พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่398 ยกเจ้าชายน้อยขึ้นครองราชย์

บทที่398 ยกเจ้าชายน้อยขึ้นครองราชย์

“ประธานลู่ครับ ถ้าหากคุณยอมช่วยให้ผมขึ้นครองราชย์ได้ ข้อเรียกร้องที่คุณเสนอมาก็ไม่ใช่ปัญหาครับ พวกเรารับได้ อีกทั้งหลังจากสงครามสิ้นสุดลง การฟื้นฟูอาคารบ้านเรือน ผมก็จะยกให้คนในประเทศของคุณประมูลก่อนเลยครับ” ขู้ปาพูดยิ้มๆ เขาไม่เชื่อว่าสำนักสังหารของลู่เฉินจะเก่งกาจถึงขนาดนั้น จึงไม่เห็นคำพูดของลู่เฉินอยู่ในสมอง

สำนักสังหารสามารถควบคุมประเทศเหมี่ยนได้ นับว่าเก่งกาจมาก แต่ครั้งนี้ เบื้องหลังของปาเอ่อมีอิงลอนกับหมี่เล่อควยสนับสนุนอยู่เชียวนะ

ถึงแม้อิงลอนจะไม่แสดงตัวอย่างออกนอกหน้า แต่แค่พวกทหารรับจ้างของหมี่เล่อก็แข็งแกร่งมากแล้ว

อีกทั้งอิงลอนจะต้องคอยช่วยเหลือหมี่เล่ออยู่ลับหลังแน่ๆ ตอนสุดท้ายชัยชนะจะตกอยู่กับฝ่ายไหนยังไม่แน่ใจเลย

อีกทั้งกองกำลังของปาเอ่อก็แข็งแกร่งกว่าของตนเองมากด้วย

นี่เป็นเหตุผลที่เขาไม่เชื่อในคำพูดของลู่เฉิน

แต่ในเมื่อคนในสำนักสังหารของลู่เฉินเดินทางมาถึงแล้ว ก็สามารถมั่นใจได้ว่าเขาจะต้องได้รับความช่วยเหลือแน่นอน เขาจึงต้องผูกสัมพันธ์กับลู่เฉินไว้ จะได้หาโอกาสขอซื้ออาวุธสงครามจากลู่เฉินได้

เพราะในขณะเดียวกันลู่เฉินยังเป็นประธานบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีด้วย บริษัทของพวกเขาจะต้องพัฒนาอาวุธรุ่นใหม่ออกมาได้เรื่อยๆแน่นอน

ถ้าหากเขาสามารถซื้ออาวุธจากลู่เฉินได้ หลังจากอิงลอนกับหมี่เล่อถูกล้มล้างไป เขาก็มีโอกาสเอาชนะปาเอ่อได้แล้ว

สงครามภายในระหว่างพวกเขากับราชวงศ์เจียซือไม่มีทางจบลงง่ายๆ ดังนั้นเรื่องที่เขาสามารถขึ้นครองราชย์จึงไม่มีความหวังอะไรมาก สามารถทำให้เขารักษาตำแหน่งผู้ครองนครได้ ก็เป็นผลลัพธ์ที่เขาพอใจมากแล้ว

สำหรับขู้ปาแล้ว สงครามในครั้งนี้ค่อนข้างยุ่งยาก จำนวนคนของพวกเขามีไม่มาก อาวุธสงครามของหมี่เล่อก็รุ่นใหม่กว่า แม้แต่เครื่องบินรบพวกเขายังไม่มีเลย จะมีก็แต่เฮลิคอปเตอร์ทหารแค่ไม่กี่ลำ อีกทั้งยังเป็นลำที่ถูกประเทศป๋ายเย่าตัดออกจากการคัดเลือกมาด้วย มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย

และนี่ก็เป็นเหตุผลที่พระราชวงศ์เจียซือถูกอิงลอนกับหมี่เล่อร่วมมือกันยึดครองได้ภายในคืนเดียว

“ได้ งั้นวันนี้เรามาเซ็นสัญญากันก่อนดีกว่าครับ”ลู่เฉินยิ้มบาง

พอเห็นสีหน้ามั่นอกมั่นใจของลู่เฉิน ขู้ปาก็เริ่มรู้สึกแปลกใจ

หรือว่า… เขาจะมีความมั่นใจว่าจะช่วยเขาชิงเมืองเซิ่งหูอานกลับมาได้จริงๆ

ขู้ปาไม่ได้ตอบกลับลู่เฉินไปทันที แต่เขากลับมองหน้าลู่เฉินอย่างเหม่อลอย

“ประธานลู่ตั้งใจจะช่วยผมยังไงครับ สำนักสังหารของพวกคุณมีขีปนาวุธข้ามประเทศหรือเปล่า” ขู้ปาถามออกมา จึงทำลายความเงียบไป

ทุกคนต่างก็รู้ว่าช่วงนี้หัวเซี่ยเพิ่งผลิตขีปนาวุธข้ามทวีปที่สามารถระเบิดประเทศใดประเทศหนึ่งให้ย่อยยับได้ในพริบตาออกมาได้ ถ้าหากหัวเซี่ยยอมให่ความช่วยเหลือ งั้นโอกาสที่จะชนะสงครามในครั้งนี้ก็จะมีมากขึ้นด้วย

“คุณแน่ใจเหรอครับ”ลู่เฉินชะงัก ก่อนจะมองไปทางขู้ปา

ถ้าหากเป็นแค่กานล้อเล่นก็ดีสิ แต่ถ้าหากจริงจัง เขาคิดว่าขู้ปาคงจะไม่รู้อะไรซะแล้ว

ขีปนาวุธข้าวทวีปเป็นอาวุธรุนแรง รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ ใครก็รู้ว่ามันไม่สามารถนำมาใช้ในการทำสงครามได้

แล้วอีกอย่าง แค่ประเทศเล็กๆอย่างเจียซือ แค่ระเบิดนิวเคลียร์แค่สิบลูกก็จบแล้ว

อีกอย่าง ถึงแม้เขาจะสร้างคุณงามความดีให้ประเทศมากแค่ไหน ประเทศก็ไม่มีทางยอมให้เขาใช้อาวุธนิวเคลียร์แน่นอน

“เรื่องนี้ มีปัญหาอะไรเหรอครับ” ขู้ปามองไปทางลู่เฉินอย่างงุนงง เขาไม่คิดว่าสิ่งที่เขาพูดจะมีปัญหาตรงไหน

“คุณลองเข้าไปหาข้อมูลขีปนาวุธข้ามทวีปมาอ่านก่อน แล้วค่อยมาเจรจากับผมเรื่องข้อตกลงดีกว่าครับ” ลู่เฉินยกยิ้ม และไม่คิดจะเจรจาอะไรต่ออีก

เขารู้สึกว่าขู้ปาโง่มาก คนแบบนี้ถ้าให้นั่งบัลลังก์ประเทศเจียซือ จะสามารถรักษาบัลลังก์ไว้ได้นานเท่าไหร่กัน

เขาไม่คิดจะให้ประเทศเจียซือเกิดสงครามภายในอีกแล้ว เพร่ะถ้าเป็นอย่างนั้นจะส่งผลกระทบกับเขาเป็นอย่างมาก

ดังนั้นถึงแม้เขาจะต้องยกคนใดคนหนึ่งขึ้นมาเป็นกษัตริย์ แต่คนคนนัเนก็ต้องมีความฉลาดเฉลียวอยู่บ้างถึงจะได้

ขู้ปาสีหน้างุนงง เมื่อตะกี้ยังเจรจากันดีๆอยู่เลย ทำไมลู่เฉินถึงไม่เจรจาต่อแล้วล่ะ

ตอนที่ขู้ปาเดินทางกลับไป เขายังรู้สึกไม่ตายใจ

แต่ไม่นานเขาต้องเสียใจที่คิดว่าความสามารถของลู่เฉินไม่สามารถช่วยให้เขาขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ได้

เขาไม่ได้รู้สึกผิดหวังอะไรมาก เขาคิดว่าการเจรจาในวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและหลังจากนี้คงจะมีโอกาสได้ร่วมมือกันบ่อยขึ้น

ก่อนที่เขาจะออกมาเขาได้คุยกับลู่เฉินเรื่องที่จะขอซื้ออาวุธจากบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีของลู่เฉิน ถึงแม้ลู่เฉินจะไม่ตอบตกลง แต่ก็ไม่ได้ตอบปฏิเสธ

แต่ถึงแม้จะรู้สึกว่าขู้ปาไม่คู่ควรเป็นกษัตริย์ แต่ลู่เฉินก็ตั้งใจจะร่วมมือกับขู้ปา เพราะอย่างน้อยขู้ปาก็เป็นถึงผู้ครองนคร เป็นคนที่กล้าจะเป็นศัตรูกับปาเอ่อ

อีกทั้งขู้ปายังมีกองกำลังทหารหนึ่งหมื่นกว่านาย ช่วยเขาตัดความยุ่งยากไปได้ไม่น้อย

หลังจากขู้ปาเดินทางออกจากโรงแรม เสี่ยวจิงก็เข้ามาในห้องของลู่เฉินอีกครั้ง

“พี่เฉินครับ หัวหน้ากองกำลังทหารราชวงศ์ที่หลบหนีมาถึงเมืองหรื่นหม่ามีชื่อว่าเจสซีครับ ก่อนหน้านี้เขาเข้าไปเจรจากับซางปาแล้ว แต่เข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งชัวโมงก็ออกมาครับ ตอนที่ออกมา ผมเห็นว่าสีหน้าของเขาดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ น่าจะมีปากเสียงกับซางปาเรื่องขอความช่วยเหลือด้วยครับ”เสี่ยวจิงพูดรายงาน

“อืม ให้ตู้เฟยติดต่อเขา คุยกับเขาดีๆ บอกเขาว่าพวกเราสามารถช่วยพวกเขากอบกู้บัลลังก์คืนมาได้”ลู่เฉินพยักหน้าแล้วพูด

“ได้ครับ”เสี่ยวจิงพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินออกไป

ในคืนนั้น ตู้เฟยก็รายงานข่าวที่ดีมากให้ลู่เฉินได้รับรู้ ก่อนที่เจสซีจะหลบหนีออกมา เขาได้ช่วยชีวิตเจ้าชายท่านหนึ่งไว้ และนี่ก็เป็นคนที่พวกเขาเตรียมจะยกขึ้นครองราชย์ด้วย

เจ้าชายน้อยอายุแค่สิบสามปี สามารถพูดได้ว่ายังไม่รู้เรื่องอะไรมาก นี่เป็นสาเหตุที่เจสซีและพวกถึงได้ตั้งใจจะยกเขาขึ้นครองราชย์ สาเหตุหนึ่งเพราะพวกเขาอยากกอบกู้ราชวงศ์กลับคืนมา อีกสาเหตุคือ พวกเขาสามารถใช้เจ้าชายน้อยเป็นหุ่นเชิดที่ทำตามสิ่งที่เขาพูดได้

แต่ถ้าหากให้เจ้าชายน้อยขึ้นครองราชย์ จะดูสมเหตุสมผลมากกว่า

“นายคิดว่า พวกเราจะใช้เจสซีเป็นหุ่นเชิดได้ไหม” ลู่เฉินมองไปทางตู้เฟย แล้วแสดงความคิดเห็นที่ใจกล้าแบบนี้ออกไป

“ถ้าหากเดินไปถึงจุดนั้นแล้วจริงๆ กองกำลังของเราจะต้องอยู่ควบคุมที่นี่ด้วยถึงจะมั่นใจนะครับ” ตู้เฟยตกใจมาก เขาคิดว่าข้อเสนอของลู่เฉินบ้าคลั่งมาก

“อืม ถึงตอนนี้ค่อยพูดกันอีกที อีกอย่างในมือของเจสซียังมีกองกำลังทหาร จะต้องไม่ยอมเป็นหุ่นเชิดให้พวกเราง่ายๆแน่นอน ลองดูไปก่อนว่าเขาต้องการจะร่วมมือกับพวกเราไหม” ลู่เฉินยกยิ้มแล้วพูด

ข้อเสนอที่เขาพูดเมื่อตะกี้ เขาคิดขึ้นมาได้กะทันหัน

“อืมครับ พวกเขาบอกว่าจะให้คำตอบเราในวันพรุ่งนี้ เพราะข้อเสนอที่เราเสนอไป ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถรับได้ ถ้าพวกเขายอมรับ เศรษฐกิจของประเทศทั้งหมดจะตกอยู่ในความดูแลของพี่หมด พวกเขาจึงจำเป็นต้องปรึกษากันอย่างละเอียด”ตู้เฟยพูด

ลู่เฉินยกยิ้ม เขาใจร้ายอยู่บ้างเหมือนกัน แต่เขาคิดว่าเขาสามารถทำให้ประเทศกลายเป็นหนึ่ง ทำให้เศรษฐกิจของพวกเขาพัฒนาขึ้นมา ถือว่ามีความเมตตากว่านักธุรกิจคนอื่นแล้ว

เขาเชื่อว่าถ้าเป็นคนอื่น คงจะมีแต่ทำให้ประเทศเจียซือตกต่ำลงเรื่อยๆ

เป็นไปตามที่คาด วันต่อมา เจสซีก็ตอบตกลงกับข้อเสนอทั้งหมดของลู่เฉิน อีกทั้งยังพาเจ้าชายน้อยมาพบกับลู่เฉินที่โรงแรมด้วยตัวเอง

ในที่สุด ลู่เฉินก็สบายใจได้สักที

เพราะในที่สุดเขาก็สามารถหาคนที่คู่ควรจะครองบัลลังก์ได้แล้ว

สามารถมีเหตุผลจะประกาศสงครามกับปาเอ่อได้สักที

จากนี้ไปขอแค่เอาชนะปาเอ่อได้ งั้นการเดินทางมาในครั้งนี้ของพวกเขาก็ไม่เปล่าประโยชน์แล้ว อีกทั้งยังทำให้ได้ผลประโยชน์ที่มากเกินความคาดหมาย