พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 83
หุบเขาเงียบสงบที่รายล้อมด้วยภูเขาสามด้าน มีด้านหนึ่งที่เปิดเผยต่อทางแยกแสนแคบ ไร้แสงแดดส่องมานานหลายปี มันมักโดนล้อมด้วยหมอกบาง อากาศชื้นเย็น และเป็นสถานที่ที่มีแมลงมีพิษ หนูกับมดชุกชุม
แต่ทว่า มันเพราะฟ้าดินพิศดารนี้ที่ทำให้ดอกไม้กับพืชพรรณแปลก ๆ งอกเงยในหุบเขา หลายคนเดินทางเข้าหุบเขาเพื่อหาวัตถุดิบปรุงยาด้านใน แต่ส่วนใหญ่ต้องทิ้งชีวิตไว้ ความอาฆาตแค้นล่องลอยในหุบเขา ทำให้หุบเขายิ่งหมองหม่น
ดังนั้น ผู้คนจึงเรียกมันว่าโหยวหมิงกู่(หุบเขานรก)
แต่ทว่า พันปีก่อน กลุ่มคนแข็งแกร่งพบสถานที่พิศดารนี้และตั้งมันเป็นบ้านพวกเขา นอกจากนี้ ยังมีการตั้งค่ายกลระดับห้า ทำให้สถานที่ชั่วร้ายนี้ง่ายต่อการป้องกันและยากต่อการโจมตี
พวกเขขาคือหนึ่งในเจ็ดตระกูลใหญ่แห่งจักรวรรดิเทียนอวี่ ตระกูลโหยว ต่อมา ผู้คนก็ขนานนามให้ตระกูลโหยวเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งสุดเทียบเคียงราชวงศ์
พอถึงจุดนี้ โหยวหมิงกู่ก็ได้รับการเคารพจากทุกตระกูล
แต่ตอนนี้ ในโถงประชุมขนาดใหญ่ในโหยวหมิงกู่ เจ้าหุบเขา โหยวหวันซานกำลังนั่งบนที่นั่งหลักด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยว มีที่นั่งอยู่สองฝั่งข้างเขา ทั้งหมดสิบสองที่นั่ง แต่กลับมีแค่เก้าคนที่นั่งอยู่เท่านั้น
ทันทีที่เขาเห็นที่นั่งว่างเปล่า ดวงตาของโหยวหวันซานก็ระเบิดจิตสังหารออกมา
“โหยวหมิง!”
เสียงต่ำของโหยวหวันซานเหมือนสิงโตเกรี้ยว”เจ้าหมายความว่า สามผู้อาวุโสของเราโดนเด็กนั่นฆ่า?”
เขาตัวสั่นสะท้าน โหยวหมิงไม่กล้าแหงนมอง ได้แต่ก้มหมอบ”ศิษย์ไม่กล้าพูดปดต่อท่านเจ้าหุบเขา ผู้อาวุโสเจี้ยน ผู้อาวุโสหยุน และผู้อาวุโสเจ็ดอาจารย์ข้าต่างตายด้วยน้ำมือของพ่อบ้านตระกูลลั่ว จั๋วฝาน!”
“สารเลว!”โหยวหวันซานทุบโต๊ะ”ในเมื่อเจ้ารู้ว่าผู้อาวุโสเจี้ยนกับผู้อาวุโสหยุนโดนเด็กนั่นฆ่า แล้วทำไมไม่รายงานแต่แรก?”
“ท่านเจ้าหุบเขาโปรดอภัย มันไม่ใช่ศิษย์ที่ไม่ยอมรายงาน แต่อาจารย์ไม่ยอม อาจารย์กับคนของเขาบอกว่าเรื่องนี้แปลกไป ต่อให้เป็นจริง ก็ไม่มีใครเชื่อ มันจึงไม่ควรพูด ตอนเขาพบโอกาส เขาจะหาทางกำจัดจั๋วฝานเอง แต่ไม่คิดว่าอาจารย์จะยังไม่ทันทำอะไร จั๋วฝานก็มาปรากฏตัวแล้วและสุดท้าย..”
ตอนนี้ โหยวหมิงสะอื้นและไม่พูดต่อ
ผู้อาวุโสคนอื่นเหลือบมองเขาอย่างดูถูก เต๋าปีศาจต้องใจเหี้ยม เนื่องจากเด็กนี่เป็นผู้บ่มเพาะปีศาจ เขาจะมีความรู้สึกแบบนี้ได้ไง?
เขาแค่แสดงมันให้พวกเขาเห็นเฉยๆ ว่าเขารู้สึกผิด
ตาแก่เหล่านี้ชัดเจนดีในหัวใจ แต่ไม่ชี้มัน นอกจากนี้ เขาไม่สามารถโดนตำหนิได้ ถ้าอยู่ในจุดนั้น พวกเขาก็คงทำแบบนี้เหมือนกัน
เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าคนหลายคนไม่เห็นฉากจั๋วฝานฆ่าผู้อาวุโสเจ็ดกับตา ใครจะไปคิดว่าเด็กที่เพิ่งทะลวงผ่านระดับหลอมกระดูกจะมีความสามารถฆ่าผู้อาวุโสระดับนภาได้?
“ท่านเจ้าหุบเขา แม้โหยวหมิงจะผิด เราก็ไม่สามารถตำหนิเขาได้ ตอนนี้ สิ่งแรกที่เราต้องทำคือคิดหาทางจัดการเรื่องนี้”
ตอนนี้ ชายชราผมขาวที่นั่งอยู่ตำแหน่งแรกทางขวามือของเขายืนขึ้น ดวงตาของเขาเปล่งแสงเจิดจ้า”บรรดาตระกูลใหญ่ทั้งหมดแห่งจักรวรรดิเทียนอวี่กำลังจับตาดูเรา ถ้าเราปล่อยให้เด็กนั่นหนีไปแบบนี้ คนจะคิดอย่างไร?เราจะกลายเป็นตัวตลกของจักรวรรดิ และตระกูลน้อยใหญ่ก็จะเมินเรา”
โหยวหวันซานสูดหายใจลึก ขมวดคิ้วและจิตสังหารก็แผ่ออกมา”ผู้อาวุโสใหญ่มีเหตุผล เราจะปล่อยเด็กนั่นไปได้ไง?เขาเป็นพ่อบ้านตระกูลลั่วไม่ใช่รึ ดี งั้นเราก็มาคิดบัญชีกับตระกูลลั่วแทน!”
“ท่านเจ้าหุบเขา อย่า!”
ทันใดนั้น เสียงตะโกนก็ดังขึ้น โหยวหวันซานหันไปมอง แต่เห็นแหล่งเสียงคือชายชราผมดำยาวที่นั่งตรงข้ามผู้อาวุโสใหญ่ ซึ่งเป็นตำแหน่งแรกทางซ้ายมือเขา
โหยวหวันซานขมวดคิ้ว แค่นเสียงเย็น”ผู้อาวุโสสองจะพูดอะไร?หรือจะบอกว่าให้เรามองข้ามการที่มีคนมาตบหน้าและฆ่าคนของเรา?งั้นโหยวหมิงกู่จะเอาหน้าไปไว้ไหน?”
“ท่านเจ้าหุบเขาโปรดใจเย็น ข้าไม่ได้คิดหยุดท่านจากการสะสาง แต่”
หลังไต่รตรองสักพัก ผู้อาวุโสสองก็พูด”ท่านเจ้าหุบเขาคงจำได้ว่าจักพรรดิได้สั่งห้ามเราเจ็ดตระกูลใหญ่ห้ามเข้าเมืองเนตรสายลมเมื่อปีก่อน ตอนนี้ถ้าเราหักล้างอย่างเปิดเผย เราจะตกหลุมพราง มอบโอกาสให้ราชวงศ์โจมตีเรา”
“ผู้อาวุโสสองมีเหตุผล มันไม่ดีที่จะต่อต้านราชวงศ์แบบเปิดเผย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีข้อมูลว่าราชวงศ์กับเจ้าศาลาเฉียนหลงคอยวนเวียนอยู่แถวเมืองเนตรสายลม ข้าเกรงว่าตอนเราเข้าเมืองไป เราจะโดนพวกมันโจมตี!’ผู้อาวุโสใหญ่มองโหยวหวันซานและโน้มน้าวเขา
พอมองสลับสองผู้อาวุโส โหยวหวันซานก็กัดฟันและคำราม”นี่ก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่ดี งั้นเจ้าจะบอกว่า เราไม่ควรทำอะไรเลย?”
สองผู้อาวุโสมองหน้ากัน ลูบเคราขาวและเงียบไป
พอเห็นแบบนี้ โหยวหวันซานก็ถอนหายใจและส่ายหัว”ถ้าผู้อาวุโสเจ็ดยังอยู่ เราจะมาลำบากกันแบบนี้ได้ไง?เห้อ เด็กบัดซบนั่นดันฆ่ามันสมองของเราไปซะได้ ถ้าข้าจับเจ้าได้ ข้าจะกินเจ้าทั้งเป็น!”
พอเห็นว่าทุกคนกำลังขมวดคิ้วและคิดหนัก โหยวหมิงที่คุกเข่าก็กลอกตาและพูดอย่างกล้าๆกลัวๆ”ท่านเจ้าหุบเขา ศิษย์อยากเสนอแผน!”
“หึ ไม่มีส่วนใดในการประชุมผู้อาวุโสให้เจ้าแทรก ไสหัวออกไป!”โหยวหวันซานขมวดคิ้วโดยไม่คิดเหลือบมองเขา คำราม แต่ผู้อาวุโสกลับโบกมือ”ช้าก่อน ท่านเจ้าหุบเขา เด็กนี่คือศิษย์ของเฒ่าเจ็ด มันดีกว่าที่จะฟังเผื่อเขามีความคิดดีๆ”
หลังไตร่ตรองสักพัก โหยวหวันซานก็โบกมือ
โหยวหมิงยินดี และรีบพูด”ท่านเจ้าหุบเขา ตามความคิดเห็นแสนต่ำต้อยของศิษย์ เราสามารถโยนตระกูลลั่วทิ้งไปได้ เท่าที่ศิษย์รู้มา ตระกูลลั่วตอนนี้พึ่งพาพ่อบ้านจั๋วฝานล้วนๆ ด้วยการคงอยู่ของจั๋วฝาน ตระกูลลั่วจะยิ่งใหญ่ แต่ตราบเท่าที่จั๋วฝานหายไป การกำจัดพวกกระจอกของตระกูลลั่วจะไม่ยากเลย!”
ดวงตาของโหยวหวันซานสว่างวาบ เขามองโหยวหมิง”ว่าต่อไป!’
“ครับ”มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย”แม้เราจะไม่สามารถเข้าใกล้เมืองเนตรสายลมได้ จั๋วฝานก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว เราจึงไม่ต้องสนใจมันเลย ตราบเท่าที่เราทุ่มความสนใจไปที่จั๋วฝาน”
“งั้นเราจะหาเด็กนั่นเจอได้ไง?”
“ออกประกาศจับตายในนามโหยวหมิงกู่ เอาให้เขาไม่มีที่ซุกหัวในจักรวรรดิ!”โหยวหมิงแสยะยิ้ม”ตอนนั้น เราจะรู้การเคลื่อนไหวของเขา ก่อนเขาหนีกลับไปเมืองเนตรสายลม เราก็แค่ดักซุ่มกำจัดเขา”
โหยวหวันซานหัวเราะลั่น”ฮ่าๆๆ ดี เอาตามนั้น!”
“เข้ามา!”โหยวหวันซานตะโกน”ในนามของโหยวหมิงกู่ ออกคำสั่งไล่ล่าของเราออกไปทั่วทั้งจักรวรรดิ ใครก็ตามที่ให้เบาะแสจะได้กลายเป็นตระกูลเครือของโหยวหมิงกู่ ส่วนใครที่เอาหัวเขามาได้จะกลายเป็นตระกูลเครือชั้นหนึ่งในโหยวหมิงกู่ทันที อยู่ภายใต้ตระกูลเดียว แต่เหนือตระกูลนับหมื่น!’
เสียงคำรามของโหยวหวันซานดังไปทั่วหุบเขา แต่โหยวหมิงกลับแสดงแค่รอยยิ้มชั่วร้าย
จั๋วฝาน ไอสัตว์ประหลาด แม้ข้าจะไม่กล้าเผชิญหน้ากับเจ้า แต่ตอนนี้ เจ้าจะต้องเจอกับการไล่ล่าของทั้งจักรวรรดิ ส่วนข้าแค่รอดูเจ้าตาย ฮี่ๆๆ..
ราวกับเห็นความคิดของโหยวหมิง ผู้อาวุโสแอบยิ้ม เด็กนี่ยังเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่เขาไม่ใสใจ เหนือสิ่งอื่นใด จั๋วฝานเป็นศัตรูของโหยวหมิงกู่
ผู้อาวุโสมองโหยวหวันซานและพูด”ท่านเจ้าหุบเขา ในเมื่อจั๋วฝานผู้นี้สามารถฆ่าเฒ่าเจ็ดได้ ต่อให้โหยวหมิงกู่ออกคำสั่งไล่ล่า ตระกูลน้อยเหล่านั้นก็คงเอาชนะเขาไม่ได้”
“ดี งั้นก็ให้ผู้อาวุโสทั้งหมดในหุบเขาออกไล่ล่าเด็กนั่น!”
“ช้าก่อน!”
ผู้อาวุโสโบกมือ”เขาสามารถฆ่าผู้อาวุเจ็ดได้ง่ายๆ และผู้อาวุโสคนอื่นก็คงไม่ใช่คู่มือเขา ตัดสินจากคำอธิบายของพลังเขา เขาควรเป็นผู้บ่มเพาะปีศาจชั้นนำ ข้าคิดว่าคงมีแค่ห้าผู้อาวุโสในหุบเขาเราที่จัดการเขาได้ โดยเฉพาะ..”
ขณะพูด เขาก็หันไปมองผู้อาวุโสผมแดง”เฒ่าห้า เจ้าได้หลอมร่างกายเจ้ากับไฟปีศาจ เด็กนั่นจะเป็นคู่ต่อสู้เจ้า!”
“โอ้ ไม่ต้องมายุ่งกับข้า!’
แต่ทว่า ผู้อาวุโสห้ากลับโบกมือ”ข้ากำลังจะไปเข้าร่วมงานไป่ตาน ไม่มีเวลาไปล่าเจ้าหนูนั่นหรอก!’
“หึ การประชุมปรุงโอสถที่จัดโดยกลุ่มสตรีจะมีอะไรให้เข้าร่วม?มันสำคัญกว่าการแก้แค้นให้ตระกูลอีกหรือไง?”โหยวหวันซานโกรธ
ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มและโบกมือ”ท่านเจ้าหุบเขาจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก แม้หอคอยฮัวอวี่จะปกครองด้วยผู้หญิง แต่ยังไงซะมันก็เป็นถึงเจ็ดตระกูลใหญ่ มันเป็นเรื่องดีที่จะกระชับมิตร เวลานี้พวกนางเชิญเฒ่าห้าไปเข้าร่วม ไม่ใช่เพราะวิชาไฟของเขา แต่เพราะพวกนางอยากใช้โอกาสนี้หลอมเม็ดยาใหม่ขึ้น”
“หึ กลุ่มสตรีตัวเหม็นกลับได้นั่งตำแหน่งเจ็ดตระกูลใหญ่ สักวัน ข้าจะยึดตำแหน่งพวกมัน”โหยวหวันซานพูด
ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มและส่ายหัว จากนั้นก็มองโหยวหมิง พูดกับโหยวหวันซาน”ท่านเจ้าหุบเขา ข้าอยากพาเจ้าหนูโหยวหมิงไปเข้านิกายของเขาและปล่อยให้เข้าร่วมในการประชุมผู้อาวุโสแทนเฒ่าเจ็ด”
หลังมองโหยวหมิง โหยวหวันซานก็พยักหน้า”ดี ฝึกเด็กนี่ซะ”
หลังโหยวหมิงได้ยิน เขาก็อดยินดีไม่ได้และรีบขอบคุณยกใหญ่!
ในเวลาเดียวกัน ที่หลังภูเขาคฤหาสน์ลั่วในภูเขาลมดำ เมืองเนตรสายลม หัวหน้าผางกำลังจับดาบเหล็กชั้นดีไว้ในแนวตั้ง ตัวของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น และลมดำก็แผ่จากตัวเขา และหลังหมุนวนรอบดาบ มันก็กลับเข้าตัวเขา
แต่ทว่า ทุกครั้งที่เขาดึงลมดำกลับ รอยเลือดจะปรากฏบนตัวเขาและคิ้วของเขาก็กระตุกไม่หยุด
ทันใดนั้น เงาดำก็ค่อยๆปรากฏตรงหน้าเขา และเมื่อก่อตัวเต็มที่ มันก็เผยให้เห็นเหล่ยยู่ถิง
หัวหน้าผางลืมตา พ่นลมหายใจ ยืนขึ้น ยิ้ม”วิชาเงาของคุณหนูเหล่ยยิ่งทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ ท่านอยู่ต่อหน้าเหลาผางแท้ๆ แต่เหลาผางกลับไม่สังเกตเห็น”
“ฮึ่ม ไม่ใช่ว่าวิชาจิตวิญญาณร้ายของเจ้าทรงพลังกว่าหรือ มันทะลวงผ่านอาณาจักรหลอมกระดูกในเวลาแค่ปีเดียว อัจฉริยะหลายคนคงหงุดหงิดตาย”
“ฮี่ๆๆ..เคล็ดบ่มเพาะของน้องชายจั๋วสุดยอด!”หัวหน้าผางยิ้ม จากนั้นก็เหลือบมองด้านข้าง ห่างจากเขาไม่ถึงห้าเมตร มีเด็กอายุ 15 หรือ 16 กำลังกำฟันบนกองดาบ เหงื่อเย็นไหลหยดจากหน้าผากเขา ตัวของเขาดูเหมือนจะโดนมีดนับหมื่นเล่มแทง เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นเหมือนกัน
และด้านข้างเขาก็เต็มไปด้วยศพ ยิ่งไปกว่านั้น ผิวของศพยังหลุด ราวกับมันโดนดาบซับ
“บัดซบ เจ้ากำลังฝึกวิชามารอันใดกันแน่?”ดวงตาของเหล่ยยู่ถิงสั่นสะท้าน
หัวหน้าผางไม่แปลกใจ”ในบรรดาเด็ก 20 คนที่ท่านส่งมา มีแค่คนเดียวถึงทนได้ ท่านน่าจะช่วยข้าหาเพิ่ม”
“20 แต่รอดแค่หนึ่ง?”เหล่ยยู่ถิงประหลาดใจ
หัวหน้าผางยิ้มเล็กน้อย”นี่ถือว่าเป็นอัตราที่สูงมากแล้ว ตอนแรกเราฝึกคน 50 คน แต่ทั้งหมดกลับตาย แต่เพื่อตระกูลลั่วแล้ว สิ่งนี้คุ้มค่า”
“ฮึ่ม เจ้ามันบ้าฝึก มาดูกันว่าเขากำลังทำอะไรอยู่”
เหล่ยยู่ถิงหยิบสมุดบันทึกออกมาและส่งไป”เขาได้ฆ่าผู้อาวุโสเจ็ดของโหยวหมิงกู่ และตอนนี้โหยวหมิงกู่ก็ได้ออกประกาศฆ่าเขา”
“ว่าไงนะ?”หัวหน้าผางหรี่ตา จากนั้นก็หัวเราะ”ฮ่าๆๆ น้องชายจั๋วสมควรกับเป็นยอดคน พื้นดินถึงกับสะเทือนทุกที่ที่เขาไป”
จากนั้นหัวหน้าผางก็มองเหล่ยยู่ถิง ตบไหล่นาง”คุณหนุเหล่ย ท่านไม่ต้องห่วง ด้วยความสามารถของน้องจั๋ว การล่าของโหยวหมิงกู่จะทำอะไรเขาไม่ได้หรอก”
“ฮึ ใครเป็นห่วงเขากัน”เหล่ยยู่ถิงกัดฟัน”ถึงกับยั่วยุโหยวหมิงกู่เพื่อสาวคนหนึ่ง เขาเป็นคนที่ใฝ่ความยุติธรรมตอนไหน?’
หัวหน้าผางตกตะลึง จากนั้นใบหน้าแก่ก็กระตุก”มันกลายเป็นว่าเจ้าสนใจเรื่องนี้เอง…ฮี่ๆๆ..ในความเป็นจริง น้องจั๋วชอบสู้กับความอยุติธรรมอยู่แล้ว”
“อยุติธรรมกับผีนะสิ ใครบ้างที่ยังไม่เข้าใจนิสัยเขา?”เหล่ยยู่ถิงพ่นลมหายใจยาว และเปลี่ยนเป็นเงาดำ หายลับไป
หัวหน้าผางคิดสักพักและพูดเสียงดัง”อย่าบอกคุณหนูเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย”
แต่ทว่า ไม่มีเสียงตอบกลับจากเหล่ยยู่ถิง หัวหน้าผางทำได้แค่ส่ายหัวและถอนหายใจ”ผู้หญิงหนอ..”