พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่153 ผู้หญิงเจ้าเล่ห์
บทที่153 ผู้หญิงเจ้าเล่ห์
“คุณลู่คะ ช่วงนี้วุ่นมากหรือเปล่า?” เฉินเสี่ยวปิงถามขึ้นถาม
“ก็ไม่ยุ่งเท่าไหร่ครับ ปกติไปรับไปส่งลูกสาวแล้วก็ซื้อกับข้าว” ลู่เฉินยิ้มตอบ
เมื่อได้ยินคำพูดของลู่เฉิน เล่ยผู่อินที่เดินตามมาด้านหลังก็มองไปที่เขาด้วยสายตาดูถูก
เคยได้ยินแต่ผู้หญิงอยู่บ้านทำงานบ้าน ไม่เคยได้ยินว่าผู้ชายอยู่บ้านแล้วไม่ทำงานมาก่อน
ขยะก็เป็นขยะไร้ค่าอยู่วันยังค่ำสินะ วันๆได้แต่แบมือขอเงินเมียใช้ น่าอายจริงๆ
“โอ้โห! คุณลู่ทำอาหารเป็นด้วยเหรอคะ? ไว้วันหลังถ้าสะดวกอยากจะไปชิมฝีมือของคุณลู่จริงๆ” เฉินเสี่ยวปิงพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
เล่ยผู่อินตกใจ เฉินเสี่ยวปิงเป็นถึงคุณหนูรองของบ้านตระกูลเฉิน เธอเสียสติไปแล้วหรือไง!
ลู่เฉินก็บอกอยู่ว่าเขามีครอบครัวแล้ว แต่ยังทำท่าทีสนิทสนมกับเขาแบบนั้น เธอชอบขยะนี่จริงๆเหรอ?
“ก็ทำพวกมะเขือเทศผัดไข่ มันฝรั่งเส้นผัดพริกหยวก เต้าหู้มาโพ อาหารง่ายๆนะครับ คุณจะกินได้เหรอ?” ลู่เฉินมองดูเฉินเสี่ยวปิงแล้วหัวเราะ
เขารู้ดีว่าคนอย่างเฉินเสี่ยวปิงถูกเลี้ยงดูอย่างประคบประหงมมาตั้งแต่เล็ก อาหารการกินล้วนกินแต่ของดีมีคุณภาพ จะกินกับข้าวของคนธรรมดาแบบนี้ได้ยังไง?
ที่จริงตัวเขาเองถ้าไม่ได้หนีมาอยู่ที่หยูโจวเป็นเวลาหลายปี ก็คงจะกินอาหารแบบนี้ไม่เป็นเหมือนกัน
เล่ยผู่อินอยากจะพูดออกไปเหลือเกินว่า อาหารพวกนี้เป็นของคนธรรมดาทั่วไปกินกัน คุณเป็นถึงคุณหนูรองบ้านตระกูลเฉินเชียวนะ จะให้ไปกินอาหารอย่างนั้นได้อย่างไร?
“ได้ลองเปลี่ยนรสชาติดูบ้างก็คงไม่เลวเลยนะคะ” เฉินเสี่ยวปิงกะพริบตาและพูดกับเขา
ลู่เฉินหัวเราะออกมาแล้วเดินตรงเข้าไปในร้านเครื่องดื่ม พนักงานในร้านเครื่องดื่มให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เนื่องจากเฉินเสี่ยวปิง เป็นลูกค้าประจำของร้านนี้
“คุณหนูคะ สั่งแบบเดิมหรือเปล่า?” ผู้จัดการร้านเครื่องดื่มเดินออกมาและพูดกับเฉินเสี่ยวปิงที่อยู่ข้างหลังลู่เฉิน
เฉินเสี่ยวปิงพยักหน้าตอบรับและหันไปถามลู่เฉินว่า “คุณลู่ รับอะไรดีคะ?”
“ขอเป็นน้ำเย็นก็พอแล้วครับ” ลู่เฉินไม่ชอบเครื่องดื่มพวกนั้นเท่าไหร่นัก ที่จริงเขาชอบดื่มน้ำร้อนหรือน้ำชามากกว่า แต่หน้าร้อนแบบนี้ถ้าได้ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆก็คงจะชื่นใจ
ผู้จัดการมองไปที่เขาและส่งสายตาดูถูก ร้านเครื่องดื่มมีระดับแบบนี้กล้าสั่งน้ำเย็นได้ยังไง? คงมาจากบ้านนอกสินะ
แม้จะดูถูกลู่เฉินแต่เธอก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา เนื่องจากเขามากับคุณหนูรองบ้านตระกูลเฉิน อีกทั้งคุณหนูถามเขาเพียงคนเดียวว่าจะดื่มอะไร แต่กลับไม่ถามผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่มาด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าคุณหนูเฉินให้ความสำคัญกับเขามากเพียงใด
หรือว่าเขาจะเป็นคนใหญ่คนโตกัน? แต่ดูจากการแต่งตัวแล้วก็ธรรมดามาก ผู้จัดการร้านมองไปยังลู่เฉินด้วยความสงสัย
“เสี่ยวปิง ฉันออกไปรับเพื่อนก่อนนะ” เล่ยผู่อินสั่งเครื่องดื่มที่ตัวเองต้องการแล้วมือถือของเธอก็ดังขึ้น หลังรับสายเสร็จก็บอกกับเฉินเสี่ยวปิง
เฉินเสี่ยวปิงพยักหน้า หลังจากที่ได้พบกับลู่เฉิน เธอก็แทบไม่ได้พูดกับเล่ยผู่อินเลย เนื่องจากเธอมัวแต่ให้ความสนใจลู่เฉิน
เล่ยผู่อินเดินออกมาจากร้านเครื่องดื่มและเห็นรถหรูคันหนึ่งจอดอยู่ข้างหน้า เธอรีบก้าวเดินไปข้างๆรถและก้มมองดูชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านในด้วยสายตาชื่นชม
ผู้ชายคนนี้ก็คือคนที่เธอแอบชอบนั่นเอง เขาชื่อว่าหลอหยุนฮวย
“หลอหยุนฮวยคะ รีบเข้าไปด้านในเถอะค่ะ” เล่ยผู่อินยิ้มพูด
“มีเรื่องอะไรก็รีบพูดมาเถอะ ผมยังมีธุระอีก” หลอหยุนฮวยพูดอย่างไม่มีความอดทนเท่าไหร่นัก หากไม่ใช่เพราะเล่ยผู่อินส่งข้อความหาเขาไม่ขาดสาย อากาศร้อนๆแบบนี้เขาไม่อยากจะออกมาจากบ้านด้วยซ้ำ
ก่อนหน้านี้เขารู้สึกถูกชะตากับเล่ยผู่อิน แต่ก็เพียงแค่เล่นๆเท่านั้น เมื่อเขารู้สึกว่าเล่ยผู่อินจริงจังกับเขามาก เขาก็ไม่อยากจะเข้าใกล้เธออีก
บ้านตระกูลเล่ยถึงแม้จะไม่เลวนัก อีกทั้งยังมีตระกูลเฉินเป็นเกราะกำบัง
แต่เขายังหนุ่มยังแน่นไม่อยากแต่งงานเร็วขนาดนี้หรอก
อีกทั้งเขาเองมีทั้งเงินทอง ชื่อเสียง และรูปร่างหน้าตาดี จะไม่ยอมถูกเล่ยผู่อินผูกมัดไว้ตั้งแต่อายุยังน้อยแบบนี้แน่
เมื่อได้ยินน้ำเสียงของหลอหยุนฮวยนั้น เล่ยผู่อินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็อยากให้เขาอยู่ต่ออีกสักหน่อย จึงได้พูดไปว่า “ไปกันเถอะ เฉินเสี่ยวปิงก็อยู่นะ”
เธอรู้ดีว่าหลอหยุนฮวยมีความสนใจในเฉินเสี่ยวปิง แต่เฉินเสี่ยวปิงไม่ให้โอกาสเขาแม้แต่น้อย แน่นอนว่าทุกครั้งที่เล่ยผู่อินเห็นสายตาของหลอหยุนฮวยที่มองไปยังเฉินเสี่ยวปิงเธอก็รู้สึกไม่พอใจ
เธอรู้สึกไม่ชอบใจเฉินเสี่ยวปิง แต่กลับมองข้ามหลอหยุนฮวยไป
“อ้าวเหรอ พอดีเลยผมก็เริ่มคอแห้งแล้วเหมือนกัน เข้าไปดื่มน้ำสักแก้วก็คงจะดี” หลอหยุนฮวยแววตาเป็นประกาย
“อ้อ ข้างในยังมีอีกคนนะ เฉินเสี่ยวปิงเรียกมาด้วยนตัวเองเลย ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอคิดอะไรถึงได้เลือกขยะแบบนั้นมาดื่มด้วย แล้วอีกเดี๋ยวยังจะเลี้ยงข้าวเขาอีก” เล่ยผู่อินกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดจึงได้พูดดักหน้าไว้
“ขยะอย่างนั้นเหรอ?ขยะอะไร?” หลอหยุนฮวยประหลายใจ คงจะไม่ใช่แฟนใหม่ของเฉินเสี่ยวปิงหรอกนะ?
“เป็นพี่เขยของเพื่อนฉันเอง ชื่อว่าลู่อะไรนะจำไม่ได้แล้ว รู้แค่ว่าเขาไม่มีงานทำ วันๆไปรับไปส่งลูกแล้วก็อยู่บ้านทำกับข้าวให้ผู้หญิงเลี้ยง ถ้าไม่เรียกว่าขยะแล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะ?” เล่ยผู่อินพูดออกมา
“นั่นสินะ ผู้ชายแบบนี้มันขยะชัดๆ!”
“เมื่อได้ฟังเล่ยผู่อินอธิบาย หลอหยุนฮวยก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก คิดว่าเฉินเสี่ยวปิงมีแฟนใหม่เสียแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้เขาก็ยังมีโอกาสอยู่
แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังไม่อยากแต่งงาน แต่ความรู้สึกแบบนี้ก็มีเฉพาะกับเล่ยผู่อินเท่านั้น
ถ้าหากสามารถแต่งงานกับคุณหนูรองบ้างตระกูลเฉินได้ ให้เขาแต่งงานพรุ่งนี้เขาก็ยอม
แต่เล่ยผู่อินคิดว่า การที่ลู่เฉินได้มาดื่มเครื่องดื่มร่วมกับผู้ชายที่เธอแอบชอบนั้น นับว่าเป็นบุญของเขาแล้ว
“หลอหยุนฮวย ฉันรู้สึกว่าไอ้ขยะนั่นมัน เป็นหมาวัดที่อยากจะคว้าดอกฟ้านะ เขาคอยอยู่ข้างๆเฉินเสี่ยวปิงไม่ยอมไปไหนเลย น่ารังเกียจจริงๆ” เมื่อเล่ยผู่อินนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เกือบจะทำให้เฉินเสี่ยวปิงไม่พอใจเพราะเธอไม่อยากดื่มเครื่องดื่มร่วมกันกับลู่เฉิน เธอก็รู้สึกโมโห
พอดีกับจังหวะที่หลอหยุนฮวยมาถึง เธอจะใช้โอกาสนี้ในการจัดการลู่เฉินเสียหน่อย
แค้นี้จะต้องชำระแน่ๆ!
เธอมองออกว่าท่าทีของเฉินเสี่ยวปิงที่ปฏิบัติต่อลู่เฉินนั้นไม่ธรรมดา
หลอหยุนฮวยชื่นชอบเฉินเสี่ยวปิงมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ถ้าเขาเกิดดูถูกลู่เฉินขึ้นมา เฉินเสี่ยวปิงต้องไม่ชอบใจแน่ๆ อีกทั้งอาจจะเลิกคบกับเขาไปเลยก็ได้
ถ้าถึงตอนนั้นไม่มีเฉินเสี่ยวปิงมาคอยขัดขวางเธอแล้ว เธอก็อาจจะทำให้หลอหยุนฮวยชอบเธอจริงๆเข้าก็ได้
“เหอะๆ ก็แค่ขยะชิ้นหนึ่ง กล้าคิดจะแตะต้องเฉินเสี่ยวปิงได้ยังไง ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!” หลอหยุนฮวยหัวเราะออกมา
“แต่สำหรับบางคนก็ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆนะ” เล่ยผู่อินพูดยุยง
“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงอย่างนั้นเหรอ? คอยดูว่าผมจะจัดการเขายังไง!” หลอหยุนฮวยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นและเดินตรงเข้าไปในร้าน
เมื่อเธอเห็นว่าหลอหยุนฮวยอารมณ์แปรปรวนแล้ว เล่ยผู่อินก็รู้สึกขำอยู่ในใจและเดินตามไปดูฉากเด็ด
แต่ว่าเมื่อเธอเดินตามหลอหยุนฮวยเข้าไปในร้านเครื่องดื่ม เธอก็ตกตะลึงทันที
กระทั่งไม่กล้าเชื่อสายตาของตัวเอง