พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 779 แผนการขยายเผ่าพันธ
เหล่าภูตดินคู่ชายหญิงที่ถูกเลือกมา 5 คู่ทำตามที่หลิงตู้ฉิงแนะนำกันอย่างเชื่อฟัง
เมื่อพวกเขาทุกตนลงไปแช่ในถังเลือดและเริ่มทำการผสานสายเลือดของพวกเขากับเลือดในถัง พวกเขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าเลือดในถังนั้นช่วยสลายพลังธาตุดินที่อยู่ในเลือดของพวกเขาไปมากจนมันเหลือแค่จำนวนที่เหมาะสม แถมยังทำให้สายเลือดของพวกเขามีพลังชีวิตเพิ่มมากขึ้นอีกต่างหาก
ด้วยความมหัศจรรย์ของผลลัพธ์ที่พวกเขาสัมผัสด้วยตัวเองได้ขนาดนี้ พวกเขาจึงยิ่งเชื่อมากขึ้นไปอีกว่าหลิงตู้ฉิงคือผู้กอบกู้เผ่าของพวกเขาแน่นอน
ขั้นตอนการผสานสายเลือดดำเนินไปถึง 1 เดือนเต็มถึงจะเสร็จสิ้น ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเหล่าภูตดินกระโดดออกมาจากถึงเลือด ร่างกายของพวกเขาก็เปล่งประกายดูมีชีวิตชีวาราวกับเป็นคนละตนกับในตอนแรกก่อนที่เข้าไปในถังเลือด
เหล่าภูตดินทั้ง 10 ตนต่างรู้ดีว่าในตอนนี้พลังชีวิตของพวกเขามันเปี่ยมล้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงมั่นใจเป็นอย่างมากว่าในตอนนี้การที่พวกเขาจะให้กำเนิดทายาทได้นั้นมันจะต้องเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมากกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
แต่แล้วในระหว่างที่พวกเขากำลังจะถูกเหล่าผู้อาวุโสของพวกเขาพาเดินจากไป หลิงตู้ฉิงรีบตะโกนขึ้นทันที “นี่พวกเจ้ากำลังจะทำอะไรกัน?”
บรรดาภูตดินต่างตอบขึ้นอย่างพร้อมเพรียง “พาพวกเขาไปให้กำเนิดทายาทโดยเร็วที่สุด!”
หลิงตู้ฉิงแสดงสีหน้าจนใจและพูดว่า “ข้าบอกไปแล้วไงว่าถ้าพวกเจ้ายังมีสัมพันธ์กันเองแบบนี้ อย่างมากที่สุดพวกเจ้าก็คงให้กำเนิดทายาทเพิ่มขึ้นได้อีกไม่เกิน 30 ตน แล้วจากนั้นพลังชีวิตในร่างของพวกเจ้าก็จะเหือดแห้งไปอีกรอบ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นเผ่าของพวกเจ้าก็สูญพันธุ์กันหมดอยู่ดี”
“ท่านผู้ส่งสาสน์ ถ้าอย่างนั้นพวกเราควรทำอย่างไรต่อท่านช่วยบอกพวกเราที!” ซวนหยวนตู่รีบเอ่ยถามขึ้นทันที
หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าหงุดหงิด “เจ้ารู้ไหมว่าข้าจ่ายราคาให้กับพวกเจ้าไปเท่าไหร่? ใบไม้ที่ข้าเด็ดออกมาให้พวกเจ้าแต่ละใบนั้นมีพลังชีวิตพอที่จะหล่อเลี้ยงโลกเสมือนได้ใบหนึ่งแบบสบาย ๆ นี่ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าร่างของบรรพบุรุษของพวกเจ้ามีค่ามากพอ ข้าจะไม่มีวันจ่ายราคาแบบนี้ให้กับพวกเจ้าแน่”
“และอีกอย่างพลังชีวิตที่ข้าเติมไปให้กับคนของเผ่าเจ้านั้นมันไม่ได้จะดำรงอยู่ไปตลอดกาล อย่างมากที่สุดมันก็ดำรงอยู่ได้แค่ 300 ปี แล้วเดี๋ยวมันก็จางหายไป หรือถ้าจะให้ข้าพูดสั้น ๆ ให้พวกเจ้าเข้าใจง่าย ๆ ก็คือภายในเวลา 300 ปีนี้ถ้าพวกเจ้ายังโง่งมหาวิธีผลิตทายาทได้ไม่มากพอ พวกเจ้าทั้งหมดก็สมควรตายแล้ว!”
“แต่ถ้าจะให้ข้าแนะนำ เจ้าก็ควรต้องพาคนของเจ้าออกไปมีสัมพันธ์กับเผ่าอื่น ๆ เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้ประโยชน์จากพลังชีวิตที่ยังมีอยู่ในร่างให้เป็นประโยชน์ที่สุด”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ซวนหยวนตู่ก็แสดงสีหน้าตื่นตระหนกในทันที และพูดว่า “แต่ว่าท่านผู้ส่งสาสน์ เวลา 30 0ปีนั้นมันสั้นมากจริง ๆ กว่าที่พวกเราจะตามหาเผ่าอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับเผ่าของเรา และกว่าที่พวกเขาจะมีลูกหลานออกมาเพื่อสืบทายาทต่อไปมันก็ใช้เวลาเป็นร้อยปีแล้วเหมือนกัน ดังนั้นด้วยเวลาแค่นี้พวกเราจะให้กำเนิดทายาททันได้ยังไง?”
“เจ้านี่มันโง่จริง ๆ!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เริ่มจะหมดความอดทน “ก็ข้าเตรียมชายหญิงให้เจ้า 5 คู่แล้ว เจ้าก็แค่ส่งพวกเขาออกไปมีสัมพันธ์กับเผ่าอื่น ๆ สิเจ้าโง่! เจ้าจะมาคิดถึงเรื่องหาความเหมาะสมบ้าบออะไรอยู่อีก เอาล่ะข้าขี้เกียจจะสนใจพวกบ้าบออย่างเจ้าแล้ว ตอนนี้ข้าถือว่าข้าได้ทำทุกอย่างตามสมควรเรียบร้อยและเสร็จภารกิจบ่มเพาะร่างของข้าแล้วด้วย ดังนั้นเดี๋ยวข้าจะเตรียมตัวออกเดินทางทันที”
“โปรดช้าก่อนเถอะท่านผู้ส่งสาสน์!” ซวนหยวนตู่รีบคุกเข่าลง “ท่านอยู่กับพวกเราต่อไปอีกสักหน่อยได้ไหมจนกว่าพวกเราจะผ่านพ้นหายนะครั้งนี้ พวกเราสาบานว่าพวกเราจะเชื่อฟังท่านทุกอย่าง!”
บรรดาภูตดินทั้งหลายที่ยืนอยู่ต่างก็คุกเข่าลงกันจนหมด
หลิงตู้ฉิงกลอกตาและพูดว่า “ข้าไม่เข้าใจว่าพวกเจ้าจะมามัวเสียเวลาคุกเข่าให้ข้าไปเพื่ออะไร ทำไมพวกเจ้าไม่เอาเวลานี้ส่งคนที่ข้าเตรียมไว้ออกไปหาเผ่าอื่นเพื่อผลิตทายาทซะ!”
เหล่าภูตดินต่างมองหน้ากันด้วยความลังเล แต่แล้วจู่ ๆ ซวนหยวนตู่กลับตะโกนขึ้นว่า “ท่านผู้ส่งสาสน์ ข้าขอเมตตาจากท่านโปรดท่านช่วยหญิงสาวของพวกเราให้กำเนิดทายาทของท่านด้วยเถอะ! ในฐานะที่ท่านเป็นผู้กอบกู้ของพวกเรา การมีสายเลือดของท่านไหลเวียนอยู่ในเผ่าของพวกเรานั้นว่าถือเป็นเกียรติสูงสุดของเผ่าพวกเราแล้ว!”
ภูตดินทั้งหลายเมื่อได้ยินเช่นนี้ก็นึกขึ้นได้ทันที เผ่าอื่นงั้นเหรอ?
พวกเขาจะออกไปตามหาให้ยากกันทำไมในเมื่อตอนนี้มีเผ่าอื่นยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาตั้งเยอะแยะ? แถมยังมีผู้กอบกู้ของพวกเขาที่แน่นอนว่าต้องมีสายเลือดที่สูงส่งรวมไปถึงหญิงสาวเผ่ามนุษย์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการให้กำเนิดได้ถี่ ๆ อยู่แล้ว
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็เริ่มจากผู้กอบกู้หรือผู้ส่งสาสน์ของพวกเขาก่อนเลยเป็นอันดับแรก!
หญิงสาวภูตดินทั้งห้าต่างมองหลิงตู้ฉิงด้วยสายตาเปล่งประกายในทันทีพร้อมกับคิดในใจ หากพวกนางสามารถร่วมรักกับผู้ส่งสาสน์ของพระเจ้าและให้กำเนิดบุตรของเขาได้ มันจะเป็นเกียรติต่อพวกนางไปจนวันตาย
แม่งเอ๊ย!
หลิงตู้ฉิงเกือบจะหลุดสบถออกไปเสียงดังเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่ซวนหยวนตู่ขอกับเขา
หากเขาสามารถให้กำเนิดบุตรได้ ป่านนี้ภรรยาของเขาที่อยู่ที่บ้านไม่มีลูกเต็มไปหมดแล้วงั้นเหรอ?
“อย่ามายุ่งกับข้า!” หลิงตู้ฉิงตะคอกกลับ
บรรดาคนอื่น ๆ ของหลิงตู้ฉิงที่เห็นว่าสถานการณ์กลายเป็นแบบนี้พวกเขาต่างก็ขำอยู่ในใจ แม้แต่อุลบายังมองอาจารย์ของเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด
นี่อาจารย์ของเขากำลังจะกลายเป็นพ่อวัวงั้นเหรอ?
ซวนหยวนตู่พูดขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าวิงวอน “ท่านผู้ส่งสาสน์ โปรดเห็นใจพวกเราเถอะ ยิ่งตอนนี้เวลาที่พวกเรายังเหลืออยู่มันก็น้อยลงเรื่อย ๆ ยิ่งท่านช่วยพวกเราเร็วมากเท่าไหร่โอกาสที่พวกเราจะรอดตายมันก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น”
หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าหงุดหงิดสุดขีด “เจ้าจงไปหาคนอื่นเอาซะ อย่ามายุ่งกับข้า… อ๋อจริงสิงั้นเอาแบบนี้ เดี๋ยวข้าจะให้พวกเจ้ายืมคนของข้า พ่อบ้านโม่ หลงเฉิน และอุลบา เพื่อให้พวกเขาช่วยพวกเจ้ากำเนิดทายาทก็แล้วกัน และพวกเจ้าจะให้พวกเขากลายเป็นผู้อาวุโสหรือบรรพบุรุษของเหล่าลูกหลานพวกเจ้าอะไรก็ตามใจพวกเจ้า!”
โม่หยูถัง หลงเฉิน และคนอื่น ๆ ที่กำลังหัวเราะอยู่ในใจ เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นโง่งมในทันที
“นายท่าน…” โม่หยูถังและหลงเฉินต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาตื่นตะลึง
“ท่านอาจารย์ ข้า…” อุลบาเองก็รู้สึกโง่งมเช่นกัน
หลิงตู้ฉิงหัวเราะด้วยสีหน้าสะใจและพูดว่า “พวกเจ้านี่ช่างโชคดีจริง ๆ ที่ในอนาคตพวกเจ้าจะได้กลายเป็นบรรพบุรุษของเผ่าภูตดิน ฮ่าฮ่าฮ่า เฮ้ เมื่อกี้พวกเจ้ายังหัวเราะกันในใจอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ทำไมพวกเจ้าไม่ขำกันแล้วล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เมื่อครู่เพราะสถานการณ์มันชวนขำจริง ๆ โม่หยูถังและหลงเฉินจึงลืมไปว่าเจ้านายของพวกเขาสามารถสัมผัสถึงอารมณ์ในใจของพวกเขาได้ มันจึงทำให้ตอนนี้พวกเขาโดนเล่นงานคืนอย่างแสนสาหัส
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็ผลักคนของเขาทั้ง 3 คนไปหาซวนหยวนตู่ และพูดว่า “เอาทั้งสามคนนี้ไปช่วยพวกเจ้า คนหนึ่งเป็นมนุษย์ คนหนึ่งเป็นมังกร อีกคนก็มีสายเลือด 3 สาย มนุษย์หิน วิญญาณอเวจี และปีศาจยักษ์ผสมอยู่ในร่าง นี่ถือว่าเผ่าของเจ้านั้นโชคดีจริง ๆ”
ซวนหยวนตู่รีบกวักมือส่งสัญญาณให้หญิงสาวภูตดินทั้งห้าวิ่งเข้ามาทันทีและพูดว่า “ขอบคุณสำหรับความเมตตาของท่านจริง ๆ ท่านผู้ส่งสาสน์! เร็วเข้า พวกเจ้ามาพาพวกเขาไปเร็ว พวกเจ้าทั้งจงทำให้แน่ใจว่าตัวพวกเจ้าเองจะต้องตั้งท้องกันจนครบ!”..
เมื่อได้ยินคำสั่ง ลิงสาวภูตดินทั้งห้าก็รีบวิ่งเข้าไปล้อมหลงเฉิน โม่หยูถังและอุลบาจากนั้นก็พาพวกเขาไปยังที่พักของพวกนาง
อันที่จริงไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องที่พวกเขาไม่อาจฝ่าฝืนคำสั่งของหลิงตู้ฉิงได้ หลงเฉินและอุลบาเมื่อเห็นว่ารูปร่างของลิงสาวภูตดินทั้งห้าเองก็ไม่เลว ดังนั้นพวกเขาจึงนึกอยากลองของแปลกอยู่เหมือนกัน ยกเว้นก็แต่โม่หยูถังที่ไม่เคยนึกฝันและไม่เคยอยากจะมีอะไรกับลิง ต่อให้จะเป็นลิงสาวที่สวยที่สุดในสามโลกก็ตาม!
หลังจากพวกหลงเฉินถูกพาไปแล้ว ซวนหยวนตู่ก็เบนสายตามาที่หยุนจื่อรุ่ย เปียนเฉียวเฉียว อี้ลั่วเอ๋อ และคนอื่น ๆ
สีหน้าของอี้ลั่วเอ๋อ และคนอื่น ๆ ซีดลงทันทีและรีบตะโกนขึ้นว่า “อย่ามามองที่พวกข้านะ พวกข้าคือผู้หญิงของนายท่าน ถ้าไม่ใช่นายท่านแล้วข้าไม่มีทางยอมให้ใครมาแตะต้องร่างกายของพวกข้าเด็ดขาด!”
แม้แต่ชิวเจี้ยนปิงที่เป็นสมาชิกใหม่ก็ยังรีบพูดขึ้นว่า “ข้า…ข้าเองก็เป็นผู้หญิงของนายท่านเหมือนกัน นายท่านข้าเป็นผู้หญิงของท่านนะ ท่านอย่าส่งข้าไปให้กับพวกเขานะ!”
ตอนนี้นางกลัวเป็นอย่างมากว่าหลิงตู้ฉิงจะส่งนางออกไป เพราะนางเป็นคนใหม่ที่เพิ่งมาเข้าร่วม ซึ่งมันอาจทำให้เขาเห็นว่านางยังไม่มีความสำคัญเพียงพอ
หลิงตู้ฉิงมองไปที่ซวนหยวนตู่ และพูดว่า “เจ้าอย่าได้มีความคิดพิเรนทร์ ๆ กับคนของข้าที่เหลือ ไม่เช่นนั้นไม่พียงแต่เผ่าของเจ้าจะไม่มีทายาทเพิ่ม ข้ายังจะฆ่าล้างเผ่าของเจ้าให้หมดกับมือเลยด้วยซ้ำ จงให้ภูตดินเพศชายทั้งห้าของเจ้าออกไปข้างนอกเพื่อหาหญิงสาวเผ่าอื่นที่พวกเขาจะมีสัมพันธ์ด้วยตัวเองซะ ที่ข้านอกนั่นมีหญิงสาวเผ่าอื่นอยู่เป็นล้าน ๆ คนพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะหาไม่เจอ”
ซวนหยวนตู่ถอนหายใจ “ท่านผู้ส่งสาสน์ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ท่านต้องเข้าใจก่อนว่าพวกเขาไม่เคยเดินทางออกไปอาณาเขตเหยาชานมาก่อนเลยในชีวิต และที่ข้างนอกนั่นก็มีพวกคนหยาบช้าอยู่เต็มไปหมด ข้าเกรงว่าขืนข้าส่งให้พวกเขาออกไปกันเองพวกเขาคงอยู่รอดได้ไม่ถึง 3 เดือนแน่ ๆ อย่าว่าแต่ 300 ปีที่พลังชีวิตของพวกเขาจะเหือดแห้งเลย”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพอถึงเวลาที่ข้าเดินทางออกไปจากที่นี่ เจ้าก็ให้พวกเขาติดตามข้าออกไปก็แล้วกัน แต่เจ้าเองก็อย่าลืมที่จะส่งคนของเจ้าออกมาปกป้องพวกเขาด้วยล่ะ”
“ขอบคุณมากท่านผู้ส่งสาสน์!” เหล่าภูตดินต่างตะโกนโห่ร้องกันด้วยความดีใจ