พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่397 ผู้ครองนครขู้ปา
บทที่397 ผู้ครองนครขู้ปา
ลู่เฉินตาเป็นประกาย เมื่อเทียบกับผู้ครองนครทุกคนแล้ว ถ้ามีกองกำลังพระราชวงศ์เจียซือที่หลบหนีมาเข้ามาร่วมด้วยถึงจะยิ่งมีความมุ่งมั่นจะฆ่าปาเอ่อเพื่อล้างแค้นมากกว่า
แต่ถ้าหากกองกำลังที่หลบหนีมามีคนในราชวงศ์เจียซือด้วย จะยิ่งมีเหตุผลที่จะช่วยพวกเขาได้อย่างออกนอกหน้า
แต่เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ประเด็นหลัก ลู่เฉินมั่นใจว่าคนในราชวงศ์เจียซือไม่มีทางที่จะถูกปาเอ่อฆ่าตายแล้วทั้งหมด ขอแค่ยังมีเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งมีชีวิตอยู่ ก็สามารถแน่ใจได้ว่ากองกำลังหลบหนีกำลังปกป้องคนคนนั้นอยู่
แต่ลู่เฉินไม่มีความคิดจะไปหากองกำลังที่หลบหนีมาที่เมืองหรื่นหม่า ที่พวกเขาหนีมาที่เมืองหรื่นหม่า แน่นอนว่าต้องมาขอความร่วมมือจากผู้ครองนครซางปา ลู่เฉินรู้ดีว่าซางปาขี้ขลาดมากแค่ไหน แน่นอนว่าเขาต้องไม่ร่วมมือกับกองกำลังหลบหนีแน่นอน
เขาตั้งใจจะรอให้กองกำลังหลบหนีเจรจากับซางปาไม่สำเร็จ แล้วเขาค่อยเข้าไปคุยกับหัวหน้ากองกำลังหลบหนี แบบนั้นโอกาสที่จะเจรจาสำเร็จจะมีมากกว่า
“เป็นข่าวที่ตู้เฟยส่งมาใช่ไหม”ลู่เฉินถาม
“ใช่ครับ พวกพี่เฟยส่งข่าวมาให้ครับ”เสี่ยวจิงตอบ
“อืม นายบอกให้ตู้เฟยส่งคนไปเฝ้าที่หน้าวังของซางปา คอยจับตาดูว่าเมื่อไหร่ที่กองกำลังหลบหนีจะเข้าไปหาซางปา ให้เขารีบติดต่อกลับมาหาฉัน”ลู่เฉินพยักหน้าก่อนจะสั่งงาน
“พี่เฉิน แล้วถ้าหากซางปาตกลงร่วมมือกับกองกำลังหลบหนีล่ะครับ ข่าวรายงานมาว่ากองกำลังที่หลบหนีมาที่เมืองหรื่นหม่ามีถึงหนึ่งหมื่นกว่านาย อีกทั้งยังมีกองกำลังหลบหนีจากเขตปกครองอื่นอีกไม่น้อย ถ้าหากพวกเราไม่ติดต่อเข้าไปหาพวกเขาก่อน พวกเราอาจจะเสียเปรียบได้นะครับ”เสี่ยวจิงพูด
ลู่เฉินเกิดการลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูด “กองกำลังหลบหนีเองก็คงอยากให้ซางปาช่วยพวกเขากอบกู้พระราชวงศ์เจียซือและต่อสู้กับปาเอ่อเหมือนกัน แต่ฉันคิดว่าซางปาคงไม่มีความกล้าที่จะต่อสู้กับปาเอ่อ มีโอกาสสูงที่เขาจะยอมศิโรราบให้กับปาเอ่อแล้ว กองกำลังหลบหนีไม่มีทางที่จะร่วมมือกับเขาแน่นอน”
สำหรับจุดนี้ ลู่เฉินมั่นใจมาก ซางปาเป็นคนขี้ขลาดมาก และความตั้งใจตั้งแต่แรกของกองกำลังหลบหนีก็คือล้างแค้น
ถึงแม้พวกเขาจะถูกผู้ครองนครคนอื่นๆพูดเกลี้ยกล่อม แต่ก็คงต้องใช้เวลาไม่น้อย สุดท้ายพอไม่เห็นความหวังว่าจะแก้แค้นได้ ถึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะเจรจากับผู้ครองนคร
“อืม ได้ครับ ผมจะรีบติดต่อไปหาพี่เฟยทันทีครับ”เสี่ยวจิงพยักหน้ารับ เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่ลู่เฉินพูดมามีเหตุผล
ถ้าเปลี่ยนเป็นเขา คงจะไม่คิดจะร่วมมือกับซางปาเหมือนกัน
อีกอย่างไม่ว่าจะเป็นกองกำลังหลบหนีหรือว่าซางปา กองกำลังของทั้งสองฝั่งก็ไม่แตกต่างกันมาก ถึงจะต้องเจรจากันก็ต้องใช้เวลาหลายวัน เพราะมันเกี่ยวพันไปถึงผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย หรือไม่แน่ ถึงต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนก็คงเจรจากันไม่สำเร็จ
ตอนช่วงสี่ทุ่ม ในที่สุดหวงไห่ทาวก็ติดต่อกับผู้ครองนครขู้ปาได้ เขตปกครองของขู้ปาอยู่ที่มณฑลจีต้า อยู่ห่างจากเมืองวันทองประมาณหกร้อยกิโลเมตร อีกวันต่อมาผู้ครองนครขู้ปาถึงได้นั่งเฮลิคอปเตอร์มาที่เมืองหรื่นหม่า ตอนที่รู้ว่าขู้ปาเดินทางมาที่ถิ่นของตน ซางปานึกว่าอีกฝ่ายจะมาหาเขา แล้วยังจงใจหลบหน้าขู้ปา เพราะเมื่อคืนขู้ปาได้ติดต่อหาเขาแล้ว
ขู้ปาอายุยังน้อย ยังไม่ถึงสี่สิบปี เป็นช่วงเวลาที่ยังมีนิสัยมุทะลุ พอได้ยินว่าคนหัวเซี่ยคิดจะกอบกู้ประเทศคืนมาให้ เขาก็ตื่นเต้นและดีใจมาก
ดังนั้นจึงไม่ได้ถามถึงความแข็งแกร่งของลู่เฉิน เขาก็เดินทางมาถึงเมืองหรื่นหม่าแล้ว
เพราะหวงไห่ทาวโทรหา เขาจึงคิดว่ากองทัพของหัวเซี่ยจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือพวกเขา
ดังนั้นตอนที่ลู่เฉินอยากเจอเขา เขาจึงรู้สึกดีใจมาก
อีกทั้งยังเข้าใจผิดคิดว่าลู่เฉินเป็นตัวแทนของหัวเซี่ย เป็นคนที่มีอำนาจสั่งการสูงที่สุด จึงมีท่าทางเคารพนับถือลู่เฉินอยู่ไม่น้อย
“ขู้ปายินดีที่ได้พบกับท่านครับ”ขู้ปาทำความเคารพลู่เฉิน
เขาเป็นคนที่อยากกอบกู้พระราชวงศ์มากที่สุดในหมู่ผู้ครองนคร
ดังนั้นตอนที่ปาเอ่อโทรมาหาเขา เขาถึงได้ตอบปฏิเสธออกไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำการด่าทอปาเอ่อไปอย่างเจ็บแสบ
“ผู้ครองนครเกรงใจกันเกินไปแล้วครับ เชิญนั่งครับ” ลู่เฉินหันไปพยักหน้าทักทายอย่างเป็นกันเอง
ขู้ปาเห็นว่าลู่เฉินไม่มีความหยิ่งผยองของคนที่มีอำนาจล้นเหลือ จึงยิ่งรู้สึกดีกับลู่เฉินมากขึ้นไม่น้อย
เขานั่งลงตรงข้ามกับลู่เฉิน แล้วรอลู่เฉินเอ่ยปากพูดก่อน
“ผมอยากรู้ ว่าคุณมีความมั่นใจว่าจะชนะปาเอ่อมากน้อยแค่ไหนครับ”ลู่เฉินเอ่ยถามขึ้นมาก่อน
ขู้ปามองไปทางลู่เฉิน ไม่รู้ว่าลู่เฉินกำลังคิดอะไรอยู่ เขานิ่งคิดก่อนจะพูด “มีกองกำลังของหัวเซี่ยมาช่วยด้วยอีกแรง จะเอาชนะปาเอ่อคงจะไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน จริงไหมครับ”
ลู่เฉินได้ยินแบบนั้น จึงรู้ได้ทันทีว่าขู้ปาเข้าใจความหมายที่เขาพูดผิดไปแล้ว
เขาแบมือทั้งสองข้างขึ้น ก่อนจะพูด “ท่านผู้ครองนคร ผมคิดว่าคุณคงจะเข้าใจผิดฐานะของผมแล้วครับ เอาอย่างนี้ครับ ผมขอแนะนําตัวเองก่อนนะครับ ผมชื่อลู่เฉิน เป็นหัวหน้าใหญ่ของสำนักสังหารกั่วกาน ในขณะเดียวกันผมยังเป็นประธานบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีด้วย ผมไม่ใช่ตัวแทนของทางการหัวเซี่ย และทางการของหัวเซี่ยก็ไม่มีทางส่งกองกำลังมาช่วยพวกคุณกอบกู้ราชวงศ์คืนมาด้วย แต่ผมมีความมั่นใจว่าสามารถช่วยคุณเอาชนะปาเอ่อ และขึ้นปกครองประเทศเจียซือได้”
“ฮะ”พอขู้ปาได้ยินว่าลู่เฉินไม่ใช่คนที่ทางการหัวเซี่ยส่งมา จึงรู้สึกผิดหวัง อีกทั้งยังรู้สึกเหมือนตัวเองถูกหลอกลวง
แต่ถึงแม้เขาจะรู้สึกผิดหวังมาก แต่ด้วยฐานะของลู่เฉินทำให้เขายังคงต้องมีท่าทางเคารพลู่เฉินอยู่เหมือนเดิม
สำนักสังหารกั่วก่าน นั่นเป็นถึงกองกำลังที่สนับสนุนอาวุธสงครามทั้งหมดให้ประเทศเหมี่ยนเชียวนะ ได้ข่าวว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของหัวเซี่ย อาวุธสงครามทั้งหมดเป็นอาวุธสงครามชนิดใหม่ล่าสุด เมื่อเทียบกับอาวุธของกองทหารรับจ้างแล้วรุ่นใหม่มากกว่า
หัวหน้าใหญ่สำนักงานสังหาร มีอำนาจมากกว่าผู้ครองนครอย่างเขาหลายเท่า
อีกทั้งยังสามารถพูดได้ว่า ต้องเป็นกษัตริย์ของประเทศถึงจะมีสิทธิ์ต้อนรับเขาได้
เพราะอย่างนั้น ประธานบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉี ถึงจะเรียกว่าผู้มีอำนาจจริงๆ อุปกรณ์ที่ออกใหม่แต่ละชนิด ล้วนแต่ทำให้ประเทศMต้องกลัวจนตัวสั่น อีกทั้งยังได้ข่าวมาว่าประเทศMกำลังปรึกษากับประเทศมหาอำนาจ เพื่อจะลอบสังหารประธานบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีด้วย
บุคคลยิ่งใหญ่ถึงขนาดนี้ ไม่ใช่คนที่ผู้ครองนครเล็กๆอย่างเขาจะมีปัญหาด้วยได้
“ที่แท้ก็ประธานลู่นี่เอง แต่ว่านะครับ คนของสำนักสังหารของคุณเดินทางมาถึงเมื่องหรื่นหม่าแล้วเหรอครับ คุณมีความมั่นใจว่าจะชนะปาเอ่อได้จริงๆใช่ไหมครับ ต้องเข้าใจว่าด้านหลังปาเอ่อยังมีอิงลอนกับหมี่เล่อคอยสนับสนุนอยู่ด้วยนะครับ” หลังจากตกใจแล้ว เขาเริ่มสงสัยตัวเอง
“คนในสำนักสังหารของผมสี่พันคนได้เดินทางมาถึงแล้ว อย่างมากก็คืนพรุ่งนี้ ยังมีกองกำลังอีกส่วนจะตามมาทีหลัง ส่วนความแข็งแกร่งของสำนักสังหารของผม คุณก็ไม่จำเป็นต้องสงสัย แต่นอนว่าทหารของพวกคุณสู้ไม่ได้แน่นอน จำไว้ ที่ผมช่วยคุณยึดเมืองเซิ่งหูอานคืนมา อีกทั้งยังทุ่มสุดแรงช่วยให้คุณขึ้นไปนั่งอยู่บนบัลลังก์ มีข้อแม้เหมือนกัน วัสดุแร่ธาตุที่หาได้ยากของพวกคุณจะต้องขายให้กับบริษัทของผมทั้งหมด สิ่งก่อสร้างทั้งหมดพวกผมจะสร้างเอง แต่ราคาแร่ธาตุและหินธรรมชาติจะได้ราคาที่ถูกกว่าในท้องตลาดแน่นอน
ลู่เฉินเอนตัวพิงพนักโซฟา ก่อนจะมองหน้าขู้ปาแล้วพูด ข้อเสนอของเขาออกมา
นี่มันข้อเสนออะไรกัน
ในเมื่อเป็นข้อเสนอแลกเปลี่ยน ก็ต้องพูดให้เข้าใจตั้งแต่แรก
และยังต้องเซ็นสัญญาไว้เป็นเอกลัษณ์
เขาไม่ชอบเรื่องยุ่งยาก ไม่อยากให้หลังจากที่เขาช่วยขู้ปาขึ้นครองบัลลังก์แล้วค่อยเจรจากับช่วงนั้น
ดังนั้นขอแค่ขู้ปายินยอม แล้วเซ็นสัญญาเสร็จ เขาก็จะมีข้ออ้างที่ช่วยออกหน้าช่วยกอบกู้เซิ่งหูอานกลับมาได้