พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 839 เผยตัวจนครบ

หลินหงเหวินมองไปที่เผิงติงเทียนด้วยอารมณ์เย้ยหยันในใจ

ในความเป็นจริง หลินหงเหวินพอจะเดาได้อยู่แล้วว่า เผิงติงเทียนนั้นพุ่งเป้าไปที่หลินหรูซวนหลานสาวของเขา ซึ่งถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงจะตอบปฏิเสธไปในทันที

แต่ว่าตอนนี้หลินหรูซวนได้ถ่ายทอดท่วงทำนองที่เอาไว้ใช้ควบคุมหอคอยเสียงสวรรค์ให้กับเขาแล้ว ซึ่งต่อให้ตระกูลเผิงจะได้ตัวหลินหรูซวนไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร

และประเด็นที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ตอนนี้หลินหรูซวนนั้นถูกหมายปองโดยอู๋หมิงไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากว่าเผิงติงเทียนต้องการที่จะชิงนางไปจริง ๆ อู๋หมิงจะต้องไม่ยอมแน่นอน และด้วยความแข็งแกร่งของอู๋หมิงบวกกับเขาและกงเจี้ยนฟาน เขามั่นใจว่าเขาน่าจะพอต้านทานเผิงติงเทียนได้ไหวหากมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น

และถ้าหากว่าพวกเขาสามารถโค่นเผิงติงเทียนได้สำเร็จจริง ๆ ด้วยอำนาจของหอคอยเสียงสวรรค์ ในอนาคตตระกูลของเขาจะกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของอาณาเขตหนานหัวแน่นอน!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลินหงเหวินจึงยังคงตีหน้าซื่อตอบกลับเผิงติงเทียนไปว่า “พี่เผิง หากหลานชายของท่านหมายปองหลานสาวข้าคนอื่น ข้าคงจะไม่ขัดอะไรแน่นอน แต่ถ้าหากท่านจะสู่ขอหลานสาวคนโตของข้ามันคงจะยากสักหน่อยล่ะนะ”

เผิงติงเทียนแสดงสีหน้ามืดหม่นทันทีและถามกลับว่า “นี่ท่านกำลังจะบอกว่าหลานชายของข้าไม่คู่ควรกับหลานสาวคนโตของท่านงั้นเหรอ?”

ในความคิดของเผิงติงเทียน เรื่องแต่งงานที่เขายกขึ้นมานั้นมันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งเพ

เป้าหมายที่แท้จริงของเขานั้นต้องการเพียงแค่อยากหาข้ออ้างลงมือกับตระกูลหลินแค่เพียงเท่านั้น

เขาแค่อยากหาข้องอ้างที่ดูไม่น่าเกลียดเกินไปเพื่อที่จะลงมือใช้กำลังกับตระกูลหลิน ซึ่งในท้ายที่สุดเขาจะได้ชิงหอคอยเสียงสวรรค์มาเป็นของตัวเอง

หลินหงเหวินไม่สนใจว่าเผิงติงเทียนจะแสดงท่าทีอย่างไร เขายิ้มและตอบกลับว่า “ไม่ใช่แบบที่ท่านคิดเลยพี่เผิงให้ข้าอธิบายก่อนแล้วกัน อันดับแรกหากหลานชายของท่านจะแต่งงานกับหลานสาวของข้า พวกเราจะต้องถามนางก่อนว่ายินยอมหรือไม่และปัญหาถัดมาก็คือในตอนนี้ความสัมพันธ์ของหลานสาวข้ากำลังดำเนินไปด้วยดีกับคุณชายอู๋หมิง ซึ่งเป็นปรมาจารย์จิตกรที่ท่านก็เคยเจอเขาแล้ว ซึ่งจากที่ข้าเฝ้าติดตามความสัมพันธ์ของพวกเขามาได้สักพัก ข้าจึงต้องขอเอ่ยขึ้นก่อนว่ามันคงไม่ง่ายนักที่หลานสาวของข้าจะตอบตกลงกับหลานชายของท่านได้อย่างง่าย ๆ”

เผิงติงเทียนแสดงสีหน้าไม่พอใจ จากนั้นเขาพูดว่า “ท่านยังไม่ทันได้ถามหลานสาวของท่านเลยว่านางมีความคิดเห็นยังไง ดังนั้นข้าคิดว่าท่านอย่าเพิ่งคิดไปเองจะดีกว่า เอาเป็นว่าท่านเรียกนางมาถามตอนนี้เลยจะเป็นการดีที่สุด!”

“ในเมื่อพี่เผิงไม่เชื่อข้า งั้นข้าจะเรียกให้นางเข้ามาตอบท่านก็แล้วกัน!” หลินหงเหวินยิ้ม

หลินหงเหวินวางแผนไว้ในใจว่าหากเขาเรียกหลินหรูซวนเข้ามา อู๋หมิงจะต้องตามมาด้วยแน่นอน และเมื่อถึงเวลานั้นอู๋หมิงจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องลงมือปกป้องหลานสาวของเขา!

ไม่นานต่อมา หลินหรูซวนก็เดินเข้ามาพร้อมกับหลิงตู้ฉิง

หลินหงเหวินอธิบายทุกอย่างให้หลานสาวของเขาได้ฟังก่อนที่เขาจะพูดว่า “ซวน เจ้าสามารถตัดสินใจได้เลยตามที่ใจของเจ้าปรารถนา ไม่ว่าเจ้าจะตัดสินใจอย่างไรปู่จะสนับสนุนเจ้าทุกอย่าง”

หลินหรูซวนพยักหน้า จากนั้นนางหันไปหาหลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ข้าให้ท่านตัดสินใจแทนก็แล้วกัน!”

หลิงตู้ฉิงจ้องเขม็งไปที่หลินหงเหวินด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย เพราะเขารู้ว่าหลินหงเหวินจงใจยืมมือเขาฆ่าคน แต่ถึงแม้ว่าเขาจะรู้เช่นนี้ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้าช่วย

“ในเมื่อเจ้าให้ข้าตัดสินใจแทน ถ้างั้นคำตอบของข้าคือข้าไม่อนุญาต!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้น

เผิงติงเทียนหรี่ตามองหลิงตู้ฉิง และพูดว่า “ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นจิตรกรที่มีฝีมือ แต่ระดับการบ่มเพาะของเจ้านั้นอยู่แค่ขอบเขตนภา ดังนั้นเจ้าควรจะทำตัวให้มันมีเหตุผลมาก ๆ หน่อย ไม่เช่นนั้นหากเจ้าตายที่ต่างแดนขึ้นมาเจ้าจะโทษใครไม่ได้นอกจากตัวของเจ้าเอง!”

“เจ้าขู่ข้างั้นเหรอ?” หลิงตู้ฉิงถามกลับ

“ข้าพูดตามหลักการความเป็นจริงของโลกที่มันเป็นไป!” เผิงติงเทียนเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเย็นชา “เอาเป็นว่างั้นข้าขอพูดเลยก็แล้วกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามวันนี้ตระกูลหลินต้องยอมตกลงให้หลานชายของข้าได้แต่งงานกับหลินหรูซวน ไม่เช่นนั้นข้าจะถือว่าตระกูลหลินไม่ให้เกียรติข้า!”

“พี่หลิน การที่ท่านมาบังคับกันแบบนี้มันออกจะเกินไปหน่อยรึเปล่า?” หลิงหงเหวินพูดขึ้น “ถึงแม้ว่าตระกูลหลินของข้าจะไม่ใช่ตระกูลที่ไร้เทียมทานที่สุด แต่พวกข้าเองก็ไม่เคยหวั่นเกรงใครโดยเฉพาะเมื่อพวกข้าถูกรังแกก่อน ซึ่งในตอนนี้ท่านทำตัวไม่มีมารยาทกลางงานมงคลของหลานชายข้า ดังนั้นข้าจึงต้องขอเชิญท่านให้ท่านจากไปซะ และนับจากนี้ตระกูลหลินของข้าไม่ต้อนรับท่านอีกต่อไป!”

กงเจี้ยนฟานพูดขึ้นเสริมเช่นกันว่า “วันนี้เป็นงานมงคลของหลานสาวข้าเช่นกันและข้าเองก็จะไม่ยอมให้ใครมาก่อกวนพิธีสมรสของหลานสาวข้า! พี่เผิง โปรดกลับไปซะ!”

เผิงติงเทียนหัวเราะด้วยสีหน้าเย็นชาและพูดว่า “ข้าบอกพวกเจ้าไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าวันนี้ข้าจะต้องได้ในสิ่งที่ข้าต้องการให้ได้!”

เมื่อพูดจบ เผิงติงเทียนก็พุ่งตัวไปหาหลินหรูซวนทันทีหวังจะจับตัวนางไว้

ทางด้านของหลินหงเหวินที่คอยระวังอยู่แล้ว เขาตอบโต้ทันทีโดยการพุ่งตัวมาขวาง ส่งผลให้เผิงติงเทียนจับตัวหลินหรูซวนไม่สำเร็จ

“เผิงติงเทียน นี่เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้า?” หลินหงเหวินตวาดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา

“หลานชายของข้าจะต้องได้แต่งงานกับนาง!” เผิงติงเทียนตอบกลับด้วยสีหน้าแน่วแน่

“ในเมื่อเจ้าไม่ไว้หน้ากันขนาดนี้ ถ้างั้นก็อย่าได้โทษข้าที่จำเป็นต้องรุนแรงกับเจ้า! ซือหยวน เปิดใช้งานค่ายกลป้องกันของตระกูลเราเดี๋ยวนี้!” ในตอนนี้หลินหงเหวินถึงจุดเดือดแล้วเช่นกัน

หลังจากสิ้นเสียงคำสั่ง ค่ายกลป้องกันของตระกูลหลินก็ถูกเปิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้มีม่านพลังปกคลุมล้อมรอบทั่วเกาะ

“เผิงติงเทียน ถึงแม้ว่าเจ้าอยากจะหนีไปตอนนี้มันก็สายไปแล้วและข้าคงต้องบอกกับเจ้าว่าวันนี้ข้าคงไม่อาจปล่อยให้เจ้ารอดชีวิตออกไปได้!” หลินหงเหวินพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา

ในทางกลับกัน เผิงติงเทียนกลับแสดงสีหน้าไม่ได้ทุกข์ร้อนใด ๆ เลย

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมหลินหงเหวินถึงไม่เอาเรื่องหลินซือหยวนที่ทรยศตระกูล แต่ในเมื่อตอนนี้ซือหยวนยังคงปลอดภัยดีแถมยังลอบติดต่อกับเขาอยู่เหมือนเดิม ดังนั้นเขาจะต้องกลัวอะไร?

เผิงติงเทียนถอนหายใจและพูดขึ้นว่า “เจ้าคิดว่าค่ายกลป้องกันที่เจ้ากำลังพึ่งพาอยู่ตอนนี้มันช่วยเจ้าได้จริง ๆ งั้นเหรอ? เจ้าเคยคิดบ้างรึเปล่าว่าถ้าจู่ ๆ เจ้าไม่มีค่ายกลป้องกันให้พึ่งพาแล้วเจ้าจะทำยังไง? เอาล่ะปิดค่ายกลไปได้แล้ว!”

หลินหงเหวินรู้สึกงุนงงกับประโยคที่เผิงติงเทียนเอ่ยขึ้นเป็นอย่างมาก

ปิดค่ายกล? ใครกันจะโง่ปิดค่ายกลให้มัน?

แต่แล้วหลังจากที่เผิงติงเทียนพูดจบแค่เพียงอึดใจเดียว ค่ายกลป้องกันของตระกูลหลินก็ถูกปิดลงจริง ๆ!

สมาชิกตระกูลหลินแทบทุกคนต่างรู้สึกตกตะลึงจนตาค้าง ส่วนทางด้านของหลินหงเหวินกวาดสายตามองในทันทีเพื่อหาว่าใครเป็นผู้ที่ปิดค่ายกลลง ซึ่งเขาก็เห็นได้ในทันทีว่ามีคนของฝั่งเขามากกว่า 10 คนที่เดินไปหาเผิงติงเทียน!

“ซือหยวน? หงตู่?” หลินหงเหวินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึง “นี่พวกเจ้าหักหลังข้างั้นเหรอ? พวกเจ้าทำแบบนี้ได้ยังไงนี่มันบ้านของพวกเจ้าเองแท้ ๆ!?”

หลินหงเหวินไม่คิดอะไรมากเท่าไหร่กับคนอื่น ๆ ที่หักหลังเขาและไปเข้าร่วมกับเผิงติงเทียน แต่สำหรับหลินซือหยวนและหลินหงตู่ คือญาติของเขาแท้ ๆ แต่กลับมาหักหลังเขาแบบนี้เขารับไม่ได้!