พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 264 ผนึกกำแพงสมดุล
บทที่ 264 ผนึกกำแพงสมดุล
พวกเขาต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อเข้าและออกจากทะเลชางหมาง? หลิงตู้ฉิงมองไปที่เสี่ยวเยว่เฟิงด้วยสายตางุนงง
เสี่ยวเยว่เฟิงยิ้มให้หลิงตู้ฉิง หลังจากนั้นนางก็ปลดปล่อยรัศมีของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ของนางและพูดกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รีบไสหัวไปให้พ้นจากสายตาข้าซะ!”
ในทันทีที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์เหล่านั้นสัมผัสได้ถึงรัศมีของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ของเสี่ยวเยว่เฟิง สีหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นหวาดผวาและจากไปทันที
เมื่ออุปสรรคที่ขวางทางพวกเขาจากไป เสี่ยวเยว่เฟิงจึงพูดขึ้น “นายท่าน ทางเข้าและออกของทะเลชางหมางนั้นค่อนข้างวุ่นวาย เนื่องจากความพิเศษของผนึกที่ปิดกั้นที่นี่ไว้มันจึงเป็นสถานที่ยอดนิยมที่บรรดาพวกนอกรีตหรือพวกผู้กระทำความผิดจะมาที่นี่เพื่อลี้ภัย”
“ดังนั้นมันจึงมีพวกคนเหลือเดนเหล่านี้ที่ปะปนมากับพวกลี้ภัยอยู่บ้างที่คอยเรียกเก็บค่าผ่านทางสร้างรายได้ให้กับตัวเองที่ทางเข้าออกแห่งนี้ หรือจะให้พูดอีกนัยหนึ่งคือคนพวกนี้กำลังจะปล้นพวกเรา”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวพลางคิดในใจ ‘นี่ดูเหมือนว่ามันจะเหมือนกันไปหมดทุกที่สินะ?’
หลิงตู้ฉิงเงยหน้าขึ้นและมองขึ้นไปยังกำแพงล่องหนตรงหน้า ในบางครั้งเขาจะลองยื่นมือออกไปเพื่อสัมผัสพลังแห่งกฎระหว่างสวรรค์และโลก เพื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังบริเวณรอบ ๆ
ไม่นานเขาก็พูดว่า “ไปกันเถอะ!”
หลังจากนั้น กงหนิวก็เริ่มออกตัวแต่เขาไม่ได้ลากรถขึ้นไปบนฟ้า แต่ค่อย ๆ ลากรถม้าไปบนพื้นดิน
เขาไม่รู้ว่าทางออกอยู่ที่ไหน ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงฟังคำสั่งของเสี่ยวเยว่เฟิง
ขณะที่รถม้าแล่นผ่านไปผู้คนมากมายทั้งสองฝั่งของข้างทางก็จ้องมองไปที่รถม้า
บางคนแววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความโลภ บางคนเต็มไปด้วยความอิจฉา และบางคนก็มองดูด้วยแววตาเรียบเฉย
ขณะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังทางออก ก็มีคนอื่นกำลังเดินเข้ามา
ทันทีที่คนข้างนอกเข้ามา คนที่อยู่ด้านในที่กำลังจะออกไปก็ต้องหยุดชะงัก
“ทุกท่าน! เส้นทางของทะเลชางหมางนั้นอันตราย ข้าคิดว่าพวกท่านต้องได้รับการคุ้มครองจากใครสักคนเพื่อความปลอดภัยของตัวพวกท่านเอง ฉะนั้นโปรดให้ข้าได้เป็นผู้คุ้มกันของพวกท่าน แล้วข้าจะปกป้องพวกท่านอย่างสุดความสามารถ และข้าสัญญาว่าค่าใช้จ่ายนั้นจะไม่แพงอย่างที่ทุกท่านคิดแน่นอน!” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์คนหนึ่งตะโกนขึ้น
ในฝูงชนชายหนุ่มที่แต่งตัวดูภูมิฐาน เขายิ้มและพูดว่า “หืม? นี่พวกเจ้ากล้าเรียกเก็บเงินค่าคุ้มครองข้างั้นเหรอ? พวกเจ้าไม่รู้งั้นเหรอว่าข้าเป็นใคร?”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์พูดอย่างหยิ่งผยอง “ไม่ว่าข้างนอกเจ้าจะเป็นใคร แต่ที่นี่คือทะเลชางหมาง ที่นี่มันแตกต่างจากโลกภายนอกที่เจ้าจากมา! ไม่ว่าข้างนอกนั่นเจ้าจะมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งขนาดไหน แต่สำหรับที่นี่ถ้าเจ้าไม่ระวังให้ดีข้าขอเตือนว่าเจ้าอาจจะตายได้ง่าย ๆ”
ทุกคนรู้กฎของทะเลชางหมางอยู่แล้วว่าคนที่แข็งแกร่งเกินไปจะไม่สามารถเข้ามาได้ ถึงต่อให้ชายคนนี้ที่อวดอ้างว่าตัวเองมาจากตระกูลใหญ่แล้วมันยังไงล่ะ? อย่างมากต่อให้เขาได้ล่วงเกินพวกคนตระกูลใหญ่ของโลกภายนอกไป เขาก็แค่ซ่อนตัวหลบอยู่ในทะเลชางหมางไปตลอดชีวิตก็แค่นั้น
สิ่งที่จะทำให้เขากลัวได้ก็มีเพียงแค่ เขาไม่ต้องการที่เจอกับผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งกว่าเขาในทะเลชางหมางก็แค่นั้น
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายหนุ่มที่แต่งตัวดูภูมิฐานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงชัดเจน “ข้าคือ หยูเฉิงฮุย องค์ชายแห่งอาณาจักรมังกรทะยาน พี่ชายของข้าปกครองอาณาจักรหลงซานในทะเลชางหมางนี้ เจ้าเคยได้ยินรึเปล่า? เอาล่ะตอนนี้เจ้ายังจะกล้าเอาเงินค่าคุ้มครองจากข้าอีกไหม?”
ในขณะเดียวกันกลุ่มทหารที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารก็บินเข้ามาอย่างรวดเร็ว แม่ทัพที่นำหน้ากลุ่มทหารเยาะเย้ย “พวกเจ้านี่กล้าจริง ๆ กล้าดูหมิ่นองค์ชายของพวกเรางั้นเหรอ?”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ 2-3 คนมองมาที่เขาด้วยสายตาหงุดหงิด จากนั้นพวกเขาจึงหันหลังบินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
อาณาจักรหลงซาน คืออาณาจักรที่ครอบครองพื้นที่ของเกาะน้ำเต้าแทบจะทั้งหมด ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขาต้องเคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของอาณาจักรนี้ ฉะนั้นพวกเขาจะกล้าดึงดันยั่วยุชายผู้นี้ต่อได้ยังไง?
กลุ่มทหารที่เห็นว่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์จากไปแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นพวกเขาก็ติดตามหยูเฉิงฮุยและบินจากไป
“พี่สาว ผู้ชายคนนั้นหล่อมาก!” ดวงตาของเสี่ยวหลิงเฟิงเบิกกว้างขณะที่นางมองไปที่หยูเฉิงฮุย
เสี่ยวเยว่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หล่อไปก็เท่านั้น มีแต่คนอย่างนายท่านเท่านั้นถึงจะนับว่าเป็นบุรุษที่ยอดเยี่ยมที่สุด! เอาล่ะไปกันเถอะ”
คนในตระกูลหลิงก็เห็นสถานการณ์ภายนอกเช่นกัน หลิงเทียนหยุนยิ้มและพูดว่า “ถ้าพี่สองเห็นเขา นางก็คงมีปฏิกิริยาเช่นเดียวกับน้องหลิงเฟิง!”
“ฮ่า ฮ่า!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะและไม่ได้พูดอะไร
แม้ว่ามี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยจะมีใจให้กับหลิงตู้ฉิงเพียงคนเดียว แต่พวกนางเองก็ยังคิดว่าหยูเฉิงฮุยดูดีเช่นกัน
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดที่ผ่านไป จากนั้นพวกเขาก็หันกลับไปสนใจทางออกของทะเลชางหมางที่อยู่ตรงหน้าทันที
เมื่อทุกคนเดินทางออกจากทะเลชางหมาง หลิงตู้ฉิงจึงสั่งขึ้น “กงหนิว ค่อย ๆ เพิ่มระดับการลอยตัวของรถม้า”
กงหนิวทำตามที่หลิงตู้ฉิงบอกทันที ในขณะที่เสี่ยวเยว่เฟิงยังคงบังคับรถม้าไว้อย่างมั่นคง
หลิงตู้ฉิง ในเวลานี้ก็กำลังสำรวจกำแพงสมดุลเช่นเดิมเหมือนตอนที่อยู่ด้านในอาณาเขตทะเลชางหมาง
“สามีเห็นอะไรไหม?” มี่ไลถามอย่างสงสัย
หลังจากนั้นไม่นาน หลิงตู้ฉิงก็พูดขึ้น “มันคือกำแพงสมดุล มันถูกสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญบางคนที่ไม่ธรรมดา เพื่อคอยปกป้องทะเลชางหมางเอาไว้ ซึ่งกลไกการทำงานของมันก็คือมันจะปิดกั้นไม่ให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับสูงกว่าคนที่อยู่ด้านในทะเลชางหมางเข้าไปได้ และยังผนึกการบรรลุระดับของคนนอกที่เข้าไปด้านในไม่ให้บรรลุระดับหรือทะลวงขอบเขตแซงหน้าคนที่เกิดด้านในทะเลชางหมางได้ก่อน”
เสี่ยวเยว่เฟิงและซือโถวเหวินหยวนพยักหน้าอย่างครุ่นคิด
เนื่องจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่หลบหนีเข้าสู่ทะเลชางหมาง
แค่จำนวนผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขอบเขตครึ่งสวรรค์เพียงอย่างเดียว ก็ไม่รู้ว่ามีกี่คนต่อกี่คนเข้าไปแล้ว
อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้ที่เข้ามาด้านในนั้นกลับไม่มีใครสักคนที่สามารถทะลวงขอบเขตไปถึงขอบเขตสวรรค์ได้สักคน
แต่ต่อมาเนื่องจากหลู่หยุนตี๋ได้ทะลวงขอบเขตสวรรค์เมื่อ 10 กว่าปีก่อน จึงทำให้สมดุลของพลังในอาเขตทะเลชางหมางถูกขยายออกไป ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งกว่าเดิมหลายคนสามารถเข้ามาด้านในได้
ทันใดนั้นหลิงเทียนหยุนก็พูดว่า “ท่านพ่อ หากเป็นเช่นนี้ไม่ใช่ว่าในอนาคตน้องหกและคนอื่น ๆ ที่กำลังพิชิตทะเลชางหมางอยู่ พวกเขาก็ต้องเผชิญกับผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งกว่าเดิมงั้นสิ แถมเหล่าอาณาจักรที่อยู่ด้านในที่มีความสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ด้านนอกพวกเขาอาจจะขอความช่วยเหลือออกไปได้อีก นี่มันจะต้องทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับจำนวนของผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน แล้วแบบนี้พวกเขาจะไม่เป็นอันตรายงั้นเหรอท่านพ่อ?”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “อืม แต่ตอนนี้มันคงเป็นการเสียเวลาที่เราจะกลับเข้าไป เนื่องจากเราเพิ่งจะออกมา ฉะนั้นคงเหลือเพียงทางเลือกเดียวก็คือเราต้องดูว่ามีใครกำลังจะเข้าไปด้านในรึเปล่า และขอให้คนผู้นั้นส่งข้อความของเราไปถึงพวกเขา”
หลิงตู้ฉิงรู้ตัวดีว่ากว่าที่เขาจะกลับเข้าไปด้านในทะเลชางหมางอีกครั้งก็คงจะเป็นเวลาอีกนานหลายสิบปี ฉะนั้นก่อนเขาจะจากไป เขาควรจะแจ้งข่าวนี้ให้กับหลิงยี่เทียนและคนอื่น ๆ รับรู้ไว้ก่อน
“เอาล่ะ เราจะคุยเรื่องนี้ภายหลัง!” หลิงตู้ฉิงพูด “ตอนนี้เราต้องหาที่พักกันก่อน!”
เสี่ยวเยว่เฟิงพูดขึ้นทันที “นายท่าน เมืองเจินไห่อยู่ข้างหน้าเรา เราควรไปที่เมืองเจินไห่ ก่อนดีไหม?”
“เมืองเจินไห่?” หลิวเฟ่ยเฟ่ยถามขึ้น
เสี่ยวเยว่เฟิงยิ้มและพูดว่า “ใช่ เนื่องจากมีพวกหนีความผิดมากมายอาศัยอยู่ในทะเลชางหมาง อาณาจักรอี้จิ๋นจึงรู้สึกปวดหัวที่ต้องคอยจัดการปัญหาและพวกเขาก็กังวลว่าคนเหล่านี้จะออกมาสร้างความเดือดร้อน ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างเมืองนี้ขึ้นเพื่อป้องกันทางเข้าไว้ นอกจากนี้ยังมีทางเข้าออกอีกหลายทางที่นำไปสู่ทะเลชางหมาง ทุกทางเข้าออกมีสถานที่ที่คล้ายกับเมืองเจินไห่อยู่ทุกช่องทาง”
“งั้นไปที่เมืองเจินไห่กันก่อนก็แล้วกัน” หลิงตู้ฉิงสั่ง
แต่เมื่อพวกเขาเคลื่อนที่มาได้อีกเพียงไม่กี่ลี้ พวกเขาก็จับสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังวิญญาณจากระยะไกล
โดยไม่จำเป็นต้องกล่าวเตือนกันทุกคนก็เข้าใจได้ทันทีว่ามีการสู้รบอย่างดุเดือดอยู่ข้างหน้า
“นายท่านมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์กำลังต่อสู้กัน!” เสี่ยวเยว่เฟิงตกใจ
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ไปดูกันสักหน่อยเถอะ”
“แต่ว่านายท่าน เราไม่ต้องระวังตัวสักหน่อยเหรอ ที่นี่มันไม่ใช่ทะเลชางหมาง ข้างนอกนี้มีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งอยู่เป็นจำนวนมากและข้าเกรงว่า…” เสี่ยวเยว่เฟิงแนะนำขึ้นด้วยสีหน้าลังเลเล็กน้อย
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “แน่นอนข้ารู้! นอกทะเลชางหมางปราศจากการปกป้องของกำแพงผนึกสมดุล แต่ไม่ต้องกังวลไป พลังแห่งกฎระหว่างสวรรค์และโลกที่ข้าสามารถใช้ได้นั้นแข็งแกร่งกว่ากำแพงผนึกสมดุลของทะเลชางหมางมากนัก”