พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 975 ฟื้นฟูเส้นชีพจรตระกูล
หลังจากกลายเป็นผู้สำเร็จเต๋า หลิงว่านจุนเรียกรวมเหล่านายทหารระดับสูงของกองทัพมังกรทันทีเพื่อคัดเลือกผู้นำกองทัพมังกรคนใหม่ รวมไปถึงส่งต่อวิชามังกรศักดิ์สิทธิ์จำแลงกายให้กับผู้ที่เหมาะสมที่จะฝึกมันทั้งหมด
ถึงแม้ว่าในกองทัพมังกรจะมีคนที่มีความสามารถมากมาย แต่มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถฝึกฝนวิชามังกรศักดิ์สิทธิ์จำแลงกายสำเร็จได้
หลังจากส่งต่ออำนาจของตัวเองเรียบร้อย หลิงว่านจุนก็เดินทางออกจากอาณาจักรจันทราทันที ซึ่งเป้าหมายของเขาก็คือตามหาเหล่าผู้สำเร็จเต๋าทั้งหลายและชิงรางวัลจากสวรรค์ที่ผู้สำเร็จเต๋าเหล่านั้นได้รับมาเพื่อเอากลับมาให้กับพ่อของเขา
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันสำคัญกับพ่อของเขายังไง แต่ถ้าหากว่าพ่อของเขาต้องการมัน เขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือพ่อของเขาโดยไม่มีข้อแม้
หลังจากหลิงว่านจุนจากไปไม่นาน หลิงว่านถิงและหลิงไช่หยุนก็กลับมาที่คฤหาสน์สราญรมย์ในเวลาไล่เลี่ยกัน
แน่นอนว่าการที่พวกนางกลับมาเช่นนี้ มันหมายความว่าพวกนางได้กลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าเรียบร้อยแล้ว
“ท่านพ่อพวกเราสำเร็จเต๋าแล้ว!” หลิงว่านถิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบาน “ว่าแต่มีคนอื่นสำเร็จเต๋าก่อนพวกเราไปบ้างรึยังท่านพ่อ?”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “น้องสี่ของเจ้าเพิ่งสำเร็จเต๋าไปไม่นานมานี้ และเขาได้ออกจากอาณาจักรจันทราไปแล้ว”
“พี่สี่ออกไปเร็วจริง ๆ” หลิงไช่หยุนเอ่ยขึ้น “ถ้างั้นข้าคงต้องรีบออกไปบ้างแล้ว ท่านพ่อพี่สี่มุ่งหน้าไปทางไหนท่านรู้ไหม? เขตแดนอุดรทมิฬงั้นเหรอ? งั้นข้ามุ่งหน้าไปที่ภูมิภาคตงซวนก็แล้วกัน ที่นั่นน่าจะมีผู้สำเร็จเต๋าเกิดขึ้นหลายคนข้ามั่นใจ!”
หลิงว่านถิงหัวเราะ “งั้นข้าไปที่ภูมิภาคซ่งหยวนก็ได้!”
หลิงตู้ฉิงไม่ได้คิดจะห้ามพวกนางเลยแม้แต่น้อย เขายิ้มและพูดว่า “รีบไปและรีบกลับให้ทันภายใน 200 ปี เพื่อขึ้นไปโลกเบื้องบน!”
“200 ปี เองเหรอท่านพ่อ?” หลิงว่านถิงถามกลับด้วยสีหน้าประหลาดใจ
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “พ่อจะส่งพวกเจ้าขึ้นไปก่อน ส่วนตัวพ่อจะตามขึ้นไปทีหลัง หลายคนที่อยู่โลกเบื้องบนไม่ถูกกับพ่อสักเท่าไหร่ ถ้าหากพ่อขึ้นไปพร้อมกับพวกเจ้ามันจะต้องเกิดการปะทะครั้งใหญ่แน่นอน ซึ่งการต่อสู้ข้างบนนั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะสามารถทนได้ต่อให้พวกเจ้าจะสำเร็จเต๋าแล้วก็ตาม”
หลังจากหลิงว่านถิงและหลิงไช่หยุนเดินทางออกจากอาณาจักรจันทราได้ไม่นาน หลิงยี่เทียนก็จัดการธุระของเขาทั้งหมดเสร็จและกลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าทันที
แน่นอนว่าไม่มีปรากฏการณ์ฝนทองคำเหมือนเดิม เพราะหลิงยี่เทียนก็เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่คนของโลกเบื้องล่าง
จากนั้นหลิงฟ่างหัวและหลิงยู่ชานก็กลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าต่อ ๆ กันไป
อย่างไรก็ตาม หลิงยู่ชานไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ เขาไม่ใช่คนของโลกเบื้องบน เขาเกิดในโลกเบื้องล่างจากเจตจำนงของสวรรค์ ดังนั้นสัญญาณการปรากฏของผู้สำเร็จเต๋าจึงบังเกิดขึ้น
แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากการสำเร็จเต๋าของหลิงยู่ชานนั้นอลังการกว่าของคนอื่น ๆ มาก ไม่เพียงแต่จะมีพายุฝนทองคำอันรุนแรงแต่ดอกบัวทองคำจำนวนนับไม่ถ้วนที่ผุดขึ้นจากพื้นมันกลับลอยขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า และค้างอยู่แบบนั้นถึง 3 วัน 3 คืนเต็ม
หลิงยู่ชานถือลูกแก้วที่อัดแน่นไปด้วยพลังชีวิตจำนวนมหาศาลอยู่ในมือ จากนั้นเขายื่นมันให้กับหลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ท่านพ่อ ลูกแก้วต้นกำเนิดพลังชีวิตนี้ข้าขอมอบให้ท่าน!”
แน่นอนว่าลูกแก้วต้นกำเนิดพลังชีวิตนี้คือรางวัลที่หลิงยู่ชานได้จากสวรรค์ในฐานะที่เขาได้กลายเป็นผู้สำเร็จเต๋า
หลิงตู้ฉิงรับลูกแก้วต้นกำเนิดพลังชีวิตมาและหลอมรวมมันให้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขตสวรรค์ของเขาในทันที จากนั้นเขาพูดว่า “ด้วยลูกแก้วต้นกำเนิดพลังชีวิตของเจ้า อาณาเขตสวรรค์ของพ่อมันยิ่งมหัศจรรย์มากขึ้น! ชาน ต่อจากนี้เจ้าจงไปที่สันเขาทรราชเพื่อปลดเปลื้องพันธะของเจ้าซะ”
หลิงยู่ชานพยักหน้า “รับทราบท่านพ่อ ข้าจะไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย หลังจากนั้นข้าจะลองตามหาเหล่าผู้สำเร็จเต๋าในภูมิภาคหนานลี่เพื่อชิงรางวัลที่พวกเขาได้รับจากสวรรค์มาให้ท่าน!”
“อืม ไปเถอะ!” หลิงตู้ฉิงโบกมือ
จากนั้นหลิงยู่ชานเดินทางไปที่สันเขาทรราชโดยผ่านประตูเคลื่อนย้าย
เมื่อเดินทางไปถึง เทียนซ่งสัมผัสได้ในทันทีว่าตอนนี้หลิงยู่ชานได้กลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าแล้วจากการที่เขาเห็นว่าหลิงยู่ชานในตอนนี้มีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งกว่าเขาหลายเท่าตัว เขารีบเดินออกมาหาและพูดขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบาน “เจ้าสำเร็จเต๋าแล้ว!”
หลิงยู่ชานพยักหน้าและยิ้ม “ท่านบรรพบุรุษ ตอนนี้ข้าสำเร็จเต๋าแล้วจริง ๆ! ที่ข้ากลับมาสันเขาทรราชครั้งนี้ก็เพราะข้าจะฟื้นฟูเส้นชีพจรตระกูลของเราให้เหมือนเดิม!”
จริง ๆ แล้วเส้นชีพจรตระกูลของสันเขาทรราชนั้นกำเนิดขึ้นจากเลือดของเทพบรรพกาลผู้สร้างเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ดังนั้นมันจึงไม่แปลกอะไรที่เส้นชีพจรตระกูลนี้จะทรงอำนาจเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากเทพบรรพกาลผู้สร้างเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับเป็นศัตรูต่อสวรรค์ ในทางกลับกันผู้คนของสันเขาทรราชกลับอ้างว่าตัวเองเป็นทายาทของสวรรค์ ซึ่งสองสิ่งนี้มันขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง มันจึงทำให้ผู้คนของสันเขาทรราชไม่เคยมีวาสนาสำเร็จเต๋าเลยสักคน
ตอนนี้หลิงยู่ชานตั้งใจว่าจะแก้ไขความผิดพลาดนี้ให้โดยการใช้สายเลือดของตัวเขาเองในการฟื้นฟูเส้นชีพจรตระกูลนี้ และทำให้เส้นชีพตระกูลนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเทพบรรพกาลผู้สร้างเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับอีก
ด้วยสายเลือดของหลิงยู่ชานที่นับได้ว่าเป็นทายาทของสวรรค์อย่างแท้จริง เมื่อเขาฟื้นฟูเส้นชีพจรตระกูลนี้ได้เมื่อไหร่ ผู้คนของสันเขาทรราชจะมีสายเลือดเดียวกับเขา ซึ่งมันจะทำให้พวกเขากลายเป็นทายาทของสวรรค์ตัวจริงเช่นกัน และทำให้ในอนาคตพวกเขาจะไม่ถูกกีดกันจากเจตจำนงของสวรรค์อีกต่อไป
หลังจากได้ยินคำพูดของหลิงยู่ชาน เทียนซ่งอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ชาน เจ้าสามารถฟื้นฟูเส้นชีพจรตระกูลได้จริง ๆ เหรอ?”
หลิงยู่ชานหัวเราะ “ข้าทำได้จริงแน่นอนบรรพบุรุษ ตอนนี้ข้าเป้นผู้สำเร็จเต๋าแล้วมันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ข้าจะฟื้นฟูมัน เอาล่ะบรรพบุรุษพวกเราไปที่เส้นชีพจรตระกูลกันเถอะ!”
เมื่อไปถึงห้องเส้นชีพจรตระกูล หลิงยู่ชานหยดเลือดของเขาลงไปในสระโลหิตพร้อมกับปลดปล่อยพลังสายเลือดของเขาทันที ส่งผลให้เลือดที่อยู่ในสระโลหิตเดือดราวกับถูกต้ม
เมื่อผ่านไปสักพัก เลือดของหลิงยู่ชานก็หลอมรวมเข้ากับเส้นชีพจรตระกูลที่อยู่ใต้ดินอย่างสมบูรณ์ จากนั้นเสียงคล้ายกับมังกรคำรามก็ดังสนั่นไปทั่วเมืองสันเขาทรราช
เมื่อสัมผัสได้ว่าเส้นชีพจรตระกูลฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์แล้ว หลิงยู่ชานจึงถอนพลังของตนเองกลับทันที ส่งผลให้เลือดในสระโลหิตที่กำลังเดือดอยู่กลายเป็นสงบนิ่งลง
“บรรพบุรุษ ตอนนี้เส้นชีพจรตระกูลฟื้นฟูเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในอนาคตทายาทของเราสามารถเข้ามาในที่แห่งนี้เพื่อเสริงความแข็งแกร่งให้กับสายเลือดของพวกเขาได้เหมือนเดิม” หลิงยู่ชานยิ้มและพูดกับเทียนซ่ง “แต่ว่าข้าได้ตัดอะไรบางอย่างที่ไม่สมควรมีอยู่ให้หายไปตลอดกาล นับจากนี้เส้นชีพจรตระกูลจะสามารถเสริมพลังสายเลือดได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น มันจะไม่สามารถใช้เพื่อถ่ายเทพลังสายเลือดของคนอีกคนหนึ่งไปสู่คนอีกคนได้อีกต่อไป ข้าไม่ต้องการให้ลูกหลานของพวกเราเผชิญกับชะตากรรมแบบเดียวกับข้าที่ถูกขโมยพลังสายเลือดไป ข้าโชคดีที่พ่อของข้าสามารถทำให้ข้ากลับมาฟื้นฟูเป็นแบบนี้ได้ แต่ข้าไม่คิดว่าลูกหลานของเราคนอื่น ๆ จะโชคดีแบบที่ข้าเป็น”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เทียนซ่งถอนหายใจและพูดว่า “เจ้าเปลี่ยนให้มันเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ในอนาคตจะได้ไม่มีใครที่ทำผิดซ้ำรอยอีก”
นับจากนี้สันเขาทรราชไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเรื่องแบบที่เกิดกับหลิงยู่ชานและเทียนเก๋อจะเกิดขึ้นอีก
ทางด้านของเทียนซ่งรู้สึกสบายใจเช่นกันที่เป็นเช่นนี้ เขาไม่อยากเห็นใครที่ต้องถูกเอาเปรียบแบบหลิงยู่ชานอีกแล้ว
“เอาล่ะท่านบรรพบุรุษ ในเมื่อเส้นชีพจรตระกูลฟื้นฟูเรียบร้อย งั้นข้าคงต้องขอตัวออกเดินทางไปที่อื่นต่อ ข้าจำเป็นต้องไปตามหาผู้สำเร็จเต๋าคนอื่น ๆ เพื่อเอารางวัลที่พวกเขาได้รับจากสวรรค์ไปให้พ่อของข้า!” หลิงยู่ชานหัวเราะ