พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 276 ครอบครองยันต์สั่งสวรรค์
บทที่ 276 ครอบครองยันต์สั่งสวรรค์
ทุกคนสูดหายใจลึกเมื่อเห็นภาพการตายของเสี้ยวเฉินอู่
เมื่อเทียบกับชะตากรรมของเสี้ยวเฉินอู่ พวกเขาค่อนข้างโชคดีกว่า
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับยันต์สั่งสวรรค์ แต่พวกเขาก็ยังมีชีวิตอยู่! นอกจากนี้พวกเขายังได้รับประโยชน์จากการที่สามารถเข้าใจเนื้อหาของเต๋าแห่งอักขระเวทย์จากค่ายกลป้องกันรอบ ๆ ยันต์สั่งสวรรค์
ทุกคนจ้องมองไปที่หลิงตู้ฉิง
คนผู้นี้ได้กล่าวเอาไว้ว่าเสี้ยวเฉินอู่จะต้องตาย แต่เขารู้ได้ยังไงว่าจะต้องตายจริง ๆ?
ไม่มีใครในพวกเขากล้าแสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการตายของเสี้ยวเฉินอู่
เนื่องจากกฎของหมู่ตึกหยูอี่นั้นก็ได้มีระบุเอาไว้ว่าทุกคนมีโอกาสช่วงชิงยันต์สั่งสวรรค์ได้ แต่หมู่ตึกหยูอี่จะไม่รับชอบเช่นกันหากมีการตายเกิดขึ้น
ในขณะนี้ชายวัยกลางคนส่ายหัวด้วยความเสียใจ “ดูเหมือนว่าข้าต้องประกาศกฎของเราอีกครั้ง ใคร ๆ ก็สามารถลองเสี่ยงเข้าไปหยิบยันต์สั่งสวรรค์นี้ได้ ซึ่งทางเราจะไม่คิดค่าธรรมเนียมใด ๆ และผู้ที่ได้รับยันต์สั่งสวรรค์จะได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นแขกผู้มีเกียรติของเรา อย่างไรก็ตามพวกเราหมู่ตึกหยูอี่ไม่ขอรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของใครก็ตาม”
ทุกคนนิ่งเงียบ
หลังจากที่ชายวัยกลางคนพูดจบ เขาก็พูดกับหลิงตู้ฉิง “เนื่องจากเจ้ามีดวงตาที่แหลมคมเจ้าต้องการลองดูบ้างไหม? แต่ข้ายังต้องบอกว่าชีวิตและความตายของเจ้าขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง”
ขณะที่เขาพูดเขามองไปที่คนที่อยู่เบื้องหลังหลิงตู้ฉิง โดยเฉพาะเสี่ยวเยว่เฟิงและซือโถวเหวินหยวน
“ข้าไม่ได้พูดไปแล้วเหรอว่ายันต์สั่งสวรรค์เป็นของข้า” หลิงตู้ฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
หลังจากกล่าวจบ หลิงตู้ฉิงก็เดินตรงไปยังยันต์สั่งสวรรค์
มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยรีบดึงหลิงตู้ฉิงกลับมา พวกนางพูดอย่างเป็นห่วง “สามี ท่าน…!”
เนื่องจากภาพการตายของเสี้ยวเฉินอู่เมื่อสักครู่ยังทำให้พวกนางกลัวจนหนาวสั่น
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เป็นอะไรหรอก!”
มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยปล่อยหลิงตู้ฉิง และเฝ้าดูอย่างเป็นห่วง
ในเวลานี้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ 4 คนของตระกูลจื่อและตระกูลจางที่ได้รับข่าวว่าหลิงตู้ฉิงอยู่ที่ไหนแล้ว พวกเขาต่างก็มากันที่หมู่ตึกหยูอี่เช่นกัน
“คนพวกนั้นอยู่ด้านในหมู่ตึกหยูอี่ เข้าไปจับพวกมันมาให้ข้าซะ!” จื่อคงสั่ง
เมื่อได้รับข่าว พวกเขาต่างก็รีบเดินทางไปยังหมู่ตึกหยูอี่ทันที ซึ่งแม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเจินไห่อย่างจื่อคงก็ยังตามมา
สำหรับจื่อคง การแก้แค้นถือเป็นเรื่องเล็กน้อยและรางวัลจากภูเขาฟีนิกซ์ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยเช่นกัน สำหรับเขาวิชาแปลก ๆ ทั้งสองนั้นต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา
หากเขาได้รับวิชาทั้งสองนี้เขาจะสามารถเข้าใจกฎแห่งสวรรค์ได้มากขึ้นอย่างแน่นอ ในเวลานั้นมันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะบรรลุระดับการบ่มเพาะที่เหนือกว่า
เมื่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ทั้งสี่ได้เข้ามาด้านในหมู่ตึกหยูอี่ บรรดาผู้คนของหมู่ตึกหยูอี่ก็รีบออกมาต้อนรับและถามขึ้นทันที “ข้าสงสัยว่าทุกท่านมาที่นี่มีธุระอะไร?”
ชายวัยกลางคนที่มองไปที่หลิงตู้ฉิงที่กำลังจะเดินไปหยิบยันต์สั่งสวรรค์ เมื่อเขาได้ทราบข่าวการมาเยือนของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์หลายคน เขาจึงรีบออกมาดูเหตุการณ์ทันทีเมื่อได้รับรายงาน
เขารู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากว่ามีเหตุอะไรกันที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ทั้งสี่ถึงมารวมตัวกันที่นี่ และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งของเมืองเจินไห่ก็ยังตามมาด้วยอีกต่างหาก
จื่อคงพูดอย่างใจเย็น “จงขุย เรามาที่นี่เพื่อช่วยภูเขาฟีนิกซ์จับคนทรยศ 2-3 คนเท่านั้น เราไม่ต้องการฉกยันต์สั่งสวรรค์ของท่าน”
เขารู้เกี่ยวกับภูมิหลังของจงขุยอยู่บ้าง และยังทราบถึงเบื้องหลังของสวนหลังหมู่ตึกแห่งนี้ เขาจึงไม่มีความคิดกล้าที่จะปล้นสิ่งของจากสวนหลังหมู่ตึกหยูอี่
นี่เป็นเพราะค่ายกลอักขระเวทย์ที่อยู่ด้านในนั้นมีอำนาจเหนือกว่าขอบเขตหลุดพ้นสามัญไปแล้ว หากใครกล้าที่จะฉวยยันต์สั่งสวรรค์ พวกเขาทั้งหมดจะต้องถูกฆ่าตาย
อย่างไรก็ตามตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ก้าวเข้าไปในสวน พวกเขาก็ไม่กลัวจงขุย
“อะไรนะ? คนทรยศจากภูเขาฟีนิกซ์?” จงขุยถามขึ้นด้วยสายตางุนงง
เมื่อทราบแล้วว่าผู้มาเยือนไม่ได้มาที่นี่เพื่อยันต์สั่งสวรรค์ของเขา สีหน้าของจงขุยก็ดูดีขึ้นมาก
จื่อเซี่ยงบรรยายสถานการณ์เกี่ยวกับกลุ่มของหลิงตู้ฉิง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ข้าหวังว่าท่านจะไม่ขัดขวางทางรวยของข้า ไม่งั้นก็อย่าได้โทษข้าที่จะส่งคนมาที่นี่เพื่อปิดล้อมหมู่ตึกหยูอี่ของท่าน แม้ว่าเราจะไม่กล้าเข้าไปในสวนของท่าน แต่พวกท่านก็ไม่มีปัญญาทำอะไรเราข้างนอกเช่นกัน”
จงขุยหน้ามุ่ย “ข้าไม่มีอารมณ์จะห้ามท่านไม่ให้เสี่ยงโชค ตราบใดที่ท่านไม่ได้มาที่นี่เพื่อชิงยันต์สั่งสวรรค์ ท่านก็สามารถทำตามที่ท่านต้องการได้! นอกจากนี้อย่าใช้กำลังกันในสวนของข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะคิดว่าพวกท่านต้องการขโมยยันต์สั่งสวรรค์ และข้าจะฆ่าพวกท่านซะให้หมด”
จื่อคงและคนอื่น ๆ ไม่ได้ถือว่าการคุกคามของจงขุยเป็นจริงเป็นจัง ทั้งสี่คนมองหน้ากันและจื่อคงก็พูดกับจื่อเซี่ยง “เจ้าจงเข้าไปดูพวกเขาก่อน จากนั้นเราจะปิดทั้งสี่ด้านของหมู่ตึกหยูอี่เพื่อไม่ให้พวกเขาหนีรอดไปได้!”
จื่อเซี่ยงพยักหน้า และเดินเข้าไปในสวนหลังหมู่ตึกหยูอี่
ในอีกด้านหนึ่ง จางเฉียนส่งสัญญาณไปที่คนที่อยู่ข้างหลังเขาและให้พวกเขาเข้าไปในสวนด้วย
เมื่อพวกเขาเห็นว่าเสี่ยวเยว่เฟิงและคนที่เหลือทั้งหมดอยู่ที่นั่น ใบหน้าของพวกเขาก็เบิกบานขึ้นทันที แต่พวกเขาไม่ได้พูดอะไร
เขาไม่เชื่อว่าคนเหล่านี้จะไม่ออกจากหมู่ตึกหยูอี่ แต่เพื่อความมั่นใจพวกเขาได้วางกับดักไว้ด้านนอกและมั่นใจว่าจะไม่มีใครสามารถหลบหนีออกไปได้
เสี่ยวเยว่เฟิงก็เห็นทั้งสองคนที่เข้ามาเช่นกัน นางมองพวกเขาอย่างเย็นชา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“ไม่อนุญาตให้มีการต่อสู้ในสวนหลังหมู่ตึกหยูอี่ ถ้าต้องการต่อสู้ก็ออกไปข้างนอก ข้าจะฆ่าใครก็ตามที่กล้าลงมือ!” สายตาของจงขุยกวาดสายตาไปที่จื่อเซี่ยง จางเฉียนรวมทั้งเสี่ยวเยว่เฟิงและซือโถวเหวินหยวน สวนนี้เป็นเขตแดนของเขาและเขาก็มั่นใจในตัวเองอย่างที่สุด
จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่หลิงตู้ฉิง
ทางด้านของหลิงตู้ฉิง ตอนนี้เขาได้มาถึงระยะ 1 เมตรของยันต์สั่งสวรรค์ ซึ่งเป็นจุดที่เสี้ยวเฉินอู่เคยมาถึง
หลังจากนั้นความเร็วในการเดินของหลิงตู้ฉิงก็ช้าลงและช้าลงและค่อย ๆ เคลื่อนไปยังยันต์สั่งสวรรค์
ในพริบตาเขาได้มาถึงสถานที่ที่เสี้ยวเฉินอู่เสียชีวิต
หัวใจของทุกคนที่มากับหลิงตู้ฉิงแทบจะเต้นผิดจังหวะ พวกเขากังวลว่าจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับหลิงตู้ฉิง แต่ผิดกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์คนอื่น ๆ ที่กำลังกังวลว่าหลิงตู้ฉิงจะเอายันต์สั่งสวรรค์ของพวกเขาไป
จื่อเซี่ยงและจางเฉียนมองหน้า และส่งยิ้มให้กัน
ฮ่า! ยันต์สั่งสวรรค์ เราจะแบ่งกันอย่างไรดี?
ในขณะนี้ท่าทีของหลิงตู้ฉิงเริ่มเปลี่ยนเป็นค่อนข้างจริงจัง ในขณะที่เขาขยับช้า ๆ
หากพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับกฎแห่งสวรรค์และโลกต่อหน้าเขา เขาสามารถมองทะลุผ่านและเข้าใจมันได้อย่างแจ่มแจ้ง
อย่างไรก็ตามระดับการบ่มเพาะของเขาอ่อนแอเกินไป และเขายังอยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 10 เท่านั้น
ไม่ว่าฐานความรู้ของเขาจะกว้างใหญ่เพียงใดหรือทะเลแห่งจิตวิญญาณของเขากว้างใหญ่ขนาดไหน ระดับการบ่มเพาะก็ยังคงเป็นจุดอ่อนของเขา
“ผู้ที่สามารถสร้างอาณาเขตค่ายกลเช่นนี้ได้อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ที่ทรงพลังในขอบเขตสวรรค์” หลิงตู้ฉิงพึมพำกับตัวเอง
เมื่อไปถึงอาณาเขตของค่ายกลที่มีพื้นที่ความกว้าง 7 ถึง 8 ตารางนิ้วรอบยันต์สั่งสวรรค์ เขาก็ไม่กล้าที่จะยื่นมือออกไปอย่างเร่งรีบ นี่เป็นเพราะพลังที่กดข่มของอาณาเขตค่ายกลนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถต้านทานได้ในขณะนี้
“หากระดับการบ่มเพาะของข้าอยู่ในขอบเขตสวรรค์ การทะลวงค่ายกลนี้จะง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างหมดหนทาง “ดูเหมือนว่าข้าคงจะต้องเปลืองตัวสักหน่อยเพื่อให้ได้มันมาสินะ”
เมื่อตัดสินใจได้ หลิงตู้ฉิงได้โคจรพลังวิญญาณขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 10 ของเขา โดยใช้มากกว่าครึ่งหนึ่งที่เขามีในทะเลแห่งจิตวิญญาณให้ควบแน่นกันที่บริเวณฝ่ามือของเขา
“ปราณจักรวาลมหาพิสุทธิ์!”
จากนั้นหลิงตู้ฉิงเป่า ‘ปราณจักรวาลมหาพิสุทธิ์’ ที่อยู่บนฝ่ามือเขาไปยังยันต์สั่งสวรรค์อย่างช้า ๆ เนื่องจากมีเพียง ‘ปราณจักรวาลมหาพิสุทธิ์’ เท่านั้นที่ไม่ทำให้ค่ายกลที่อยู่รอบ ๆ ยันต์สั่งสวรรค์ทำงาน ปราณนี้เข้าไปห่อหุ้มยันต์สั่งสวรรค์และตัดขาดการเชื่อมต่อมันออกจากค่ายกลที่ถูกวางเอาไว้อย่างแน่นหนา
ภายใต้ผลของ ‘ปราณจักรวาลมหาพิสุทธิ์’ ยันต์สั่งสวรรค์ที่อยู่กลางสวนก็ค่อย ๆ ลอยขึ้น จากนั้นก็ถูกบังคับให้ลอยมาทางหลิงตู้ฉิง
ภายในทะเลแห่งจิตวิญญาณของหลิงตู้ฉิง มีเสียงดังโครมครามเมื่อขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 10 ของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิงก็ได้ลดลงมาถึงระดับ 9 แต่เขาก็ยังคงไม่หยุดแปลงพลังวิญญาณของตัวเองให้เป็นปราณจักรวาลมหาพิสุทธิ์
เมื่อพลังวิญญาณของขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 9 ถูกใช้ไปมากกว่าครึ่ง ในที่สุดยันต์สั่งสวรรค์ก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าหลิงตู้ฉิง และค่อย ๆ ตกลงมาในมือของเขา
ผู้คนรอบข้างต่างรู้สึกสับสน นี่คือวิธีการหยิบยันต์สั่งสวรรค์งั้นเหรอ?
มีบางคนที่กำลังดูเหตุการณ์อยู่ตบต้นขาของเขาและตะโกนว่า “ที่แท้มันก็แค่ต้องใช้พลังวิญญาณในการหยิบมันออกมา ไม่ใช่ก็การใช้มือจับมันโดยตรงนี่เอง! นับได้ว่าเสี้ยวเฉินอู่ตายอย่างไร้ค่าจริง ๆ!”