พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 887 ผู้สำเร็จเต๋าคนที่สอง
เมื่อเย่เจียงไห่ได้ยินหลิงตู้ฉิงเอ่ยถึงศิษย์มากพรสวรรค์ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังลั่น
ก่อนหน้านี้หลังจากที่เขาชี้แนะมู่เฉียนหลิงไปได้ไม่เท่าไหร่ เขาก็รู้ได้ว่าแท้จริงแล้วนางมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนเพลิงหนานหมิงของเขาเป็นอย่างมาก ซึ่งมันทำให้เขาสามารถวางใจได้ว่าหลังจากที่เขาขึ้นไปอยู่บนโลกเบื้องบน ศิษย์ของเขาคนนี้จะสามารถดูแลตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนต่อจากเขาได้ดีอย่างแน่นอน
“เสนอทางรวย? เจ้าหมายความว่ายังไง?” เย่เจียงไห่ถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “อีกไม่นานข้าจะบุกไปทำลายสำนักเงินตรา หากเจ้าอยากได้ส่วนแบ่งเจ้าก็ไปกับข้า!”
เย่เจียงไห่กลอกตาทันทีและพูดว่า “สำนักเงินตรานั้นเป็นสำนักที่มีมาตั้งแต่ยุคของข้า ซึ่งความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นจัดได้ว่าอยู่ใน 3 อันดับแรกของโลกเบื้องล่าง ถ้าให้ข้าเดาก่อนหน้ามาเจอข้า เจ้าคงไปชวนคนอื่น ๆ มาหลายคนแล้วใช่ไหม? แต่ข้าคงต้องบอกเอาไว้ว่าถึงแม้จะมีคนเพิ่มมากขึ้นมันก็ไม่ง่ายนักที่พวกเราจะเอาชนะพวกเขาได้”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “เพราะมันไม่ง่ายที่จะเอาชนะพวกเขา ดังนั้นเจ้าจึงจำเป็นต้องทะลวงระดับขึ้นไปเป็นผู้สำเร็จเต๋ายังไงล่ะ!”
เย่เจียงไห่หัวเราะอย่างขมขื่นและพูดว่า “ถึงแม้ว่าตอนนี้ข้าจะเหลืออีกเพียงแค่ก้าวเดียวในการทะลวงระดับ แต่มันก็คงต้องใช้เวลาอีกราว 500 ปี!”
“500 ปี มันนานเกินไป!” หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ข้าจะมอบเพลิงศักดิ์สิทธิ์หกหยางและอธิบายทุกอย่างที่เกี่ยวกับเต๋าแห่งไฟให้กับเจ้าเพื่อช่วยให้เจ้าสำเร็จเต๋าของเจ้าได้เร็วยิ่งขึ้น! แต่เมื่อเจ้าสำเร็จเต๋าของเจ้าแล้วเจ้าจะต้องมอบรางวัลที่สวรรค์ส่งให้กับเจ้ามาให้ข้า และก่อนที่เจ้าจะขึ้นไปบนโลกเบื้องบน ข้าจะมอบบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้ชีวิตของเจ้าเมื่อขึ้นไปอยู่บนโลกเบื้องบนอยู่ได้อย่างสุขสบายไม่เผชิญกับปัญหาแบบคนอื่น ๆ ที่จะต้องเผชิญ!”
เย่เจียงไห่แสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อและครุ่นคิดอยู่ได้สักพักก่อนที่จะพูดว่า “ข้าอยากจะเห็นความแข็งแกร่งของเจ้าก่อนที่ข้าจะตัดสินใจอะไรต่อไป”
หลิงตู้ฉิงเรียกเอาง้าวเทวะพินาศจำลองขึ้นมาในทันที และจากนั้นเขาปักมันลงไปที่พื้นและตะโกนว่า “ในนามของข้า ข้าขอสั่งให้พื้นที่บริเวณนี้พลังกฎแห่งไฟเป็นโมฆะ!”
หลิงตู้ฉิงไม่ได้ใช้พลังมากมายนัก เขาแค่ทำให้พลังกฎแห่งไฟบริเวณรอบ ๆ กายของเย่เจียงไห่เป็นโมฆะเท่านั้น
เย่เจียงไห่สัมผัสได้ทันทีว่าอะไรมันเกิดขึ้นที่รอบกายของเขา ซึ่งมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่ตะโกนขึ้น “นี่เจ้าโกงเกินไปรึเปล่า!?”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “นี่เป็นเพียงหนึ่งในทักษะของข้าเท่านั้น ข้ายังมีทักษะอีกเยอะที่สามารถทำให้เจ้าตื่นตะลึงยิ่งกว่านี้! ข้าพูดตามตรงระดับการบ่มเพาะของเจ้าถึงแม้จะเป็นในชีวิตที่แล้วเจ้าก็ไม่มีคุณสมบัติพอจะเป็นคนเฝ้าประตูให้กับข้าด้วยซ้ำ เอาล่ะตอนนี้เจ้าตอบมาได้แล้วว่าเจ้าจะรับโอกาสที่ข้ามอบให้ไหม ไม่เช่นนั้นข้าจะได้ไปหาคนอื่นต่อ!”
เย่เจียงไหครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นเขาพยักหน้า “ก็ได้ข้าตกลงที่จะร่วมมือกับเจ้า!”
“เจ้าไม่มีวันขาดทุนแน่หากเจ้าร่วมมือกับข้า!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “เอาล่ะ อันดับแรกข้าจะอธิบายเต๋าให้เจ้าฟังก่อนเลยก็แล้วกัน!”
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็อธิบายความรู้ที่เขามีทั้งหมดเกี่ยวกับเต๋าแห่งไฟให้กับเย่เจียงไห่ฟังทั้งหมด ซึ่งเมื่อฟังไปสักพัก เย่เจียงไห่ก็ได้รู้ว่าอันที่จริงแล้วความเข้าใจในเต๋าแห่งไฟของหลิงตู้ฉิงนั้นเหนือกว่าเขาอยู่หลายระดับมาก
เมื่อเข้าใจเช่นนี้ เย่เจียงไห่จึงรู้สึกเบิกบานอยู่ในใจกับการตัดสินใจของเขาเองที่เขาตัดสินใจยอมตกลงกับหลิงตู้ฉิง
หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน หลิงตู้ฉิงก็อธิบายเต๋าเสร็จ และจากนั้นเขาก็หยิบกงล้อเบญจธาตุขึ้นมา และพูดกับเย่เจียงไห่ว่า “เตรียมตัวให้ดี ข้ากำลังจะปล่อยเพลิงศักดิ์สิทธิ์หกหยางไปยังร่างกายของเจ้าตอนนี้แล้ว!”
เย่เจียงไห่รู้สึกประหม่าเป็นอย่างมาก เพราะเพลิงศักดิ์สิทธิ์หกหยางนั้นเป็นเพลิงระดับสูงกว่าเพลิงหนานหมิงของเขา ซึ่งถ้าเขาไม่ตั้งสมาธิดูดซับมันให้ดี เขาอาจจะบาดเจ็บสาหัสจากความร้อนของมันได้
เมื่อเพลิงศักดิ์สิทธิ์หกหยางถูกปลดปล่อยออกจากกงล้อเบญจธาตุ เย่เจียงไห่ก็รีบใช้เตาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในการดูดซับเพลิงศักดิ์สิทธิ์หกหยางทันที และจากนั้นเขาค่อยให้เตาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ค่อย ๆ ส่งเพลิงศักดิ์สิทธิ์หกหยางเข้ามายังร่างกายของเขาทีละน้อย ๆ
ขั้นตอนนี้ใช้เวลาถึง 10 ปีกว่าที่เย่เจียงไห่จะเปลี่ยนพลังเพลิงในร่างของเขาเองให้ทัดเทียมอยู่ในระดับเดียวกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์หกหยางได้อย่างสมบูรณ์
จากนั้นเมื่อพลังเพลิงในร่างของเขารุนแรงจนทัดเทียมเพลิงศักดิ์สิทธิ์หกหยางเรียบร้อย อาณาเขตสวรรค์ของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ เนื่องจากพลังกฎแห่งไฟจากบริเวณรอบ ๆ นั้นเริ่มที่จะหลั่งไหลเข้ามาในอาณาเขตสวรรค์ของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ จนมันเริ่มแสดงสัญญาณที่จะพัฒนาเปลี่ยนกลายเป็นโลกจำลองที่แกนกลางคือดวงเพลิงอันร้อนแรงขึ้นมาแทน
ขั้นตอนนี้สำคัญเป็นอย่างมากและมันจะผิดพลาดไม่ได้เลยเพราะถ้าหากมีใครมารบกวนเย่เจียงไห่แม้แต่นิดเดียว มันจะส่งผลทำให้แกนกลางของโลกจำลองไม่เสถียร ซึ่งผลลัพธ์ต่อมาก็คือการระเบิดขึ้นของแกนกลาง และแน่นอนว่าแรงระเบิดของมันสามารถทำให้เย่เจียงไห่สลายกลายเป็นฝุ่นผงได้อย่างสบาย ๆ
แต่ถ้าหากว่าการสร้างโลกจำลองนี้เสร็จสิ้น มันจะเท่ากับว่าเย่เจียงไห่นั้นได้กลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าในทันที เพราะโลกจำลองนี้ก็คือเต๋าแห่งไฟของเย่เจียงไห่เอง ซึ่งเขาจำเป็นต้องสร้างมันให้เสร็จสมบูรณ์
2 ปีต่อมา ในที่สุดเย่เจียงไห่ก็สร้างโลกจำลองของเขาได้สำเร็จ ซึ่งในเวลาเดียวกันกับที่เขาทำเสร็จ ปรากฏการณ์ที่บ่งบอกว่าผู้สำเร็จเต๋าคนที่ 2 ได้ปรากฎตัวขึ้นแล้วก็บังเกิดขึ้นโดยพลังของสวรรค์และโลกในทันที
แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ทำให้ใครหลายคนต่างรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก
80,000 ปีมาแล้วนับตั้งแต่ยุคที่แล้วซึ่งไม่เคยมีใครสำเร็จเต๋าสักคน แต่แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้มีผู้สำเร็จเต๋า 2 คนปรากฎขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันได้ขนาดนี้?
บรรดาคนที่มีลุ้นสำเร็จเต๋าหลายคนจึงต่างยิ่งร้อนใจ เพราะเหตุการณ์เช่นนี้มันหมายความว่าช่วงเวลาแห่งการแข่งขันของยุคนี้มันจะยิ่งจบไวมากขึ้น ซึ่งถ้าพวกเขาไม่รีบสำเร็จเต๋าไว ๆ พวกเขาจะพลาดโอกาสของยุคนี้ไปแน่นอน
ในทางกลับกัน บรรยากาศภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนนั้นเต็มไปด้วยความชื่นมื่น เพราะพวกเขาต่างสัมผัสได้ว่าเจ้าตำหนักของพวกเขาในเวลานี้ทะลวงระดับสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันหมายความว่านับจากนี้ตำหนักของพวกเขาจะไม่ต้องกลัวใครหน้าไหนอีก!
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บรรดาคนในตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนไม่รู้ก็คือในเวลานี้ เจ้าตำหนักของพวกเขากำลังแสดงสีหน้าลังเลมองไปที่หลิงตู้ฉิงอยู่
ส่วนทางด้านของหลิงตู้ฉิงเองก็จ้องเขากลับเช่นกัน
ในมือของเย่เจียงไห่เวลานี้มีลูกแก้วสีแดงเพลิง ซึ่งมันคือรางวัลที่เขาได้มาจากสวรรค์เพราะการที่เขาสามารถสำเร็จเต๋าได้ และมันบังเอิญว่าลูกแก้วเพลิงนี้นั้นมีประโยชน์ต่อเย่เจียงไห่เป็นอย่างมาก และเขาเองก็อยากจะเก็บมันไว้ใช้กับตัวเอง
อันที่จริงหากเป็นตามปกติเขาก็คงจะหลอมรวมมันเข้าไปในร่างของเขาไปแล้ว แต่น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้เขาดันรับปากกับหลิงตู้ฉิงเอาไว้ว่าเขาจะมอบรางวัลที่เขาได้มาจากสวรรค์ให้กับหลิงตู้ฉิง
หลิงตู้ฉิงไม่พูดอะไรเลย เขาเอาแต่จ้องไปที่เย่เจียงไห่เพื่อดูว่าเย่เจียงไห่จะตัดสินใจเลือกทางไหน
เขาไม่กระตุ้นอะไรทั้งนั้น เพราะแต่ละทางเลือกก็มีปลายทางชะตากรรมที่แตกต่างกันออกไป และผลลัพธ์สุดท้ายที่เย่เจียงไห่จะได้รับก็ไม่เท่ากันเช่นกัน