พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 92
“ตานตาน เกิดอะไรขึ้น?”
โดยไม่มองตงเทียนปา ชายหนุ่มชุดขาวหันไปมองสาวชุดแดง แต่สาวชุดแดงกลับเหลือบมองตระกูลตงอย่างดูถูก”ไม่มีอะไร แค่พวกตาสุนัข”
“โอ้ ถึงกับกล้าตอแยคุณหนูใหญ่เซียวแห่งตึกมู่ตาน เขาไม่สมควรมีตาจริง ๆ ฮี่ๆ”ชายหนุ่มชุดขาวส่ายหัวแล้วหัวเราะ
และทันทีที่เขาพูด ทุกคนก็แปลกใจ โดยเฉพาะตงเทียนปาที่เพิ่งยืน ดวงตาของเขาหดลงและอุทาน”อะไรนะ ตึกหมู่ตานแห่งหมู่ตึกฮัวอวี่?”(ขอแก้จากหอคอยฮัวอวี่ เป็นหมู่ตึกฮัวอวี่)
ตงเทียนปาเหลือบมองตงเสี่ยววานข้างเขาทันที และเห็นความกลัวในสายตานาง สุดท้ายก็เข้าใจทุกอย่าง
ไม่แปลกใจที่น้องสาวผู้มักหยิ่งทะนงจะยอมทนความอัปยศ มันเพราะนางไปยั่วยุเจ็ดตระกูลใหญ่เข้า
“ว่านเอ๋อร์ ทำไมเจ้า..”ตงเทียนปากัดฟันและถอนหายใจขณะมองน้องสาวตัวเอง ตงเสี่ยววานเต็มไปด้วยน้ำตาและหัวใจนางก็เสียใจอย่างมาก
ด้วยรอยยิ้มเย็น เซียวตานตานหรี่ตามองตงเทียนปา ดวงตาของนางดูมุ่งร้าย”เจ้าจะตีข้าไม่ใช่หรือ ทำไมถึงหยุดละ?”
ตงเทียนปาสั่นสะท้าน หน้าผากของเขาเต็มไปดด้วยเหงื่อเย็น เขาประสานมือให้เซียวตานตานและขอโทษ”ข้าไม่รู้ว่าไทซานอยู่ตรงหน้า ข้าตอแยคุณหนู และหวังจะได้รับการให้อภัย!”
“ให้อภัย เจ้าทำความผิดอะไร?”เซียวตานตานเลิกคิ้ว”เจ้าบอกว่า ข้าแย่งของน้องสาวเจ้าก่อนและดูถูกนางไม่ใช่หรือ?เจ้าควรเอาคืนให้นางสิ แต่….เจ้ามีพลังไหม?”
ตงเทียนปาตัวสั่นสะท้าน เขากัดฟันแน่นและกำหมัด”คุณหนูพูดถูกแล้ว ข้าน้อยไม่มีพลัง และควรตีตัวเอง!’
ทันทีที่สิ้นเสียง ตงเทียนปาก็ตบหน้าตัวเองห้าครั้ง ตบจนแก้มตัวเองแดงและบวมเหมือนตงเสี่ยววาน คนอื่นมองและส่ายหัว ตอนพวกเขาพบกับเจ็ดตระกูลใหญ่ ไม่ว่าครอบครัวใดก็ไม่เหลือศักดิ์ศรี
“หึพวกขยะ ไม่สนุกเลย”
จากนั้นเซียวตานตานก็อดขดปากและพึมพำไม่ได้”ทำไมผู้ชายทุกคนถึงไร้ประโยชน์ขนาดนี้ เขาไม่มีจิตวิญญาณเลย”
ทันใดนั้น ราวกับคิดถึงบางสิ่ง นางมองชายชุดขาวและยิ้ม”พี่ชายเทียนอวี่ ท่านอยากเล่นกับพวกเขาไหม?”
“ตานตาน คราวนี้เจ้าคิดอะไรได้อีก?”ชายหนุ่มชุดขาวยิ้ม
ด้วยรอยยิ้มหวาน เซียวตานตานพูด”ข้าคิดว่าเด็กนี่ดีต่อน้องสาวของเขามาก ร่างกายของนางต้องสมบูรณ์แบบและบริสุทธิ์ ถ้าท่านสามารถเปลือกผ้าผู้หญิงนั่นได้ภายใต้การคุ้มครองของผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกทั้งห้าคนนี้ เด็กสาวนั่นจะเป็นของท่าน และหมู่ตึกฮัวอวี่เราจะไม่ถือว่าท่านรังแกผู้หญิง”
อะไรนะ?
พอได้ยินแบบนี้ ตงเสี่ยววานก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว และตงเทียนปาก็เงยหน้าขึ้นด้วยตาแดงก่ำ
หน้าไม่อาย!
นี่ไม่เพียงกลั่นแกล้งกัน แต่ยังไม่มองพวกเขาเป็นมนุษย์ แม้จะเป็นเจ็ดตระกูลใหญ่ พฤติกรรมแบบนี้ก็เกินไป
แต่ชายในชุดขาวดูเหมือนจะโบกมืออย่างไม่แยแสและยิ้ม”ตานตาน เจ้าเข้าใจพี่ชายผิดไป แม้ไขว่หัว(ป่าแห่งความสุข)ของเราจะมีคำว่า’ความสุข’ เราก็ไม่ใช่พวกล่วงละเมิด คำขอของเจ้าทำให้ข้าอับอาย ฮ่าๆๆ..”
“มาเถอะ ข้าไม่ว่าอะไรที่จะเห็นท่านมีความสุขแบบนั้น ท่านกังวลอะไร?ยังไงซะ เดือนหน้า ข้าก็จะยังเป็นของท่าน และท่านก็จะยังได้รับการยอมรับโดยหมู่ตึกฮัวอวี่ของข้าอยู่ดี”
พอได้ยิน ชายชุดขาวก็เลิกคิ้วและหันไปมองตงเสี่ยววาน มีแสงเป็นประกายในดวงตาของเขา”ฮี่ๆๆ..ในเมื่อตานตานขอเอง มันก็ช่วยไม่ได้ จำไว้ให้ดี นี่เป็นแค่เกม และในอนาคตอย่าเก็บมาคิดละ”
“ตกลง!”เซียวตานตานเม้มปาก ไม่มองเขา
ด้วยเสียงหัวเราะ ชายชุดขาวค่อย ๆ เดินไปทางตงเสี่ยววาน ทุกครั้งที่เขาก้าว ตงเสี่ยววานจะตัวสั่นแรงกว่าเดิม
“ฮ่าๆๆ…จงเป็นเกียรติที่ได้อยู่ใต้ข้าหลินเทียนอวี่แห่งไขว่หัว ผู้ปีหน้าจะได้กลายเป็นเขยของหมู่ตึกฮัวอวี่เสีย เจ้าก็ได้ยินนี่ มันไม่ใช่ข้าที่ต้องการ แต่เจ้ายั่วโมโหว่าที่ภรรยาข้าก่อน ข้าจึงมาลงโทษเจ้าเล็กน้อย”
“นายน้อยหลิน!”
ครั้งนี้ ตงเทียนปาเหลอืบมองน้องสาวด้านหลังเขา เขากัดฟันและพูด”ข้าได้ยินกฏขอองเกมที่ท่านหญิงพูดแล้ว ถ้าเราเกิดหยุดท่านได้ ท่านจะยอมแน่นะ?”
หลินเทียนอวี่ตกใจและอดยิ้มดูถูกไม่ได้ แต่ทว่า เซียวตานตานกลับยิ้มบาง”ถ้าเจ้าขวางเขาได้สักครั้ง งั้นเรื่องนี้ก็จะเป็นอันลืม และข้าจะไม่สืบสาวเอาความอีก”
“ดี งั้นเราก็ขอสู้!’
ตงเทียนปาคำราม จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้แผดเผาในดวงตาเขาและนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ
พอเห็นฉากนี้ ความดูถูกในดวงตาของหลินเทียนอวี่ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น “แววตาไม่เลว น่าเสียดาย..”
พรึ่บ!
ทันใดนั้น ร่างของหลินเที่ยนอวี่ก็ปรากฏขึ้นด้านหลังตงเสี่ยววานในชั่วพริบตา ในมือเขา เขาคว้าจับผ้าผืนบางที่ปล่อยกลิ่นหอมของสาวน้อยออกมา
“น่าเสียดาย เจ้าไม่มีพลังเช่นนั้น!”
อะไรกัน!
ตงเสี่ยววานกรีดร้องลั่ง ใช้มือปิดไหล่นาง น้ำตายังเอ่อล้นออกมาจากเบ้าตา เดิมนางสวมผ้าห้าชิ้น แต่ตอนนี้ มันหายไปหนึ่ง และแขนเรียวประดุจหยกขาวก็เปิดเผยต่อสายตาทุกคน
รูม่านตาของเขาหดลงและตงเทียนปาก็หันไปมองเขาด้วยความตกใจ
เร็วมาก
แต่ทว่า จั๋วฝานกลับยิ้มเยาะอย่างดูถูก เด็กนี่เป็นผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกขั้นเจ็ด แต่พลังกลับเป็นแค่ขั้นหก มันดูเหมือนเขาจะมุ่งเน้นบ่มเพาะที่ความเร็วเป็นหลัก
นี่เป็นกรณีปกติของการวางเกวียนไว้หน้าม้า ไม่ว่าจะเร็วแค่ไหน ถ้าไม่สามารถทำร้ายคู่ต่อสู้ได้ มันก็เปล่าประโยชน์ และเขาก็อ่อนแอกว่าคนอื่นอยู่ขั้นหนึ่ง
ตอนระดับบ่มเพาะของเขาพัฒนาขึ้นอีกในอนาคต ช่องว่างจะยิ่งกว้าง ในสายตาจั๋วฝาน ผู้บ่มเพาะเช่นนี้ไม่ต่างจากคนพิการ
มันน่าแปลกใจที่ไขว่หัวจะส่งเด็กนี่มาแต่งเข้าหมู่ตึกฮัวอวี่
แต่ทว่า นี่เป็นมุมมองของยอดฝีมือแท้จริง ระดับอย่างตงเทียนปาและคนอื่นยังตกใจกับความเร็วของหลินเทียนอวี่
“สี่ผู้อาวุโส ล้อมคุณหนูไว้!”
ตงเทียนปาตะโกนและชายชราสี่คนก็พลันล้อมตงเสี่ยววานไว้ตรงกลางและตงเทียนปาเองก็รีบไปหานาง จ้องหลินเทียนอวี่เขม็ง
รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นที่มุมปากของหลินเทียนอวี่”เปล่าประโยชน์ เจ้าห้าคนไม่มีวันมองตามข้าทันหรอก!”
พอสิ้นเสียง เขาก็หายไป วูบ!
เกิดเสียงลมพุ่งผ่านหูทุกคน และจากนั้นเสียงร้องของตงเสี่ยววานก็ดังขึ้น ผ้าชิ้นที่สองของนางตกอยู่ในมือหลินเทียนอวี่อีกครั้งภายใต้การคุ้มครองของทุกคน
รูม่านตาของเขาหดลงเล็กน้อยและตงเทียนปาก็ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง คนคนนี้สมกับเป็นคนของเจ็ดตระกูลใหญ่
อีกฝ่ายเองก็เป็นผู้บ่มเพาะหลอมกระดูก แต่พวกเขาไม่สามารถมองตามอีกฝ่ายทันได้เลย
“อา กลิ่นหอมยิ่งนัก!”
เขานำผ้าชิ้นที่สองขึ้นแตะจมูกแล้วสูดดมอย่างแรง ทั้งโพรงจมูกของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของสาวน้อย หลินเทียนอวี่จ้องตงเสี่ยววานและแสยะยิ้มชั่วร้าย”แค่ชิ้นที่สองก็ทำให้ข้าแทบคลั่งแล้ว แล้วชุดชั้นในของแม่นางเล่า?”
ตงเสี่ยววานจ้องตงเทียนปาด้วยใบหน้าแดงก่ำ”พี่!’
“ข้ารู้ พี่ใหญ่จะปกป้องเจ้าเอง!’
ตงเทียนปากัดฟัน สูดหายใจและสงบสติลง จ้องร่างของหลินเทียนอวี่ตาเขม็ง
แม้เขาจะเคยอยากให้น้องสาวเขาแต่งงานกับซ่งอวี่ แต่ถ้ามีใครอยากทำร้ายน้องสาวเขา เขาจะไม่มีวันยอม
“ยังมีอีก เร็วเข้า!’
พอเห็นว่าในที่สุดหลินเทียนอวี่ก็เผยธาตุแท้ เซียวตานตานจึงอดเร่งด้วยความรังเกียจไม่ได้ หลินเทียนอวี่พยักหน้าเล็กน้อย และหายตัวไป
วินาทีต่อมา ผ้าสองชิ้นก็ปรากฏในมือเขาอีก และตงเสี่ยววานก็เหลือแค่ชุดชั้นในบนตัว
ตุบ!
ตงเทียนปาคุกเข่าลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
มันเร็วเกินไป เขาจ้องอีกฝ่ายตาเข็มง แต่ก็ยังจับไม่ทัน ความเร็วนี่มันอะไร
“วานเอ๋อร์ พี่ใหญ่ขอโทษ พี่ใหญ่ไม่สามารถปกป้องเจ้าได้”ตงเทียนปากัดฟัน น้ำตาของเขาไหลออกมา
ตงเสี่ยววานมองเขาเศร้า ๆ แต่ก็เลือกหลับตา รอให้มือวิเศษมาฉีกศักดิ์ศรีสุดท้ายของนางไป
และผู้อาวุโสทั้งสี่ก็ดูเศร้ากับโกรธพร้อมกัน นี่เป็นเหมือนแมวกับหนู แทนที่จะทำแบบนี้ มันดีกว่าที่จะฆ่าให้พวกเขาตาย
ตึก ตึก!
ทันใดนั้น เสียงเท้าก็ดังขึ้น และร่างหนึ่งก็บดบังตงเทียนปาไว้
ตงเทียนปาเงยหน้าขึ้น และเห็นใบหน้าของจั๋วฝาน
“อา พี่ชายตง ครั้งสุดท้ายนี้นับข้าเพิ่มไปด้วยเป็นไง?”
“เจ้าเป็นใคร?”แต่ทว่า เซียวตานตานกลับถามขึ้นก่อนตงเทียนปาจะได้ตอบ
จั๋วฝานแตะจมูก ดูเหมือนจะเขินอาย และชี้ไปที่ตงเสี่ยววาน”ฮ่าๆๆ..ข้าเป็นสามีนาง!”
“ว่าไงนะ?”
ทุกคนตกใจและตะโกน ตอนนี้ จั๋วฝานดูเหมือนจะพูดอะไรผิดและรีบแก้”อา ไม่สิ นางเป็นภรรยาข้า”
“ไม่เห็นจะต่าง!”
จั๋วฝานเกาหัวด้วยความสงบและอธิบาย”ข้าเคยไปบ้านนางเพื่อขอแต่งงาน แต่นางปฏิเสธ ข้าจึงถือเป็นอดีตสามีนางได้ไหม?”
อดีตสามีบ้าอะไร?!
ทันใดนั้น ทุกคนก็มองเขาด้วยสายตาสมเพช ดูจากการแต่งกายของเจ้า เจ้าคงเป็นตระกูลระดับสาม เจ้าจะไปคู่ควรกับตระกูลระดับสองได้ไง?
เซียวตานตานหัวเราะ”ดี ก็แค่เพิ่มไอโง่ระดับหลอมกระดูกเข้าไปอีกคน ยิ่งไปกว่านั้น มันตลกมากที่จะได้เห็นชายโง่จ้องหญิงที่ตัวเองหลงรักโดนเปลื้องผ้า”
“ฮ่าๆๆ!ในเมื่อตานตานไม่ว่าอะไร ข้าก็ไม่ถือสา ยังไงซะ ไม่ว่าจะมีกันกี่คน ผลลัพธ์ก็จะยังเหมือนเดิม!”หลินเทียนอวี่พูดด้วยสีหน้ากระหยิ่มใจ
ตงเทียนปาสูดหายใจลึก ยืนด้วยกันเป็นวงกลมอีกครั้ง และมองจั๋วฝาน”น้องชาย เจ้าไม่ควรมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“ฮี่ๆๆ!พี่ชายตง เราคือพี่น้องร่วมสาบาน มันเป็นเรื่องปกติที่เราจะมีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน”
พอได้ยินแบบนี้ ทุกคนก็มองเขาอย่างแปลกใจและลอบพยักหน้า
“ดี ข้ามองคนไม่ผิดจริง ๆ”ตงเทียนปาปาดน้ำตา
ด้วยรอยยิ้ม จั๋วฝานหัวไปเหลือบมองตงเสี่ยววาน ผู้เหลือแค่ชุดชั้นในและปลอบ”ไม่ต้องห่วงเขาจะไม่มีวันได้แตะตัวเจ้า”
ตงเสี่ยววานตกใจ นางกังวลว่าจั๋วฝานจะฉวยโอกาสนี้เพื่อทำให้ตัวเองดูดี แต่พอเห็นดวงตาใสของเขา นางก็เกิดความรู้สึกปลอดภัยขึ้นมา และพยักหน้าให้อย่างไม่มีเหตุผล
จั๋วฝานยิ้มอ่อน หันไปมองหลินเทียนอวี่ ยื่นมือออกไป และทำท่ากวักมือ”เข้ามา!”
โดยไม่รู้ตัว รอยยิ้มเยาะเย้ยของหลินเทียนอวี่กลับหายไป และความโกรธก็พวยพุ่งขึ้นแทน เพราะเขาเห็นการดูถูกเหยียดหยามในสายตาของจั๋วฝาน…