พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 996 การล่มสลายของกาลเวลา
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา หลิงตู้ฉิงและกลุ่มคนของเขาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มามากมายจนในตอนนี้พวกเขาทุกคนต่างพร้อมแล้วที่จะทะลวงระดับถัดไป
ตอนนี้เมื่อพวกเขาได้รับอนุญาตให้ทะลวงระดับ พวกเขาจึงทะลวงระดับไปยังขอบเขตเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์ตามคำสั่ง
ทางด้านของหลิงตู้ฉิง เมื่อตัวเขาและคนอื่น ๆ ต่างทะลวงระดับเสร็จเรียบร้อย เขาโบกมือพาทุกคนทะลวงมิติไปยังพื้นที่สำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์ทันที
แต่แล้วในทันทีที่พวกเขามาโผล่ยังพื้นที่สำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์ มี่ไลก็ขมวดคิ้วและรีบพูดขึ้นทันที “สามี กฎแห่งกาลเวลาในพื้นที่ที่เราอยู่กันตอนนี้กำลังจะล่มสลายในอีกไม่ช้า!”
ในฐานะที่นางเป็นผู้บ่มเพาะเต๋าแห่งกาลเวลา นางจึงสัมผัสเรื่องแบบนี้ได้ไวกว่าคนอื่นเป็นปกติ
สภาพแวดล้อมกาลเวลาของที่นี่ผันผวนเป็นอย่างมาก กาลเวลาในบางจุดนั้นถูกเร่งให้เร็วกว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ถึง 1 หมื่นเท่า หรือบางจุดก็ช้ากว่าพื้นที่ปกติ 1 หมื่นเท่า ดังนั้นหากใครเผลอเข้าไปอยู่ในจุดที่กาลเวลาเดินเร็วกว่าพื้นที่ปกติ คนผู้นั้นจะซวยทันที เพราะแค่เขารั้งอยู่แค่ 1 นาทีด้านในมันก็หมายความว่าเวลาของพื้นที่ด้านนอกผ่านไปแล้วถึง 1 หมื่นนาที ซึ่งถ้าเขาอยู่นานมาก ๆ เขาจะไม่อาจออกจากที่นี่ได้เพราะมันกลายเป็นว่าเขาได้กลายเป็นมีพันธะกับโลกนี้โดยสมบูรณ์จนไม่สามารถออกไปจากโลกนี้ได้อีกต่อไป
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “พื้นที่แห่งนี้อันตรายกว่าพื้นที่ที่แล้วเป็นอย่างมาก พวกเจ้าทุกคนจงอยู่ใกล้กับข้าให้มากที่สุด อันที่จริงไม่ใช่แค่กฎแห่งกาลเวลาเท่านั้นที่ปั่นป่วน แต่มันยังรวมไปถึงกฎแห่งมิติเองก็ยุ่งเหยิงเช่นกัน ฟ่างหัว เจ้าห้ามใช้ทักษะเกี่ยวกับมิติเด็ดขาดที่นี่ไม่เหมือนกับโลกที่พวกเราอยู่ หากเจ้าใช้ทักษะมิติมั่ว ๆ พวกเราทุกคนอาจเจอปัญหาใหญ่ได้”
“ไม่มีใครรู้ว่ามิติอื่น ๆ ในโลกนี้มีอะไรอยู่บ้าง และไม่มีใครรู้ว่ามันเชื่อมกับที่ไหนเอาไว้ หากเจ้าเปิดรอยแยกมิติแล้วปลายทางมันกลับไปเชื่อมกับสถานที่ที่อันตราย มันอาจมีตัวอะไรบางอย่างที่ไม่ควรปรากฏขึ้นหลุดออกมาได้ หรือไม่เราอาจจะเผชิญกับพายุมิติที่รุนแรงจนพวกเราต้านทานไม่ไหว”
หลังจากหลิงตู้ฉิงเอ่ยเตือนเสร็จ ทุก ๆ คนก็ได้เห็นตัวอย่างความน่ากลัวของโลกนี้กันด้วยตาของตัวเองทันที
พวกเขาเห็นอย่างชัดเจนว่ามีผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งกำลังบินมาหาพวกเขา ซึ่งพวกเขาจำได้ว่าผู้เชี่ยวชาญคนนี้คือผู้ติดตามของหลิงยี่เทียนที่เจอกันก่อนหน้านี้ตอนมีปัญหากันเรื่องดูดซับพลังเต๋า
แต่แล้วในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นกำลังบินเข้ามาหา จู่ ๆ ร่างกายของผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นก็แก่ลงในพริบตาและเมื่อบินมาถึงพวกเขา ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นก็กลายเป็นคนชราที่มีแต่ผมหงอกขาวเต็มหัว!
“ฝ่าบาท ท่านรีบออกไปจากที่นี่เร็ว! เวลาของที่นี่อันตรายเกินไป ข้าติดอยู่ที่นี่มา 300 ปีแล้ว ข้าหมดโอกาสที่จะออกไปจากที่นี่ได้ตลอดกาล แต่ท่านยังคงมีโอกาสอยู่จงรีบออกไปจากที่นี่ซะก่อนที่มันจะสายเกินไปฝ่าบาท!” ผู้เชี่ยวชาญที่เพิ่งบินเข้ามาหาพูดกับหลิงยี่เทียนด้วยสีหน้าโศกเศร้า
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างขนลุกซู่ในทันที แค่ช่วงเวลาพริบตาเดียวที่ผู้เชี่ยวชาญผู้นี้บินเข้ามาหาพวกเขาคือเท่ากับ 300 ปีเลยงั้นเหรอ? กาลเวลาของที่นี่ทำไมมันถึงเพี้ยนแบบนี้?
หลิงยี่เทียนอยากจะพูดปลอบใจอะไรสักอย่างกับคนของเขา แต่เขาก็ไม่รู้จะพูดยังไงจริง ๆ เขาจึงทำได้แค่ถอนหายใจด้วยสีหน้าหม่นหมอง
หลิงตู้ฉิงเหล่มองไปที่ผู้เชี่ยวชาญที่เพิ่งมาถึงแค่เพียงครู่เดียว จากนั้นเขาหันไปพูดกับคนของเขาว่า “พวกเราไปกันเถอะ”
จี๋ชิงเฉิงและหลิวชิงเฟิงต่างรู้สึกโชคดีเป็นอย่างมาก ถ้าหากพวกเขายังคงอยู่กับกลุ่มเดิมชะตากรรมของพวกเขาคงไม่ต่างอะไรกับคนผู้นี้แน่ ๆ
จากนั้นทุก ๆ คนตามหลิงตู้ฉิงไปยังสถานที่ต่อไปทันทีรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญที่เพิ่งมาถึงก็ตามมาด้วยเช่นกัน ซึ่งหลิงยี่เทียนก็ไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้เขาตามมา
ภายใต้การนำของหลิงตู้ฉิง รูปแบบการใช้เส้นทางของพวกเขาแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก
บางครั้งในขณะที่กำลังเดินหน้าอยู่นั้น จู่ ๆ หลิงตู้ฉิงก็หยุดลงและสั่งให้พวกเขาถอยอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายหักศอกในทันที หรือไม่บางทีในระหว่างที่ด้านหน้าอยู่ก็เลี้ยวขวาอย่างกระทันหันไป 500 เมตร และจากนั้นก็เลี้ยวซ้ายอีกที
คนอื่น ๆ พอจะเดาได้ลาง ๆ ว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงเดินทางในรูปแบบนี้ มันน่าจะเป็นเพราะหลิงตู้ฉิงเห็นว่าพื้นที่ข้างหน้าเป็นพื้นที่ที่เวลาผันผวน พวกเขาจึงจำเป็นต้องหักหลบอย่างกะทันหัน ซึ่งการที่เห็นพื้นที่ที่เวลาผันผวนได้เช่นนี้ หากไม่ใช่มี่ไล คนอื่น ๆ คงไม่อาจทำได้
ในระหว่างทางที่พวกเขาเดินทางผ่านไป ทุก ๆ คนยังคงเห็นสิ่งมีชีวิตประเภทต่าง ๆ ปรากฏตัวขึ้นประปราย แต่บางครั้งพวกมันก็ปรากฏขึ้นและจู่ ๆ ก็หายไป เนื่องจากโดนความผันผวนของเวลาเล่นงาน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายสุดขีดแบบนี้ สีหน้าของบรรดาสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ก็ไม่ได้ดูทุกข์ร้อนไปมากกว่าเดิมสักเท่าไหร่ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกมันรู้ตัวว่าอีกไม่นานโลกนี้ก็จะแตกสลาย ซึ่งพวกมันก็จะตายอยู่ดี ดังนั้นตายช้าตายเร็วมันก็ตายเหมือนกัน ทำไมพวกมันจะต้องทุกข์ร้อนอะไรเพิ่มขึ้นอีก?
แต่แล้วเมื่อพวกมันเห็นหลิงตู้ฉิงปรากฏตัวขึ้น และแสดงโลกอันอุดมสมบูรณ์แถมยังชวนให้พวกมันเข้าไปอยู่ด้านใน ซึ่งแน่นอนว่าพวกมันรีบตอบตกลงด้วยความซาบซึ้งทันที และมอบของล้ำค่าที่สุดให้กับหลิงตู้ฉิงเป็นการตอบแทน
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่กลายเป็นคนชรารู้สึกเศร้าโศกเป็นอย่างมาก
การติดตามคนกลุ่มนี้มันปลอดภัยขนาดนี้เลยงั้นเหรอ? แถมคนกลุ่มนี้ยังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้อย่างมากมายโดยไม่มีปัญหาอะไรตามมาเลยอีกต่างหาก!
การเดินทางต่อมานั้นไม่มีปัญหาใด ๆ เลย พวกเขาเดินทางกันอย่างราบรื่นไม่พบสิ่งใดมากวนใจแม้แต่น้อย จนกระทั่งเดินทางมาถึงหมู่บ้านที่สิ่งปลูกสร้างก่อขึ้นจากทรายทั้งหมด พวกเขาก็ได้เผชิญกับสถานการณ์ที่ยุ่งยากอีกครั้ง
บริเวณรอบ ๆ หมู่บ้านเกือบทั้งหมดค่อย ๆ หายไปทีละน้อยจากความผันผวนของเวลา ส่งผลให้หมู่บ้านนี้กลายเป็นว่าตั้งอยู่กลางทะเลทรายอันเวิ้งว้าง
อันที่จริง หากไม่ใช่เพราะว่าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้เป็นมนุษย์ทราย พวกเขาคงตายเพราะถูกความผันผวนของเวลาเล่นงานไปนานแล้ว
เมื่อเห็นกว่าหลิงตู้ฉิงและกลุ่มผู้ติดตามเดินเข้ามาใกล้ พวกมนุษย์ทรายต่างก็มองมาที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาระแวดระวัง
“พวกเจ้าอยากจะย้ายไปอยู่ในสถานที่ที่ดีกว่านี้ไหม?” หลิงตู้ฉิงยิ้มและเอ่ยขึ้น
จากนั้นเมื่อมนุษย์ทรายได้เห็นโลกที่หลิงตู้ฉิงแสดงให้ดู พวกมันก็รีบตอบตกลงทันทีไม่ต่างอะไรกับเผ่าอื่น ๆ
ก่อนที่พวกมันจะเข้าไปในโลกของหลิงตู้ฉิง มนุษย์ทรายมากกว่าพันตน ทุกตนหยิบหินทรงกลมสีน้ำตาลขึ้นมาคนละก้อนหนึ่ง และมอบมันให้กับหลิงตู้ฉิง “องค์เทพผู้สร้างนี่คือสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของเผ่าเรา ในช่วงชีวิตของพวกเราแต่ละตนสามารถสร้างมันออกมาได้แค่ 1 ชิ้นเท่านั้น พวกเราขอมอบมันให้ท่านเพื่อตอบแทนความเมตตาที่ท่านมีให้กับพวกเรา!”
ผู้เชี่ยวชาญที่กลายเป็นคนชรา เมื่อเห็นหินสีน้ำตาลเหล่านี้อุทานขึ้นทันทีด้วยสีหน้าตกตะลึง “ผลึกแก่นแท้เต๋า!”
คนอื่น ๆ เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงเช่นกัน มีแต่หลิงตู้ฉิงคนเดียวทั้งนั้นที่มีสีหน้าปกติเหมือนเดิม เขาตอบกลับด้วยท่าทีสงบว่า “ข้ายินดีรับของตอบแทนของพวกเจ้า แต่หลังจากนี้เมื่อพวกเจ้าเข้าไปอยู่ในโลกของข้า ข้าจะลบความสามารถในการสร้างหินนี้ของเผ่าเจ้าทั้งหมด เพื่อให้ในอนาคตพวกเจ้าจะได้อยู่กันได้อย่างสงบสุข”