถและมองไปยังรถของลู่เฉินที่จอดขวางทางอยู่ สายตาเขาเป็นประกายขึ้นมาและพูดว่า “ไม่ขยับใช่ไหม ฉันจะช่วยแกขยับเอง!”
เมื่อพูดจบก็เหยียบคันเร่งสุดแรงและขับตรงออกไป
ไม่เสียแรงที่เป็นรถหรูของบริษัทเบนซ์ ชนแค่เพียงทีเดียวก็ทำให้ Audi A6 ของลู่เฉิน พังยุบไม่เป็นท่า
แน่นอนว่ารถของเขาก็ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ ด้านหน้ายุบเข้าไปและฝากระโปรงรถเปิดขึ้น
แต่เขาไม่สนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ เขานำรถเข้าจอดแทนที่
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นได้แต่ยืนงง
รถคันนี้ราคากว่า 20 ล้านเชียว เพียงเพื่อชนรถ Audi ธรรมดาระบายอารมณ์คุ้มเหรอ?
คนมีตังค์นี่จะทำอะไรก็ไม่ต้องคิดจริงๆ
ในขณะนั้นเองมีรถปอร์เช่คันหนึ่งขับเข้ามา เมื่อจอดเสร็จเขาก็เดินลงมาถามชายผู้นั้นด้วยความสงสัยว่า “อู๋ไครถเป็นอะไรทำไมถึงโดนชนเป็นสภาพขนาดนี้”
“แม่งเอ้ย มีไอ้กระจอกคนหนึ่งมันแย่งที่จอดรถผม ผมเลยขับรถชนรถมันซะ” อู๋ไคพูดออกมาด้วยความเยือกเย็น
“พระเจ้า! รถ Audi คันนี้เหรอ?คุณขาดทุนย่อยยับเลยนะเนี่ย” เขามองไปยังรถออดี้ของลู่เฉินแล้วพูดด้วยความประหลาดใจ
“สำหรับผมแล้ว รถคันนี้ก็แค่เป็นพาหนะในการเดินทางคันหนึ่ง แต่สำหรับไอ้กระจอกนั่นแล้วรถ Audi คันนี้น่าจะเป็นทุกอย่างในชีวิตมัน ผมไม่ขาดทุนหรอก” อู๋ไคหัวเราะออกมา
เขากำลังอยากเปลี่ยนรถใหม่พอดี การได้ระบายออกมาแบบนี้ถือว่าคุ้ม ต่อให้ชนพังก็ไม่เป็นไรเขาไม่สนใจอยู่แล้ว
“คุณพูดอย่างนั้นก็ถูกแหละ ไอ้กระจอกนั่นทำให้คุณต้องสละรถหรูแบบนี้ คืนนี้น่าจะไม่จบแค่นี้หรอกมั้ง? เออว่าแต่เขาก็มางานเลี้ยงเหมือนกันเหรอ?”
“น่าจะใช่แหละครับ ผมเห็นเขาเดินเข้าไปข้างใน ไปกันเถอะเราไปดูน้ำหน้ามัน มันกล้าเล่นกับผมแบบนี้ ผมก็จะเล่นกับมันสักหน่อย” อู๋ไคหัวเราะและเดินเข้าไปข้างใน
ตอนนี้ลู่เฉินเพิ่งจะเดินเข้าไปถึงด้านในห้องโถง
สมกับเป็นคลับระดับสูง การตกแต่งทุกอย่างช่างอลังการ บุคคลภายนอกธรรมดาน่าจะเข้ามาไม่ได้แน่
ลู่เฉินเดินมาหยุดที่ห้องโถงใหญ่ บัดนี้มีสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลายมาถึงก่อนแล้ว
พวกเขาทั้งหลายล้วนแต่งตัวกันงดงาม โดยมากมักจะใส่ชุดราตรีที่สง่างามและเหมาะกับสถานที่เช่นนี้ สุภาพบุรุษเองก็แต่งชุดสูทที่ทันสมัยดูดี
เมื่อเห็นเช่นนี้ ลู่เฉินก็รู้ดีว่าพวกเขาล้วนเป็นทายาทเศรษฐี ที่ชีวิตประจำวันส่วนมากก็คงหมดไปกับการกินดื่มเที่ยวเล่น และการโอ้อวดไปวันๆ
ทายาทเศรษฐีส่วนมากจะเป็นแบบนี้กันหมดจริงๆ
พวกเขาก็แค่มีเงินแต่ไม่มีความสามารถอะไร และมักจะมารวมตัวกันจัดกิจกรรมสังสรรค์แบบนี้เพื่อให้รู้สึกสนุกสนานและคุ้มค่ากับการมีชีวิตอยู่
อู๋ไคเดินเข้ามาถึงห้องโถงใหญ่และมองดูลู่เฉินจากที่ไกลๆ จากนั้นก็รวบรวมคนกลุ่มหนึ่งเดินตรงเข้ามา
ลู่เฉินยังมองหาเฉินจือหรานไม่เจอ เขากำลังจะหาที่นั่งลงและรอเฉินจือหรานมาหาเขา ก็พบว่าอู๋ไคพาคนกลุ่มหนึ่งเดินตรงเข้ามา
“ไอ้กระจอกนี่แหละที่กล้าแย่งที่จอดรถกับผม ผมเลยขับรถชนรถมันซะ!” อู๋ไคมองดูลู่เฉินแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ทุกครั้งที่เราจัดงานเลี้ยงกันก็มักจะมีพวกขยะแบบนี้ปะปนเข้ามา ประเด็นคือพวกขยะเหล่านี้ส่วนมากแล้วก็เข้ามาเพื่อที่จะประจบประแจงเอาใจพวกเรา ฉันละสงสัยจริงๆว่าในเมื่อมีวัตถุประสงค์แบบนั้นทำไมถึงยังกล้าเป็นปรปักษ์กับฉันอีก แกเอาความกล้าหาญแบบนี้มาจากไหน?” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆอู๋ไคมองดูลู่เฉินด้วยสายตาดูถูก
คนอื่นๆก็มองดูลู่เฉินแบบนั้นเหมือนกัน
พวกเขาได้ยินเรื่องที่อู๋ไคเล่าให้ฟังว่าลู่เฉินแย่งที่จอดรถกับเขาก็เขาก็เริ่มประหลาดใจว่าลู่เฉินไปเอาความกล้านี้มาจากไหนขับแค่รถออดี้ธรรมดายังกล้าทำอวดเก่งกับทายาทเศรษฐีเชียว