พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 102
“พี่ชายซ่ง!”
พอเห้นว่าจั๋วฝานล้มลงกับพื้นและเสียลมหายใจไปสักพัก ตงเสี่ยววานก็อดกรีดร้องไม่ได้ และอยากก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบ แต่ก็โดนตงเทียนปาจับเอาไว้
เขาขยิบตาไปทางชายชราชุดเขียวด้วยสีหน้าอึมครึม จั๋วฝานกระทืบหยานฟู่ในสภาพนี้ ถ้าเกิดพวกเขาวิ่งไป มันคงไม่สวย
แม้มันดูเหมือนจะไร้เหตุผล แต่ก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะยืนหยัดต่อหน้าเจ็ดตระกูลใหญ่ได้
“เห้ย ยัยหนู มาดูแลศิษย์ข้าให้ดี!”
ราชาเม็ดยาอสูรหยานซงหันไปมองตงเสี่ยววาน แสงสีเขียวสว่างวาบในดวงตาเขา ตงเสี่ยววานอดตัวสั่นสะท้านไม่ได้และชี้ตัวเองอย่างสับสน”ท่าน…หมายถึงข้า?”
“ไร้สาระ ศิษย์ของข้าบาดเจ็บสาหัสแบบนี้ก็เพราะเจ้า ถ้าเจ้าไม่มาดูแลเขา ใครจะมา?”หยานซ่งตะคอกอย่างเย็นชา
ตงเสี่ยววานไม่มีทางเลือกนอกจากกัดฟันไปหาเขา
พอเห็นสภาพเลือดท่วมตัวของหยานฟู่ และฟันทั้งปากที่หายไป ตงเสี่ยววานก็อดรู้สึกขยะแขยงไม่ได้ มันไม่ใช่ว่านางบังคับเขาให้มา แต่เขายืนกรานจะดึงตัวนางมาหาซ่งอวี่เอง ทำไมข้าถึงต้องดูแลเขาด้วย?
ราวกับเห็นความคิดของเสี่ยวตานตาน หยานซงหรี่ตาและจิตสังหารก็ระเบิดออกมา เขาพูดเสียงเย็น”ยัยหนู ศิษย์ข้าบาดเจ็บเช่นนี้ก็เพื่อเจ้า เจ้ายังรังเกียจเขาอีกหรือ?”
ทันใดนั้น เสี่ยวตานตานก็ส่ายหัว”อึก ข้าไม่กล้า ไม่กล้า!’
“ฮึ่ม มันหายากที่ศิษย์ข้าจะตกหลุมรักใคร ถ้าเจ้ากล้าขอโทษกับเขา ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรน่ากลัวกว่าความตาย!”
หยานซงส่งมอบศิษย์รักของเขาให้เสี่ยวตานตาน จากนั้นก็เดินไปทางจั๋วฝาน ตอนนี้ จั๋วฝานกำลังนอนบนพื้น ราวกับเสียลมหายใจ แต่หัวสมองยังให้ความสนใจกับทุกอย่างรอบตัว
ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ได้ติดพิษ
ทันทีที่พิษสามสีของหยานฟู่เข้าอวัยวะภายในของเขา เขาก็ใช้เคล็ดปีศาจแปลงกายเพื่อทำลายพวกมัน และไม่บาดเจ็บเลย มีแค่ชั้นพิษที่แนบติดบนผิวตัวของเขาไว้ใช้หลอกตาคน
พอรับรู้ถึงจิตสังหารของหยานซงและการก้าวเดินที่เข้ามาใกล้ จั๋วฝานก็อดกำหมัดไม่ได้
บิดาติดพิษจนตจะตายแล้ว แต่ตาแก่นี่ก็ยังเดินมา มันคิดจะทำให้บิดาตายคามือมันหรือไง?
ถ้าเป็นแบบนั้น จั๋วฝานก็ทำได้แค่ปกป้องตัวเองโดยการเปิดเผยตัวตนของเขา
ถึงแม้เขาจะมีร่างกายของสมบัติมารระดับห้า การโจมตีของยอดฝีมือระดับนภาก็ยังทำร้ายเขาได้ อย่างน้อยพลังปราณก็จะส่งผลถึงอวัยวะภายในของเขา
หัวใจของเขารัดเกร็ง จั๋วฝานพร้อมกระโดดขึ้นทุกเมื่อและฆ่าราชาเม็ดยาอสูรผู้นี้!
ทันใดนั้นเอง…
แหวนจิตวิญญาณสายฟ้าของเขากลับระเบิด และจั๋วฝานก็คิดอย่างตกใจ”หรือเด็กนั่นจะมาที่นี่!”
ไม่นาน เสียงหัวเราะดังลั่นก็ตามมา”ฮ่าๆๆ…ผู้อาวุโสกำลังรังแกเด็ก น่ามองเสียจริง!”
ผู้มาเยือนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซี่ยเทียนหยาง ศิษย์ของตำหนักกระบี่ ชายชราที่ตามมาข้างเขาคือแปดจอมกระบี่ท่ามกลางสิบสามจอมกระบี่แห่งตำหนักกระบี่ เจี้ยนซุยเฟิง!
เจ้ามาช้าไป!
จั๋วฝานดีใจ และขณะที่ทุกคนให้ความสนใจ เขารีบถอดแหวนสายฟ้าและเก็บมันเข้าแหวนเก็บของอีกวง ในชั่วพริบตา เสียงอัสนีบาตก็หายไปและเซี่ยเทียนหยางก็ดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็น เขาแค่มองไปทางหยานซงอย่างหยิ่งๆ
“เจ้าอยากมายุ่งเรื่องของข้าหรือ?”
หยานซงค่อยๆหันไปมอง จิตสังหารของเขาระเบิดออกมา ตอนนี้ เจี้ยนซุยเฟิงตบไหล่ของเซี่ยเทียนหยางและส่ายหัว”เทียนหยาง มันไม่ใช่เรื่องของเรา อย่าไปยุ่ง!’
“ผู้อาวุโสแปด นี่คือเมืองฮัวอวี่ และมันก็ไม่ใช่ถิ่นของวังราชาเม็ดยา เราต้องกลัวด้วยหรือ?”เซี่ยเทียนหยางขดปากและเชิดหัวอย่างภาคภูมิใจ
เจี้ยนซุยเฟิงส่ายหัว นับตั้งแต่เขาได้เห็นการต่อสู้ระหว่างจั๋วฝานกับผู้อาวุโสแห่งโหยวหมิงกู่ เซี่ยเททียนหยางก็นิสัยชอบแส่หาเรื่องคนอื่น
ปัญหาคือว่ามันจะใหญ่หรือเล็กเท่านั้นเอง
ถ้าจะยุ่งเรื่องคนอื่น ข้าจะไม่ห้ามเจ้า แต่ทว่า ถ้าเจ้าไปยุ่งเรื่องของเจ็ดตระกูลใหญ่ มันจะทำให้เกิดสงครามระหว่างตระกูล ซึ่งทำให้ผู้อาวุโสทั้งตำหนักตื่นตระหนก
มีแค่จั๋วฝานคนเดียวที่สามารถทำแบบนั้นได้ เจ้าเป็นตัวแทนของทั้งตำหนักกระบี่ ทำไมเจ้าถึงอยากเอาแบบอย่างเด็กนั่น?
ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้เจ้าถึงกับยั่วโมโหราชาเม็ดยาอสูร?
เจี้ยนซุยเฟิงยิ้มขมขื่น เขาจึงออกหน้าแทนเทียนหยางและประสานหมัด”ฮ่าๆๆ..ผู้อาวุโสหยานซง ข้าผู้อาวุโสแปดแห่งตำหนักกระบี่ เจี้ยนซุยเฟิง โปรดให้อภัยเด็กในตระกูลข้าด้วย!”
“ตำหนักกระบี่นี่เอง ไม่แปลกใจที่ศิษย์จะกล้าหาญ!”
หยานซงหรี่ตา เดินไปตรงหน้าทั้งสอง จากนั้นก็เหลียวมองจั๋วฝานที่หมดลมหายใจและอดส่ายหัวไม่ได้”ช่างมัน ยังไงซะ เด็กนี่ติดพิษของศิษย์ข้าไปแล้ว”
หยานซงพูดคำว่า’ศิษย์’อย่างแรง เพื่อบอกทุกคนว่าเด็กนี่โดนศิษย์รักของเขาฆ่า มันไม่ใช่เรื่องเขา ข้าไม่ได้รังแกผู้เยาว์ พวกเจ้าตำหนักกระบี่ก็อย่าเขาเรื่องนี้ไปป่าวประกาศทำลายชื่อเสียงข้าละ!
เจี้ยนซุยเฟิงคล้อยตามเขายิ้มและผงกหัว”ฮ่าๆๆ…ผู้อาวุโสหยานซงเป็นอาจารย์ของศิษย์ที่เก่งกาจ คนธรรมดาจะไปสู้ศิษย์ท่านได้ไง?เด็กนี่กล้ามากที่สู้กับเจ็ดตระกูลใหญ่ เขาสมควรตาย!”
“อืม!”
หยานซงพยักหน้าพอใจ เผยแววตาพอใจ จากนั้นก็รีบไปหาเสี่ยวตานตานและหายไปพร้อมกับนางและหยานฟู่
แม้ศิษย์เขาจะชนะ เขาก็ชนะอย่างน่าสมเพช
ถ้าคนในตำหนักกระบี่รู้ว่าศิษย์ของเขาโดนทุบตีจนเป็นหัวหมู มันจะน่าอับอายขนาดไหน?
แม้จะมีคนหลายคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ มันก็มีแค่หมู่ตึกฮัวอวี่ ป่าไขว่ฮัวกับโหยวหมิงกู่ที่เห็นด้วย ยิ่งคนรู้น้อย มันยิ่งดี
พอเห็นชายชราไปแล้ว เจี้ยนซุยเฟิงถึงถอนหายใจโล่งอก แต่เซี่ยเทียนหยางกลับไม่พอใจ เขามองจั๋วฝานที่ดูเหมือนจะสงบลง เขากัดฟัน”พวกสารเลวกลุ่มนี้ ทุกวันเอาแต่รู้วิธีรังแกคนอ่อนแอ ทำเสียชื่อเจ็ดตระกูลใหญ่จริงๆ!”
“ดี เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นสัตว์ประหลาดจั๋วฝานถึงจัดการได้ทุกอย่างหรือไง?”
เจี้ยนซุยเฟิงเคาะหัวเซี่ยเทียนหยางอย่างแรง และส่ายหัว”เทียนหยาง เจ้ารู้ไหมว่ามันอันตรายแค่ไหน ราชาเม็ดยาอสูรผู้นี้ไม่ได้ดีไปกว่าผู้อาวุโสเจ็ดเลย แถมยังเหนือกว่าด้วยซ้ำ เจ้าจะต้องคำนวณผลได้ผลเสียตอนเจ้าพบอะไร และต้องไม่ทำมันเกินตัว ถ้าราชาเม็ดยาอสูรผู้นี้ไม่พอใจ ต่อให้เจ้าจะเป็นสมาชิกเจ็ดตระกูลใหญ่ เขาก็จะโจมตีได้ และมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะป้องกัน!”
เซี่ยเทียนหยางกัดปากและถอนหายใจอย่างไม่เต็มใจ
“เจ้าคือนายน้อยของตำหนักกระบี่!”
ทันใดนั้น เสียงร้องเบาๆก็ดังและเซี่ยเทียนหยางก็หันไปดู เห็นตงเสี่ยววานกำลังคุกเข่าต่อหน้าเขา”พี่ชายซ่งอวี่โดนพิษของวังราชาเม็ดยาเข้าแล้ว โปรดช่วยเขาด้วย”
เซี่ยเทียนหยางเหลือบมองจั๋วฝาน จากนั้นก็มองเจี้ยนซุยเฟิง”ผู้อาวุโสแปด มีทางช่วยไหม?”
“เห้ย ใครจะไปจัดการพิษของวังราชาเม็ดยาได้?ถ้าทำได้จริง วังราชาเม็ดยาคงไม่เป็นที่หวั่นเกรงไปทั่ว”เจี้ยนซุยเฟิงส่ายหัว เขาตบไหล่เซี่ยเทียนหยางอีกครั้ง”เทียนหยาง เจ้าไม่สามารถทำอะไรได้!”
พอได้ยิน เซี่ยเทียนหยางก็มองตงเสี่ยววานและขอโทษ”ขอโทษด้วย แม่นาง ข้าช่วยเจ้าไม่ได้!”
ขณะพูด เขากับเจี้ยนซุยเฟิงก็บินหายไป
เสียงร้องไห้ของตงเสี่ยววานนำมาซึ่งสายฝนและนางก็หันไปมองพี่นาง ตงเทียนปาได้แต่ถอนหายใจและพึมพำ”ยังไงซะ น้องชายซ่งก็รับหายนะนี้เพราะเรา เรามาส่งศพเขากลับไปเมืองเพื่อพิธีเถอะ จากนี้ไป ตระกูลซ่งจะเป็นเครือญาติเรา”
ตงเสี่ยววานพยักหน้าทั้งน้ำตา
แต่ทว่า ตอนกำลังจะเก็บศพ เสียงอ่อนโยนกลับดังขึ้น
“รอเดี๋ยว!’
ร่างของฉู่ฉู่ปรากฏขึ้นตรงหน้าทั้งสองและพูด’เขาติดพิษฝ่ามือเมฆสายรุ้งของวังราชาเม็ดยา ถ้าเจ้าขยับร่างเขา เจ้าจะโดนพิษและตายไปด้วย!”
ว่าไงนะ?
ทั้งสองตกใจและรีบก้าวถอยหลัง ตงเสี่ยววานมองและพูด”งั้นเราควรทำยังไง เราไม่สามารถปล่อยให้พี่ซ่งนอนศพเน่าแบบนี้ได้”
“ปล่อยเขาไว้กับข้า ข้าจะรักษาเขาเอง!”
โดยไม่มองทั้งสองอีก ฉู่ฉู่สะบัดริบบิ้นไปมัดตัวจั๋วฝานและหายไป ทิ้งไว้แค่สองพี่น้องตระกูลตง
แม้กรระทั่งตำหนักกระบี่ก็ยังทำอะไรกับพิษนี้ไม่ได้ แต่ฉู่ฉู่กลับมีทางแก้?
สองพี่น้องตระกูลตงไม่เข้าใจ จั๋วฝานยิ่งแปลกใจกว่า
ทันทีที่พิษทั้งสามเข้าตัวเขา เขาก็เห็นว่านี่คือพิษสามชนิดที่ร้ายกาจสุดในโลก พวกมันเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและพิษก็พิสดารมาก นอกจากเคล็ดปีศาจแปลงกายของเขาที่สามารถละลายมันได้ในอึดใจเดียวแลว มันจะยังมียาวิเศษอันใดที่สามารถจัดการมันได้?
หรือว่า….
พอคิดได้แบบนี้จั๋วฝานก็ดีใจ เขาดูเหมือนจะเดาผลลัพธ์ได้
15 นาทีต่อมา ในสลัม ฉู่ฉู่วางจั๋วฝานลงบนเตียงดิน แสงในมือของนางสว่างและขวดลายครามก็ปรากฏ
นางค่อย ๆ เปิดฝาและในชั่วพริบตา กลิ่นหอมสดชื่นก็ฟุ้งไปทั่วห้อง
ตอนจั๋วฝานได้กลิ่น ใบหน้าของเขาก็แสดงความตกใจ เปลือกตาของเขากระตุก กลิ่นนี้คือกลิ่นของสิ่งที่เขามองหา สมบัติของฟ้าดิน ยาหยกโพธิ์
นางยกขวดขึ้นเล็กน้อย และหยดของเลหวสีเขียวคล้ายหยดฝนก็ตกลงบนริมฝีปากของจั๋วฝาน
ทันใดนั้น จั๋วฝานก็พลันรู้สึกถึงพลังชีวิตที่พุ่งจากก้นบึ้งของหัวใจและกระจายไปทั้งตัว ทำให้เขาสั่นสะท้าน แต่ทว่า นอกจากความสบาย เขายังกรีดร้องในใจ
พี่สาว ยาหยกนั่นควรหยดใส่ไข่ของข้าสิ…