พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่33 ซื้อรถ
บทที่33 ซื้อรถ
ขณะที่ลู่เฉินกับเสี่ยวจิงกำลังโบกรถอยู่นั้น ก็มีรถVolkswagenคันหนึ่งหยุดที่ข้างหน้าพวกเขา
หูหงลงมาจากรถและส่งสายตาร้อนแรงมาทางลู่เฉิน
หากไม่ใช่ลู่เฉินโทรหาพ่อของเขาเรื่องในวันนั้น เขาก็คงไม่ถูกจับได้ ตอนนี้หลินอี้เจียเลิกติดต่อเขาทุกช่องทางแล้ว ทำให้เขาอับอายมาก ภายในใจคับแค้นลู่เฉินยิ่งนัก
“ลู่เฉิน เรามาทำการแลกเปลี่ยนกันดีกว่า” หูหงเอ่ยด้วยท่าทางหยิ่งยโส
ลู่เฉินเบื่อที่จะสนใจหูหง ที่หูหงมาในวันนี้เขาเองก็ได้คิดไว้อยู่ก่อนแล้ว
“ไม่สนใจ” ลู่เฉินตอบเบาๆ
“ฉันรู้ว่าแกจน ยังติดหนี้คนอื่นอยู่ตั้งหลายแสน เพียงแค่แกทำให้เมียของแกยกโทษให้ฉัน ฉันจะให้ค่าตอบแทนสองแสน ถ้าแกทำให้เมียแกไปบอกหลินอี้เจียให้ยกโทษให้ฉันได้ ฉันเพิ่มให้อีกสองแสน เป็นยังไง?” หูหงได้ยินมาว่าลู่เฉินติดหนี้อยู่สี่แสน ถ้าเขานำเงินสี่แสนนี้มาล่อลู่เฉิน เขาคงไม่กล้าปฏิเสธ
“คุณเห็นผมเป็นคนที่ขาดแคลนเงินสี่แสนเหรอ?” ลู่เฉินถามอย่างเจ้าเล่ห์ พอดีกับจังหวะที่มีแท็กซี่ว่างคันนึ่งผ่านมา เขาเดินหลบหูหงไปโบกรถ
“เบ็ดเสร็จห้าแสน” หูหงพูดขึ้น
ลู่เฉินไม่สนใจเขา เดินตรงไปขึ้นรถพร้อมกับเสี่ยวจิง
“แม่งเอ้ย ห้าแสนก็ไม่น้อยแล้ว มากกว่านี้คนอย่างมันจะเอาไปใช้อะไร?” หูหงกำมือแน่น เมื่อเห็นว่าแท็กซี่กำลังจะออกตัว เขารีบขึ้นรถแล้วขับตามไป
เขาตามหาลู่เฉินอยู่นานกว่าจะเจอ แน่นอนว่าไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆแน่
ไม่มีใครกล้าสงสัยในคำพูดของเศรษฐีลู่ ถ้าเขาไม่รีบให้หลินอี้จุนยกโทษให้ล่ะก็ เศรษฐีลู่อาจะทำให้ร้านค้าเขาเจ๊งจริงๆก็ได้
ที่แย่กว่านี้คือ ถึงเวลาแล้วพวกเขาสองพ่อลูกอาจจะต้องไปนอนกินข้าวแดงในคุกก็ได้ นี่คือสิ่งที่หูหงกลัวมากที่สุด
ธุรกิจร้านค้าล้มละลายยังพอลุกขึ้นสู้ใหม่ได้ แต่เข้าไปนอนในคุกแล้ว พวกเขาสองคนจบสิ้นแน่ๆ
หูหงตามไปรถแท็กซี่คันนั้นไป รถคันนั้นจอดที่หน้าโชว์รูมรถยนต์Audi มันทำให้เขางุนงวยมาก
ไอ้คนจนๆนี่จะซื้อรถงั้นหรือ?มันเอาเงินมาจากไหนกัน?
แม้ว่าหูหงจะสงสัย แต่ในที่สุดเขาก็เดินตามสองคนนั้นเข้าไปในร้าน
“น่าจะมาเป็นเพื่อนไอ้หมอนั่น แต่มันก็เป็นแค่ยามธรรมดาๆ จะมีปัญญาซื้อรถเหรอ Audiซะด้วย?”
หูหงยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ
“สองคนนั้นดูท่าทางไม่เหมือนคนมีปัญญาซื้อรถนะ ใครสนใจก็เข้าไปต้อนรับเองแล้วกัน”
“มองดูก็รู้ว่าเป็นยาม เอาปัญญาที่ไหนมาซื้อรถกัน คงฉวยโอกาสนี้มาดูรถถ่ายรูปอัพลงเน็ตล่ะไม่ว่า”
“ใช่ๆสมัยนี้คนประเภทนี้มีเยอะมาก เมื่อเดือนที่แล้วนะฉันก็เจอมาเหมือนกัน เป็นผู้หญิงสองคนแต่งตัวดูดีเชียว ใครจะไปรู้ว่ามาแค่ถ่ายรูปลงเฟส ทำฉันโมโหจริงๆพูดแล่วอารมณ์เสีย”
“แหม ถ้าเป็นหนุ่มหล่อๆก็คงไม่อารมณ์เสียหรอกมั้ง”
“นี่จะว่าไปสองคนนั้นน่ะดูจนๆแต่ก็หน้าตาหล่อเหลาเอาการอยู่นะ จื่อหลาน เธอลองเข้าไปต้อนรับดูสิ”
“เชอะ หล่อกะผีอะไรล่ะ หล่อกินได้หรือไง เอ๊ะ ผู้ชายข้างหลังสองคนนั้นถึงจะเรียกว่าคุณชายที่แท้จริง” พนักงานที่ชื่อว่าจื่อหลานมองเห็นหูหงที่เดินตามลู่เฉินใส ก็ออกไปต้อนรับด้วยความดีใจ
ลู่เฉินเดินเข้ามาในโชว์รูมและได้ยินสิ่งที่พนักงานสาวพูดคุยกัน
ไม่มีใครออกมาให้การต้อนรับเขา ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจนักกลับเดินตรงไปที่รถ
เขาตั้งใจจะซื้อA6สักคันหนึ่ง ไม่หรูหราแต่ก็ไม่แย่จนเกินไป
ถ้ามีรถสักคัน เขาไปรับส่งลูกสาวก็สะดวก หลินอี้จุนก็ใช้ขับไปทำงานได้ เธอออกไปพบกับลูกค้าบ่อยๆและตอนนี้ก็ได้เลื่อนขั้นแล้ว ควรจะมีรถสักคันก็คงดี
ลู่เฉินหยุดอยู่หน้าA6ที่เพิ่งออกใหม่นี้ ไม่นานก็มีพนักงานคนหนึ่งเดินมา ดูท่าทางเขินอายไม่คล่องตัว คงจะเป็นพนักงานฝึกหัดที่เพิ่งมา
“ทางเรามีรถให้เลือกหลายระดับ มี A3สำหรับผู้เริ่มขับ ถ้าคุณผู้ชายสนใจดิฉันจะพาไปดูได้นะคะ” ถึงแม้เธอจะเป็นพนักงานฝึกหัดแต่ก็ดูออกว่าลู่เฉินพวกเขาคงไม่สามารถซื้อA6ได้
“เอาคันนี้แหละ ชำระเงินวันนี้จะได้รถเมื่อไหร่?” ลู่เฉินถามไปตรงๆ
“คะ?” พนักงานฝึกหัดงวยงงกับสิ่งที่ได้ยิน เมื่อสักครู่พนักงานเก่าแก่สองคนนั้นบอกเธอเองว่าเขาคงมีปัญญาซื้อรถ เธอจึงได้แนะนำA3แก่เขาไป
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” ลู่เฉินมองแล้วถามด้วยความประหลาดใจ
“คะ เอ่อ ไม่มีค่ะ ว่าแต่คุณผู้ชายได้ดูราคาหรือยังคะ นี่คือA6นะคะ” เธอพูดอย่างติดๆขัดๆ
“สี่แสนเจ็ด เขียนไว้ไม่ใช่เหรอ?” ลู่เฉินชี้ไปที่ป้ายราคา
พนักงานฝึกหัดรู้สึกเสียความมั่นใจเล็กน้อย เดิมทีเธอคิดว่าลู่เฉินคงพูดเล่นๆเสียอีก เธอไม่เคยเจอลูกค้าที่ซื้อรถง่ายๆแบบนี้มาก่อน ทำให้เธอค่อนข้างประหลาดใจ
“มีส่วนลดอะไรไหม?” ลู่เฉินถาม
“คุณผู้ชาย เพราะว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่เพิ่งออกใหม่ล่าสุด ตอนนี้ทางเรายังไม่ได้จัดโปรโมชั่นค่ะ” พนักงานสาวส่ายหัว เธอเข้าใจว่าที่ลู่เฉินถามเรื่องนี้เพราะจะใช้เป็นข้ออ้างว่าไม่ซื้อแล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรอีก
จะมองยังไงทั้งสองคนก็ไม่เหมือนคนที่จะมีปัญญาซื้อA6นี่นา
“โอเค งั้นตามนี้ ผมต้องการรับรถเลยวันนี้ ไม่มีปัญหาใช่ไหม?” ลู่เฉินพยักหน้า
“คุณผู้ชาย…จะซื้อเลยจริงๆเหรอคะ?” เธอตกใจมาก
“ไม่ซื้อรถแล้วจะมาร้านขายรถทำไม ว่างจัดเหรอ ไปเถอะจ่ายเงิน เซ็นสัญญา” ลู่เฉินขำ
พนักงานฝึกหัดอายหน้าแดง ลึกๆในใจเธอไม่เชื่อว่าลู่เฉินจะซื้อรถจริงๆ แต่ก็รีบเดินหน้าไปทำเรื่องซื้อขายให้แก่เขา
ลู่เฉินหัวเราะ เขามองออกว่าพนักงานคนนี้ไม่เพียงแต่ขาดประสบการณ์แต่ยังไร้เดียงสาอีกด้วย
“เป็นยังไงละ สองคนนั้นเข้ามาก็ตรงไปที่A6 พอเห็นราคาแล้วช็อกไหมล่ะ” เมื่อเห็นพนักงานฝึกหัดเดินเข้าหยิบเอกสาร พนักงานคนอื่นก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ใช่ซะที่ไหนล่ะ เค้าจะซื้อA6จริงๆ ฉันไม่ต้องแนะนำอะไรเลย นี่กำลังทำเรื่องชำระเงินแล้ว เดี๋ยวขับรถไปเลย” พนักงานฝึกหัดคนนั้นชูบัตรในมือเธอให้ดูแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
นี่เป็นรายการแรกที่เธอขายได้หลังจากที่มาทำงานที่นี่ ที่สำคัญเธอทำด้วยตัวเอง ไม่ต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้พวกพนักงานเก่าแก่
พนักงานคนอื่นสีหน้าเปลี่ยนไป ในใจรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
เมื่อสักครู่ทำไมพวกเธอถึงได้ดูถูกเขากันนะ
ค่าคอมมิชชั่นจำนวนมากทีเดียว
พนักงานคนอื่นมองดูพนักงานฝึกหัดด้วยสายตาอิจฉา โดยเฉพาะพี่ฝึกหัดของเธอ คับแค้นใจยิ่งนัก
“วางใจเถอะน่า เค้าเป็นแค่ยามธรรมดาๆ ไม่มีปัญญาซื้อหรอก อย่าว่าแต่A6เลย A3ก็คงไม่มีปัญญาซื้อ
ขณะเดียวกันหูหงเดินเข้ามาพูดกับพนักงานอีกคนหนึ่ง
ลู่เฉินมีหนี้สินตั้งหลายแสน เขาคิดว่าลู่เฉินแค่ต้องการเอาชนะเขาต่อหน้าเท่านั้น ไม่ได้อยากซื้อรถจริงๆ
“คุณชายหู พูดจริงเหรอคะ?” พนักงานที่ต้อนรับหูหงพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่เชื่อคอยดูสิ ต่อให้เขาจะซื้อจริงๆก็ต้องมาขอร้องให้ผมช่วยจ่ายให้” หูหงพูดด้วยความมั่นใจ
ก่อนหน้านี้เขาเสนอให้ลู่เฉินห้าแสน เขาคิดว่าลู่เฉินอยากได้แต่ไม่อยากเสียศักดิ์ศรีจึงได้ใช้วิธีนี้มาแลกเปลี่ยนกับเขา
เมื่อคิดดังนี้ ในใจเขาก็รู้สึกดูถูกลู่เฉินขึ้นมาทันที
“คุณชายหูนี่ใจดีจริงๆเลยนะคะ” จื่อหลานพูดชม
“แหมเรื่องแค่นี้เอง ไม่มีอะไรมากมาย อีกสองสามวันผมจะมารับA8ไปนะช่วยจัดการให้ผมด้วย เดี๋ยวคอยดูว่าเขาจะมาขอร้องผมไหม ถ้าผมพูดไม่จริง รถคุณในร้านนี้ผมเหมาหมดเลย” หูหงพูดอย่างมั่นใจ
เมื่อได้ยินคำพูดของหูหง พนักงานคนอื่นก็พากันตื่นเต้นขึ้นมา
เรื่องที่หูหงพูดว่าจะเหมารถทั้งร้านนั้นพวกเธอเข้าใจดีว่าเป็นเรื่องล้อเล่น แต่เรื่องที่บอกว่าจะซื้อA8นั้น พวกเธอจะได้ค่าคอมมิชชั่นจำนวนไม่น้อยทีเดียว พวกเธอต่างคิดว่าทำอย่างไรให้หูหงมาซื้อรถกับตน