พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 979 กลับไปที่สำนักเบญจธาต
หลิงยู่ชานและหมิงจู้ตามต้วนฉิงกลับไปที่ตำหนักไร้หทัย
ในทันทีที่หลิงยู่ชานไปถึงหน้าตำหนัก กิเลนรีบวิ่งมาหาหลิงยู่ชานทันที จากนั้นมันเข้ามาคลอเคลียหลิงยู่ชานด้วยสีหน้าเบิกบานอยู่พักใหญ่ จากนั้นมันก็เดินกลับไปนอนที่หน้าประตูเหมือนเดิมปล่อยให้หลิงยู่ชานและหมิงจู้เดินเข้าไปด้านใน
สาเหตุที่กิเลนทำเช่นนี้เพราะมันสัมผัสได้ว่าในร่างกายของหลิงยู่ชานมีเลือดของหลิงตู้ฉิงไหลเวียนอยู่ มันจึงเข้าใจว่าหลิงยู่ชานคือลูกชายแท้ ๆ ของเจ้านายมันและเป็นนายน้อยของมัน
เมื่อเดินเข้าไปด้านใน จิ๋นหลงและเสี่ยวเฟิงก็รีบเดินเข้ามาหา แต่เมื่อพวกเขาไม่เห็นว่าหลิงตู้ฉิงกลับมาด้วย พวกเขาก็แสดงสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยแต่ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็รู้สึกโล่งอก
“พี่ใหญ่ เขายังไม่ขึ้นมางั้นเหรอ?” เสี่ยวเฟิงเอ่ยถามขึ้น
ต้วนฉิงส่ายหัว “ท่านอาจารย์ยังไม่ขึ้นมา ดูเหมือนว่าท่านอาจารย์น่าจะวางแผนอะไรบางอย่างไว้”
หลิงยู่ชานและหมิงจู้ต่างมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าพวกเขาต้องเรียกชายและหญิงที่อยู่ตรงหน้าว่าอะไร
“พวกเขาคือ…เอ่อ…เอาเป็นว่าพวกเจ้าตกลงกันเองก็แล้วกัน!” เมื่อพูดจบ ต้วนฉิงก็เดินจากไปด้วยสีหน้าที่สนุกสนานขัดกับสีหน้าของจิ๋นหลงและเสี่ยวเฟิงในตอนนี้ ซึ่งกำลังกระอักกระอ่วนสุดขีด
จิ๋นหลงและเสี่ยวเฟิงยืนคิดอยู่นานไม่รู้ว่าจะให้หลิงยู่ชานและหมิงจู้เรียกพวกเขาว่ายังไง
แต่แล้วท้ายที่สุด เสี่ยวเฟิงก็เป็นคนเอ่ยขึ้นมาว่า “เอ่อ…อันที่จริงพวกเราเป็นผู้ให้กำเนิดพ่อของเจ้า…ส่วนต้วนฉิง พวกเจ้าก็เรียกเขาว่าพี่ใหญ่เหมือนเดิมไม่ต้องใส่ใจว่าพวกเราเรียกเขาว่าอะไร”
หลิงยู่ชานและหมิงจู้คุกเข่าลงคำนับทันทีโดยที่ไม่สนใจว่าเบื้องหลังเรื่องราวที่งงงวยนี้มันคืออะไร
เมื่อเห็นการกระทำของหลิงยู่ชานและหมิงจู้ สีหน้าของจิ๋นหลงก็เปลี่ยนเป็นดีขึ้นไม่กระอักกระอ่วนเหมือนเดิม เขายิ้มและพูดว่า “บนโลกเบื้องบนนี้มีคนมากมายที่มีสายเลือดทรราชสวรรค์แบบเดียวกับของเจ้า และคนที่มีสายเลือดเดียวกับเจ้าก็ตั้งตระกูลกันขึ้นมาเอง แต่พวกเขานั้นไม่ได้แข็งแกร่งสักเท่าไหร่ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในขอบเขตเทวะราชาเท่านั้นเอง และมีเพียงแค่คนเดียว ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางคุ้มครองพวกเจ้าให้ปลอดภัยได้แน่นอน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพี่ใหญ่ถึงพาพวกเจ้ากลับมาที่นี่ แต่แน่นอนว่าอีกไม่นานน่าจะมีกลุ่มคนที่มีสายเลือดเดียวกับเจ้ามาตามให้เจ้ากลับไปอยู่ด้วย เมื่อถึงเวลานั้นข้าหวังว่าเจ้าจะปฏิเสธไปและอยู่ที่นี่ต่อเพื่อความปลอดภัยของตัวเจ้าเองและภรรยาของเจ้า”
หลิงยู่ชานยิ้มและตอบกลับทันที “ท่านปู่ไม่ต้องกังวล ท่านพ่อได้อธิบายต้นกำเนิดของข้าเรียบร้อย ข้ารู้ดีว่าข้าไม่ใช่คนของพวกเขาแน่นอน นับจากนี้ข้าจะอยู่ที่นี่ตลอดไปและเมื่อไหร่ที่คนเหล่านั้นมาถึง ข้าคงต้องขอร้องให้ท่านปู่ช่วยข้าปฏิเสธพวกเขาด้วย”
เสี่ยวเฟิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ดีแล้วที่เจ้าตัดสินใจแบบนี้ ว่าแต่เจ้าเล่ามาให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหมว่าตอนนี้พ่อของเจ้าบ่มเพาะไปถึงไหนแล้ว? และมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมา”
หลิงยู่ชานเล่าทุกอย่างตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่กับหลิงตู้ฉิงตั้งแต่แรกเริ่มทันที
เมื่อฟังอยู่นานจนจบ ต้วนฉิง จิ๋นหลงและเสี่ยวเฟิงต่างก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าโง่งมพร้อมกับอุทานขึ้น “นี่เขาบรรลุไปไกลขนาดนั้นแล้วงั้นเหรอ? เจ้ากับน้อง ๆ ของเจ้านี่ช่างโชคดีกันจริง ๆ”
พวกเขาหยุดพูดกันแค่นี้ไม่อธิบายอะไรต่อว่าหลิงยู่ชานและคนอื่น ๆ โชคดียังไง
หลังจากนั้นเมื่อพวกเขาคุยกันเสร็จ เสี่ยวเฟิงก็พาหลิงยู่ชานและหมิงจู้ไปบ่มเพาะต่อด้านในตำหนัก
ในเวลาเดียวที่โลกเบื้องล่าง หลังจากส่งลูก ๆ ของเขาขึ้นไปโลกเบื้องบนทั้งหมดเรียบร้อย หลิงตู้ฉิงก็พูดกับบรรดาภรรยาของเขาทั้งหลายที่กลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าหมดแล้ว “เอาล่ะ ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเราต้องไปจากคฤหาสน์สราญรมย์แล้ว!”
“สามี ท่านจะพาพวกเราไปไหนงั้นเหรอ?” หวงซีเอ่ยถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ข้าจะพาพวกเจ้าไปที่สำนักเบญจธาตุ!”
มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสำเร็จเต๋าหากร่างเบญจธาตุของเขายังไม่สมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงต้องไปที่สำนักเบญจธาตุเพื่อใช้เต๋าทั้งห้าธาตุเพื่อบ่มเพาะ
“เจิ้นฮุย หลังจากนี้เจ้าจงดูแลที่นี่ให้ดี ๆ ปู่หวังว่าเมื่อถึงยุคหน้า ปู่จะเจอเจ้าที่โลกเบื้องบน!” หลิงตู้ฉิงร่ำลากับหลิงเจิ้นฮุย
หลิงเจิ้นฮุยพยักหน้า “ท่านปู่ไม่ต้องกังวล ในยุคหน้าท่านจะได้เจอกับข้าแน่นอนและนี่ท่านปู่ ข้าขอมอบหนังสือเล่มนี้คืนให้กับท่าน!”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า จากนั้นเขารับหนังสือของถังชี่หยุนมาและบินออกจากอาณาเขตนภาทันที
เมื่อไม่มีง้าวเทวะพินาศและหลิงตู้ฉิงคอยปกป้องแล้ว ประตูเคลื่อนย้ายที่ตั้งอยู่กลางคฤหาสน์สราญรมย์จึงถูกปิดใช้งานถาวรเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ซึ่งมันทำให้ หลิงตู้ฉิงและบรรดาภรรยาของเขาต้องบินไปที่สำนักเบญจธาตุด้วยตัวเอง
แต่ด้วยระดับการบ่มเพาะของพวกเขาทุกคนในตอนนี้มันจึงใช้เวลาไม่นานเลยในการเดินทาง
เมื่อหลิงตู้ฉิงเดินทางไปถึงสำนักเบญจธาตุ เซียะซิงอี้และติงหงก็รีบออกมาต้อนรับเขาทันที แต่แล้วเมื่อพวกเขาเห็นบรรดาภรรยาของหลิงตู้ฉิงที่มีกลิ่นอายอันแข็งแกร่งและมีรากฐานการบ่มเพาะที่มั่นคงเหนือกว่าอัจฉริยะทั้งหลายที่พวกเขาเคยเจอ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตกตะลึง
หลังจากหายจากอาการตกตะลึง เซียะซิงอี้และติงหงเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสุภาพ “พวกเราขอคารวะผู้อาวุโส โปรดผู้อาวุโสและผู้ติดตามของท่านเข้ามาด้านในก่อน!”
เมื่อกลุ่มของหลิงตู้ฉิงเดินเข้าไปในสำนักเบญจธาตุ ผู้คนมากมายของสำนักเบญจธาตุต่างแสดงสีหน้าตกตะลึงเมื่อเห็นเหล่าภรรยาของหลิงตู้ฉิงเช่นกัน
สำนักของพวกเขานั้นนับได้ว่ามีทรัพยากรมากมาย แต่ความสำเร็จที่พวกเขาทำได้มากที่สุดก็คือการที่ในยุคนี้พวกเขาสามารถส่งเสริมให้มีผู้สำเร็จเต๋า 2 คน แต่แล้วตอนนี้ที่ข้างกายของหลิงตู้ฉิงกลับมีผู้สำเร็จเต๋าถึง 6 คน!
ความสำเร็จเช่นนี้มันต่างกันราวฟ้ากับเหว
“พวกเราขอต้อนรับผู้อาวุโส!” บรรดาผู้คนของสำนักเบญจธาตุต่างทักทายหลิงตู้ฉิงด้วยความเคารพ
ในกลุ่มผู้คน สีจิ้งหมิงแอบมองไปที่เย่ชิงเฉิงด้วยแววตาขมขื่น
เมื่อในอดีตเขาเคยไล่ตามนางอยากได้นางเป็นภรรยา แต่ตอนนี้ผ่านมา 2,000 ปี เขายังคงอยู่ในขอบเขตราชันอยู่เลย แตกต่างกับนางที่ในตอนนี้นางกลายเป็นตัวตนที่เขาทำได้แค่แหงนหน้ามอง…
เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดหวังกับตัวเองมากกว่าเดิม เมื่อเขานึกย้อนไปถึงอีกเรื่องที่เขามีโอกาสจะให้ลูกสาวของเขาแต่งงานกับหลิงยี่เทียน แต่เขากลับปฏิเสธ
หากในวันนั้นเขาตัดสินใจอีกแบบ ทุกวันนี้เขาก็คงไม่เป็นแบบนี้จริงไหม?
น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรในอดีตได้อีกแล้ว…
“ผู้อาวุโส ท่านจะให้ข้านำท่านไปที่เต๋าทั้งห้าเลยไหม?” เซียะวิงอี้เอ่ยถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ไปตอนนี้เลย! แต่เมื่อถึงเวลาเจ้าจงสั่งให้คนของเจ้าถอยไปให้หมด ข้าจะให้ง้าวเทวะพินาศและบรรดาภรรยาของข้าทำหน้าที่ปกป้องข้าเอง จงย้ำคนของเจ้าให้ดี ๆ ว่าห้ามเข้ามาใกล้ข้าเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นข้าจะถือว่าพวกเจ้าคุกคามข้า คนอื่น ๆ อาจจะไม่รู้ แต่พวกเจ้าคงจะรู้ดีถึงความน่ากลัวของอาวุธข้าใช่ไหม?”
เซียะซิงอี้รีบตอบกลับทันทีด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “ไม่ต้องกังวลผู้อาวุโส ข้าจะไม่ให้ใครรบกวนท่านแน่นอน!”
ผู้คนของสำนักเบญจธาตุทั้งหมดต่างก็รีบพูดขึ้นยืนยันว่าพวกเขาจะไม่รบกวนหลิงตู้ฉิงเช่นกัน
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าง้าวเทวะพินาศเคยสร้างวีรกรรมอะไรไว้ในโลกเบื้องบน แต่พวกเขาเคยได้เห็นอำนาจของมันไปแล้วเช่นกันที่สันเขาหมื่นอสูร ซึ่งในตอนนั้นมันถูกใช้งานโดยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิ ซึ่งตอนนี้บรรดาภรรยาของหลิงตู้ฉิงเป็นผู้สำเร็จเต๋ากันหมดแล้ว หากง้าวเทวะพินาศถูกใช้โดยผู้สำเร็จเต๋าอำนาจของมันคงเหนือกว่าตอนที่อยู่ในสันเขาหมื่นอสูรอีกจริงไหม?
อำนาจขนาดนั้นพวกเขาแน่ใจว่าตนเองรับมือไม่ไหวแน่นอน
เมื่อตกปากรับคำกันเสร็จ เซียะซิงอี้ก็รีบพากลุ่มของหลิงตู้ฉิงไปยังสถานที่ซึ่งเป็นที่สถิตของเต๋าทั้งห้าธาตุ จากนั้นตัวเขาเองก็รีบออกจากบริเวณนั้นทันที ปล่อยให้จ้าวเหมิงลู่และคนอื่น ๆ คอยคุ้มครองหลิงตู้ฉิงกันเอง