พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่170 ซุปเปอร์มาร์เก็ตถูกทำลาย
บทที่170 ซุปเปอร์มาร์เก็ตถูกทำลาย
“นี่พวกคุณทำอะไร? ผู้ชายหลายคนร่างบึกที่Three Heroes of the Water Marginสั่งให้มาดูแลระเบียบความปลอดภัย ได้เรียกคนเหล่าวังเปาให้หยุด
“ไอ่ห่า ใสหัวไปเดียวนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าห่าว่าพวกเราไม่เตือน” วังเปาตะคอกด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“คุณคือวังเปาใช่ไหม คุณกล้าดียังไง ถึงกล้ามาทำลายซุปเปอร์มาร์เก็ตของลู่เฉินเรา?” ผู้ชายร่างบึกได้มองดูวังเปา ใบหน้าไม่มีท่าทีแม้แต่หวาดกลัวเลยซักนิด
“ไอ่ห่า ก็รู้อยู่แล้วหนิว่าเป็นพี่ชายเปา ทำไมยังไม่ใสหัวไปอีก หาที่ตายหรือไง?” ผู้ชายร่างบึกที่ยืนอยู่ข้างวังเปาได้จ้อง พร้อมกับตะโกนออกมาอย่างโมโห
“พี่ชายเปา? แหม คุณรู้มั้ยว่าพี่ใหญ่ของเราเป็นใคร?” ชายร่างบึกได้มองคนที่พูดหาห้าวหาญ แล้วพูด
ชายร่างบึกอีกคนได้ตะลึง วังเปาขมวดคิ้ว แล้วถาม: “พี่ใหญ่ของพวกคุณคือใคร?”
“Three Heroes of the Water Margin ใช่แล้ว ช่วงนี้พี่ใหญ่ของเราและตู้เฟยพี่เฟยได้รวมมิตรกันแล้ว ฉะนั้นตู้เฟยก็เป็นพี่ใหญ่ของเราเหมือนกัน” ชายร่างบึกได้พูดออกมาอย่างภาพภูมิใจ
“ตู้เฟย?” วังเปาตะลึง ตู้เฟยเป็นพี่ใหญ่ที่มีกำลังใหญ่ที่สุดในยวี่โจว ณ ตอนนี้ อย่าบอกแต่เขาเลย แม้เต่เจ้านายเขาจางดาวเรนก็ไม่กล้าที่จะหาเรื่องตู้เฟยเลย
“หื้ม หากรู้เรื่องก็รีบใสหัวไปซะ ไม่อย่างนั้นก็อย่ามาห่าว่าพวกเราไม่เตือน” ชายร่างบึกเห็นสีหน้าวังเปาเปลี่ยนไปมาก จึงรู้เลยทันทีว่าพวกเขากลัว
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่ทำลายต่อ?” จางดาวเรนถาม
“พี่ ซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้คนของตู้เฟยดูแล พวกเราจะลงมือทำลายจริงๆหรือ?” วังเปาได้พูดกระซิบข้างหูจางดาวเรน
“ตู้เฟย?” จางดาวเรนตะลึง ช่วงนี้ชื่อเสียงตู้เฟยโด่งดังมากในยวี่โจว บ้านจางเองก็ไม่อยากจะหาเรื่องใส่ตัว
จางดาวเรนขมวดคิ้ว แล้วกลับออกไปยังข้างรถพูดกับปู่ว่า: “คุณปู่ เรื่องนี้ยุ่งยากนิดนึง ซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้คนของตู้เฟยเฝ้าไว้ แต่ถ้าหากเราไม่ทำลาย ก็จะผิดใจกันกับฮันเทียนแน่นอน แต่ถ้าทำลาย ก็ต้องมีเรื่องกับตู้เฟย”
ทันทีที่จางเซิงเฉียวได้ยินเช่นนั้นก็ยักคิ้วขึ้นมา
ถ้าหากสู้กันต่อหน้าต่อตาบ้านจางเขาก็ไม่น้อยหน้าใครแน่นอน แต่ถ้ากองกำลังใต้ดิน……
หากมีเรื่องกับกองกำลังใต้ดิน บ้านจางเขาก็ซวยแน่ๆ
และที่สำคัญก็คือ ตู้เฟยไม่ใช่กองกำลังใต้ดินที่ธรรมดา เมื่อสิบปีที่แล้วเขาก็ได้ประสบความสําเร็จมากๆแล้ว ถึงแม้ว่าจะเงียบหายไปสักช่วงหนึ่ง แต่ได้ยินข่าวมาว่าครั้งนี้ที่เขาออกมาอีกครั้งเป็นเพราะว่ากำลังจะทำเรื่องใหญ่โต และพวกเขาก็ไม่อยากจะมีปัญหาอะไรกับตู้เฟย เพราะไม่เช่นนั้นถึงเวลานั้นบ้านจางของก็จะไม่ปลอดภัย
และในขนาดที่บ้านจางกำลังเลอยู่นั้น ฮันเทียนได้เดินออกมา
“พวกขยะ” ฮันเทียนคะตอก จากนั้นก็ได้จับค้อนต่อจากวังเปา แล้วเดินเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต
“หยุด!” ชายร่างบึกได้ตะคอกอย่างโกรธ แล้วยื่นมือออกไปจับฮันเทียน
“ใสหัวไป!” ฮันเทียนได้หันหน้าพร้อมกับตบหน้า
จังหวะมือเขาเร็วมาก ชายร่างบึกไม่ทันได้หลบเลย ก็ถูกฝ่ามือตบแล้ว
อีกหลายๆคนเห็นท่าจึงรีบเข้าไปห้ามฮันเทียน แต่หลังจากสิบกว่าวิต่อมา ก็ถูกฮันเทียนกำจัดหมด
โฮ่ง!
ฮันเทียนถือค้อนที่หนักกว่าสิบกิโลไว้ แล้วทุบไปยังป้ายหน้าร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต และป้ายก็ได้พังยับเยินทันที
ผู้คนที่มาซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างตกใจ และถอยหลังไป ไม่กล้าที่จะพูดเสียงดังกันเลย
หมด พนักงานก็อึ้งไปเลย ต่างพูดกันว่าถอยหลัง
มีพนักงานชายคนหนึ่งได้รีบโทรหาอู๋เล่ย
“ผู้จัดการอู๋ แย่แล้ว มีคนมาทำลายซุปเปอร์มาร์เก็ตเรา คุณรีบมาดูเถอะ บอดี้การ์ดรักษาความปลอดภัยเหล่านั้นได้ถูกกำจัดหมดแล้ว”
ขนาดนี้อู๋เล่ยกำลังอยู่ห้องทำงาน เมื่อได้รับโทรศัพท์สีหน้าก็เปลี่ยนไปเลยทันที และรีบวิ่งออกมา
อีกทางนึง จางดาวเรนเห็นว่าฮันเทียนได้เริ่มทุบแล้ว ก็ไม่สนอะไรอีก จีบให้คนเหล่าวังเปาเข้าไปช่วยกันทำลายทั้งหมด
ไหนๆก็ทุบแล้ว จางดาวเรนก็ไม่อยากเบามือเหมือนกัน เขาเองก็ได้หยิบท่อนแหล็กแล้วเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต
เหล่าลูกค้าและพนักงานในซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ได้วิ่งหนีออกมา และมองคนพวกฮันเทียนทุบทำลายในซุปเปอร์มาร์เก็ตอย่างหวาดกลัว
“พระเจ้า พวกนี้เป็นใครกัน ถึงได้กล้าทุบทำลายซุปเปอร์มาร์เก็ตของคนอื่น”
“ เจ้าของร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้ได้มีปัญหากับคนอื่นแน่ๆเลย เขาถึงได้มาหาเรื่อง”
“ ใช่แน่นอนเลย ก่อนหน้านี้ก็มีคนมาหาเรื่องตลอด แล้วถูกตำรวจจับไป หลังจากนั้นก็เงียบ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะน่ากลัวไปกว่าอีก ถึงกับได้มาทุบทำลายซุปเปอร์มาร์เก็ตเลยทีเดียว”
“ นี่เจ้าของร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้ได้ทำกรรมอะไรไว้ นี่เขาได้ทำกรรมอะไรไว้กับคนมีฐานะในสังคมแน่ ไม่เช่นนั้นแล้วคนปกติก็คงไม่มาทำลายซุปเปอร์มาร์เก็ตเขาหรอก”
“อืม คนพวกนี้แค่มองก็รู้เลยว่าเป็นคนสังคม ช้างเถอะ ต่อไปไม่มาซื้อของที่นี่แล้ว วันไหนจะถูกใครทำร้ายก็ไม่รู้”
“ ฉันก็จะไม่มาซื้อของที่นี่แล้ว อันตรายมากจริงๆ”
ผู้คนต่างได้วิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา และคนส่วนใหญ่ก็แสดงให้เห็นว่าต่อไปจะไม่กล้ามาซื้อของที่นี่
และพนักงานบางคนที่ขี้กลัวก็คิดดีแล้ว จะลาออกตั้งแต่วันนี้เลย ทำงานที่นี่มันอันตรายมากเกินไปจริงๆ เดี๋ยวเดี๋ยวก็มีเรื่อง ใครมันจะไปทนไหว
ยังไงวันนี้ซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว ช่วงนี้ก็คงจะไม่สามารถให้บริการได้
“ผู้จัดการอู๋ ดูสิ ซุปเปอร์มาร์เก็ตถูกพวกเขาทุบทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีเลย” พนักงานชายคนหนึ่งเห็นอู๋เล่ยกำลังรีบเดินมา จึงได้รีบขึ้นไปพูด
อู๋เล่ยยืนอยู่ข้างประตู แล้วมองดูพวกคนที่กำลังทุบทำลายข้าวของอยู่ในข้าง ในสายตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ลู่เฉินเชื่อใจเขา ถึงได้ให้เขามาดูแลซุปเปอร์มาร์เก็ตแทน และระยะเวลาช่วงนี้ที่เขาพยายามจนทำให้ยอดขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มมากขึ้น แต่วันนี้นึกไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้
นี่มันไม่ใช่ทำลายซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่นี่มันทำลายความฝันของเขาชัดๆเลย
เขากำหมัดแน่นเข้าด้วยกัน ดวงตาของเขาลุกเป็นไฟ
“แจ้งความก่อน” อู๋เล่ยหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดกับผู้ชายที่ยืนข้างๆ
“อืม” ชายคนนั้นได้รีบพยักหน้า แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทร110
อู๋เล่ยก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่เฉิน ไม่นานก็รับสาย อู๋เลยพูดด้วยน้ำเสียงที่ซึม: “พี่ลู่ ขอโทษ ที่ผมไม่สามารถปกป้องสเปอร์มาร์เก็ตได้ ซุปเปอร์มาร์เก็ตทุกคนอื่นทุบทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว”
“หืม? ใครทำ?” ลู่เฉินถาม
“ ตอนนี้ผมเองก็ไม่ทราบ พวกเขามากันสิบกว่าคน ตอนนี้กำลังทุบทำลายข้าวของอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต” อู๋เล่ยตอบ
“อืม นายให้พนักงานกลับไปก่อน อย่าให้พวกเขาทุกทำร้าย ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” พูดจบลู่เฉินก็ตัดสาย
“เป็นอะไร?” ตู้เฟยเห็นสีหน้าลู่เฉินแย่มาก จึงถาม
วันนี้หลังจากที่ลู่เฉินออกมาก็มาหาตู้เฟยเลยทันที และในขณะนี้พวกเขากำลังดื่มเหล้าด้วยกัน
“ มีคนมาทำลายซุปเปอร์มาร์เก็ตผม” ลู่เฉินพูด
“ เวรตัวไหนกัน อยากตายหรือไง?”ซ่งไห่นำแก้วโยนลงบนโต๊ะ และหน้าเต็มไปด้วยโมโม ซุปเปอร์มาร์เก็ตของลู่เฉินยังกล้าทุบ หาที่ตายชัดๆ
“ ไม่รู้เหมือนกัน ไปดูก่อนเถอะ ไม่ว่าจะเป็นใคร ครั้งนี้ ผมก็จะทำให้มันต้องได้รับผลกรรมที่แสนสาหัสแน่นอน!”
นัยน์ตาลู่เฉินได้มีความอาฆาตเลื่อนผ่าน หยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นแล้วเดินออกไป
ตู้เฟย Three Heroes of the Water Marginและหลิวจื่อซิ่วต่างได้เดินตามหลังไป