พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 74
ความเงียบเข้าปกคลุม!
มันเงียบจนได้ยินแค่เสียงลม
“หนิงเอ๋อร์!”
เสวี่ยติงเถียนจริงจัง”ถ้าสิ่งที่นายน้อยผู้นี้พูดเป็นจริง มันดีสุดที่เจ้าจะไป”
“ท่านปู่..”เสวี่ยหนิงเซียงมองเขาทั้งน้ำตา
เสวี่ยติงเถียนยิ้ม”ไม่ต้องห่วง ข้าจะกลับไปหาความจริง ถ้ามันไม่เหมือนสิ่งที่นายน้อยพูด งั้นข้าจะกลับมาหาเจ้าและดำเนินเรื่องแต่งงานต่อ
เขาสะบัดหน้าและบินไป
เสวี่ยหนิงเซียงจ้องเขาหายไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น
“พี่จั๋ว ปู่ของข้าจะเป็นอะไรไหม?”
คำพูดของจั๋วฝานมักถูกและเสวี่ยหนิงเซียงก็อยากรู้ชะตากรรมของปู่นาง
นางอยากให้เขาพูดว่าปู่นางจะไม่เป็นไร ตระกูลนางจะปกติดี แต่จั๋วฝานกลับส่ายหัว
“ข้าขอโทษ ถ้าเขาไม่กลับไป ตระกูลเจ้าอาจใช้ชีวิตไปได้ แต่ตอนนี้ ทั้งหมดจะตาย”
เสวี่ยหนิงเซียงตกใจและน้ำตาก็ยิ่งไหลออกมามากกว่าเดิม
เซี่ยเทียนหยางเริ่มสาปแช่ง”เห้ย เจ้าเทียบกับปีศาจเจ้าเล่ห์ไม่ได้ในด้านการอ่านใจคน เจ้าจะพูดได้ไงว่าพวกเขาจะตายหมดถ้าเขากลับไป?ข้าคิดว่ายอดฝีมือระดับนภาจะทำให้ปีศาจเจ้าเล่ห์ต้องคิดซ้ำสอง”
“ฮึ่มเจ้าคิดผิด ข้าอาจไม่เฉียบขาดเท่าเขาตอนมันเป็นเรื่องการอ่านเจตนาคน แต่เราล้วนเป็นมนุษย์ ข้าสามารถบอกการกระทำเขาได้บา้ง อย่างแรก เราตอแยเขา และเนื่องจากเขากำหนดตัวตนของเสวี่ยหนิงเซียงได้ระหว่างการต่อสู้ของเรา เขาต้องคิดว่าตระกูลเสวี่ย ทรยศโหยวหมิงกู่ เขาจะฆ่าทุกคนไม่เว้นเด็กหรือผู้หญิง แต่เวลานั้น ตาแก่เสวี่ยได้ออกมาหาตัวหนิงเอ๋อร์อยู่…”
จั๋วฝานหยุดจากนั้นก็ถอนหายใจ”จนกระทั่งเขารู้ที่อยู่ของยอดฝีมือระดับนภา เขาจะเก็บตระกูลไว้เพื่อล่อปู่เจ้า เมื่อตาแก่เสวี่ยกลับไป จะไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีก”
“ไร้สาระ!ยอดฝีมือระดับนภาคือผู้อาวุโสในเจ็ดตระกูลใหญ่ ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะกล้าเข่นฆ่าทั้งตระกูลของยอดฝีมือระดับนภา”เซี่ยเทียนหยางเห็นสีหน้าของเสวี่ยหนิงเซียงดำมืดขึ้น และคำรามใส่จั๋วฝาน
จั๋วฝานส่ายหัว”มันเพราะตระกูลเสวี่ยมียอดฝีมือระดับนภา เขาถึงรอให้เสวี่ยติงเถียนกลับไปก่อนกวาดล้างทั้งหมด นอกจากนี้ เจ้าพูดผิดไป ยอดฝีมือระดับนภาไม่ได้แข็งแกร่งหมด แต่เป็นพวกอิสระที่น่ากลัว”
“ทำไมเจ้าถึงคิดว่าเขาถึงยอมคุกเข่าให้เรา?เขาไม่ได้ทำมันเพื่อเรา แต่เพื่อตำหนักกระบี่เบื้องหลังเจ้า เขาไม่ได้คุกเข่าเพื่อตัวเขาเอง แต่เพื่อตระกูลเสวี่ย ถ้าเขาเป็นผู้บ่มเพาะอิสระ เราคงโดนฆ่าไปแล้ว”
“แต่…”เซี่ยเทียนหยางอยากเถียงแต่ก็ปฏิเสธไม่ลง เขารู้ทั้งหมดนี้ดี แต่แววตาเศร้าหมองของเสวี่ยหนิงเซียงก็ผลักดันเขาให้หาข้อแก้ตัวเพื่อปลอบนาง
แต่คำพูดของจั๋วฝานก็ได้จี้ใจแสนเปราะบางของเสวี่ยหนิงเซียงเหมือนมีด
ตอนนี้ เซี่ยเทียนหยางอยากชกหน้าเขา[เจ้าไม่สงสารหนิงเอ๋อร์บ้างหรือไง?]
“เอาล่ะ พอได้แล้ว”
เสวี่ยหนิงเซียงตะโกน”พี่จั๋ว ข้ารู้ว่าท่านพูดจริง งั้นบอกข้ามา ถ้าข้ากลับไปเป็นเตาหลอม ข้าจะช่วยตระกูลข้าได้ไหม?”
เซี่ยเทียนหยางผงะ”หนิงเอ๋อร์ อย่า!”
จั๋วฝานจ้องตานางแต่ทั้งหมดที่เห็นคือเจตจำนงที่ไม่ไหวติงและพยักหน้า”แม้กระทั่งผู้อาวุโสเจ็ดแห่งโหยวหมิงกู่ก็ไม่มีทางอื่นเพื่อฝึกวิชายุทธ์เช่นนั้น จากสิ่งนี้ มันชัดเจนว่าโหยวหมิงกู่ขาดเตาหลอมมากแค่ไหน การทำเช่นนี้อาจได้ผล แต่…”
“ไม่มีแต่ตราบเท่าที่มันได้ผล!”
เสวี่ยหนิงเซียงโบกมือและถอนหายใจราวกับกำลังระบายความกังวลทั้งหมดบนหน้าอกออก นางแย้มยิ้ม แต่ทั้งสองกลับรู้สึกปวดใจจากน้ำตาที่ไหลรินของเสวี่ยหนิงเซียง
“พี่จั๋ว พี่เทียนหยาง ขอบคุณพวกท่านมากที่ดูแลข้ามาตลอดหลายเดือน มันคงถึงเวลาที่เราต้องแยกทางกันแล้ว..”เสวี่ยหนิงเซียงสะอื้น”ข้าไม่เคยออกไปนอกเมือง ไม่เคยเห็นตำหนักกระบี่ มันเป็นความเสียใจเดียวของข้า”
นางยิ้มและจากไป
ดวงตาของเซี่ยเทียนหยงแดงก่ำ ทั้งคู่รู้ว่านางกำลังจะทำอะไร
“หนิงเอ๋อร์!”
เซี่ยเทียนหยางก้าวไปข้างหน้า แต่เสียงนุ่มนวลของเสวี่ยหนิงเซียงกลับดังก่อนเขาจะได้ก้าวอีกก้าว”โปรดอยากใช้กำลังเลย ข้ารู้ว่าข้าสู้ท่านไม่ได้ แต่ข้าจะเกลียดท่านไปตลอดชีวิตและไม่มีวันฟังพวกท่านอีก”
เซี่ยเทียนหยางคุกเข่า มองนางจากไปด้วยความเจ็บปวด
“เห้ จั๋วฝาน หนิงเอ๋อร์ไปแล้ว นางจะช่วยตระกูลเสวี่ยได้ไหม?”เขาถาม
“คงได้สักพัก”จั๋วฝานส่ายหัว”พอหนิงเอ๋อร์ตาย ตระกูลเสวี่ยก็จะหมดประโยชน์”
“งั้นเจ้าปล่อยนางไปทำไม?”เซี่ยเทียนหยางกัดปากจนกระทั่งเลือดไหลออกมา
จั๋วฝานจ้องตาเขา”อย่างน้อย…หนิงเอ๋อร์ก็จะจากโลกนี้ไปอย่างสงบสุข เชื่อว่าตระกูลนางปลอดภัย”
“สารเลว!”
ปึก!
เซี่ยเทียนหยางยืนขึ้น ชกหน้าจั๋วฝาน ส่งเขาลอยออกไปไกล”เจ้าทรยศหนิงเอ๋อร์อีกแล้ว”
เซี่ยเทียนหยางคำราม วิ่งตามเสวี่ยหนิงเซียงไป
“เจ้าจะทำอะไร?”จั๋วฝานเช็ดเลือดจากปากและยืนขึ้น
“ข้าจะไปช่วยนาง!”เซี่ยเทียนหยางพูด
“แค่เจ้า?”จั๋วฝานสวน”ผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกจะไปสู้ยอดฝีมือระดับนภาไปเยี่ยงไร?เจ้าก็เห็นสิ่งที่เพิ่งเกิด เจ้ารู้ความแตกต่างระหว่างระดับหลอมกระดูกกับนภาดี มันไม่ใช่แค่เรื่องการบินไม่ได้ แต่ยังรวมถึงความเร็ว”
“แล้วไงละ?”เซี่ยเทียนหยางกำหมัดแน่น”มันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรแบบเจ้า เรามีโอกาสฆ๋าปีศาจเจ้าเล่ห์ด้วยซ้ำในครั้งที่แล้ว..”
“ครั้งก่อนเรามีภูมิประเทศกับตั้งค่ายกลไว้ล่วงหน้า ในค่ายกล ไม่ว่าเขาจะเร็วแค่ไหน เราก็สามารถจัดการเขาได้ แต่ตอนนี้ข้าจะตั้งค่ายกลได้ไง?เจ้ากำลังบอกข้าให้ตั้งค่ายกลใต้จมูกเขา จากนั้นก็ขอให้เขาก้าวเข้ามา?”
เซี่ยเทียนหยางเข้าใจความหมายขยองจั๋วฝานแต่ก็ไม่สามารถยอมรับได้ หนิงเอ๋อร์สู้ผ่านเป็นผ่านตายกับพวกเขามา และตอนนี้จั๋วฝานกำลังจะนั่งเฉยๆไม่ทำอะไร
“จั๋วฝาน ข้ารู้มาตลอดว่าไม่ควรเชื่อใจเจ้า แต่ในฐานะผู้ชาย ไม่ว่าจะดีหรือเลว มันก็ยังมีหน้าที่ต้องทำตามสัญญา เจ้าสัญญาว่าจะพาหนิงเอ๋อร์ออกไป และถ้าเจ้าไม่ทำตามสัญญา เจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับพวกขี้ขลาด!”
เซี่ยเทียนหยางคำรามพร้อมกับเร่งความเร็ว
“ถ้าเจ้าไป เจ้าจะทำได้แค่ดู ไร้อำนาจทำอะไรทั้งนั้น!”
“ข้าก็จะยังไป ข้ายอมตายดีกว่าเป็นคนขี้ขลาด!”
จั๋วฝานกำหมัดแน่นและพึมพำ มองดูเซี่ยเทียนหยางตามหนิงเอ๋อร์ไป”ใครบอกว่าข้าแตกต่าง..”
จากนั้นเขาก็หมุนตัว เดินเข้าป่าไป
ในถ้ำ 15นาทีต่อมา จั๋วฝานตั้งค่ายกลปกปิดจากนั้นก็วาดลวดลายแปลกๆบนพื้น วางหินปราณไว้ที่จุดสำคัญ จากนั้นก็กระจายทรายเพชรทั่ว
สุดท้าย มือของเขาก็สะบัดและปีกคู่ที่ทำจากสายฟ้าก็ปรากฏตรงกลางลวดลายนี้
นี่คือวิชาหลอมกายลับจากคัมภีร์ลับเก้าสมถะ มันจะใช้เคล็ดปีศาจแปลงกายเพื่อหลอมวัตถุดิบและเปลี่ยนกายเนื้อของคนเป็นกายเพชร
นี่โหดร้ายยิ่งกว่าเคล็ดพิโรธที่เขามอบให้หัวหน้าผางเสียอีก เคล็ดพิโรธคือเคล็ดบ่มเพาะสำหรับมนุษย์ให้หลอมร่างกาย แต่วิชาลับนี้ปฏิบัติต่อกายมนุษย์เป็นสื่อกลางในการหลอมมันเหมือนสมบัติมาร
ผลลัพธ์ย่อมโดดเด่น มันจะมีร่างกายไร้เทียมทาน แข็งเหมือนเหล็ก แต่กระบวนการนั้นน่าสังเวชกว่าเคล็ดพิโรธนับพันเท่า
ลองคิดภาพมีดที่เฉือนไปทุกสัดส่วนของร่างกายถ้าอยากหลอมร่างกายนี้เข้ากับวัตถุดิบ มันน่ากลัวมากจนหลายคนยอมตายเสียดีกว่า
ในอดีต ก่อนเขาจะพบคัมภีร์ลับเก้าสมถะ จั๋วฝานไม่ได้ฝึกเคล็ดพิโรธแม้เขาจะมี เพราะมันไร้ความเป็นมนุษย์มากเกินไป โหดเหี้ยมมากเกินไป แม้พลังที่มันให้กลับคืนจะสูงก็ตาม
และนี่ เขากำลังจะใช้เคล็ดวิชาที่อันตรายยิ่งกว่า
แต่นี่คือทางเดียวที่เขาจะสามารถเพิ่มพลังเขาได้ในเวลาอันสั้น ถ้าเขาไม่แข็งแกร่งกว่าปีศาจเจ้าเล่ห์ตัวนั้น ความสำเร็จของเขาก็จะไม่แน่นอน!
เขาหลับตา พร้อมประสานมือ
ในชั่วพริบตา ลวดลายแปลกๆก็เปล่งแสงและเริ่มหมุน พอมันหมุน ทรายเพชรก็โดนดูดเข้าหาวังวนขนาดเล็กตรงกลางและเข้าไปในตัวของจั๋วฝาน…