พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 581 กลายเป็นปุ๋ย
ขณะนี้ผู้คนเดินทางมายังตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งผลที่ตามมาเมื่อมีคนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมากก็คือความขัดแย้ง! จากนั้นการต่อสู้ก็บังเกิดไปทั่วทุกแห่ง และมีผู้คนล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก
ในเวลาเดียวกัน มีคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งได้เข้ามาถึงทุ่งสมุนไพรแล้ว ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็คือเหล่าผู้คนจากสำนักเพลิงสวรรค์ ส่วนผู้นำกลุ่มก็คือ เฉาปิง ผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักที่มีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ขอบเขตจักรพรรดิขั้นปลาย
เมื่อคนกลุ่มนี้เห็นสมุนไพรจำนวนมากอยู่ในทุ่งสมุนไพร เฉาปิงก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น “เด็ก ๆ เร็ว ๆๆๆ สมุนไพรเหล่านี้ล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับสวรรค์ขึ้นไปทั้งนั้น มาเร็วพวกเจ้ารีบมาเก็บมันไปให้หมด คราวนี้พวกเรารวยแล้ว!”
ด้วยคำสั่งของเฉาปิง บรรดาศิษย์ของสำนักเพลิงสวรรค์ต่างก็พากันแยกย้ายออกไปเก็บเหล่าสมุนไพรอย่างเมามันส์โดยไม่สนใจอะไร
เมื่อเวลาผ่านไปเพียงครู่เดียวเท่านั้น บรรดาสมุนไพรต่างก็เริ่มร่อยหลอลงไปเรื่อย ๆ
ในขณะที่เฉาปิงกำลังรู้สึกเป็นสุขอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเรียกเขา “เฮ้ย ไอ้หนู! นี่บิดามารดาเจ้าเป็นโจรกันรึไง?”
“ใครกัน?” เฉาปิงรู้สึกโมโหทันทีที่ถูกสบประมาทเช่นนี้ “ข้าคือผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักเพลิงสวรรค์ เฉาปิง เจ้าเป็นใครกัน!”
เมื่อพูดจบ เฉาปิงก็พยายามกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อหาผู้ที่ด่าเขา แต่เขากลับไม่เจอใครเลยสักคน
ในระหว่างที่เขากำลังสงสัย เสียงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ข้าอยู่นี่ หันหลังกลับและก้มลงมองที่พิ้น!”
เฉาปิงรีบหันหลังกลับและก้มหน้าลงไปมองที่พื้นทันที จากนั้นเขาก็ได้เห็นพืชประหลาดที่มีดอกไม้รูปร่างแปลกสองดอกอยู่บนต้น ซึ่งทั้งสองกลับมีสีที่แตกต่างกันคือสีขาวและสีดำ
เฉาปิงเหม่อมองด้วยความตะลึงอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็ระเบิดหัวเราะออกมาทันที “ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็สมุนไพรพูดได้นี่เอง! เจ้าเป็นสมุนไพรระดับจักรพรรดิใช่ไหม? เอาล่ะต่อไปนี้เจ้าคือของของข้า!”
ดอกไม้สีดำพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าไม่ถือสาอะไรหากเจ้าสายตาไม่ดี แต่นี่เจ้ากลับโง่เง่าอีกต่างหาก ข้าล่ะสมเพชเจ้าจริง ๆ!”
ดอกไม้สีขาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี “เอาน่า มันใช่ว่าทุกคนจะรู้จักเราซะเมื่อไหร่”
“ถ้างั้นมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเก็บไอ้โง่นี่ไว้สินะ?” ดอกไม้สีดำพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงรังเกียจ
เมื่อพูดจบ ดอกไม้สีดำก็ยิงลำแสงสีดำออกมาจากกลีบดอกไปยังเฉาปิงทันที
เฉาปิงได้แต่ยืนตะลึงงันเพราะเขาสัมผัสได้ว่าลำแสงนี้เขาไม่อาจหลบได้และไม่อาจต่อต้านได้ เพียงชั่วพริบตาที่ลำแสงสัมผัสโดยร่าง เฉาปิงก็สลายกลายเป็นฝุ่งผงพรมลงบนทุ่งสมุนไพรกลายเป็นปุ๋ยชั้นดี
“นี่ขนาดเจ้าเพิ่งจะได้ฝึกวิชามหาจันทราศักดิ์สิทธิ์ไปไม่นานเจ้าก็แข็งแกร่งขึ้นมากขนาดนี้แล้วงั้นเหรอ!” ดอกไม้สีขาวตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง “บ้าจริง! แล้วเมื่อไหร่ข้าจะได้ฝึกวิชาเทพสุริยะบ้างกัน! เฮ้ ไอ้พวกหัวขโมยอย่าได้คิดจะหนีเชียวนะ เทเหล่าสมุนไพรที่เจ้าเก็บไปทั้งหมดคืนมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้ากลายเป็นปุ๋ยให้หมดเลยคอยดู!”
แม้จะได้ยินเช่นนี้ แต่บรรดาศิษย์ของสำนักเพลิงสวรรค์มีหรือจะฟัง?
ผู้อาวุโสสูงสุดของพวกเขาถูกฆ่าตายโดยไม่มีโอกาสต่อต้านอะไรเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นพวกเขาจะกล้ารั้งอยู่ต่อได้ยังไง?
ดอกไม้สีขาวรู้สึกโมโหทันทีที่เหล่าศิษย์สำนักเพลิงสวรรค์ไม่ฟังเขา “ฮึ่ม! ในเมื่อพวกเจ้าไม่ฟังกัน งั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายอย่างน่าอนาถ!”
เมื่อพูดจบ จู่ ๆ ทั่วทั้งบริเวณทุ่งสมุนไพรก็มีอักขระโบราณจำนวนมากปรากฏขึ้น และจากนั้นเหล่าอักขระก็พุ่งไปประทับยังร่างของเหล่าศิษย์สำนักเพลิงสวรรค์ ส่งผลให้พวกเขาไม่อาจขยับร่างกายได้แม้แต่นิ้วเดียว
“ใครก็ได้มาตรงนี้ที! จงหยิบเอาสมุนไพรที่คนเหล่านี้เก็บไปออกมาจากร่างกายของพวกเขาและฝังร่างของพวกเขาลงไปในดินให้เหลือแต่หัวโผล่ขึ้นมา จากนั้นก็ปลูกสมุนไพรทั้งหลายที่โดนคนเหล่านี้รังแกลงบนหัวพวกเขาซะ ส่วนสมบัติของคนเหล่านี้ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าเก็บมันไว้ทั้งหมดได้!” ดอกไม้สีขาวตะโกนสั่งขึ้น
หลังจากได้ยินคำสั่ง ทาสรับใช้ผู้หนึ่งที่มีระดับการบ่มเพาะระดับสวรรค์สมบูรณ์ก็รีบบินไปหาบรรดาศิษย์ของสำนักเพลิงสวรรค์และทำตามที่ดอกไม้สีขาวสั่งทันที
ในเวลาเพียงครู่เดียวบรรดาสมุนไพรที่ถูกปลูกไว้บนศีรษะของเหล่าศิษย์สำนักเพลิงสวรรค์ก็เริ่มหยั่งรากลงไปในร่างกายของคนที่มันถูกปลูกติดไว้และเริ่มเติบโตมากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนบรรดาศิษย์สำนักเพลิงสวรรค์ที่ถูกฝังร่างลงในดินนั้นพวกเขาไม่สามารถต่อต้านอะไรได้เลย พวกเขาได้แต่มองดูพลังวิญญาณและพลังชีวิตของตนเองถูกสูบไปเรื่อย ๆ โดยสมุนไพรที่เขาเพิ่งดึงมันออกมาจากดินเมื่อครู่
ดอกไม้สีขาวมองไปยังเหล่าศิษย์สำนักเพลิงสวรรค์ด้วยสายตารังเกียจและพูดว่า “ในเมื่อพวกเจ้าไม่มีความเคารพให้กับพวกข้า พวกเจ้าก็ต้องเผชิญกับชะตากรรมเช่นนี้ จงจำไว้ซะว่าพวกข้าคือสมุนไพรระดับสูง ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะมาล้อเล่นด้วยได้!”
“ผู้อาวุโสพูดถูกแล้ว!” ทาสรับใช้ระดับสวรรค์สมบูรณ์รีบโค้งคำนับและเอ่ยขึ้นเสริมทันที
ดอกไม้สีดำเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงรำคาญ “หมดธุระแล้ว เจ้าก็ไปทำอะไรของเจ้าต่อไป”
ทาสรับใช้ระดับสวรรค์สมบูรณ์พยักหน้ารับทราบ และรีบจากไปทันทีพร้อมกับแหวนมิติจำนวนมากของเหล่าศิษย์สำนักเพลิงสวรรค์
ถึงแม้ว่าเขาจะกลายเป็นทาสรับใช้ให้กับเหล่าสมุนไพรทั้งหลาย แต่เขาก็รู้สึกว่าการเป็นเช่นนี้มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย
สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ใช้เขาให้ทำแต่งานง่าย ๆ ไม่อันตรายอะไรแม้แต่น้อย แถมส่วนใหญ่เขายังได้รับรางวัลตอบแทนเป็นของล้ำค่าหลายอย่างอีกต่างหาก
ในตอนนี้เขาคาดหวังไว้ว่าเมื่อไหร่ที่เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชัน เขาจะสามารถหลุดพ้นจากการเป็นทาสรับใช้ได้และยังอาจจะได้รับตำแหน่งเป็นศิษย์ของตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนแทน
ส่วนเรื่องความปลอดภัยของทุ่งสมุนไพรนั้นเขาไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่เขากลายเป็นทาสรับใช้ เขาก็เห็นชะตากรรมของเหล่าผู้คนที่คล้ายกับสำนักเพลิงสวรรค์มามากมายแล้ว
หากใครเข้ามาในทุ่งสมุนไพรและหยิบเอาสมุนไพรไปแค่เพียงไม่กี่ต้น พวกเขาก็จะปลอดภัยไร้ปัญหา แต่ถ้าหากใครโลภมากไล่เก็บเหล่าสมุนไพรเมื่อไหร่ พวกเขาจะถูกจัดการโดยสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ทันที
ซึ่งหลังจากที่ได้เห็นสมุนไพรล้ำค่ามากมายขนาดนี้ ใครกันจะอดใจไหวหยิบแค่ต้นสองต้นกัน?
ดังนั้นในท้ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนที่เริ่มเก็บสมุนไพร พวกคนเหล่านั้นก็ล้วนแล้วแต่ตายไปแทบจะทั้งหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งเหล่าศิษย์ของทั้ง 3 สำนักมหาอำนาจที่ถูกทิ้งรั้งท้ายให้เก็บสมุนไพรก็ไม่รอดเช่นกัน พวกเขาทั้งหลายต่างถูกทำให้กลายเป็นปุ๋ยเพื่อบำรุงเหล่าสมุนไพรที่อยู่ที่นี่จนหมด…
ในอีกด้านหนึ่ง กลุ่มของหลิงตู้ฉิงในตอนนี้ได้มาถึงห้องเก็บคัมภีร์เรียบร้อยแล้ว
“คัมภีร์เยอะมากจริง ๆ!” มู่หลงหยานเอ่ยขึ้น “แถมดูจากภายนอก คัมภีร์แต่ละเล่มมันน่าจะหายากกว่าของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์เราซะอีก!”
ถึงแม้ว่าคัมภีร์พวกนี้จะดูดี แต่นางก็ไม่กล้าที่จะแตะต้องมันก่อนที่จะได้ยินหลิงตู้ฉิงอนุญาต
เนื่องจากตั้งแต่เข้ามาในสถานที่แห่งนี้และรู้ว่ามันมีอันตรายรอบด้าน นางจึงไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรมั่วซั่ว ไม่เช่นนั้นชะตากรรมของนางเองอาจลงเอยไม่สวย
“นายท่าน ข้าหยิบมันดูได้ไหม?” หลงเฉินรีบถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงกวาดตามองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะพูดว่า “ทุกคนมีเวลา 12 ชั่วยาม! พวกเจ้าจะเลือกคัมภีร์เล่มไหนมาอ่านก็ได้แต่พวกเจ้าไม่สามารถนำมันติดตัวออกไปจากที่นี่ได้ สิ่งที่พวกเจ้าสามารถนำออกไปได้คือเนื้อหาในคัมภีร์ที่พวกเจ้าเก็บเอาไว้ในหัว และจำเอาไว้ให้ดีพวกเจ้ามีเวลา 12 ชั่วยามเท่านั้น ห้ามเกินไปกว่านี้เด็ดขาด!”
หลังจากที่หลิงตู้ฉิงพูดจบพอดี คนกลุ่มใหม่ก็ได้เดินเข้ามาในห้องเก็บคัมภีร์เช่นกัน
คนกลุ่มใหม่ที่เข้ามามีประมาณ 10 กว่าคน ซึ่งพวกเขาแต่ละคนนั้นไม่ได้อ่อนแอเลย คนที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำที่สุดคือระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ หรือขอบเขตสวรรค์ระดับ6 ส่วนผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มคือขอบเขตราชันขั้นกลาง
เมื่อพวกคนกลุ่มใหม่เข้ามาและเห็นว่าห้องนี้มันเต็มไปด้วยคัมภีร์เคล็ดวิชาต่าง ๆ มากมาย พวกเขาก็รีบวิ่งเข้าใส่และเปิดอ่านทันที
แต่มันก็ยังมีบางคนที่มองไปยังหลิงตู้ฉิงด้วยสายตาสงสัยพร้อมกับคิดในใจ ทำไมไอ้โง่คนนี้มันถึงยืนเฉย ๆ ไม่ยอมเปิดอ่านเคล็ดวิชาของที่นี่กัน?
ทางด้านของหลิงตู้ฉิงก็ไม่สนใจอะไรพวกกลุ่มคนที่เข้ามาใหม่ เขายืนมองไปยังบรรดาคนของเขาโดยที่มีหมิงยู่ยืนอยู่ข้าง ๆ คอยรับใช้
“นายท่าน มันจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเราไม่จากไปภายในเวลาที่กำหนด?” หมิงยู่ถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบว่า “อีกไม่นานเดี๋ยวเจ้าก็รู้”