พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 1031 ข้าขอเลือกสมบัติสามชิ้น
บทที่ 1,031 ข้าขอเลือกสมบัติสามชิ้น!
ไม่นานต่อมาดอกบัวเพลิงพิพากษาก็ทะลวงระดับของมันจนเป็นระดับ 9 ซึ่งในทันทีที่มันทะลวงระดับได้ มันก็ปลดปล่อยรัศมีแสงสีแดงฉานกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ไม่ว่าใครที่อยู่ในดินแดนแห่งบาปก็สามารถสังเกตเห็นมันได้อย่างชัดเจน
แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ดึงดูดความสนใจของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่อยู่ในดินแดนแห่งบาปเป็นอย่างมาก แต่โชคยังดีที่บรรดาตัวตนที่มีบาปมากมายไม่สามารถเคลื่อนที่ออกไปจากจุดที่มันถูกตรึงได้ ดังนั้นพวกมันจึงทำได้แค่เพียงมองอยู่กับที่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโลภ
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นมันก็ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกมากมายที่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ซึ่งพวกมันก็พุ่งตัวเข้ามาหาโจวจื่อซินทันที
ตัวตนที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระนั้นไม่ใช่พวกคนบาปที่ถูกกักขังอยู่ที่นี่ พวกมันคือพวกที่รู้จักวิธีการเข้าออกดินแดนแห่งบาป ซึ่งพวกมันทั้งหลายมาที่นี่เพราะหวังเสี่ยงโชคโดยการสังหารพวกตัวตนที่เต็มไปด้วยบาปเพื่อหวังปล้นชิงสมบัติ
ดังนั้นในตอนนี้เมื่อพวกมันเห็นว่ามีสมบัติล้ำค่าปรากฏขึ้น พวกมันจึงไม่รีรอที่จะเข้ามาปล้นชิงทันที
แค่เพียงไม่กี่อึดใจรอบ ๆ กายของหลิงตู้ฉิงและโจวจื่อซินก็เต็มไปด้วยการต่อสู้แก่งแย่งกันมากมาย
ตัวตนเหล่านั้นยังไม่โจมตีหลิงตู้ฉิงและโจวจื่อซิน เนื่องจากพวกมันไม่คิดว่าคนทั้งคู่เป็นภัยต่อพวกมัน พวกมันหวังจัดการกันเองก่อนเพื่อตัดคู่แข่งและสุดท้ายคนที่แข็งแกร่งที่สุดก็จะได้สมบัติของโจวจื่อซินไปครอบครอง
อันที่จริงความคิดเช่นนี้ไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่หากว่ากันตามหลักเหตุผลแล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่พวกมันจะคิดแบบนี้ เพราะพวกมันทั้งหมดต่างตกอยู่ภายใต้อำนาจของหกปรารถนาก่อเกิดเจ็ดอารมณ์วิบัติ พวกมันจึงถูกชักจูงให้คิดอะไรง่าย ๆ แบบโง่ ๆ ซึ่งนำพาภัยพิบัติย้อนกลับมาหาตัวเอง
หลิงตู้ฉิงมองบรรดาตัวตนทั้งหลายที่สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยสายตาเย็นชา เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรมาก เขาแค่รอให้ตัวตนเหล่านี้ฆ่ากันให้ตายให้หมด และเมื่อทุกอย่างสงบลง เขาถึงค่อยไปไล่เก็บสมบัติต่าง ๆ ที่หล่นเกลื่อนอยู่บนพื้น
โจวหยู่ดวงตาเป็นประกายทันทีเมื่อเห็นภาพเช่นนี้ เขารีบถามหลิงตู้ฉิงขึ้นทันที “นี่ใช่พลังจากอารมณ์และความปรารถนารึเปล่า?”
“ถูกต้อง!” หลิงตู้ฉิงยิ้ม
“ยอดเยี่ยมจริง ๆ! นี่มันลึกล้ำกว่าคำสาปของข้าซะอีก!” โจวหยู่อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ข้าอุตส่าห์แสดงสิ่งที่เจ้าไม่เคยเห็นให้เจ้าดูแล้ว ตอนนี้มันถึงเวลาที่เจ้าจะต้องตอบแทนข้าบ้างไม่ใช่รึไง ข้าคิดว่าในร่างของเจ้าน่าจะมีสิ่งที่ข้าต้องการอยู่บ้างจริงไหม?”
โจวหยู่ส่ายหัว “ข้าเกรงว่าข้าคงไม่มีสิ่งใดที่เจ้าอยากได้อยู่ในร่างของข้าหรอก!”
“ผิดแล้ว ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะต้องมีแน่ ๆ” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ามั่นใจ “ไม่ว่าจะในโลกเบื้องล่างหรือโลกเบื้องบนล้วนแล้วแต่มีผู้คนมากมายที่ใช้คำสาปของเจ้า ซึ่งทุกครั้งที่คนเหล่านั้นใช้คำสาปของเจ้า พวกเขาจะต้องสังเวยสิ่งต่าง ๆ ให้กับเจ้า ข้าเชื่อว่าจำนวนของสมบัติที่เจ้าครอบครองอยู่ในตอนนี้มันคงมีมากมายมหาศาลเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ ซึ่งข้ามั่นใจว่าสิ่งที่เจ้าครอบครองอยู่บางอย่างมันจะต้องเป็นสิ่งที่ข้ายังไม่มีและข้าต้องการมันอย่างแน่นอน”
ทุกสิ่งที่หลิงตู้ฉิงพูดมันถูกต้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดที่ใช้คำสาป คนผู้นั้นจะต้องมอบบางสิ่งบางอย่างสังเวยให้กับโจวหยู่ ซึ่งต่อให้โจวหยู่จะอยู่ในดินแดนแห่งบาป กฎของการสังเวยก็ยังคงมีผลอยู่เหมือนเดิม ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องแน่นอนที่โจวหยู่จะมีสมบัติมากมายอยู่กับตัว
โจวหยู่หรี่ตามองไปที่หลิงตู้ฉิง จากนั้นเขาถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าต้องการอะไร?”
“ข้าต้องการเลือกสมบัติ 3 ชิ้นที่เจ้ามีอยู่ ซึ่งข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าได้ขัดขืน ไม่เช่นนั้นข้ารับประกันได้ว่าเจ้าจะยิ่งสูญเสียมากกว่าเดิม เมื่อครู่เจ้าก็เห็นไปแล้วว่าข้าทำอะไรได้บ้าง ด้วยการครอบงำของข้า เจ้าจะไม่สามารถควบคุมสติของตัวเองได้แน่นอน ซึ่งผลลัพธ์ท้ายที่สุดที่เจ้าจะได้เผชิญมันอาจจะเป็นประสบการณ์เลวร้ายสุด ๆ แบบที่เจ้าไม่เคยนึกฝันมาก่อน แต่ถ้าเจ้าอยากจะลองเสี่ยงดูข้าก็ไม่ว่าอะไร ข้ายินดีที่จะให้เจ้าลองสัมผัสกับพลังของข้าสักครั้ง แต่ถ้าเกิดอะไรเลวร้ายขึ้นมาในตอนท้าย เจ้าจะมาหาว่าข้าโหดร้ายไม่ได้นะ” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ
โจวหยู่มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าน่าเกลียด และถามว่า “เจ้าคิดจะปล้นข้างั้นเหรอ? เจ้าไม่กลัวว่าการที่เจ้าทำเช่นนี้มันจะเป็นการสร้างบ่วงกรรมระหว่างเจ้ากับข้ารึไง!?”
“ฮ่าฮ่า!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะแต่ไม่ได้ตอบกลับอะไรกลับ เขาเอาแต่จ้องหน้าโจวหยู่ด้วยรอยยิ้มแบบมีเลศนัย
โจวหยู่จ้องเขม็งไปที่หลิงตู้ฉิงอยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายเขาก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเดือดดาลว่า “งั้นก็ตามใจเจ้าไอ้สารเลว!”
มีผู้คนมากมายมหาศาลที่สังเวยสิ่งต่าง ๆ ให้กับโจวหยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งหลาย ๆ ครั้งสิ่งของที่ผู้คนเหล่านั้นสังเวยมาให้ทั้งโจวหยู่หรือผู้สังเวยยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไรหรือทำอะไรได้
ดังนั้นทรัพย์สมบัติมากมายที่โจวหยู่ครอบครองอยู่ตอนนี้มันจึงไม่มีใครเดาได้เลยว่ามันมีสิ่งที่ล้ำค่าเลิศล้ำอยู่มากขนาดไหน
ด้วยเหตุผลนี้ หลิงตู้ฉิงจึงต้องมาตามหาโจวหยู่เพื่อขอสมบัติที่ไม่มีใครบนโลกมี เพื่อเอามาสร้างอาวุธเต๋าให้กับคนในครอบครัวของเขาบางคนที่จำเป็นต้องใช้วัสดุที่มันไม่อาจหาเจอที่ไหนได้บนโลก
ในบรรดาอาวุธเต๋าของคนในครอบครัวที่หลิงตู้ฉิงอับจนหนทางที่สุดที่จะสามารถหาวัสดุที่เอามาสร้างให้ได้ก็คือของ หลิงฟ่างหัว มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ย
อาวุเต๋าของหลิงฟ่างหัวต้องใช้สมบัติที่เกี่ยวกับมิติ ของมี่ไลต้องใช้สมบัติที่เกี่ยวกับกาลเวลา ส่วนหลิวเฟ่ยเฟ่ยต้องใช้สมบัติที่เกี่ยวกับหยินทมิฬเร้นลับ ซึ่งสมบัติเหล่านี้เขาไม่รู้ว่าจะไปหาพวกมันจากที่ไหนจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงเหลือทางเลือกเดียวคือต้องมาหาโจวหยู่
หลังจากได้เห็นหกปรารถนาก่อเกิดเจ็ดอารมณ์วิบัติ และถูกขู่เข็ญไปรอบหนึ่ง โจวหยู่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องยินยอมให้หลิงตู้ฉิงเลือกสมบัติไป 3 อย่าง
“รีบ ๆ เลือกซะ!” โจวหยู่เปิดโลกของเขาให้กับหลิงตู้ฉิงได้เห็นสมบัติจำนวนมหาศาลที่ถูกเก็บเอาไว้ด้านใน
เขาไม่กลัวว่าหลิงตู้ฉิงจะเลือกเกิน 3 ชิ้น ต่อให้เขาจะมีสัมบัติล้ำค่ามากมายขนาดไหนก็ตามเนื่องจากเขาสัมผัสได้ว่าคำพูดแต่ละคำที่หลิงตู้ฉิงพูดออกมานั้นไม่มีคำไหนที่เป็นคำโกหกสักคำ แน่นอนว่ารวมไปถึงคำขู่ด้วย
สิ่งแรกที่หลิงตู้ฉิงให้ความสนใจก็คือกระถางสีดำใบหนึ่งที่ตลบอบอวลไปด้วยพลังแห่งคำสาป
หลิงตู้ฉิงมองไปที่กระถางใบนั้นอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาหันไปหัวเราะให้กับโจวหยู่และพูดว่า “ข้าว่าแล้วว่ามันต้องอยู่กับเจ้า!”
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็ไม่สนใจกระถางใบนั้นอีก เขาเลือกสมบัติออกมา 3 ชิ้นอย่างรวดเร็ว
ชิ้นแรกคือผลึกใสทรงสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากำปั้น ชิ้นที่สองคือก้อนน้ำแข็งสีดำที่มีรูปร่างคล้ายหัวใจมนุษย์ และอันสุดท้ายคือบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกับกระเบื้องแผ่นหนึ่ง
โจวหยู่มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาชิงชังและพูดขึ้นว่า “สารเลวจริง ๆ เลือกเอาหัวใจน้ำแข็งบรรพกาลของข้าไป ในฐานะที่เจ้าเอาของล้ำค่าไปขนาดนี้ เจ้าจะต้องบอกให้ข้ารู้ว่าอีกสองอย่างที่เจ้าเลือกไปมันคืออะไร ข้ายังไม่ได้ศึกษาไอ้ผลึกสี่เหลี่ยมนั่นให้ละเอียดสักเท่าไหร่ ข้าแค่รู้คร่าว ๆ ว่ามันเกี่ยวกับเต๋าแห่งมิติ แต่ไอ้กระเบื้องนั่นจนป่านนี้ข้าก็ยังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “มันจะดีที่สุดหากเจ้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่งั้นเจ้าจะเจ็บใจซะเปล่า ๆ”
“เจ้าประเมินข้าต่ำเกินไปแล้ว! อย่างข้าเนี่ยนะจะรับไม่ได้กับอีแค่ความจริงว่าพวกมันคืออะไร?” โจวหยู่ตวาดกลับด้วยสีหน้าโมโห “หากเจ้าสามารถทำให้ข้าเจ็บใจได้ ข้าจะขอบคุณเจ้าด้วยซ้ำที่ทำให้ข้าเข้าใจเต๋าอารมณ์ความรู้สึกมากขึ้น!”
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ในเมื่อเจ้าพูดแบบนี้งั้นก็อย่าได้มาโทษข้าทีหลังก็แล้วกัน นับจากนี้อีก 100 ปี ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นว่าพวกมันคืออะไร!”