พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 57
เทือกเขาหมื่นอสูร ลึกในป่า
กระต่ายตัวอ้วนกำลังเคี้ยวหญ้าหวานอยู่ ทันใดนั้น หูของมันก็ตั้งตรง
วินาทีต่อมา มือสีดำกด็ยื่นจากพื้นตามด้วยเสียงคืบคลานของขอทานน้อย แต่ขณะที่นางกำลังคลาน นางกลับทำให้เกิดเสียงดัง
“เราออกมาได้แล้ว!”
จั๋วฝานตะโกนและคลานตามขอทานน้อยออกมา เนื้อตัวของเขาสกปรกไม่หมดเหมือนเขาเพิ่งคลานออกเหมืองถ่านมา
อุโมงค์นั้นแคบและยาวเกือบครึ่งลี้ มันอับชื้นและเหม็นเน่ามาก เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชีวิตของเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้?
เสวี่ยหนิงเซียงยืนขึ้น และจ้องเขา”เจ้าแย่มาก ข้านำทางให้เจ้า และนี่คือคำขอบคุณของเจ้าหรือไง?”
“ใช่ ข้ามันแย่!”
จั๋วฝานไม่เถียงกับนางและกวาดตามองรอบตัวแทนขณะได้ยินเสียงคำรามของสัตว์อสูร ตอนนี้เขารู้ว่านี่คือเทือกเขาหมื่นอสูร
เขาส่ายหัวและหันไปหาเสวี่ยหนิงเซียง”เห้ แถวนี้มีแม่น้ำไหม?”
เสวี่ยหนิงเซียงกลอกตา”ตามข้ามา!”
จั๋วฝานยิ้มและตามนางไป
15 นาทีต่อมา เสียงน้ำก็ดังเข้าหู เขาจึงเร่งความเร็ว
ในไม่ช้าดวงตาของเขาก็ถูกต้นอรับด้วยแม่น้ำกว้างที่เต็มไปด้วยน้ำใสและปลาตัวน้อย
จั๋วฝานตะโกน โยนเสื้อผ้า กระโดดลงไปแม้จะมีผู้หญิงอยู่ข้าง ๆ
เสวี่ยหนิงเซียงิดหน้าด้วยความเขินอาย”เจ้าคนเถื่อน เจ้าทำอะไร?”
“เจ้าคิดว่าอะไร ก็อาบน้ำนะสิ!”
จั๋วฝานแค่นเสียงขณะอาบน้ำโดยไม่สนใจนาง”ข้าจะไปหลังอาบน้ำเสร็จ เจ้าจะไปทำอะไรก็เรื่องของเจ้า!หรือถ้าเจ้าอยากอาบน้ำ งั้นก็ลงมาอาบด้วยกัน ข้าไม่ถือ!”
“ใครจะไปอยากอาบกับเจ้า?”เสวี่ยหนิงเซียงไม่หันมามอง แค่พึมพำด้วยความหงุดหงิด”คนหน้าด้าน!”
จั๋วฝานได้ยินคำพูดนางชัด[ถ้าผู้บ่มเพาะปีศาจสนใจชื่อเสียง งั้นผู้บ่มเพาะสายชอบธรรมล่ะ?]
15 นาทีต่อมา จั๋วฝานออกจากแม่น้ำและสวมชุดใหม่จากแหวน เขาตบไหล่เสวี่ยหนิงเซียง”ไปกัน ทรายเพชรจะปรากฏขึ้นที่ไหน?”
เสวี่ยหนิงเซียงประหม่าเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าจั๋วฝานอยากไป นางยืนนิ่งด้วยความลังเลและเขินอายเกินจะพูด
จั๋วฝานเลิกคิ้ว”อะไร?นำทางสิ เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือไง?”
“ตะ-แต่..”เสวี่ยหนิงเซียงพึมพำ”ข้ายังไม่ได้อาบน้ำเลย!”
จั๋วฝานขมวดคิ้ว และเผยรอยยิ้มชั่วร้าย”ข้าบอกเจ้าให้อาบน้ำด้วยกันแต่เจ้าปฏิเสธ!ในเมื่อตอนนั้นเจ้ายังไม่ไปไหน ข้าก็จะไม่ไปไหน”
“ตะ-แต่…”
เสวี่ยหนิงเซียงยิ่งเขินอายกว่าเดิม นางปลอมตัวเพื่อหนีจากบ้าน แต่นางเป็นผู้หญิง ผู้หญิงนั้นรักความงาม นางจะยอมให้ตัวเองสกปรกได้ไง?
จั๋วฝานรู้ แต่เขาแค่แกล้งนาง[ใครบอกให้นางหลอกข้า?]
เสวี่ยหนิงเซียงเงียบไม่พูดอะไร แต่เมื่อนางเห็นรอยยิ้มของจั๋วฝาน นางก็รู้ว่าเขากำลังแกล้งนาง
นางโยนหมวกทิ้งและเดินไปแม่น้ำ
แต่หลังเดินไปไม่กี่ก้าว นางก็หันไปเตือนจั๋วฝาน”จะ-เจ้าห้ามแอบมองนะ!”
จั๋วฝานเยาะเย้ยขณะเดินหนีไป”ข้าไม่สนใจไม้กระดาน!”
ไม้กระดาน?
เสวี่ยหนิงเซียงตกใจ จากนั้นก็ก้มมองหน้าอกนาง และปิดมัน”ฮึ่ม ไม้กระดานตรงไหนกัน?”
แต่จั๋วฝานได้เดินหายไปแล้ว
เสวี่ยหนิงเซียงหน้ามุ่ยและกลับไปแม่น้ำด้วยหัวใจขุ่นมัว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา จั๋วฝานนอนบนกิ่งไม้ คาบฟางข้าวไว้ในปาก และครุ่นคิดว่าจะทำอะไรต่อ แต่พุ่มไม้รอบตัวของเขากลับขยับ และจั๋วฝานก็หันไปมองด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ ในที่สุดก็เสร็จ!คุณหนู เราจะไปกันได้หรือยัง?”
“ดะ-ได้!”
นางตอบขณะที่พุ่มไม้โดนผลักออกไปด้านข้าง เด็กสาวหน้าตาดีค่อยๆเดินออกมา นางไม่ได้สวยสง่า แต่ให้บรรยากาศสดใสร่าเริง
นางเหมือนดอกไม้บริสุทธิ์!
แม้กระทั่งจั๋วฝานก็ยังตกตะลึง เขาไม่คิดว่าขอทานน้อยตัวสกปรกจากก่อนหน้าจะกลายเป็นห่านขาว
เสวี่ยหนิงเซียงหน้าแดงเล็กน้อยจากการจ้องมอง นางกระแอมและจั๋วฝานก็ยิ้มเขินอาย
“อืม คุณหนูเสวี่ย เชิญนำทาง”
เขาเปลี่ยนน้ำเสียงทันทีที่พบสาวงาม จั๋วฝานถึงขั้นเริ่มสงสัยตัวเอง[ตั้งแต่เมื่อไรที่ข้าหน้าด้านขนาดนี้?]
แต่ผลลัพธ์สุดท้ายคือเขาพบว่าการได้เดินข้างสาวงามนั้นทำให้หัวใจของเขาปริ่มเปรม
สองชั่วโมงต่อมา เสวี่ยหนิงเซียงพาเขาไปเนินเขา จั๋วฝานงุนงง”ทรายเพชรกำลังจะออกมาไม่ใช่เหรอ มันควรมีคนมากมายรอบมันสิ ทำไมมันถึงร้างขนาดนี้?”
เสวี่ยหนิงเซียงส่ายหัวและกลอกตา”พี่ชายจั๋ว ข้าคิดว่าท่านฉลาด ทำไมจู่ๆท่านถึงโง่ขึ้นมา?”
จั๋วฝานตวัดตามองนาง
“ถ้าเราเข้าไปตอนนี้ เราจะโดนจับ นั่นทำให้ข้าพาท่านมาที่นี่!”
เสวี่ยหนิงเซียงดึงมือจั๋วฝานขึ้นไปสูงขึ้นบนเนินเขาและชี้”นั่นคือที่ที่ทรายเพชรจะปะทุขึ้น!’
จั๋วฝานมองไป เห็นคนมากมาย ถ้าให้นับก็คงประมาณ 50 กำลังปกป้องบ่อ บ่อดูเหมือนจะเชื่อมต่อกับน้ำพุร้อนเพราะมันกำลังเดือด
ตรงกลาง บนหินที่ผุดขึ้นจากน้ำ ผู้อาวุโสผมขาวชุดเทานั่งสมาธิอยู่ ไอน้ำรอบตัวเขาที่เกิดจากบ่อน้ำพุร้อนกลับหายไปทันทีที่เข้าใกล้เขา
แม้กระทั่งผมของเขาก็ยังไม่เปียก!
“พลังลึกล้ำมาก เขาเป็นยอดฝีมือระดับนภา?”จั๋วฝานขมวดคิ้วอย่างตื่นตระหนก
ทันใดนั้น ผู้อาวุโสคนนั้นก็ลืมตาขึ้น มองมาทางจั๋วฝาน ดวงตาของเขาแหลมคม ตวัดมองมาตำแหน่งเขาเหมือนสายฟ้า
“ก้มลง!”
จั๋วฝานดึงเสวี่ยหนิงเซียงให้ก้มหมอบลงขณะที่เหงื่อเย็นวิ่งไปทั้งตัว”สัญชาตญาณเฉียบแหลมมาก เขาต้องเป็นยอดฝีมือนภาแน่!”
“ถูกแล้ว!”
เสวี่ยหนิงเซียงพยักหน้า”เขาคือผู้อาวุโสของโหยวหมิงกู่ที่ดูแลเมืองชิงหมิงมานับสิบปี เดือนก่อนเขาพบว่าบ่อน้ำพุทองคำได้ปล่อยทรายเพชรออกมามากและมาเฝ้าที่นี่นับตั้งแต่นั้น คน 50 คนรอบตัวเขาคือยอดฝีมือหลอมกระดูก!”
จั๋วฝานพยักหน้า
ก่อนทรายเพชรปะทุ มันจะทำให้เกิดคลื่นทองคำ แต่คลื่นทองคำนั้นมีทรายเพชรไม่มาก จากนั้นสามเดือนต่อมา ทรายเพชรจำนวนมากถึงปะทุขึ้น
[เพื่อให้ได้ทรายเพชรทั้งหมดก่อนคนอื่น พวกเขาจึงวางกำลังคุ้มกัน แต่ใครบอกว่าทรายเพชรจะปะทุขึ้นจากตรงนี้?]
จั๋วฝานขมวดคิ้วขณะคิด ด้วยพลังเขา เขาไม่มีหวังในการขโมยทรายเพชร เว้นแต่…
ดวงตาของเขาสาดประกายและดึงเสวี่ยหนิงเซียงออกเนินเขา
“อะไร เจ้ามีทาง?”เมื่อเห็นจั๋วฝานมั่นใจ เสวี่ยหนิงเซียงจึงตกใจ
นางตกใจที่เขาสามารถเอาชนะครอบครัวนางได้ แต่เขาจะไปมีพลังชนะยอดฝีมือระดับนภากับกลุ่มยอดฝีมือหลอมกระดูกได้?
จั๋วฝานส่ายหัว”ถ้าเอาชนะไม่ได้ด้วยกำลัง งั้นก็ต้องใช้เล่ห์!ไปกัน ข้าอยากให้เจ้าหาสัตว์เลี้ยงให้ข้า!”
เสวี่ยหนิงเซียงมึนงง
ในบ่อน้ำพุทองคำ ดวงตาของผู้อาวุโสเต็มไปด้วยความสับสน.”ข้าพลาด…”
ในเวลาเดียวกัน ในเมืองชิงหมิง เสวี่ยว่านหลงได้พาเสวี่ยหลินกลับบ้าน ในโถงหลักของตระกูลเสวี่ย ชายชรานั่งบนที่นั่งอันทรงเกียรติ จ้องมองทั้งคู่ จากนั้นก็ดีดตัวขึ้น
“เป็นยังไง?เจ้านำหนิงเอ๋อร์กลับมาไหม?จั้จดการกับคนร้ายที่ทำร้ายกังเอ๋อร์หรือยัง?”
เสวี่ยว่านหลงส่ายหัว”ท่านพ่อ ข้าปล่อยพวกเขาไป!เด็กนั่นไม่เลว ข้าฝากหนิงเอ๋อร์ไว้กับเขา สำหรับการที่เขาทำร้ายกังเอ๋อร์ เขาไม่รู้เรื่อง ตราบเท่าที่เขาดูแลหนิงเอ๋อร์เป็นอย่างดี ข้าจะไม่ถือสา”
“ว่าไงนะ ชายคนนั้นคือ….”ชายชราตกใจ
เสวี่ยว่านหลงพยกหน้า”เด็กนั่นบอกว่าหนิงเอ๋อร์เป็นของเขา หนิงเอ๋อร์ยังเต็มใจ เราสามารถสันนิษฐานแบบนั้นได้…!”
“เหลวไหล!”
ชายชราทุบโต๊ะ”ว่านหลง ไม่ว่าเด็กนั่นจะเป็นใคร ต่อให้เจ้าไม่สนใจเรื่องที่เขาทำกับกังเอ๋อร์ แต่หนิงเอ๋อร์ไม่สามารถถูกพาตัวไปได้ เจ้าก็รู้ว่าถ้านางจากไป ตระกูลเสวี่ยเรา…”
ถึงแม้เขาจะโกรธ ดวงตากลับเผยความเศร้า
เสวี่ยว่านหลงมองพ่อเขาด้วยดวงตาแน่วแน่”ท่านพ่อ ปล่อยหนิงเอ๋อร์ไปเถอะ ข้าจะรับผิดชอบเอง!”
“เหลวไหลสิ้นดี!เจ้าสามารถทำให้พวกเราปลอดภัยได้หรือไง?”
ชายชราคำราม”ว่านหลง ข้ารู้ว่าเจ้ารักลูกสาว แต่เจ้าคิดว่าข้าไม่รักนางหรือไง?แต่ตระกูลเสวี่ย…”
ชายชราถอนหายใจ”พวกนางไปไหน?”
ว่านหลงถอนหายใจ แต่ยังพูด”เทือกเขาหมื่นอสูร!”
พรึ่บ!
ในชั่วพริบตา ชายชราได้หายตัวไป….