พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 53
ในเงามืดของป่าใหญ่ คนในชุดดำยืนอยู่บนยอดเขา ดวงตาของเขาเหม่อมองประตูเมืองขนาดใหญ่ที่มีตัวอักษรสีทองเขียนว่า เมืองชิงหมิง
มุมปากของชายชุดดำยกขึ้นขณะที่สายลมพัดผ่าน
15 นาทีต่อมา ชายคนนั้นมาถึงด้านหน้าประตูเมือง
“หยุดก่อน เอกสารยืนยันตัวตนล่ะ?”
ด้วยเสียงชนกันของโลหะ ทหารรักษาการณ์สองคนนขวางหอกพวกเขาต่อหน้าชายคนนั้นขณะปล่อยพลังบ่มเพาะระดับกลั่นลมปราณขั้นหกออกมา
ชายคนนั้นหยิบป้ายเหล็กที่มีตัวอักษร’โหยว’ออกมา ชายชุดดำปล่อยให้พวกเขาเห็นมัน ทหารพยักหน้าและปล่อยให้เขาผ่าน
“ไปได้!”
ชายชุดดำพยักหน้า เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น แต่หลังเดินไปได้ร้อยเมตร เขาก็มองกลับมาที่ทหารทั้งสอง เผยรอยยิ้มดูถูก
“ขยะ!”
ชายชุดดำค่อย ๆ เอาผ้าคลุมหัวออก เผยให้เห็นใบหน้าจริง มันคือจั๋วฝาน
มันผ่านมากว่าเดือนแล้วตั้งแต่เขาออกตระกูลลั่ว และสถานที่แรกที่เขาตัดสินใจมาก็คือเมืองชิงหมิง ที่นี่เป็นอาณาเขตของโหยวหมิงกู่ เหมือนกับที่ศาลาเฉียนหลงวางทหารไว้ในเมืองเนตรสายลม โหยวหมิงกู่ก็ทำกับเมืองนี้เช่นกัน
เพื่อเลี่ยงไม่ให้ใครจำได้ จั๋วฝานจึงสวมชุดคลุมดำ
เขากลั้นใจฝ่าอันตรายมาเพราะเขาไม่มีทางเลือก ใครใช้ให้สถานที่ที่มีสัตว์อสูรรวมตัวกันมากสุดอย่างเทือกเขาหมื่นอสูรตั้งอยู่ข้างเมืองชิงหมิงแห่งนี้ล่ะ?
นี่เป็นสาเหตุให้การรักษาความปลอดภัยในเมืองนี้แน่นหนามาก
ไม่ว่าจะเป็นผู้บ่มเพาะสายธรรมะหรืออธรรม วิธีการภายนอกที่จะเพิ่มพลังได้นอกจากการบ่มเพาะอย่างหนักคือการหาอาวุธจิตวิญญาณ สมบัติมาร สัตว์วิญญาณ สิ่งมีชีวิตมาร ทั้งหมดนี้คือวิธีการภายนอกแต่ก็มีความสำคัญยิ่ง มันสามารถช่วยชีวิตคนเราได้
ผู้อาวุโสของโหยวหมิงกู่คือตัวอย่างชั้นเลิศ อีกากลืนวิญญาณของเจี้ยนฟานมีเนตรทองสายฟ้าม่วงและสามารถผลักดันการโจมตีร่วมกันของสามผู้อาวุโสศาลาเฉียนหลงได้
อาวุธจิตวิญญาณระดับสามของหลงจิ่วก็เช่นกัน มันช่วยให้เขาต้านรับสองผู้อาวุโสของโหยวหมิงกู่ได้
มันเห็นได้ชัดว่าวิธีการภายนอกเหล่านี้มีความสำคัญมากแค่ไหนต่อผู้บ่มเพาะ
สัตว์อสูรสามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตมารหรือสัตว์วิญญาณได้ ผู้บ่มเพาะสายธรรมจะทำให้พวกมันเชื่อง และเปลี่ยนเป็นสัตว์วิญญาณ ขณะที่ผู้บ่มเพาะมารจะเปลี่ยนพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตมาร ทารกโลหิตของจั๋วฝานที่เกิดตามธรรมชาติถือเป็นข้อยกเว้น
เมืองชิงหมิงถูกยึดโดยโหยวหมิงกู่ระหว่างก่อตั้งจักรวรรดิ เช่นนั้น ผู้บ่มเพาะคนใดที่อยากได้รับสัตว์วิญญาณหรือสัตว์มารต้องได้รับการอนุมัติจากโหยวหมิงกู่
และโหยวหมิงกู่ก็ใช้สิ่งนี้เป็นข้ออ้างตั้งด่านตรวจทุกหนึ่งลี้รอบมันเพื่อยืนยันตัวตนของทุกคน อนุญาตให้เข้าได้เฉพาะคนที่มีป้ายยืนยันตัว
แต่จั๋วฝานจะเปิดเผยตัวเองและเสนอตัวเองขึ้นเขียงได้ไง?
เช่นนั้นเขาจึงฆ่าผู้บ่มเพาะสายธรรมะด้านนอก ขโมยป้ายพวกเขา และเดินเข้ามา
“ฮึ่มโหยวหมิงกู่สามารถข่มขู่สาวกได้ด้วยแบบนี้ แต่เจ้าคิดว่านี่พอจะจัดการกับผู้บ่มเพาะที่กล้าหาญหรือยอดฝีมือระดับนภาหรือไง?”
เขาเดินทางมาเทือกเขาหมื่นอสูรเพื่อมองหาสัตว์อสูรระดับหก นกกระจาบฝนสายฟ้า!
การเข้าหุบเขาสายฟ้าจะสามารถทำได้ผ่านสายฟ้าม่วงเท่านั้น จั๋วฝานเชื่อว่าสายฟ้าม่วงสวรรค์ชั้นสามของหลงจิ่วไม่เหมือนสายฟ้าจากสถานที่นั้น ไม่งั้นมันคงเป็นระดับหกไปแล้ว
พลังเช่นนั้นเป็นสิ่งที่เข่นฆ่าได้แม้กระทั่งยอดฝีมือระดับเซียน
ดังนั้นก่อนเขาจะจัดการกับข้อจำกัดของหุบเขาสายฟ้าได้ เขาต้องหาทางรับรองชีวิตเขาในสถานที่นั้นและนกกระจาบฝนสายฟ้า สิ่งมีชีวิตที่อาศัยโดยการกลืนกินสายฟ้าก็เหมาะสมยิ่ง
เมื่อเขาทำให้มันเป็นสัตว์มารที่เข้ากับเคล็ดปีศาจแปลงกาย เขาจะไม่มีปัญหาในการเข้าไป
จั๋วฝานหวังว่าสายฟ้าม่วงของหุบเขาสายฟ้าจะไม่สูงกว่าสวรรค์ชั้นหก ไม่งั้นแม้กระทั่งนกตัวนี้ก็คงไม่รอดพ้น
ถ้านั่นเกิดขึ้น งั้นเขาก็ทำได้แค่รอเวลาตาย
จั๋วฝานสูดหายใจลึก และก้าวเดิน ถ้าไม่ใช่เพราะเศษเสี้ยวของจักรพรรดิสวรรค์ เขาคงไม่ย่างกรายเข้าไปที่นั่น
ปัง!
ขณะเดิน เงาร่างชุดดำก็ชนเข้ากับหน้าอกเขา จั๋วฝานก้มมอง พบว่าเป็นขอทานน้อยในชุดซอมซ่อ
จั่วฝานหงุดหงิด แต่ก่อนจะได้ก่นด่า เสียงของขอทานน้อยก็ดัง”ได้โปรด อย่าตะโกน!’
จั๋วฝานขมวดคิ้ว จากนั้น จากด้านหลัง กลุ่มผู้บ่มเพาะกลั่นลมปราณ 30 คนก็ปรากฏ
เพราะขอทานน้อยซ่อนตัวอยู่ด้านหน้าเขา แผ่นหลังของเขาจึงกว้างพอจะบดบังขอทานน้อย
“มีสัญญาณของเขาไหม?”
“ไม่!”
“แล้วจะยืนเฉยกันทำไม?ไปหาตัวเขา!ถ้าเราไม่เจอเขา นายท่านจะกุดหัวเรา”พ่อบ้านด่า
เมื่อพวกเขาไป ขอทานน้อยจึงถอนหายใจโล่งอก”เกือบไป”
จั๋วฝานเมินเขาและเดินหนี
“เอ่อ พี่ชาย…”
ขอทานตกตะลึง จากนั้นก็ถลาไปขวางทางจั๋วฝาน เขามีใบหน้าเปื้อนดิน แต่ก้ยังยิ้มกว้าง”ขอบคุณที่ช่วยนะพี่ชาย …”
แต่จั๋วฝานกลับเดินต่อ
ขอทานยืนมองตาปริบ ๆ จากนั้นก็รีบตามไป”พี่ชาย ท่านมาจากนอกเมืองเหรอ?ท่านช่วยพาข้าออกไปได้ไหม?”
“ถ้าเจ้าอยากออกไป ก็ไปคนเดียวซะสิ เจ้าไม่ต้องการป้ายเพื่ออกไปข้างนอก!”จั๋วฝานหลบเขา
ใบหน้าของขอทานน้อยขมขื่นขณะกัดปากและน้ำตาก็ไหลออกมา”พี่ชาย พูดตามตรง ข้าขโมยของจากพวกเขา ถ้าพวกเขาจับข้า ข้าคงเสร็จแน่ ได้โปรด พาข้าออกไปที”
จั๋วฝานยิ้ม”ผู้บ่มเพาะกลั้นลมปราณขั้นสี่อายุ 15-16 เจ้าไม่อ่อนแอเลย ไม่มีทางที่เจ้าจะเป็นสามัญชนได้ เจ้าเป็นขอทานจริงหรือ?”
ขอทานน้อยหยุดร้อง ดวงตาของเขาลุกลี้ลุกลนราวกับกำลังหาข้ออ้าง
จั๋วฝานพูดต่อด้วยรอยยิ้ม”และต่อให้เจ้าจริงใจ ทำไมข้าถึงควรช่วยเจ้าและตอแยตระกูลที่ทรงพลัง?ข้าไม่เห็นเหตุผลเลยว่าทำไมข้าถึงต้องช่วยเจ้า!”
จั๋วฝานส่ายหัวและเดินผ่านเขาไป ขอทานน้อยยืนนิ่ง ไม่รู้ว่าจะทำไง เขาไม่คิดว่าจั๋วฝานจะมองออก
ตั้งแต่ต้น ขอทานน้อยคิดว่าจั๋วฝานเป็นคนใจดี
“ท่านอยากไปเทือกเขาหมื่นอสูรใช่ไหม?”ขอทานตะโกน
จั๋วฝานชะงักเท้า”ทุกคนที่มาที่นี่ต่างอยากเข้าเทือกเขาหมื่นอสูร ไม่งั้นใครจะอยากมาในอาณาเขตของโหยวหมิงกู่?”
ขอทานน้อยตกตะลึงกับคำพูดของเขา[เขาไม่กลัวว่าจะโดนโหยวหมิงกู่ฆ่าหรือไงที่พูดไปแบบนั้น?]
แต่ยิ่งจั๋วฝานทำตัวแบบนั้น ดวงตาของขอทานน้อยก็ยิ่งแปลก
“ท่านต้องรออีกสามเดือนก่อนจะเข้าเทือกเขาหมื่นอสูรได้”
จั๋วฝานหยุด”ทำไม?”
“เพราะทรายเพชรกำลังจะออกมาจากเทือกเขาหมื่นอสูร ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โหยวหมิงกู่ได้ปิดผนึกเทือกเขาทั้งหมดเพราะมัน”
ทรายเพชร?
จั๋วฝานลอบดีใจ
ทรายเพชรเป็นที่รู้จักในชื่อเลือดแห่งแผ่นดิน มันหายาก และยากจะได้รับ มันถูกใช้เพื่อกลั่นอาวุธจิตวิญญาณระดับห้า แต่สิ่งที่ทำให้มันล้ำค่าขึ้นไปอีกคือมันเป็นโลหะวิญญาณ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับทารกโลหิต
ทารกโลหิตของเขากำลังจะทะลวงผ่านระดับหลอมกระดูกและเขาต้องกลั่นร่างกายมัน ตอนนั้น ทารกโลหิตสามารถสลับระหว่างการเป็นร่างจริงและร่างมายา ฆ่าคนโดยไม่ทิ้งร่องรอย การกลั่นมันด้วยโลหะวิญญาณนับร้อยจะเปลี่ยนมันให้แข็งเหมือนสมบัติมาร
เขายังสามารถบรรลุผลลัพธ์คล้ายกันได้โดยการกลั่นทารกโลหิตด้วยทรายเพชร
ถ้าเขาสามารถทำมันได้ งั้นเขาก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับโลหะวิญญาณร้อยชิ้น
เมื่อคิดได้ ดวงตาของจั๋วฝานก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ขอทานเห็นและกระแอมขณะเชิดหน้าด้วยความภาคภูมิใจ”มาตกลงกัน ถ้าทานพาข้าออกนอกเมือง ข้าจะพาท่านไปเทือกเขาหมื่นอสูร และเมื่อทรายเพชรปะทุ เราสามารถใช้ประโยชน์จากความประมาทและขโมยมันได้”
จั๋วฝานลอบหัวเราะ ไม่มีทางที่โหยวหมิงกู่จะไม่เตรียมการไว้ แต่ความจริงที่เขามีคนนำเข้าเทือกเขาหมื่นอสูรโดยที่ไม่มีใครรู้ก็เป็นเรื่องดี
“ตกลง!”
ขอทานน้อยยกมือและขยิบตา
จั๋วฝานส่ายหัวและตบมือขอทานน้อย
“ฮ่าๆๆ สุดยอด ในที่สุดข้าก็พบคนที่จะพาข้าออกไปจากสถานที่น่าเบื่อนี่”ขอทานหัวเราะ”พี่ชาย ท่านชื่ออะไร?”
“จั๋วฝาน!”
จั๋วฝานพูดชื่อออกมาเพราะเขารู้ว่าต่อให้โหยวหมิงกู่จะรู้จักตระกูลลั่ว ตำแหน่งของเขาในฐานะพ่อบ้านก็ไม่เป็นที่รู้จักกันดี และคนเดียวที่รู้ว่าเขาฆ่าสองผู้อาวุโสก็คือหยางหมิง แต่ใครจะเชื่อถ้าเขาพูดออกไป?
จั๋วฝานมั่นใจว่าหยางหมิงต้องเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัว ถ้าทุกคนรู้ว่าผู้อาวุโสเจี้ยนตายด้วยน้ำมือเด็กกลั่นลมปราณ แต่เขารอด อนาคตของเขาคงป่นปี้
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้เขาพูด โหยวหมิงกู่ก็ไม่มีทางประกาศ
ขอทานหัวเราะ”พี่ชายจั๋ว เรียกข้าว่าเสี่ยวหนิง”
“ได้”จั๋วฝานพยักหน้า ไม่ใส่ใจเพราะรู้ว่ามันเป็นชื่อปลอม
ขอทานหน้ามุ่ย มองเขาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น จั๋วฝานมอบความประทับใจให้เขาอย่างมาก มันดูลึกลับ..