พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่174 ลู่เฉิน นายอยากตายหรือไง
บทที่174 ลู่เฉิน นายอยากตายหรือไง
คนอื่นๆก็เห็นว่าผู้จัดการเองก็ถูกทำร้ายด้วย จึงไม่มีใครกล้าที่จะออกเสียงใดๆเลย ต่างพากันหลบอยู่ข้างๆมองดูความคืบหน้าของเหตุการณ์
“ได้เวลาแล้ว ลุย!” ตู้เฟยดูนาฬิกา แล้วตะโกนออกมา
“ทุบให้มันไม่เหลืออะไรเลย!” ภายใต้การนำพาของหูเปียว ทุกคนได้ลุยเข้าไปทำลายข้าวของกันหมด
ลู่เฉินพิงอยู่บนฝาปิดรถพร้อมหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวน ซ่งไฮ่เห็นท่าจึงได้รีบขึ้นไปจุดไฟ
ลู่เฉินสูบบุหรี่เข้าลึกๆ ซ่งไฮ่ได้พูดขึ้นมา: “ลู่เฉิน จะให้ไปทุบทำลายด้วยตัวเองเลยไหม?”
“ไม่ต้อง คนของพวกคุณยังไม่ถึงใช่มั้ย?” ลู่เฉินสะบัดศีรษะแล้วถาม
“ทางนั้นไกลหน่อย คงอีกจะสิบกว่านาที”ซ่งไห่พูด
“ ปี้สุ่ยวานเป็นสถานที่ก่อสร้างของบ้านจางใช่หรือไม่?” ลู่เฉินจำได้ไม่ค่อยชัดเจน จึงถาม
“ผมสืบค้นดู” พอหลังจากซ่งไห่พูดเสร็จเขาก็หยับมือถือขึ้นมาค้นหาในเว็บ
“ใช่แล้ว กำลังการตกแต่งอยู่” หลังจากซ่งไห่ค้นหาเสร็จก็พูดขึ้นมา
“อืม ให้คนของคุณไประเบิดทำลายที่ก่อสร้างในปี้สุ่ยวานให้หมด” นัยน์ตาลู่เฉินได้มีความโหดร้ายเลื่อนผ่าน
ไหนๆวันนี้ก็จะมีเรื่องกับจางอ่ายอยู่แล้ว งั้นก็เล่นเอาทีเดียวให้มันใหญ่สมใจไปเลย
“ให้ตายเถอะ นี่คุณโหดร้ายไปเปล่า ผมได้ยินมาว่าบ้านจางได้ลงทุนกับปี้สุ่ยวานนั่นตั้งสองพันล้านเลยนะ คุณระเบิดทีนึง คงทำเอาพวกเขาสูญเสียอย่างน้อยก็พันล้านเลยหละ” ตู้เฟยฟังไปพูดไป
“คุณคิดว่าทำให้บ้านจางสูญเสียสักพันล้านเยอะไปเหรอ?” ลู่เฉินพูดอย่างจืดชืด
ตู้เฟยตะลึง พันล้านยังไม่เยอะอีกเหรอ?
แต่ว่าพอนึงถึงสถานะของลู่เฉินแล้ว เขาเองก็ได้โล่งใจไปในไม่ช้า
สำหรับคนธรรมดาแล้วพันล้าน มันเป็นเลขมหาศาลมาก และสำหรับบ้างจางเงินจำนวนนี้ก็ไม่ใช่ขำเล่น แต่สำหรับลู่เฉินแล้ว มันก็แค่เรื่องธรรมดาๆเท่านั้นเอง
ฉะนั้นลู่เฉินไม่มีทางพอใจกับแค่ทำให้บ้านจางต้องสูบเสียพันล้านแน่นอน
ครั้งนี้ เขาจะทำให้บ้างจางพังพินาศ ทำให้ชื่อเสียงบ้านจางที่อยู่ในสี่ตระกูลใหญ่นั้นไม่เป็นความจริง
“ต้องกำจัดพนักงานให้หมด” ลู่เฉินพูดกับซ่งไห่อีกครั้ง
“รับทราบ” ซ่งไห่พยักหน้าพร้อมกับได้เห็นความโหดเหี้ยมของลู่เฉิน ในใจเต็มไปด้วความรู้ลุก
จางซิงฉวนในขณะนี้ได้รีบเดินทางมา และข้างหลังได้มีบอดี้การ์ดสี่คนเดินตามหลังมา
“ท่านประธานจาง คุณมาได้สักที!” ผู้จัดการเห็นจางซิงฉวนลงจากรถ เขาก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที ผู้บริหารคนอื่นๆก็ได้รีบๆมาถึงบ้านกันแล้ว
จางซิงฉวนพยักหน้า สายตามองไปยังลู่เฉินที่สูบบุหรี่พิงอยู่บนรถ
วินาทีนี้ เขารู้สักทีว่าเพราะอะไรตำรวจถึงต้องล่าช้า
เจ้านี้มันต้องมีอะไรกับเซ่ซูเจี๋ย แน่นอนเลย
“ลู่เฉิน นี่คุณหมายความว่าอะไร?”จางซิงฉวนอดกลั้นความโกรธในใจไว้แล้วถามลู่เฉิน
ลู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองจางซิงฉวน แล้วตอบอย่างจืดจาง: “คุณไม่รู้จริงๆหรือไงว่าทำไมผมถึงจะทำลายบริษัทคุณ?”
จางซิงฉวนมืนงง เขาเองไม่รู้จริงๆว่าทำไมลู่เฉินถึงต้องทำลายบริษัทเขา
เขาติดต่อกับลูกชายตนเองน้อยมาก และไม่ค่อยจะยุ่งเรื่องของลูกเขาเลย ดังนั้นการที่เขาไม่รู้ว่าจางดาวเรนทุบทำลายซุปเปอร์มาร์เก็ตของลู่เฉินเป็นเรื่องที่ไม่แปลกเลย
“คุณโทรหาจางดาวเรนลูกชายคุณดีกว่า โทรหาแล้วคุณก็จะรู้เอางว่าเกิดอะไรขึ้น” ลู่เฉินพูด
ไอ้ลูกเนรคุณนั่น!
และจางซิงฉวนก็ไม่พูดอะไรต่ออีก เขาหยิบมือถือขึ้นมาพร้อมโทรหาจางดาวเรน
ตำรวจไม่ออกจับ เรื่องนี้ก็คงต้องเจรจากับเขาลู่เฉินเป็นการส่วนตัวแล้วหละ
“ลูกเนรคุณ นี่นายไปมีเรื่องอะไรกับลู่เฉิน?” พอรับสาย จางซิงฉวนก็ได้ตะคอกขึ้นมาทันที
“ครั้งก่อนมันหลอกเงินพวกผมไปห้าสิบล้าน ทำให้ผมโดนยึด วันนี้ผมพาคนมาทุบทำลายซุปเปอร์มาร์เก็ตเขา พ่อ มันไปฟ้องร้องพ่อใช่มั้ย? พ่อหาข้ออ้างสักอย่างให้มันละกัน และอีกอย่างที่เราทุบทำลายซุปเปอร์มาร์เก็ตมันก็เพราะกลัวว่าคืนนี้มันจะไม่กล้ามาตามคำท้า แค่มันมา หลังจากวันนี้เป็นต้นไปมันจะได้กลายเป็นคนพิการแน่นอน” จางดาวเรนพูด*
“คนพิการ? ไอ้ลูกเนรคุณ คงไม่ต้องรอให้ถึงกลางคืนบ้านจางเราก็จะถูกทำลายโดยมือของมึงหมด!” จางซิงฉวนตัวสั่นพร้อมกับตะคอกใส่ลูกเขา
“พ่อ เกิดไรขึ้นกันแน่ พ่อจะโมโหขนาดนี้ทำไมกัน?” จางดาวเรนถามอย่างสงสัย
“ลู่เฉินพาคนมาตั้งหลายร้อยกว่าคนเพื่อทุบทำลายบริษัท นายว่าเกิดไรขึ้นหละ?” จางซิงฉวนพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธ
“หา? เขา ไปเอาคนมากมายจากไหน?” จางดาวเรนอึ้ง หลายร้อยกว่าคน นั่นมันจำทุบทำลายทั้งบริษัทของบ้านจางเลย
ทันใดนั้นจางดาวเรนก็นึงถึงตู้เฟยขึ้นมา
เขาจำได้ว่ามีบอดี้การ์ดหลายคนของตู้เฟยมาเฝ้าดูระเบียบการให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตของลู่เฉิน หรือว่าตู้เฟยเป็นคนพามา?
แต่ว่าพวกเขาออกทำการเยอะขนาดนี้ ไม่กลัวเรื่องจะไปถึงตำรวจหรือไง?
“กูจะไปรู้ได้ไงว่ามันไปเอาคนมากมายนี้มาจากไหน ในเมื่อเรื่องนี้เหตุเกิดเพราะนาย นายก็รีบใสหัวมาจัดการเรื่องนี้ที่บริษัทด่วน ไม่เช่นนั้นนายจะไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับมรดกใดๆ!” จางซิงฉวนตะคอกอย่างโกรธ แล้วกดวางสายทันที
เขาหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินหน้าขึ้นไปหาลู่เฉินอีกครั้ง
“ลู่เฉิน สำหรับเรื่องลูกไม่รักดีจางดาวเรนที่ทุบซุปเปอร์มาร์เก็ต ผมรู้สึกเศร้าแทนมากจริงๆ แต่ผมเองก็ไม่รู้เรื่องราวระหว่างพวกคุณจริงๆ อย่างนี้มั้ย คุณให้คนของคุณหยุดมือลง ผมจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด จางซิงฉวนพูดขอร้อง
ลู่เฉินมองจางซิงฉวน แล้วเยาะเย้ย: “ซุปเปอร์มาร์เก็ตของผมนั่นสามารถบริจาคได้ตั่งร้อยล้าน คุณคิดว่าผมจะแคร์เงินชดเชยเล็กๆน้อยๆของบ้านจางคุณเหรอ?”
จางซิงฉวนตะลึง สีหน้าดูแย่ขึ้นมาทันที
แต่จะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ ลู่เฉินเป็นคนโหดเหี้ยมจริงๆ บริจาคไปตั่งหนึ่งร้อยล้าน คงไม่แค่เงินชดเชยเล็กๆน้อยๆนี่หรอก
“แล้วคุณอยากจะจัดการด้วยวิธีไหน? หากทุบงี้ต่อไป มันก็ไม่ดีกับตัวคุณด้วย” จางซิงฉวนพูด
“ทำไมจะไม่มีข้อดีหละ มันสะใจไง ทุกไม้ที่ตีลงไป ล้วนสามารถทำให้ผมผ่อนคลายได้” ลู่เฉินพูด
“คุณหยุดเถอะ ผมเรียกจางดาวเรนมาขอโทษคุณ แล้วแต่คุณจัดการ” จางซิงฉวนกัดฟัน จะให้ลู่เฉินทุบต่อไปไม่ได้อีก ไม่อย่างนั้นทั้งบริษัทถล่มแน่
ที่สำคัญคือ ในบริษัทยังมีข้อมูลเอกสารลับอยู่มากมาย หากถูกพวกเขาทำลายจะทำไงกัน?
“หากคำขอโทษมีประโยชน์ แล้วจะเอาตำรวจมาทำอะไร?” ลู่เฉินเยาะเย้ย
“คุณ! ลู่เฉิน นี่คุณจะต้องขนาดนั้นเลยหรือไง?” ในที่สุดจางซิงฉวนก็ไม่สามารถหักห้ามความโกรธในใจได้อีก
“ปลาตายตาต่ายพัง?” ลู่เฉินมองจางซิงฉวน แล้วหัวเราะ “บ้านจางขอบคุณมีสิทธิ์อะไรมาทำให้ผมต้องลงทุนขนาดนั้นด้วย?”
“หื้ม งั้นเราก็มาลองดู!” จางซิงฉวนสะบัดมือ แล้วเดินไปข้างๆเพื่อโทรศัพท์
คนที่ช่วยลู่เฉินก็เซ่ซูเจี๋ย ไม่ใช่หรือไง แค่จัดการเซ่ซูเจี๋ย ลู่เฉินก็ไม่ใช่ไรทั้งนั้น
“ลุงหลี บ้านจางเราเกิดเรื่องใหญ่แล้ว อีกฝ่ายคือเซ่ซูเจี๋ย สั่งสอนมันที เด็กคนนี้ห้าวเกินไป” จางซิงฉวนพูด
ในขณะที่จางซิงฉวนกำลังใช้เส้นสายอยู่นั้น จางดาวเรนก็กลับมาถึงพอดี ทันทีที่เขาลงจากรถ ก็รีบบุกมาหน้าลู่เฉินเลย
“ลู่เฉิน นายกล้าทุบทำลายบริษัทบ้านฉัน อยากตายหรือไง?” จางดาวเรนตะคอกออกมาอย่างดุร้าย