พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 112
“อย่าบอกนะว่า…”
เจ้าหมู่ตึกมู่ตานกรีดร้อง”เจ้าหลงเขา?!”
ทุกคนสะดุ้ง แม้กระทั่งเปลือกตาของจั๋วฝานก็ยังกระตุกขณะรีบพูด”เห้ คิดให้ดีก่อนจะพูดอะไรออกไป!เจ้าหมู่ตึกมู่ตานร้องออกมาดังเกินไปแล้ว ท่านไม่สามารถกระจายข่าวลือผิดๆและทำลายชื่อเสียงของข้าได้’
“เจ้ามีชื่อเสียงด้วยหรือ?ทำไมเจ้าถึงำตัวเหมือนเจ้าคือคนเสียหายถ้าศิษย์ข้าชอบเจ้า?”
เจ้าหมู่ตึกมู่ตานโกรธ เสี่ยวตานตานจะไปชอบเด็กบัดซบแบบเขาได้ไง?แต่ตอนนี้คำพูดของเขากระตุ้นอารมณ์นาง
[ศิษย์ข้าไม่ดีตรงไหนเจ้าถึงไม่ยอมรับ?]
ความโกรธของเจ้าหมู่ตึกมู่ตานเบี่ยงไปจากศิษย์ที่ไร้ตาของนางเป็นการบังคับให้แต่งงานกับจั๋วฝาน จากทที่ดู ทั้งคู่อาจสู้กันถ้าจั๋วฝานยังเอาแต่ปฏิเสธ
เสี่ยวตานตานหน้าแดงเป็นมะเขือเทศ แต่ก็รู้สึกผิดหวังกับปฏิกิริยาของจั๋วฝาน นางร้องออกมา”อาจารย์ มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดนะ!”
“งั้นเจ้าหมายความว่าไง?”เจ้าหมู่ตึกมู่ตานมองนางอย่างสงสัยและไม่พอใจ
เสี่ยวตานตานมองจั๋วฝานพลางพึมพำ”ข้าแค่คิดว่าเขาเป็นคนหายากในดลกนี้ ยืนหยัดเพื่อหญิงคนหนึ่งและต่อต้านหมู่ตึกฮัวอวี่ โลกนี้มีผู้ชายอีกคนที่เต็มใจเสียสละตัวเองเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง”
“เขา?ผู้ชายที่ดี?”เจ้าหมู่ตึกมู่ตานเยาะเย้ย”เขาคงประมาทและเลือดร้อนได้ถ้าเขามีพลังของจั๋วฝาน แต่เขาอ่อนแอและยังมีความคิดที่จะตอแยเจ็ดตระกูลใหญ่ เขาแค่ฆ่าตัวตาย!”
“ถ้าเขาทำให้ตระกูลอื่นขุ่นเคืองนอกจากหมู่ตึกฮัวอวี่ เขาคงนอนตัวเย็นบนพื้นไปแล้ว เขาโชคดีที่พบเจ้าหมู่ตึกฮัวอวี่เราที่ช่วยชีวิตเขาไว้ ไม่งั้นหยานฟู่คงฆ่าเขาตายไปแล้ว!”
“ใช่ ครั้งก่อนมันเป็นชิงเฉิงที่ช่วยนายน้อยซ่ง!”เจ้าหมู่ตึกชิงฮัวเลิกคิ้ว
ฉู่ชิงเฉิงพยักหน้า”นั่นเป็นเรื่องบังเอิญ ตอนข้ากลับมา ข้าพูดมันให้เจ้าหมู่ตึกมู่ตานฟังเพื่อสั่งสอนศิษย์นาง ไม่ใช่สร้างปัญหา เมืองฮัวอวี่คือสถานที่แห่งเดียวที่ผู้หญิงมีอำนาจ ข้าไม่อยากให้ผู้หญิงต่อสู้กันเองที่นี่”
“ใช่ มู่ตานจะสั่งสอนศิษย์ให้ดีในอนาคต!”พอได้ยินคำพูดของฉู่ชิงเฉิง มู่ตานก็รีบยอมรับความผิด เสี่ยวตานตานเองก็ก้มหัวตาม
ฉู่ชิงเฉิงโบกมือ พูดอย่างไม่แยแส”ที่แล้วก็แล้วกันไป ข้าเรียกรวมทุกคนที่นี่ในวันนี้ก็เพราะหัวขโมยเมื่อคืน”
พอพูด ฉู่ชิงเฉิงก็มองเจ้าหมู่ตึกชิงฮัวกับจั๋วฝาน”เจ้าสองคน บอกเล่าสาเหตุกับผลที่ตามมาของเรื่องนี้ซะ”
จั๋วฝานไม่สนใจ เขาจึงบอกเรื่องราว ยังไงซะ เขาโดนข่มขู่ แถมผู้บงการก็อยู่นี่
หลังฟังคำพูดของจั๋วฝาน เจ้าหมู่ตึกมู่ตานกับเสี่ยวตานตานก็ตกใจ พวกนางไม่คิดว่าเจ้าหมู่ตึกชิงฮัวจะกลายเป็นคนทรยศไปได้
พอเห็นใบหน้าโกรธเคืองของทั้งสอง ฉู่ชิงเฉิงก็พูด”ไม่ต้องห่วง เจ้าหมู่ตึกชิงฮัวไม่ได้ทรยศหมู่ตึกเราจริง นางรู้ว่าข้าพกรากโพธิ์ติดตัว และนางก็ขอให้ซ่งอวี่ขโมยมันจากคลังสมบัติเพราะมีความลับอื่น’
ตอนนี้ สีหน้าของทั้งสองผ่อนคลายลง แต่เจ้าหมู่ตึกมู่ตานยังพูดอย่างวิตก”ศิษย์พี่ ข้าก็นึกว่าท่านเองก็โดนพิษด้วย”
หลังเหลือบมองทุกคน เจ้าหมู่ตึกชิงฮัวก็อดถอนหายใจไม่ได้”มันเป็นเรื่องจริงที่ข้าโดนฝ่ามือเมฆสายรุ้งของตาแก่หยานซ่งเข้าระหว่างทางกลับมาเมืองฮัวอวี่สามเดือนก่อน”
“อะไรนะ ท่านเองก็โดนพิษ?”เจ้าหมู่ตึกมู่ตานตกใจ ใบหน้าของนางขุ่นมัว”แบบนี้ เจ้าหมู่ตึกเกือบครึ่งของเราก็โดนพิษของเขาควบคุมไว้นะสิ”
“หะ ครึ่ง?’
เจ้าหมู่ตึกชิงฮัวส่ายหัวด้วยใบหน้าดำมืด”ในบรรดา 15 หมู่ตึก 14 หมู่ตึกโดนพิษของตาแก่นี่และต้องฟังคำสั่งเขา มันเดาว่าคงมีแค่เจ้า มู่ตานที่ยังปลอดภัย”
อะไรนะ?
ทันทีที่เรื่องนี้หลุดออกมา ทุกคนก็ตกใจ เหนือสิ่งอื่นใด แบบนี้ก็เท่ากับว่าทั้งหมู่ตึกฮัวอวี่ตกอยู่ในกำมือของราชาเม็ดยาอสูร!
“ไม่แปลกใจที่หยานฟู่จะบอกว่าทั้งหมู่ตึกฮัวอวี่เป็นของเขา…”เสี่ยวตานตานถอยหลังไปสองก้าว และเจ้าหมู่ตึกมู่ตานก็รู้สึกสิ้นหวัง
เมื่อเห็นแบบนั้น เจ้าหมู่ตึกชิงฮัวก็ดูเหมือนจะเดาได้นานแล้วและถอนหายใจ”ถ้าข้าไม่โดนเขาควบคุม เขาคงไม่บอกความลับนี้กับข้า ตอนนั้น ข้าเองก็คิดว่าแทนที่จะปล่อยให้หมู่ตึกฮัวอวี่โดนเขาควบคุม มันดีกว่าที่จะคว้าโอกาสกำจัดเขา ดังนั้นข้าจึงใช้คำอ้างปลอม ๆ จนกระทั่งเขาขอให้ข้าขโมยรากโพธิ์”
“นั่นทำให้เจ้าขอให้ข้าขโมยรากโพธิ์ปลอม ไม่ใช่เพื่อหลอกเขา แต่เพื่อให้เขาจดจ่อกับข้าภายใต้ความโกรธสินะ แบบนี้ เจ้าจสามารถลอบโจมตีได้สำเร็จ”จั๋วฝานแตะจมูกแล้ววิเคราะห์
แต่ตอนเขาเงยหน้า เขาก็เห็นว่าเจ้าหมู่ตึกชิงฮัวกำลังมองเขาด้วยแววตาสงสัย”คุณชายซ่ง ข้าไม่เคยคิดว่าท่านจะเป็นคนฉลาดขนาดนี้ ท่านไม่ใช่คนบุ่มบ่ามแบบที่ท่านชอบทำ!”
“อ่อ ข้าแค่เดา ฮ่าๆๆ..”จั๋วฝานเกาหัวและแกล้งเป็นคนโง่ต่อ
ซ่งอวี่ ผู้ที่เขาแกล้งเป็นคือชายเสเพล เขาจะไปมีความคิดพิถีพิถันได้ไง?ถ้าพวกนางจับโยงมันสมองนี้เข้ากับร่างกาย ไม่ช้าพวกนางจะคิดได้ว่าเขาคือจั๋วฝาน
โชคดี ทุกคนแค่แปลกใจ และไม่สงสัยตัวตนเขา ยังคิดว่าเขาเป็นเด็กโง่ที่ไม่รู้จักโลก แค่บังเอิญฉลาดขึ้น
“ศิษย์พี่ มันยากสำหรับท่านแล้ว”มู่ตานก้าวไปข้างหน้า จับมือเจ้าหมู่ตึกชิงฮัว น้ำตาของนางเอ่อล้น
ฉินไช่ชิงลูบมือนาง ยิ้มอ่อนและไม่พูดอะไร ทั้งคู่ต่างเสียสละเพื่อหมู่ตึก แต่แค่รับหน้าที่คนละส่วน
“แล้วอาจารย์อาโจมตีตาแก่นั่นสำเร็จหรือไม่?”เสี่ยวตานตานพลันถามขึ้น
แต่ก่อนคนอื่นจะได้พูด จั๋วฝานกลับแค่นเสียง”ได้โปรด ข้าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ขี้เกียจใช้สมองแล้ว แต่ไม่คิดว่าสมองของเจ้าจะโคลนตมเสียยิ่งกว่า ถ้าเจ้าหมู่ตึกชิงฮัวทำสำเร็จ นางคงนั่งชนแก้วกับศิษย์น้องของนางไปนานแล้ว นางคงไม่มายืนร้องไห้ปาดน้ำตากันตรงนี้หรอก”
เสี่ยวตานตานหน้าแดง นางจ้องเขาเขม็งและหน้ามุ่ย แต่ก็พูดไม่ออก
เจ้าหมู่ตึกมู่ตานกับกับชิงฮัวกำลังเล่นบทกินใจกัน แต่ภายใต้คำพูดของจั๋วฝาน บรรยากาศพลันสลายหายไป หยดน้ำตาที่ก่อตัวในดวงตาของทั้งคู่พลันแห้งผาด
“เจ้าเด็กตัวเหม็น เจ้าไม่ดูบรรยากาศก่อนพูดหรือไง?สุนัขไม่สามารถพ่นงาช้างได้ และแม้กระทั่งน้ำตาหนึ่งหยดของข้าก็ยังไหลกลับเข้าลูกตาข้า”เจ้าหมู่ตึกมู่ตานบ่นออกมา
พอได้ยิน ทุกคนก็ปิดปากหัวเราะ มีแค่จั๋วฝานที่กลอกตา
“อย่าแปลกใจไปเจ้าหมู่ตึกมู่ตาน ซ่งอวี่เป็นเด็กแบบนี้แหละ!”ฉู่ชิงเฉิงจ้องจั๋วฝานโกรธ ๆ จากนั้นก็ปลอบเจ้าหมู่ตึกมู่ตาน เหมือนพี่สาวที่ขอโทษแทนน้องชาย
บรรยากาศละเอียดอ่อนเช่นนี้ เจ้าหมู่ตึกมู่ตานจะไม่รู้สึกได้ไง พอรู้ว่าจั๋วฝานมีเจ้าหมู่ตึกหลักปกป้อง นางก็ทำอะไรไม่ได้อีก แต่ใบหน้าของนางกลับแสดงความเศร้าออกมาอีกครั้ง”เจ้าหมู่ตึกหลัก ตามที่ศิษย์พี่หญิงบอก หมู่ตึกฮัวอวี่เราตกอยู่ในอันตราย ข้าไม่รู้ว่าเราควรจะทำยังไงต่อไป”
หลังคร่ำครวญอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่ชิงเฉิงก็สูดหายใจลึกและแสงก็สว่างในดวงตา”เพื่อจัดการกับวังราชาเม็ดยา ข้าเกรงว่าเราจะไม่มีอำนาจและต้องพึ่งพาขุมกำลังภายนอก!”
“ขุมกำลังภายนอก เจ้าหมายถึงเจ็ดตระกูลใหญ่อื่น?”เจ้าหมู่ตึกชิงฮัวกลอกตา จากนั้นก็ส่ายหัว”เจ็ดตระกูลใหญ่มักมีศึกแยกกัน แม้กระทั่งลุงจิ่วที่มีความสัมพันธ์ดีกับเราก็ยังไม่กล้าแตกหักกับราชาเม็ดยาอสูร แล้วใครจะยืนหยัดเพื่อเรา?”
“ใช่ ผู้ชายทุกคนนะเชื่อใจไม่ได้!”เจ้าหมู่ตึกมู่ตานพูดอย่างขมขื่นเหมือนผู้หญิงที่โดนทิ้ง
ดวงตาของฉู่ชิงเฉิงทอประกายแสงแห่งปัญหา และรอยยิ้มมั่นใจก็ปรากฏบนหน้านาง”บางทีคนอื่นอาจพึ่งพาไม่ได้จริง แต่เขาจะต้องช่วยเราแน่!”
“ใคร?”ทุกคนถาม
มุมปากของนางขดขึ้นและฉู่ชิงเฉิงก็พูด”ผู้นำของเจ็ดตระกูลใหญ่!”
พอได้ยิน ดวงตาของทุกคนก็สว่างวาบ ราวกับมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ทุกคนพยักหน้า มีแค่จั๋วฝานที่ขมวดคิ้วและพึมพำ”ประตูจักรพรรดิ”(ตี้หวางเหมิน)
ในบรรดาเจ็ดตระกูลใหญ่ ทุกคนสามารถพูดได้ว่าหยิ่งผยอง และไม่มีใครดูถูกกัน แต่ในหัวใจของทุกตระกูลกลับยอมรับตระกูลหนึ่งให้ยึดครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในเจ็ดตระกูลใหญ่มานับพันปี
ว่ากันว่าพลังของประตูจักรพรรดินั้นสูงกว่าเจ็ดตระกูลใหญ่ถึงสามขั้น
เช่นนั้น มันจึงไม่มีใครสามารถเทียบด้วยได้
อย่างไม่คาดฝัน งานไป่ตานนี้ ประตูจักรพรรดิกลับส่งคนมาด้วย พวกเขาไม่รู้ว่าคนที่มานั้นแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ถ้ามันเป็นจริงอย่างที่ข่าวลือว่า พลังที่สูงกว่าตระกูลใหญ่อื่นถึงสามขั้น งั้นเขาก็ต้องระวัง
ยอดฝีมือของทั้งเมืองฮัวอวี่จะมารวมกันในวันนั้น เมื่อตัวตนของเขาในฐานะจั๋วฝานเปิดเผย เขาเกรงว่าเขาจะตาย
จั๋วฝานถอนหายใจ และอดกำหมัดแน่นไม่ได้ เขาต้องลงมือแย่งยาหยกโพธิ์มาให้เร็วที่สุด ไม่งั้นยิ่งเขาอยู่นาน เขาจะยิ่งอันตราย
พอคิดได้แบบนี้ จั๋วฝานก็มองแหวนเก็บของบนนิ้วฉู่ชิงเฉิง
และฉู่ชิงเฉิงเองก็มองจั๋วฝานเช่นกัน ดูเหมือนจะสังเกตเห็นความลำบากใจของเขาและอดหัวเราะไม่ได้”ซ่งอวี่ เจ้าเองก็พักในหมู่ตึกฮัวอวี่เถอะ”
“อะไรนะ?”จั๋วฝานผงะ แต่ข้างใจกลับดีใจ
ฉู่ชิงเฉิงค่อย ๆ เดินมาตรงหน้าจั๋วฝาน ตบไหล่เขา”ไม่ต้องห่วง ข้ารู้ว่าเจ้ากลัวการล้างแค้นของราชาเม็ดยาอสูร แต่ในหมู่ตึกฮัวอวี่ เขาจะไม่กล้าฆ่าใครในที่สาธารณะ”
หลังพูด ฉู่ชิงเฉิงก็เดินออกไปกับสองเจ้าหมู่ตึก ก่อนไป นางสั่งให้เสี่ยวตานตานจัดห้องรับแขกให้เขา
จั๋วฝานยืนเหม่อลอย ด้วยความอบอุ่นที่ไหลชะโลมหัวใจ แต่เขากลับพูดไม่ออก เขามักคิดว่าเขาจะขโมยยาหยกโพธิ์ของนางยังไง และแม้กระทั่งวางแผนฆ่าคนเพื่อชิงยา
แต่ฉู่ชิงเฉิงกลับมักเป็นห่วงเป็นใยเขา ซึ่งทำให้เขาเกิดความลังเลว่าเขาควรชิงยาหยกโพธิ์มาไหม