พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 95
ริบบิ้นสีฟ้าสองเส้นพุ่งใส่จั๋วฝาน เขาคิดที่จะหลบ แต่ก็ล้มเลิกความคิดนั้น
แม้จะไม่กางปีก ความเร็วของเขาก็เกินกว่าระดับหลอมกระดูกไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงเอาชนะหลินเทียนอวี่ได้
นี่ทำให้ทุกคนตกใจ แต่ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
ในกรณีที่ความเร็วเขาเทียบได้กับยอดฝีมือระดับนภา นั่นจะทำให้เขาถูกมองเป็นสัตว์ประหลาดจริง ๆ ทั่วทั้งโลกกว้าง เขาอาจเป็นคนเดียวที่มีร่างกายพิสดารแบบนี้
มันเท่ากับการบอกทุกคนว่าเขาเป็นใคร
[ข้าจะเดิมพัน!]
ริบบิ้นหนึ่งรัดรอบตัวเขาแน่น ทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปไม่ได้
[ข้าแค่ต้องแสดงว่าข้าแข็งแกร่งแต่ก็มีจำกัด ไม่เหมือนจั๋วฝานที่สามารถฆ่ายอดฝีมือระดับนภาได้]
ริบบิ้นอีกเส้นพันรอบเสี่ยวตานตานเป็นการปกป้อง
สิ่งที่ตามมคือเจ้าของริบบิ้น ผู้คนลดหัวลงเพื่อเคารพ รวมถึงตงเทียนปากับน้องสาวเขา
จั๋วฝานมองนาง นางเป็นสาววัยามสิบ มีผ้าผืนบางปิดครึ่งหน้า แต่ก็ไม่สามารถซ่อนความงามของนางได้
และด้วยฐานบ่มเพาะที่สูงส่ง มันจึงทำให้ผู้คนยิ่งเคารพ
ขณะที่นางก้าวเดิน ดวงตาของนางจับจ้องเสี่ยวตานตานเขม็ง นางยื่นนิ้วเรียวออกไป เคาะหน้าผากของเสี่ยวตานตาน
ปราณเข้าตัวเสี่ยวตานตาน ทำให้นางสั่นสะท้าน ขณะที่ยังลบสีแดงบนแก้มนางไปด้วย
“เกิดอะไรขึ้นกับข้า?”เสี่ยวตานตานมองรอบ ๆ ด้วยความสับสนแต่เมื่อเห็นจั๋วฝาน ภาพเลือนรางก็ฉายในหัว นางร้องด้วยความตกใจและใบหน้าก็แดงก่ำขึ้นมาอีก
“ขะ-ข้าทำแบบนั้นลงไปได้ไง?”
“ยัยเด็กโง่ เจ้าต้องมนตร์สะกดแต่ก็ยังบอกไม่ได้อีกรึ?”ผู้หญิงในชุดฟ้าส่ายหัว จากนั้นก็หันไปจ้องจั๋วฝาน
“น้องชาย ถ้าเจ้ามีเจตนาไล่ตามเกี๊ยวคนของหมู่ตึกฮัวอวี่ เจ้าต้องทำมันด้วยความสามารถของเจ้า เจ้าไม่คิดว่าการใช้วิชาเสียงกระซิบสะกดใจนั้นไม่น่ารังเกียจไปหน่อยหรือ?”
จั๋วฝานชมเชยนางในใจ[ไม่เลวเลย]
เสียงกระซิบสะกดใจส่งผลต่อจิตใจของคนที่ผู้ใช้สามารถชักนำเหยื่อให้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ นี่ทำให้จั๋วฝานสามารถหลอกเสี่ยวตานตานได้ง่ายๆ
ลูกไม้นี้ไม่ใช่วิชาลับของผู้บ่มเพาะปีศาจ แต่ไม่ใช่ทุกคนทีท่จะใช้ได้ ก่อนอื่น วิญญาณของผู้ใช้ต้องแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้ผู้บ่มเพาะปีศาจส่วนใหญ่ที่ต่ำกว่าระดับนภาใช้ไม่ได้
และเพราะวิชานี้มีพลังจำกัด ผู้บ่มเพาะปีศาจส่วนใหญ่จึงไม่ฝึกมัน จำนวนคนที่ใช้ได้จึงน้อย
แต่นี่ นางกลับรู้ผลของมัน
จั๋วฝานยิ้ม”แม่นาง ข้าไม่มีเจตนาไล่จีบเสี่ยวตานตาน นี่แค่เพื่อสอนบทเรียนให้นาง”
“ท่านป้า อย่าฟังเจ้าเด็กตัวเหม็นนี่ เขากล้าทำให้ศิษย์อับอายในที่สาธารณะ เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นหมู่ตึกเราในสายตา”เสี่ยวตานตานโกรธตอนคิดถึงท่าทีน่าเกลียดก่อนหน้า ดวงตาโตของนางเต็มไปด้วยน้ำตา
แต่ทว่า ผู้หญิงในชุดฟ้ากลับเหลือบมองนางอย่างเย็นชา”หุบปากซะ ยังขายขี้หน้าไม่พออีกหรือไง?”
จากนั้น นางก็มองจั๋วฝาน”ถ้าข้าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้า แล้วเจ้ากล้าใช้วิธีชั่วร้ายเช่นนี้กับสาวในหมู่ตึกฮัวอวี่ เจ้าคงตายไปแล้ว”
จากนั้น นางก็หันไปมองตงเสี่ยววาน และขอโทษแทน”ตานตานโดนอาจารย์ของนางเอาอกเอาใจมาตั้งแต่เด็ก หลังข้ากลับไป ข้าจะลงโทษนางเอง ไม่ต้องห่วง”
“อา ข้าไม่…”ตงเสี่ยววานตกใจ
ผู้หญิงในชุดฟ้ายิ้มขณะบินไป และริบบิ้นทั้งสองก็ดึงตัวตงเสี่ยววานกับหลินเทียนอวี่ที่หมดสติไปด้วย แต่ตงเสี่ยววานไม่วายยังหันมาจ้องจั๋วฝาน
แต่จั๋วฝานไม่สนใจ เขาสนใจแค่สายตาที่แม่นางชุดฟ้ามองเขาตอนนางไป
แม่นางจะแอบมอง แต่ด้วยวิญญาณที่แกร่งกล้าของเขา เขาจึงสัมผัสมันได้
[นางรู้แล้วว่าข้าเป็นใคร?]จั๋วฝานขมวดคิ้วขณะที่มองนางจากไป
“น้องชาย!”
ตงเทียนปาเดินมาหาจั๋วฝานเพื่อแสดงความขอบคุณ”ขอบคุณเจ้ามาก ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ชื่อของตระกูลตงคงป่นปี้ บ้าจริง ไม่มีถิ่นใดของเจ็ดตระกูลใหญ่ที่ปลอดภัยเลย”
“พี่ชายซ่ง ขอบคุณท่าน..”ตงเสี่ยววานจับชุดนางแน่นและพูดขอบคุณ
จั๋วฝานไม่สนใจคำพูดขอบคุณ เขาขมวดคิ้ว มองไปไกลและถาม”พี่ชายตง ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?”
พอได้ยิน ใบหน้าของตงเทียนปาก็กลายเป็นจริงจัง”15 หมู่ตึกฮัวอวี่ หมู่ตึกที่หนึ่ง เจ้าแห่งหมู่ตึกชิงหัว ฉินไช่ชิง!เห้อ โชคดีจริง ครั้งนี้ข้าได้พบกับเจ้าหมู่ตึกชิงหัว ลือกันว่านางเข้าหาได้ง่ายและไม่เคยกดขี่ผู้อื่น ถ้าเราพบกับผู้อาวุโสอารมณ์ร้อน เราคงจบสิ้น!”
“ไม่น่าแปลกที่ฐานบ่มเพาะนางจะลึกล้ำขนาดนั้น นางคือยักษ์ใหญ่นี่เอง”
จั๋วฝานพยักหน้าเข้าใจ สูดหายใจลึก และกระชากผ้าไหมสีฟ้าออก เมื่อเห็นฉากนี้ ตงเทียนปากับคนอื่นก็ตกใจอีกครั้ง
“น้องชายซ่ง เจ้าแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ไง?นี่เป็นฝีมือของเจ้าหมู่ตึกชิงหัวเอง และนางก็ผนึกปราณนางลงไป เจ้าสามารถทำลายมันได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังปราณเชียวรึ?’
ตงเทียนปามองจั๋วฝานเหมือนสัตว์ประหลาด”ตอนนี้ ข้าเริ่มไม่รู้จักเจ้าเข้าไปใหญ่”
จั๋วฝานหัวเราะ และนำแจกันออกมา”แม้ตระกุลซ่งเราจะเป็นตระกูลระดับสาม เราก็มีสมบัติลับตระกูล ดูสิ นี่คือเม็ดยาหลอมกายาของตระกูลเรา ข้าพึ่งพามัน มันจึงทำให้ร่างกายของข้าแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกทั่วไป’
“เห้ เป็นไปได้ไง?เม็ดยาหลอมกายาก็แค่เม็ดยาระดับสี่ มันสามารถมีผลเทียมฟ้าแบบนี้ได้ไง ถึงกับทำให้ผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกขั้นหนึ่งล้มผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกขั้นเจ็ดได้โดยตรง และยังทำลายวิชาของยอดฝีมือระดับนภาได้?”ใบหน้าของตงเทียนปาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
จั๋วฝานหัวเราะ ยิ้มออกมา”ถ้าเม็ดยาหลอมกายานี้คือเม็ดยาเดียวกับเม็ดยาอื่น มันจะเรียกว่าความลับของตระกูลซ่งเราได้ไง โดยปราศจากมัน ข้าจะกล้าเข้าร่วมงานไป่ตานได้เยี่ยงไร?”
พอเห็นสีหน้ากระยิ้มกระย่องของเขา ตงเทียนปากับคนอื่นก็เชื่อ และแสดงความอิจฉาออกมา
อย่างไม่คาดคิด มันกลับมีของดีแบบนี้ในตระกูลระดับสาม
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือนี่เป็นแค่ข้ออ้างของจั๋วฝาน เม็ดยาหลอมกายาคือเม็ดยาระดับสี่ มันจะวิเศษขนาดนั้นได้ไง?
สิ่งที่เขากังวลตอนนี้คือ ถ้าฉินไช่ชิงรู้ตัวตนเขาแล้ว ทำไมนางไม่เปิดเผยมัน?หรือนางกลัวว่าจะล้มข้าไม่ได้ นางจึงไปเรียกผู้ช่วย?
ถ้าเป็นแบบนี้ ถ้าเขาอยู่ที่นี่ มันมีแต่จะสร้างปัญหาให้ตระกูลตง
พอคิดได้ จั๋วฝานก็พูดอย่างกระวนกระวาย”อา พี่ชายตง ข้ามีธุระด่วน ไว้ค่อยคุยกันวันหลังนะ”
“โอ้ ข้ายังไม่ได้ขอบคุณเจ้าให้สมน้ำสมเนื้อเลย เจ้าจะไปแล้วหรือ..”ตงเทียนปายังอยากอยู่ แต่จั๋วฝานโบกมือและรีบหายไป
พอมองทางที่เขาหายไป ตงเทียนปาก็ตกตะลึง สูดหายใจลึก พูดอย่างมีอารมณ์”เห้ น้องซ่งคือยอดคนจริง ๆ ว่านเอ๋อร์ เจ้าเสียใจไหมละ”
“พี่ใหญ่..”
ตงเสี่ยววานมองเขาอย่างไม่พอใจ แต่ไม่วายยังเหลือบมองตามหลังจั๋วฝานที่หายไป มีความหวั่นไหวในดวงตานาง และความรู้สึกของนางก็คือหลักฐาน
ในเวลาเดียวกัน หมู่ตึกฮัวอวี่หลัก ในโถงรับรอง
สาวชุดแดงกำลังนั่งอยู่กลางโถง เหมือนเจ้าหมู่ตึกชิงหัว นางเองก็สวมผ้าพันคอไหมปิดครึ่งหน้า ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นความงามของนางชัด
แต่มันก็ไม่สามารถปิดบังดวงตาแสนเย้ายวนของนางได้
นางทรงเสน่ห์อย่างแท้จริง!
ทางซ้ายมือนางคือชายวัยกลางคนที่มีมือเรียวเสียยิ่งกว่าผู้หญิง เขากำลังลูบหนวดเครา แต่ดวงตาทั้งสองกำลังสำรวจผู้หญิงทุกสัดส่วน
ผู้หญิงในชุดแดงกลับอดหัวเราะไม่ได้”ผู้อาวุโสหลิน บนตัวหนี่เจียมีอะไรผิดปกติงั้นหรือ?”
“แค่ก แค่ก…เจ้าหมู่ตึกมู่ตานก็พูดไปเรื่อย”
ชายวัยกลางคนไอสองครั้ง ยิ้มอย่างเก้อเขิน”ข้าแค่รู้สึกแปลก ทำไมเหล่าเจ้าหมู่ตึกของท่านไม่มา และเจ้าหมู่ตึกมู่ตานต้องมารับแขกเอง?”
“ฮี่ๆๆ..หรือว่าผู้อาวุโสคิดว่าหนี่เจียรับแขกไม่ดี และอยากให้เจ้าหมู่ตึกคนอื่นมาดูแลเอง?”เจ้าหมู่ตึกมู่ตานหัวเราะคิกคักและขยิบตาให้ผู้อาวุโสหลิน
แต่การขยิบตานั้นกลับทำให้วิญญาณของผู้อาวุโสหลินแทบหลุดออกจากร่าง เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่และน้ำลายก็ไหลจากมุมปากอย่างไม่รู้ตัว”อึก…เจ้าหมู่ตึกมู่ตานดูแลแขกได้ดียิ่ง ดีมาก ดีที่สุด ฮ่าๆๆ…”
“หึ เหลาซิวมาเข้าร่วมงานไป่ตาน ไม่ได้มาเพื่อดูพวกเจ้าเย้าหยอกกัน’
ทันใดนั้นก็มีเสียงเย็นดังขึ้น ทางขวามือของเจ้าหมู่ตึกมู่ตาน ชายชราผมแดงมองทั้งสองเหยียดๆและตะโกนด้วยความโกรธ”ถ้างานไป่ตานไม่จัด ข้าก็มีเรื่องสำคัญอื่นให้ทำ ข้าจะไม่มีวันมาอยู่กับพวกเจ้า”
“เห้ ผู้อาวุโสห้าแห่งโหยวหมิงกู่ เจ้าจะโกรธไปทำไม?”เจ้าหมู่ตึกมู่ตานเหลือบมองเขาและหัวเราะ”งานไป่ตานจะเริ่มตอนไหน?นั่นขึ้นอยู่กับผู้นำของเรา ตอนีน้ตระกูลใหญ่ยังมากันไม่ครบ ข้าจะไปเริ่มงานได้ไง?”
“มู่ตาน อย่าไปฟังตาแก่นี่พล่าม ช่วงนี้ พวกมันโดนเด็กที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าฆ่าผู้อาวุโสไปถึงสาม และก็เสียชื่อเสียงไปนานแล้ว พวกมันจะไปมีอารมณ์มาเข้าร่วมงานไป่ตานได้ไง?ครั้งนี้ ห้าผู้อาวุโสอาจกำลังครุ่นคิดวิธีฆ่าเด็กนั่นอยู่ ไม่งั้น พวกเขาก็คงสงสัยว่าผู้อาวุโสพวกเขาตายได้ไง มันจะน่ากลัวมาก ฮ่าๆๆ!”
“หลินจื่อเทียน หุบปากไปซะ ถ้าเจ้าเจอเด็กนั่น บางทีเจ้าอาจไม่มีความสุขเหมือนเรา และคงมีผุ้อาวุโสตายไปแล้ว!”ผู้อาวุโสห้าทุบโต๊ะ ยืนขึ้น จ้องชายวัยกลางคน
หลินจื่อเทียนเองก็ยืนขึ้นและจ้องกลับโดยไม่กลัว”ทำไม เจ้าอยากสู้?”
ในชั่วพริบตา ทั้งสองก็เลือดขึ้นหน้า แผ่กลิ่นอายปะทะกันและใกล้จะปะทะกันอยู่รอมร่อ!
แต่ทว่า วินาทีนี้เอง เสียงหัวเราะกลับดังขึ้น”ฮ่าๆๆ..น่าสนุกจริง ๆ ถ้าสองผู้อาวุโสสู้กัน งั้นก็นับตาแก่คนนี้ไปด้วย”