พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 877 ภูเขาที่เต็มไปด้วยรูปปั้น
บรรดาผู้คนที่ติดตามถังชี่หยุนต่างหวังเป็นอย่างมากว่านางจะได้กลายเป็นมหาปราชญ์
แต่แล้วในตอนนี้จู่ ๆ นางกลับหันหลังกลับซะอย่างนั้น ซึ่งมันทำให้พวกเขาหลายคนต่างรู้สึกลังเลว่าจะตามนางต่อไปดีไหม?
หลิงตู้ฉิงมองไปที่เหล่าผู้คนที่แสดงสีหน้าลังเล จากนั้นเขาส่ายหัวและพาลูก ๆ ของเขาเดินตามถังชี่หยุนต่อไป
ส่วนพวกศิษย์ของถังชี่หยุนทั้งหลาย บางส่วนก็ตามนางต่อไปด้วยสีหน้ามุ่งมั่น แต่บางส่วนกลับแสดงสีหน้าลังเล และเมื่อพวกเขาทนไม่ไหวพวกเขาจึงตะโกนขึ้นอย่างไม่เกรงใจว่า “เหตุผลที่ข้าตามเจ้าก็เพราะข้าหวังว่าสักวันหนึ่งข้าจะบรรลุกลายเป็นปราชญ์ แต่ในเมื่อเจ้าถอดใจแบบน้ข้าก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแยกทางกับเจ้าตอนนี้เพื่อไปติดตามผู้ที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าเจ้า ยกตัวอย่างเช่น ปราชญ์จางจิงหง ซึ่งน่าจะมีความหวังที่จะได้ปราชญ์มากกว่าเจ้ามากนัก!”
เมื่อพูดจบ หลายคนก็แยกตัวเดินลึกเข้าไปในทะเลแห่งความรู้ แต่สิ่งที่คนเหล่านั้นไม่ทันคิดก็คือทะเลแห่งความรู้นั้นไร้จุดจบและกว้างใหญ่ไพศาล ดังนั้นพวกเขาจะตามหาปราชญ์คนอื่นได้ง่าย ๆ ได้ยังไง?
ดังนั้นชะตากรรมของพวกเขาส่วนใหญ่จึงจบที่การหลงทางอยู่ด้านใน หรือจนกว่าพวกเขาจะตัดสินใจเดินย้อนกลับทางเดิม
หลังจากผ่านไปครึ่งวัน ถังชี่หยุนก็เดินกลับมาถึงชายฝั่งอีกครั้ง
แต่ว่าครั้งนี้เมื่อมาถึงฝั่งทุก ๆ คนกลับไม่เห็นคนอื่น ๆ ที่ตั้งค่ายพักรอพวกเขาอยู่ในตอนแรกแม้แต่คนเดียว
“พวกเขาหายไปไหนกันหมด?” ใครบางคนอุทานขึ้น
หลิงตู้ฉิงยิ้มและเอ่ยขึ้นว่า “พวกเราได้มาถึงอีกฝั่งหนึ่งแล้ว”
เมื่อได้ยินดังนี้คนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกตกตะลึงในทันที
นี่คืออีกฝั่งหนึ่งของทะเลแห่งความรู้ที่ทุกคนต้องข้ามมาถึงงั้นเหรอ?
ทุก ๆ คนต่างมองสำรวจภูมิประเทศรอบ ๆ ทันที ซึ่งพวกเขาก็เห็นว่าไม่ไกลมากนักมีภูเขาลูกหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่และรอบ ๆ ภูเขามีเส้นทางหลายสายที่สามารถใช้เป็นเส้นทางขึ้นไปสู่ยอดเขาและทุกเส้นทางนั้นจะมีรูปปั้นจำนวนมากถูกตั้งเรียงรายขนาบ 2 ไหล่ทางอยู่เรื่อย ๆ
“พวกเราต้องขึ้นไปบนยอดเขา!” หลิงตู้ฉิงเตือนคนอื่น ๆ
ถังชี่หยุนพยักหน้า จากนั้นนางจึงเดินนำทุก ๆ คนมุ่งหน้าไปยังเส้นทางขึ้นยอดเขา ซึ่งเป็นบันไดหิน
เมื่อเดินขึ้นไปได้ไม่กี่ขั้น ถังชี่หยุนก็หยุดตรงหน้ารูปปั้นแรกของเส้นทางนี้
ดวงตาของรูปปั้นเปิดออกทันทีเมื่อถังชี่หยุนหยุดอยู่ตรงหน้ามัน จากนั้นมันคุยกับนางด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข
ทางด้านของถังชี่หยุนก็เปิดหนังสือของนางออกและอ่านสิ่งที่อยู่ในหนังสือให้กับรูปปั้นฟัง พร้อมกันนั้นนางก็จดทุกคำพูดของรูปปั้นลงไปด้วย
“ท่านพ่อ ครูถังนางกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?” หลิงฟ่างหัวอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
พวกเขาทุกคนต่างเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้ถังชี่หยุนกำลังคุยอยู่กับรูปปั้น แต่ว่าพวกเขาทุกคนต่างไม่ได้ยินบทสนทนาเลยแม้แต่คำเดียว ดังนั้นด้วยความสงสัย หลิงฟ่างหัวจึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงยิ้มและอธิบายว่า “พวกเขากำลังเรียนรู้กันอยู่! รูปปั้นหินทั้งหมดที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้คือเจตจำนงที่มหาปราชญ์รุ่นก่อน ๆ ได้ทิ้งเอาไว้”
“ครูถังในตอนนี้กำลังอธิบายหลักการของนางกับเจตจำนงของมหาปราชญ์รุ่นก่อนอยู่ และในเวลาเดียวกันนางก็กำลังเรียนรู้คำสอนของมหาปราชญ์รุ่นก่อนเช่นกันเพื่อเอามาพัฒนาความรู้ของนางเอง ซึ่งขั้นตอนนี้สำคัญมากและไม่อาจที่จะถูกใครรบกวนได้ และโดยปกติรอบ ๆ ภูเขานี้จะมีการปะทะกันอย่างรุนแรงเกิดขึ้น”
“ท่านพ่อ ถ้างั้นหากฝั่งตรงข้ามเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันขึ้นไป มันไม่ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถใช้เจตจำนงของพวกเขามารบกวนแม่ของข้าได้อย่างง่ายดายเลยงั้นเหรอ?” หมิงจู้ถามขึ้นด้วยสีหน้ากังวล
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ไม่ต้องกังวล มีเพียงอย่างเดียวที่สามารถขัดขวางขั้นตอนนี้ได้ก็คือแม่ของเจ้าจะต้องถูกรบกวนโดยการสัมผัสโดยตรงเท่านั้น หากเป็นเจตจำนง พลังแห่งกฎ พลังวิญญาณ หรือเศษเสี้ยวของจิตสำนึกหรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่การสัมผัสโดยตรงมารบกวน มันจะไม่มีผลอะไรเลย แถมผู้ที่ใช้วิธีเหล่านั้นกลับจะต้องโดนผลสะท้อนกลับอย่างรุนแรงจากเจตจำนงของมหาปราชญ์รุ่นก่อนอีกต่างหาก”
เมื่อได้ยินคำยืนยันเช่นนี้ของหลิงตู้ฉิง สีหน้าของหมิงจู้จึงดีขึ้นเป็นอย่างมาก
แต่หลังจากที่หลิงตู้ฉิงเพิ่งจะพูดจบเพียงครู่เดียว จางจิงหงและคนของเขาก็ปรากฏตัวออกมาจากทะเลแห่งความรู้
ทางด้านของจางจิงหง เมื่อเห็นว่ามีคนมาถึงก่อนแล้วเขาก็ขมวดคิ้วทันที และจากนั้นเขาก็รีบเดินขึ้นบันไดมาพูดคุยรูปปั้นที่ยังว่างอยู่
“ท่านพ่อ พวกเราจะสู้กับพวกเขาไหม?” หลิงไช่หยุนถามขึ้นด้วยสีหน้ากระตือรือร้น
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “พ่อบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าพวกเราจะโจมตีแต่เฉพาะจางไป๋ฟานเท่านั้น สำหรับกลุ่มอื่นพวกเราจะไม่โจมตีพวกเขาก่อนหากพวกเขาไม่โจมตีเรา!”
“ถ้างั้นตอนนี้มันก็ได้เวลาที่พวกเราต้องลงมือแล้วล่ะท่านพ่อ” หลิงฟ่างหัวหัวเราะพลางชี้ไปที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันของกลุ่มจางจิงหงที่กำลังเดินเข้ามาหา
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันเดินมาหยุดที่ตรงหน้ากลุ่มของหลิงตู้ฉิง และพูดว่า “ข้าคงต้องล่วงเกินพวกเจ้าแล้ว!”
หลิงตู้ฉิงชี้ไปที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชัน ซึ่งเป็นศิษย์ของถังชี่หยุนผู้หนึ่งและพูดว่า “เจ้าจงออกไปจัดการเขา และถ้าหากว่าเจ้าไม่ใช้กำลังทั้งหมดที่มีในการสู้ล่ะก็ข้าเอาเจ้าตายแน่!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันที่เพิ่งถูกสั่งเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาก็รีบตอบรับทันทีด้วยสีหน้าร้อนรน “ข้าจะใช้พลังทั้งหมดที่มีแน่นอน!”
หลังจากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมามันทำให้เขารู้ว่าหลิงตู้ฉิงนั้นไม่ใช่คนที่จะสามารถล้อเล่นด้วยได้ และถ้าหากเขายังอยากที่จะมีเอี่ยวในเรื่องนี้อยู่ เขามีทางเลือกเดียวคือต้องทำตามที่หลิงตู้ฉิงสั่งทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นเขาจะถูกคัดออกทันที
เมื่อจางจิงหงเห็นเช่นนี้ เขาก็ส่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันของฝั่งเขาอีกคนเพื่อให้ไปรบกวนถังชี่หยุนต่อ ซึ่งหลิงตู้ฉิงก็ทำเช่นเดิมคือ เลือกผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันของฝั่งตนเองออกไปรับมือโดยที่ไม่สนใจที่จะส่งคนออกไปเพิ่มเติมเพื่อไปรบกวนจางจิงหงคืน
จางจิงหงขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม เมื่อเห็นทัศนคติเช่นนี้ของหลิงตู้ฉิง ดังนั้นเขาจึงเลิกที่จะส่งคนของเขาออกไปเพิ่ม
ไม่นานต่อมาคนกลุ่มใหม่ก็ออกเดินออกมาจากทะเลแห่งความรู้ ซึ่งปราชญที่เป็นผู้นำกลุ่มเมื่อเขาเห็นว่ามีอยู่ 2 กลุ่มแล้วที่มาถึงก่อน เขาก็ขมวดคิ้วและรีบพาคนของเขาเดินขึ้นเขาโดยใช้เส้นทางที่ยังว่างอยู่และคุยกับกับรูปปั้นที่อยู่ใกล้สุดทันที
จากนั้นกลุ่มอื่น ๆ ก็เริ่มปรากฏกายขึ้นเรื่อย ๆ ทีละกลุ่ม ๆ
ในความเป็นจริงแล้วการผ่านทะเลแห่งความรู้นั้นไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไหร่สำหรับปราชญ์ทั้งหลาย สิ่งที่แตกต่างกันก็มีเพียงแค่ใครที่จะสามารถฉุกคิดได้ก่อนก็เท่านั้น
กลุ่มของจางไป๋ฟานเป็นกลุ่มที่ 5 ที่ปรากฏขึ้น และเมื่อเขาเห็นว่ามีถึง 4 กลุ่มที่มาถึงก่อนเขาแล้ว เขาก็รีบเดินไปใช้อีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งยังไม่มีคนใช้และรีบคุยกับรูปปั้นในทันที
ในทางกลับกัน เหล่าศิษย์ของจางไป๋ฟานเมื่อเห็นว่ากลุ่มของหลิงตู้ฉิงนั้นอยู่อีกเส้นทาง ซึ่งอยู่ไม่ไกลและด้วยความแค้นที่สั่งสมมาก่อนหน้านี้ พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะส่งคนออกไปโจมตีถังชี่หยุนทันที
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นศิษย์ของจางไป๋ฟานบินข้ามมาหาถังชี่หยุน จากนั้นเขาปลดปล่อยพลังเจตจำนงของเขาเองโจมตีถังชี่หยุนในทันที
เห็นได้ชัดว่ากลุ่มของจางไป๋ฟานไม่มีใครรู้ว่าการโจมตีปราชญ์ที่กำลังคุยอยู่กับรูปปั้นโดยการใช้เจตจำนงเช่นนี้มันเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์!
ทางฝั่งของกลุ่มศิษย์ของถังชี่หยุน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้ยินที่หลิงตู้ฉิงอธิบายแล้วแต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลในความปลอดภัยของถังชี่หยุน ดังนั้นพวกเขาบางคนจึงปล่อยเจตจำนงของตัวเองเสร้างเป็นโล่เพื่อปกป้องถังชี่หยุนจากการโจมตีเช่นกัน
“เก็บเจตจำนงของพวกเจ้าเข้าไป ปล่อยให้มันโจมตีเข้ามาตามที่มันต้องการได้เลย!” หลิงตู้ฉิงโบกมือ
ด้วยความเชื่อใจที่พวกเขามีต่อหลิงตู้ฉิง บรรดาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันที่เป็นศิษย์ของถังชี่หยุน เมื่อได้ยินเช่นนี้พวกเขาก็ดึงพลังของตัวเองกลับทันที ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันของฝั่งจางไป๋ฟานใช้เจตจำนงโจมตีถังชี่หยุนได้อย่างเต็มที่
“เฮ้ย! อย่ามาสร้างเสียงดังแถวนี้ข้ารำคาญ!” รูปปั้นตวาดขึ้นทันทีเมื่อเจตจำนงของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันเข้ามาใกล้ร่างของถังชี่หยุน
เมื่อตวาดเสร็จ รูปปั้นสะบัดมือส่งพลังตบผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันของฝั่งจางไป๋ฟานจนกระเด็นหายไปไกลลิบ ซึ่งเขาตายหรือเปล่าไม่มีใครทราบได้!