พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่176 คนในตระกูลจางโกรธจนพ่นเลือดออกมา
บทที่176 คนในตระกูลจางโกรธจนพ่นเลือดออกมา
ไม่นาน หูเปียวก็พาพี่น้องที่เพิ่งทุบไปแล้วหนึ่งชั้นครึ่งถอยออกมา และผ่านไปอีกหลายนาที หลิวจื่อซิ่วก็ถือเอกสารกองหนึ่งเดินออกมา พอพวกคนของตระกูลจางเห็นเอกสารในมือของหลิวจื่อซิ่ว ล้วนเปลี่ยนสีหน้าทันที
พวกเราไม่ต้องคิด ก็สามารถเดาได้ว่าเอกสารในมือของหลิวจื่อซิ่ว แน่นอนก็คือเอกสารที่เป็นความลับของบริษัทเขา
จางซิงฉวนก็เห็นเอกสารในมือของหลิวจื่อซิ่ว จู่ๆใจก็เต้นแรงขึ้น เอกสารในนั้นล้วนสำคัญมากๆ ถ้าหากตกอยู่ในมือของลู่เฉิน นั้นทีหลังตระกูลจางของเขาก็เท่ากับว่าถูกลู่เฉินบีบบังคับได้ไม่ใช่เหรอ?
แต่ในขณะที่จางซิงฉวนขะเดินไปถกเถียงกับลู่เฉิน จู่ๆก็ได้เห็นเปลวไฟลุกขึ้นไปจากชั้นหนึ่ง และพุ่งตรงขึ้นไปจากบันไดอย่างรวดเร็ว……
“ลู่เฉิน!”
จางซิงฉวนตวาดออกมา โกรธจนพ่นเลือดออกมาด้วย
ส่วนจางดาวเรนเกือบจะสลบไป
ไอ้บ้านี่ ไม่ให้โอกาสต่อรองเหรอ?
พนักงานทั้งหมดของตระกูลจางล้วนมึนงงไปหมด ต่างหน้าซีดกันใหญ่เลย ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าพวกเขาตระกูลจางไปแส่หาเรื่องคนโหดคนใดมา
ทุกคนมองไปที่คนพวกลู่เฉิน ในสายตาล้วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ผู้นำตระกูลจาง ขอโทษครับ ฉันก็ไม่อยากให้เรื่องมันถึงจุดนี้ เดิมทีฉันไม่อยากจะสนใจลูกชายของคุณด้วยซ้ำ แต่วันนี้เขาทำให้ฉันขุ่นเคืองเป็นอย่างยิ่ง ถ้าฉันยังไม่ทำอะไรอีก นั้นก็ไม่ใช่นิสัยของฉันแล้ว เอ๊ะ เห็นแก่ที่เราเคยกินเหล้ากันหลายครั้งอยู่ ฉันจะเตือนคุณไว้ด้วยความหวังดีนะ นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น สิ่งที่สนุกๆยังอยู่ข้างหลังนะ คุณต้องทนไหวให้ดีนะครับ”ลู่เฉินพูดกับจางซิงฉวน จากนั้นก็สะบัดหน้าเดินขึ้นรถ
นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น?!
พู!
จางซิงฉวนพ่นเลือดออกมาอีกครั้ง
ไอ้เหี้ยนี่ ตั้งใจที่จะต่อสู้กับตระกูลจางของเราจนถึงที่สุดเลยรึ?
สีหน้าของจางดาวเรนยิ่งซีดกว่าคนอื่น ไม่มีสีเลือดแม้แต่นิด
พอดีในเวลานี้ มีเบอร์หนึ่งโทรมาที่โทรศัพท์ของจางดาวเรน
จางดาวเรนรับสาย และก็เห็นอีกฝั่งพูดอย่างรีบร้อน”คุณชายใหญ่ครับ มีคนไหล่คนงานใน ปี้สุ่ยวานของเราออกมาหมด แถมในมือของพวกเขาเหมือนยังถือดินระเบิดอยู่”
“อะไรนะเนี่ย?ทำไมแกยังไม่โทรไปแจ้งความวะ?”จางดาวเรนพูด
“แจ้งแล้วครับ แต่รอตั้งนาน ยังไม่มีคนมาเลย……ปัง!ปัง!ปัง!”อีกฝั่งยังพูดไม่เสร็จ จางดาวเรนก็ได้ยินเสียงระเบิดอย่างต่อเนื่องดังขึ้นมาจากโทรศัพท์
“สถานการณ์อะไรวะ?”มีความรู้สึกที่ไม่ดีเกิดขึ้นใจของจางดาวเรน หลังจากผ่านไปประมาณหลายสิบวินาที เขาถึงได้ยินอีกฝั่งหนึ่งตอบเขาว่า
“คุณ คุณชายใหญ่ครับ ตายแล้ว สิ่งก่อสร้างทุกอย่างในปี้สุ่ยวานล้วนระเบิดหมด!”
“ระเบิด?”
จางดาวเรนกรี๊ดขึ้นมาเสียงหนึ่ง และทรงตัวไม่อยู่ จึงล้มลงไปกับพื้น
โครงการปี้สุ่ยวานนี้ตระกูลจางของพวกเราใด้ทุ่มเทเงินเข้าไปตั้ง1,500 ล้านถึงจะสร้างขึ้นมาได้ ถูกระเบิดไปเช่นนี้เลยเหรอ?
ลู่เฉิน ต้องเป็นลู่เฉินแน่นอน!
จางดาวเรนรู้สึกตัวขึ้นมาได้ เงยหน้าไปมอง เห็นแต่ขบวนรถของลู่เฉินเพิ่งขับออกไปจากบริษัทของเขา ขับจากไปอย่างรวดเร็วบนท้องถนน
ใจของจางดาวเรนจมลงไปในก้นบึ้งอย่างสิ้นเชิง โทรศัพท์ตกลงสู่พื้นเพราะมือที่อ่อนแรง ไม่มีความเป็นชีวิตชีวาแม้แต่นิดเลย
ส่วนเวลานี้จางซิงฉวนก็รู้ข่าวที่ปี้สุ่ยวานระเบิด หลังจากพ่นเลือดออกมาอีกครั้ง ก็สลบไปโดยตรง
ส่วนกรีนทาวน์ในขณะนี้ เมื่อจางดาวจงบอกข่าวที่อาคารสำนักงานใหญ่ถูกลู่เฉินปล่อยไฟเผาไปหมด และปี้สุ่ยวานก็ระเบิดจนกลายเป็นพื้นราบให้กับจางเซิงเฉียว จางเซิงเฉียวก็ล้มลงไปบนโซฟา และโกรธขรึมจนสลบไปทันที
“คุณปู่ คุณปู่ครับ”จางดาวจงและคนอื่นๆรีบประคองจางเซิงเฉียวขึ้นมา และป้อนยาให้เขาเม็ดหนึ่ง รอจนกว่าหนึ่งนาทีผ่านไป จางเซิงเฉียวจึงค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมา
“ลู่เฉิน ไอ้เหี้ย ใครเป็นผู้สนับสนุนมันวะ กล้ามาแก้แค้นกับตระกูลเราขนาดนี้!”จางเซิงเฉียวถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยฆาตกรรมที่รุนแรง ตระกูลจางของพวกเขาได้ตั้งฐานอย่างมั่นคงในเมืองยวี่โจวหลายสิบปีแล้ว คาดไม่ถึงว่าไอ้ลู่เฉินนี่ไม่เพียงแต่กล้ามาปล่อยไฟเผาอาคารของบริษัทตระกูลเขาไป แถมยังกล้ามาวางระเบิดใส่ปี้สุ่ยวานที่พวกเขาเพิ่งสร้างขึ้นมาเสร็จด้วย
“คุณปู่ครับ เบื้องหลังของลู่เฉินน่าจะเป็นเซ่ซูเจี๋ย”จางดาวจงพูด
“เป็นไปไม่ได้ ฉันแค่เปิดซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆเอง แถมเซ่ซูเจี๋ยก็แค่ถูกโยกย้ายมายวี่โจวได้ไม่นาน จะรู้จักกับลู่เฉินได้ยังไงล่ะ”จางเซิงเฉียวส่ายหน้า ตระกูลจางของพวกเขาได้ตีความสัมพันธ์กับรัฐบาลในเมืองมาตั้งสิบกว่าปี ลู่เฉินเป็นคนแค่เม็ดขี้ผึ้งเอง มีสิทธิ์อะไรที่จะทำให้เซ่ซูเจี๋ยเป็นเบื้องหลังให้เขาล่ะ
“จริงๆครับ คืนวันนั้น ฉันเห็นกับตาว่าเซ่ซูเจี๋ยไปขอชนแก้วกับเขา ฉันก็ได้อยู่โต๊ะนั้นด้วย”จางดางจงพูด
จางเซิงเฉียวตะลึง รู้สึกเหลือเชื่อ แต่จากนั้นก็ตวาดออกมาว่า”ในเมื่อที่แกรู้ว่าเบื้องหลังของเขาคือเซ่ซูเจี๋ย นั้นก่อนหน้านี้ที่จะไปทุบซูเปอร์มาร์เก็ตของลู่เฉิน ทำไมแกไม่มาเตือนพวกเราวะ?”
“คุณปู่ครับ ฉันก็เพิ่งรู้เมื่อคืนนี้ครับ ส่วนจางดาวเรนได้รู้ความสัมพันธ์ของลู่เฉินกับเซ่ซูเจี๋ยมาตั้งนานแล้ว แต่เขายังยืนหยัดว่าจะไปทุบซูเปอร์มาร์เก็ตของลู่เฉิน ฉันนึกว่าเขามีความมั่นใจอยู่ในตัว”จางดาวจงพูดอย่างน้อยใจ
เดิมทีเขาก็ไม่ค่อยสบายใจแล้ว ในฐานะที่เป็นหลานชายของคุณด้วยกัน แถมจางดาวเรนยังเป็นคนไม่มีความสามารถด้วย แต่ทำไมคุณถึงลำเอียงไปทางเขา คุณนี่ทำตัวไม่ยุติธรรมเช่นนี้ ฉันจะเตือนคุณไปเพื่อ?
ฉันยินดีที่จะได้เห็นจางดาวเรนทำผิดไปเรื่อยๆนะเว้ย!
จางดาวจงแอบพูดอยู่ในใจอย่างโมโห
จางเซิงเฉียวก็รู้สึกว่าตัวเอฝเข้าใจผิดจางดาวจงแล้ว จึงพยักหน้า และมอวไปทางตงฟางหลง
“ปรมาจารย์ตงฟาง คืนนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องเชิญคนทำไอ้เหี้ยนั้นพิการนะครับ เขาโหดเหี้ยมเกินไป ทำให้ตระกูลจางของเราขาดทุนไป2,300ล้านเลย ฉันจะให้เขาชดใช้กรรมที่เขาทำเอาไว้”จางเซิงเฉียวมอวไปที่ตงฟางหลงอย่างขอร้อง
“ไม่ต้องห่วง นอกจากว่าเขาไม่มาตามที่นัดไว้ ไม่นั้นคืนนี้ฉันจะทำให้เขาพิการให้แน่ๆ”ตงฟางหลงพูดอย่างมั่นใจ เมื่อได้ยินตระกูลจางอนาถเช่นนี้ เขาก็รู้สึกว่าลู่เฉินหยิ่งเกินไป
“ศิษย์พี่ ฉันรู้สึกว่าเขาจะมาแน่นอน”ฮันเทียนก็พูดออกมา
“ทำไมคุณถึงแน่ใจขณะนี้ว่าเขาจะมาแน่นอนละ?”ตงฟางหลงถาม
“เพราะฉันก็ไปทุบทำลายซูเปอร์มาร์เก็ตของเขาด้วย แถมฉันยังบอกกับผู้รับผิดชอบของซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วว่า ถ้าลู่เฉินอยากจะแก้แค้น ก็ให้มาหาฉันที่กรีนทาวน์ วันนี้ลู่เฉินได้หาตระกูลจางแก้แค้นไปแล้ว ดังนั้นคืนนี้เขาจะต้องมาแก้แค้นฉันด้วยแน่นอน”ฮันเทียนพูดชี้แจง
“เออ หวังว่าเขาจะไม่ทำให้ฉันต้องผิดหวัง ฉันก็อยากดูว่า ตกลงเป็นคนยังไงกันแน่ ที่สามารถเอาชนะคนด้วยหมักเดียวได้”ตงฟางหลงพยักหน้า สาเหตุที่เขายอมออกมาแก้แค้นให้ฮันเทียน ก็เพราะฮันเทียนชมลู่เฉินว่าเก่งมากทีเดียว
ตงฟางหลงเป็นคนที่มั่นใจในความสามารถของตัวเองสูงมาก เขารู้สึกว่าในโลกนี้นอกจากอาจารย์ขอวเขาแล้ว คงหาคู่แข่งไม่ได้แล้ว
พอดีว่าลู่เฉินถูกฮันเทียนชมว่าเทพขนาดนั้น เขาเลยได้มาแล้ว
สีหน้าของเฮียเทียนเก้อเขินเล็กน้อย เขาอยากจะบอกว่า สาเหตุที่ตอนนั้นถูกลู่เฉินเอาชนะด้วยหมัดเดียว ก็เพราะว่าลู่เฉินเจ้าเล่ห์เกินไป เขาแค่ตกกับดักของเขาเอง
แต่เขาก็ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าลู่เฉินจะต่อสู้กับขายังไง เขาก็ต้องแพ้เขาอยู่ดี
เพราะดูจากแรงของหมัดที่ลู่เฉินต่อยมาที่เขานั้น เขาก็สามารถรู้ว่าลู่เฉินเก่งกว่าเขาตั้งเยอะ