พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 419 ตัวตนถูกเปิดเผย
บทที่ 419 ตัวตนถูกเปิดเผย
ก่อนที่หยูเฉิงฮุยจะมาถึงที่อาณาจักรจันทรา เขาเคยได้ยินจางหมิงพูดถึงหลิงตู้ฉิงอยู่เสมอ
หลังจากมาถึงอาณาจักรจันทรา เขาก็ได้ยินหลายคนพูดถึงว่าหลิงตู้ฉิงเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายเขาก็พบว่าระดับการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิงนั้นอยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณเท่านั้น
ในตอนแรกเขารู้สึกประหลาดใจพอสมควร ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานทะเลปราณเพียงหนึ่งคนสามารถทำหลาย ๆ สิ่งที่น่าทึ่งทั้งหมดที่เขาได้ยินได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินมามากเข้ามากเข้า เขาก็ไม่สนใจอีกต่อไป
ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน หลิงตู้ฉิงก็อยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณเท่านั้น!
และระดับการบ่มเพาะปัจจุบันของเขาก็อยู่ที่จุดสูงสุดของขอบเขตรวมแสงดารา และมันก็ใกล้จะทะลวงขอบเขตได้แล้วอีกต่างหาก นอกจากนี้เขาได้นำผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญจำนวนมากมาด้วย มันยังมีอะไรที่เขาจะต้องกังวลอีก?
จางหมิงมองไปที่ท่าทีของหยูเฉิงฮุยและถอนหายใจ
เฉพาะผู้ที่เคยต่อสู้กับหลิงตู้ฉิงมาก่อนเท่านั้นถึงจะรู้ว่าหลิงตู้ฉิงน่ากลัวเพียงใด
สำหรับหยูเฉิงฮุยแม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์มาบ้าง แต่เขาก็คงไม่เคยเห็นคนที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน
นี่อาจเป็นเพียงขีดจำกัดของการเป็นที่ปรึกษา พวกเขาแนะนำได้แต่ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ
อีกด้านหนึ่ง หลิงว่านถิงที่กำลังเดินตามเหลียงเฟ่ยเอ๋อกลับไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ก็ถามขึ้นอย่างสงสัยทันที “ว่าแต่ป้าเฟ่ย ท่านมีอะไรรึเปล่า?”
เหลียงเฟ่ยเอ๋อยิ้มและพูดว่า “จริง ๆ แล้วก็ไม่มีอะไรมาก ข้าแค่ได้ยินข่าวมาว่าเจ้าเจอคนที่เจ้าชอบแล้ว ข้าจึงลองไปดูด้วยตาของข้าเอง”
“แล้วท่านคิดว่ายังไง?” หลิงว่านถิงถามด้วยความคาดหวัง
“เปียนหยูหลิน ผู้นี้หน้าตาดีมาก ข้าคิดว่าสายตาของเจ้านั้นไม่เลวเลย” เหลียงเฟ่ยเอ๋อพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
หลิงว่านถิงยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “แน่นอน ข้าไม่ชอบคนธรรมดาหรอก!”
เหลียงเฟ่ยเอ๋อยิ้มและพูดว่า “แต่ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเขาจะดูดี แต่เรื่องของเจ้ากับเขาจะดำเนินไปได้ต่อหรือไม่นั้นเจ้าต้องรอให้พ่อของเจ้ากลับมาตัดสินใจก่อนอีกทีเท่านั้น เจ้าควรจะรู้อยู่แล้วว่าการแต่งงานของพวกเจ้าทุกคนต้องได้รับการเห็นชอบจากพ่อของเจ้าก่อนเสมอ”
หลิงว่านถิงพยักหน้า “แน่นอน ข้าจะรอท่านพ่อกลับมาและพาเขาไปพบกับท่านพ่อก่อนจะแต่งงานกับเขา แต่ท่านพ่อรักข้ามาก ท่านพ่อต้องเห็นด้วยกับข้าแน่ ๆ”
“อืม!” เหลียงเฟ่ยเอ๋อพยักหน้า “อย่างไรก็ตามพ่อของเจ้าสั่งข้าเป็นพิเศษว่าห้ามพาคนอื่นเข้ามาในคฤหาสน์สราญรมย์เด็ดขาด ดังนั้นเปียนหยูหลินผู้นี้ก็ไม่สามารถเข้ามาได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากพ่อของเจ้า นอกจากนี้ข้าอาจต้องเก็บตัวบ่มเพาะ ซึ่งเวลานี้แม่เหมิงลู่และป้าจื่อซินของเจ้าก็เก็บตัวอยู่เช่นกัน ดังนั้นในระหว่างที่ไม่มีใครคอยดูแลคฤหาสน์สราญรมย์ เจ้าต้องอย่าอยู่ห่างจากคฤหาสน์สราญรมย์เพื่อคอยดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างแทนพวกเราด้วย”
“อืม!” หลิงว่านถิงสัญญา
หลังจากที่เหลียงเฟ่ยเอ๋อพูดจบประโยคแล้วนางก็ไม่ได้สร้างเงื่อนไขอะไรไปจำกัดหลิงว่านถิงต่ออีก
เนื่องจากว่าเด็กเหล่านี้ก็มีอายุที่ไม่ได้แตกต่างจากนางเกิน 10 ปี ซึ่งมันคงไม่ดีที่จะหักหาญน้ำใจกันเกินไป
จากนั้นนางก็กลับมาใช้ชีวิตเรียบง่ายที่คฤหาสน์สราญรมย์อีกครั้ง
อีกด้านหนึ่ง หลิงว่านถิงก็กลับไปหาหยูเฉิงฮุยอีกรอบ
แม้ว่านางจะรักหยูเฉิงฮุย แต่ในเมื่อนางยังไม่ได้รับอนุญาตจากหลิงตู้ฉิง นางจึงยังคงไม่มีอะไรเกินเลยไปกับเปียนหยูหลินมากจนเกินงาม ซึ่งถึงแม้ว่าเปียนหยูหลินจะเคยร้องขอ แต่นางก็ไม่เคยยินยอม
สาเหตุนั้นแน่นอนว่ามาจากคำแนะนำของถังชี่หยุน ดังนั้นความพยายามของหยูเฉิงฮุยที่จะมีอะไรกับหลิงว่านถิง จึงไม่เคยประสบความสำเร็จ
ส่วนเรื่องการเข้าไปในคฤหาสน์สราญรมย์ เนื่องจากผลของคำสั่งหลิงตู้ฉิง หยูเฉิงฮุยจึงไม่สามารถเข้าไปได้เช่นกัน
สถานการณ์นี้ทำให้หยูเฉิงฮุยรู้สึกหม่นหมองเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะอารมณ์เสียแค่ไหน เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ก่อนที่เป้าหมายของเขาจะบรรลุผล เขาจำต้องแกล้งเล่นเป็นเทพบุตรผู้แสนดีต่อไป
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อหอการค้าตระกูลมี่ที่เริ่มทำการสืบเสาะภูมิหลังของหยูเฉิงฮุย ประสิทธิภาพของการสืบสวนก็เพิ่มขึ้นนับไม่ถ้วน
หลายปีที่ผ่านมา มี่ตั้วตั้วค่อย ๆ ขยายอิทธิพลหอการค้าของเขาออกไปจนครอบคลุมทั่วทะเลชางหมาง ซึ่งมันช่วยอำนวยความสะดวกให้กับความพยายามของหลิงยี่เทียนในการรวมดินแดนในทะเลชางหมางเป็นอย่างมาก
ภายใต้การสืบสวนของมี่ตั้วตั้วด้วยกำลังทั้งหมด เขาก็ค่อย ๆ เข้าใกล้ตัวตนของหยูเฉิงฮุยไปทุกที จนกระทั่งในที่สุดผู้คนของหอการค้ามี่ตั้วตั้วก็ได้ข้อมูลสำคัญจากกลุ่มคนที่อยู่ระแวกแถวทางเข้าทะเลชางหมาง ซึ่งในที่สุดตัวตนของหยูเฉิงฮุยก็ถูกเปิดเผย
หลังจากนั้นข้อมูลนี้ก็ถูกส่งไปยังหลิงฟ่างหัวผ่านช่องทางลับ หลังจากที่หลิงฟ่างหัวได้รับข่าว นางก็พูดเสียงดังว่า “ไอ้พี่สองงี่เง่าเอ๊ย! มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับไอ้คนหน้าตาดีคนนั้นอยู่ได้ เป็นไงล่ะได้เรื่องเลย!”
ในขณะที่นางพึมพำ นางก็เดินทางผ่านมิติกลับเพื่อไปที่เกาะเทียนหยวนให้รวดเร็วที่สุด และในเวลาเดียวกันแผ่นหยกที่บันทึกข้อมูลลับชิ้นนี้ก็ถูกส่งไปถึงคฤหาสน์สราญรมย์โดยตรงผ่านประตูมิติของนางเช่นกัน ที่นางทำเช่นนี้ได้ก็เพราะตอนนี้ประตูมิติของนางสามารถเชื่อมกับพิกัดของคฤหาสน์สราญรมย์ได้โดยตรง ซึ่งมันสามารถส่งของชิ้นเล็ก ๆ ผ่านเข้าไปได้
ซึ่ง 3 วันต่อมา โม่หยูถังก็ได้เห็นแผ่นหยกชิ้นนี้ที่ถูกส่งมาที่คฤหาสน์สราญรมย์ จากนั้นโม่หยูถังก็รายงานข้อมูลนี้ต่อให้หลิงยี่เทียนทราบทันที
“คนของอาณาจักรหลงซานก็คือคนของอาณาจักรมังกรทะยาน?” หลิงยี่เทียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจ “ปู่โม่ เรียกเฉินถิงฟางมาหาข้าที”
ต่อมาไม่นาน เฉินถิงฟางก็ปรากฏตัวต่อหน้าหลิงยี่เทียนและถามว่า “ฝ่าบาทเรียกข้ามามีเรื่องอะไรให้หม่อมฉันรับใช้เพคะ?”
หลิงยี่เทียนพูดขึ้นทันที “เล่าให้ข้าฟังเกี่ยวกับอาณาเขตนภาและอาณาจักรมังกรทะยาน ที!”
เฉินถิงฟางมองไปที่หลิงยี่เทียนอย่างสงสัย จากนั้นก็เริ่มเล่าข้อมูลเกี่ยวกับอาณาจักรมังกรทะยาน ตอนนี้เฉินถิงฟางได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับหลิงยี่เทียน
ซึ่งในตอนนี้นางนั้นได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทั้งสายข่าวและผู้บัญชาการ ทุกครั้งที่หลิงยี่เทียนเรียกเฉินถิงฟางเขาจะถามนางโดยตรง เพราะเขารู้ว่าเฉินถิงฟางมียอดเขาหยกจักรพรรดิที่อยู่เบื้องหลัง เขาไม่สนใจว่าเฉินถิงฟางจะได้รับข้อมูลจากยอดเขาหยกจักรพรรดิของนางอย่างไร ตราบใดที่มันมีประโยชน์เขาก็ไม่สนใจวิธีการของนาง
และตอนนี้เฉินถิงฟางก็ได้ยอมศิโรราบให้กับหลิงยี่เทียนจนหมดใจแล้ว เนื่องจากด้วยความโดดเด่นของเขาที่สามารถนำพาอาณาจักรจันทรารุ่งเรืองขึ้นได้อย่างที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำได้ ด้วยการได้ติดตามเจ้านายที่มีความสามารถขนาดนี้ นางมั่นใจว่าในอนาคตตระกูลเฉินของนางจะต้องได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างงามแน่ ๆ
หลังจากฟังรายงานของเฉินถิงฟางแล้ว หลิงยี่เทียนก็สั่งให้นางออกไป
“ฝ่าบาท เราจะทำอย่างไรต่อดี” โม่หยูถังถามขึ้น “เราควรส่งคนไปจับกุมหยูเฉิงฮุยและพวกของเขาตอนนี้เลยดีไหม?”
หลิงยี่เทียนหัวเราะ “เราจะจับเขามาทำไมกันล่ะ? ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นองค์ชายจากอาณาจักรศัตรู แต่ตราบใดที่เขาและพี่สองรักกันจริง ข้าก็จะยอมให้อาณาจักรหลงซานดำรงอยู่ภายใต้อาณาจักรของข้า นอกจากนี้ถ้าเขาตกหลุมรักพี่สองจริง ๆ เราก็คงจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันในไม่ช้าและไม่จำเป็นต้องจับตัวเขาแต่อย่างใด แต่ที่แน่ ๆ ก็คือข้าต้องบอกพี่สองเกี่ยวกับเรื่องนี้ซะก่อน”
โม่หยูถังยิ้ม “ฝ่าบาท ถ้างั้นกระหม่อมขอทำหน้าที่ไปบอกกับองค์หญิงใหญ่ด้วยตัวเอง! กระหม่อมขอทูลลา!”
“อืม! อย่าลืมย้ำให้พี่สองระวังตัวให้มากขึ้นและอย่าให้คนอื่นหลอกเอาได้” หลิงยี่เทียนยิ้ม “เอ…ว่าแต่ ข้าเองก็ไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์สราญรมย์มาสักพักแล้ว ข้าควรจะกลับไปด้วยตัวเองดีไหม?”
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก หลิงยี่เทียนก็พาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญ 3 คนไปที่คฤหาสน์สราญรมย์
เมื่อหลิงว่านถิงกลับมา หลิงยี่เทียนจึงเฉลยตัวตนของหยูเฉิงฮุยให้นางรู้
“น้องหก เจ้าบอกว่าเขามาจากราชวงศ์ของอาณาจักรศัตรู?” หลิงว่านถิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึง
“ถูกต้อง เขาเป็นน้องชายของจักรพรรดิอาณาจักรหลงซาน!” หลิงยี่เทียนพยักหน้า “อย่างไรก็ตามตราบใดที่พี่สองชอบเขาและเขาชอบท่าน ข้าสัญญาว่าข้าจะละเว้นอาณาจักรของพวกเขา ไม่ว่าจะยังไงโลกนี้ก็กว้างใหญ่มาก เราสามารถปล่อยให้พวกเขาดำรงอยู่ได้ต่อไปอย่างปกติสุข”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงว่านถิงจึงพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ ไม่เอ่ยความคิดเห็นอะไรของตัวขึ้นมาแม้แต่ครึ่งคำ