พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่166 ตอบโต้
บทที่166 ตอบโต้
วังเหว่ยเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างช้าๆนุ่มนวล ท่ามกลางสายตาที่ดูตกตะลึงของทุกคน
“คุณคือผู้บริหารของเทคโนโลยีอี้ฉีสินะ ยินดีที่ได้พบคุณ” ประธานหอการค้ารีบจับมือกับวังเหว่ย เขาคิดว่า เทคโนโลยีอี้ฉี ได้กลายเป็นบริษัทชั้นนำในเครือยวี่โจวซึ่งผู้บริหารเทคโนโลยีอี้ฉี ก็ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของสี่ครอบครัวมหาอำนาจอีกด้วย เขาจึงไม่กล้าที่จะละเลย
“ขออภัยด้วยนะครับ ผมคือวังเหว่ยเป็นเพียงตัวแทนประธานของเทคโนโลยีอี้ฉี” วังเหว่ยปฏิเสธพร้อมกับขอโทษ
“อ่อ ที่แท้ก็ประธานวังนี่เอง ฉันได้ยินมาว่าประธานเทคโนโลยีอี้ฉีไม่เคยปรากฏตัวในที่สาธารณะเลย เขาไม่มีแพลนที่จะพบปะกับทุกคนเลยเหรอ”ประธานหอการค้าถามคำถามที่ทุกคนก็ต่างสงสัยเช่นกัน
“ ท่านประธานของเราจะมาปรากฏตัวอย่างแน่นอน แต่เพียงแค่ตอนนี้เป็นช่วงระยะเวลาเริ่มต้นของการก่อสร้างและปกติแล้วท่านประธานจะยุ่งมากครับ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมาที่ยวี่โจวได้ในตอนนี้”วังเหว่ยตอบ
“อ่อ เป็นอย่างนี้นี่เอง ผมอยากถามประธานวังหน่อยได้ไหมว่าท่านประธานของคุณชื่ออะไรเหรอครับ คำถามนี้อาจจะเป็นเสียงของเพื่อนๆที่นั่งอยู่ในนี้มากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นเลยก็ว่าได้”ประธานหอการค้าถามอีกครั้ง
ผู้ชมทุกคนต่างตั้งตารอคำตอบของวังเหว่ยเพราะเทคโนโลยีอี้ฉีอยู่ระหว่างการก่อสร้างมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าประธานผู้บริหารของเทคโนโลยีอี้ฉี คือใคร
โดยเฉพาะนักข่าวเหล่านั้นในบรรยากาศแบบนี้จึงไม่มีใครกล้าถามคำถามอะไร เพราะนี่ถือว่าเป็นประเด็นข่าวใหญ่ที่สุดของวันนี้เลยก็ว่าได้ ต่างคนต่างก็กลัวว่าจะเสียสมาธิ และ ได้ยินชื่อผิดไป
“ต้องขออภัยอย่างยิ่งครับ คำถามนี้ผมไม่สามารถที่จะตอบได้จริงๆครับ” วังเหว่ยปฏิเสธ
เหล่าผู้ชมต่างผิดหวังกันถ้วนหน้า เพราะคิดว่าวันนี้วังเหว่ยต้องเปิดเผยตัวตนประธานบริหาร เทคโนโลยีอี้ฉีแน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่าความหวังของพวกเขาจะพังลงเช่นนี้
“ครับ อย่างนั้นขอเชิญ ประธานวัง กล่าวอะไรสักเล็กน้อยสำหรับงานในวันนี้หน่อยครับ” ประธานหอการค้ากล่าวอย่างผิดหวัง
วังเหว่ยพยักหน้าและรับไมค์ต่อ
เขายังไม่ได้พูดอะไรในที่แรก แต่เขามองไปที่ผู้ฟังด้านล่างเวที
โดยเฉพาะคนที่รอบๆโต๊ะของจางเซิงเฉียว
ก่อนหน้านี้เขาอยู่อีกฝ่ายมาก่อน แต่เพราะได้เห็นจางเซิงเฉียวและคนอื่น ๆ เป็นแกนนำในการใส่ร้ายเทคโนโลยีอี้ฉีแค่นั้น
“ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ทุกคนคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการบริจาคของ เทคโนโลยีอี้ฉี ของเราเกี่ยวกับการไม่ได้ร่วมบริจาค ตอนนี้ผมอยากจะบอกทุกคนว่าทำไมเราถึงไม่ออกมาชี้แจงตั้งแต่แรก เนื่องจากคนร้ายที่ปลอมแปลงข้อเท็จจริงและใส่ร้ายคนอื่นมันน่าขยะแขยงและเลวร้ายมาก เราจึงจะใช้โอกาสนี้เพื่อค้นหาว่าใครอยู่เบื้องหลังข่าวลือนี้ วันนี้ในนามของเทคโนโลยีอี้ฉี ผมจะขอสั่งห้ามสื่อที่รายงานเรื่องนี้ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปสื่อเหล่านี้จะไม่มีโอกาสเข้าไปในอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อทำการสัมภาษณ์” เสียงของวังเหว่ยสัมผัสได้ถึงความเย็นชาและดูแข็งแกร่งมาก เขาพูดประโยคนี้จบก็หยุดอยู่ครู่หนึ่ง
บรรดาสื่อมวลชนที่รายงานเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ ต่างมีสีหน้าเมินเฉยไม่รู้สึกอาย แต่ในใจรู้สึกผิดหวังและเสียดายเป็นอย่างมาก
ซึ่งอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นองค์กรในเครือยวี่โจว และถูกกำหนดให้มีการจัดทำการแถลงข่าวอย่างยิ่งใหญ่ และหากพวกเขาไม่ได้เข้าไปทำข่าวในอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้วละก็ พวกเขาก็จะไม่ได้รับข้อมูลโดยตรงเพื่อทำหัวข้อยอดนิยมของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในครั้งนี้ และแน่นอน ยอดขายก็จะได้รับผลกระทบอย่างมาก
ส่วนบรรดาสื่อมวลชนที่ไม่ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ต่างยิ้มแย้มแจ่มใส เทคโนโลยีอี้ฉี สั่งห้ามสื่อมากกว่าครึ่ง และคิดว่าโอกาสของพวกเขามาถึงแล้ว
“นอกจากนี้ยังมีคนที่สร้างข่าวลือและสร้างปัญหานี้ขึ้นมา ผมจะยังไม่ขอเอยชื่อของพวกคุณที่นี่ แต่ผมขอบอกคุณไว้ตรงนี้เลยว่าความร่วมมือทั้งหมดของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเรา จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับครอบครัวหรือกลุ่ม บริษัท ของคุณแน่นอน”
วังเหว่ยตั้งใจมองไปที่กลุ่มคนของจางเซิงเฉียว พร้อมกับแววตาขี้เล่นและดูมีเล่ห์นัย
แม้ว่าเขาจะทำงานแทนลู่เฉิน แต่เขาก็รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของลู่เฉิน แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงพนักงานคนหนึ่ง แต่ในบรรยากาศตอนนี้ทำให้รู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของสี่ตระกูลใหญ่แต่อย่างใด
นี่คือตัวตนของลู่เฉิน และความมั่นใจที่ได้มาจากเทคโนโลยีอี้ฉี
“สำหรับเรื่องการบริจาค เราได้ร่วมบริจาคในวันที่สองของการเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ครอบครัวใหญ่มหาอำนาจทั้งสี่บริจาค ถ้าหากคุณไม่เชื่อคุณสามารถถามเซ่ซูเจี๋ยได้เลย และผมเห็นด้วยกับคุณชายลู่จาก เซิ่งซื่อซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นอย่างมากที่เราจะร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติในพื้นที่ประสบภัยเป็นหลัก เพื่อป้องกันภัยพิบัติและสร้างบ้านให้กับพวกเขาใหม่โดยเร็วที่สุด ไม่ใช่บริจาคเพียงเพื่อชื่อเสียงเท่านั้น และที่เทคโนโลยีอี้ฉีของเราบริจาคเงินเป็นจำนวนมาก ประการแรกก็เพราะว่าผู้บริหารของเรามีเงินและเขาสามารถจ่ายเงินจำนวนนี้ได้สบายๆ และประการที่สองผู้บริหารของเราต้องการช่วยเหลือผู้คนให้ได้มากๆ เขาจึงรู้สึกว่าจำเป็นต้องบริจาคมากขึ้น
ส่วนของโฆษณา?
ไม่ใช่ว่าผมกำลังโอ้อวดแต่อย่างใด พวกเราเทคโนโลยีอี้ฉี มีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ตราบใดที่เราพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น โฆษณานี้จะเป็นโฆษณาที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งดีกว่าการจ้างให้ดาราคนหรือดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์เสียอีก
แต่อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากการบริจาคเงินแล้ว เทคโนโลยีอี้ฉี ยังจัดหางาน 500 ตำแหน่งให้กับ อำเภอหวงผิง ในอนาคตเพื่อช่วยแก้ปัญหาการจ้างงานของเพื่อนร่วมชาติในพื้นที่ประสบภัยพิบัติใน อำเภอหวงผิงและนี่คือทั้งหมดที่ฉันอยากจะพูดในวันนี้ ขอบคุณครับ”
วังเหว่ยกล่าวเสร็จเขาได้โค้งตัวคำนับให้กับผู้ชม จากนั้นก็เดินลงจากเวทีอย่างช้าๆใจเย็น
จนกระทั่งเขานั่งลงแล้ว แต่เสียงปรบมือก็ยังคงดังอยู่
ในการร่วมบริจาคภัยพิบัติครั้งนี้ เทคโนโลยีอี้ฉี ทำได้ดีมาก และในสถานการณ์นี้สี่ตระกูลใหญ่ก็ไม่สามารถจะเทียบได้เลย
มีการบริจาคจำนวนมากที่สุด แถมยังจัดหางานให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ภัยพิบัติอีก 500 ตำแหน่ง
ตัวแทนของอำเภอหวงผิงได้ฟังแล้วดวงตาของเขาก็อาบอิ่มไปด้วยน้ำตา แม้ว่าพวกเขาจะไม่กังวลเกี่ยวกับปัญหาการสร้างใหม่ แต่หลังจากการสร้างใหม่ปัญหาการจ้างงานของประชาชนก็เป็นปัญหาใหญ่
แต่ตอนนี้เทคโนโลยีอี้ฉีเป็นผู้นำและเป็นตัวอย่างที่น่ายกย่อง เขาเชื่อว่า บริษัท อื่น ๆ จะปฏิบัติตามแบบอย่างนี้
“เทคโนโลยีอี้ฉีควรค่าพอที่จะเป็นองค์กรชั้นนำ ในยวี่โจวของเราจริงๆ ทำทุกๆอย่างด้วยไม่ต้องพูดอะไรเลย” หลี่ชิงเฉิงกล่าว
แม้ว่าชิงเฉิงกรุ๊ปของเธอจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอี้ฉี แล้ว ก็ยังด้อยกว่าในทุกๆด้าน
ที่วังเหว่ยพูดว่าพวกเขาไม่ได้บริจาคเพื่อสร้างชื่อเสียงแต่อย่างใด แต่ความคิดริเริ่มที่จะจัดหางาน 500 ตำแหน่งให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัย ทำให้พวกเขามีชื่อเสียงขึ้นมาทันที
ทุกคนรู้ดีว่า เทคโนโลยีอี้ฉี มีเกณฑ์ที่สูงมาก ถ้าหากคุณต้องการที่เข้าร่วมกับ เทคโนโลยีอี้ฉี คุณจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงมาก
แต่เทคโนโลยีอี้ฉี ได้เสนองาน 500 ตำแหน่งให้กับ อำเภอหวงผิง และ อำเภอหวงผิง ก็ต่างชื่นชมและขอบคุณพวกเขา
“ใช่เทคโนโลยีอี้ฉี ถือเป็นแบบอย่างของเรา” ลู่เฉินพูดอย่างไม่อายแต่อย่างใด
หลี่ชิงเฉิง เฉินจือหรานและคนอื่นๆ พยักหน้าโดยคิดว่าสิ่งที่ลู่เฉินพูดนั้นสมเหตุสมผล
มีเพียงหลินอี้จุนเท่านั้นที่กรอกตามองในใจคิดว่าลู่เฉินช่างไร้ยางอายเหลือเกิน
เมื่อมองไปที่ลู่เฉิน เธอก็ยังคงรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจเขา
ที่ผ่านมาเธอรู้สึกมาตลอดว่าเธอรู้จักลู่เฉินมากพอแล้ว เธอจึงตัดสินใจแต่งงานกับเขา
ไม่เคยรู้เลยว่าเขายังมีมุมลึกๆที่เธอเข้าไม่ถึงอีก หลังจากแต่งงานกับเขาได้ไม่กี่ปีเขาก็อยากทำตัวเหมือนกับขอทานแถมยังไม่ให้เธอรู้จักตัวตนของเขาอีกด้วย
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองนอนกับหุ่นยนต์มาสามสี่ปีแล้ว หัวใจของเธอเจ็บปวดราวกับโดนหนามทิ่มแทงหัวใจ
เธอรู้สึกว่าลู่เฉินไม่มีความจริงใจแม้แต่น้อย
“น้องลู่คิดว่าผู้บริหารเทคโนโลยีอี้ฉี คือใครกัน มีเพียงไม่กี่คนในประเทศที่สามารถใช้เงิน 50พันล้านเพื่อสร้างอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้” หลี่ชิงเฉิงถามลู่เฉินขึ้นมาทันทีทันใด